ตอนที่ 1249 พลังของป่าโบราณ
ในท้องฟ้ามีดอกไม้ตูมขนาดใหญ่ลอยลงมา
และบานออกทันที
ภาพที่เห็นนั้นวิเศษน่าทึ่ง แม้จะใช้คำพูดทั้งโลกก็ยังมิอาจบรรยายภาพที่เห็นได้
เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ ที่ยังมึนกันอยู่พอเห็นภาพนี้พากันดีใจแทบบ้าโดยไม่รู้ตัว เทียบกับพวกเขาแล้ว คุณชายหลี่หมิงและขุนพลเทพไท่หยางไม่ได้ดีกว่ากันมากเท่าใด แม้ว่าจะไม่ได้กล่าวเกินจริง แต่กลุ่มของเจ้าอ้วนไห่ที่ก่อนนั้นยังตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู จิตใจของพวกเขาว่างเปล่ามองดูฉากภาพที่งดงามข้างหน้าไม่รู้ว่าจะโจมตีต่อ หรือว่าป้องกันตัวดี
จากแสงวิจิตรงดงามหลากสีสัน ปรากฏร่างของหญิงสาวน่ารักงดงามผิวอมชมพูนางหนึ่ง
ร่างของนางคลุมไปด้วยชุดดอกไม้สีชมพูเหมือนกลีบดอกไม้ที่ไม่มีใครในโลกนี้เหมือนกับนาง
สายแพรสีรุ้งหมุนล้อมรอบตัวนางอย่างไม่รู้จบ เท้าเปล่าของนางขาวราวกับหยกเหยียบลงพื้นสะอาดพร้อมกับมีดอกไม้รองรับราวกับกลัวว่าจะทำให้เท้าของนางต้องแปดเปื้อนมัวหมอง ข้อมือของนางสวมสร้อยข้อมือเล็ก นอกเหนือจากนั้นยังมีมุกวิเศษมีพลังลึกลับแทรกอยู่ และมีกระดิ่งเล็กๆ สามลูกส่งเสียงไพเราะเสนาะโสตจนคนฟังได้ยินแล้วไม่คิดอะไร สิ่งที่ทำให้หายใจไม่ออกก็คือร่างกายนางบอบบางมาก อย่างที่สตรีธรรมดาไม่อาจเทียบได้ แม้นางจะเป็นสาวน้อยไม่โตเต็มวัย แต่ก็เพียงพอทำให้คนที่เห็นต้องยอมสยบ
บนศีรษะของสาวน้อยผู้นี้ นอกจากหน้าผากที่งดงามแล้วยังมีผลไม้สีแดงสุกใส มีดอกไม้ที่งดงามสามดอกอยู่ด้านบนมีขนาดต่างๆ หญิงงามลึกลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวพิเศษในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถรู้ภาษาดอกไม้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจถึงดอกไม้นี้ได้
ดอกไม้ทั้งสามนี้มีรายละเอียดพลังงานที่ผันผวน มีพลังเป็นรูปแสงขยายวงโดยรอบ
ไม่ใช่สนามพลัง แต่ดีกว่าสนามพลังของนักรบ
นั่นคือภาพของเทพธิดาบุปผาที่ตั่วตั่วแสดงให้เห็นเมื่อนางเดินอยู่บนพื้นโลก
แน่นอนว่าร่างจริงของนางเป็นเทพธิดาบุปผา ไม่ใช่ดรุณีน้อย เพราะนางไม่เต็มใจแสดงร่างจริงของเทพธิดาบุปผานอกโลกคัมภีร์ แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง นางก็ยังอยู่ในรูปของดรุณีน้อย เพื่อจะได้อยู่กับเขาได้อย่างสะดวกใจ
“ตั่วตั่วจ๋า... เป็นเจ้านั่นเอง พี่ไห่อยากพบเจ้าแทบตายอยู่แล้ว!” เจ้าอ้วนไห่เช็ดน้ำลายที่ปาก และวิ่งเข้ามาหาตั่วตั่วอย่างดีใจ
“หาที่ตาย!” เย่คงเตะเขากระเด็นออกไปหลายพันเมตร
เจ้าอ้วนบ้านี่สมควรตาย แม้แต่องค์ชายเทียนหลัวผู้อ่อนโยนที่สุดยังทนมองไม่ได้
เขารั้งโซ่ไฟดึงเขากลับมา
เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่ล้อมวงกินโต๊ะเจ้าอ้วนไห่ทันที ประมาณว่าเจ้าแมลงสาบอ้วนคันเนื้อคันตัวต้องให้เพื่อนพ้องช่วยเกาหนังหนาๆ ให้ ยิ่งลงมือก็ยิ่งตื่นเต้น
มีการทุบตีกันอย่างสนุกสนานเหมือนเคย ตั่วตั่วพยักหน้าให้อาจารย์จิ้งจอกเฒ่า
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าคำนับตอบตามมารยาท
หากตั่วตั่วยังเป็นแค่เพียงอสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยาง ในฐานะที่เป็นครูเขาคงไม่เต็มใจใช้มารยาทอย่างนั้น แต่เมื่อเร็วๆ นี้ตั่วตั่วเลื่อนเป็นนางพญาดอกหนามมงกุฎทอง ซึ่งมีศักดิ์ศรีนักสู้ที่สูงกว่า อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าภูมิใจมากแค่ไหนที่ได้รับการคารวะจากนาง ถ้าข่าวนี้กระจายไปทั้งหอทงเทียนพวกนักรบคงหัวเราะเป็นแน่
ไม่ใช่เพียงแค่อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าแสดงมารยาททักทายเท่านั้น แม้แต่เด็กสาวเท้าเปล่านางนวลน้อยรีบคำนับเทพธิดาบุปผานี้ทันที นี่คือเทพธิดาบุปผาตนเดียวในโลกนี้
นางไม่ใช่อาจารย์จิ้งจอก นางเป็นอสูรศึก มีสัมผัสถึงพลังเทพได้ไวยิ่งกว่า
ถ้าไม่ได้คุ้นเคยอยู่แล้ว นางไม่กล้าเสียมารยาท
อสูรศึกธรรมดาเมื่อเห็นเทพอสูรก็ยังหมอบลงกับพื้น ไม่ต้องพูดถึงความเคลื่อนไหวของเทพอสูรที่ยกระดับไปเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า?
ตั่วตั่วปรากฏตัวในโลกในร่างของดรุณีน้อยที่ปิดกั้นพลังกดดันของเทพไว้ก่อนอย่างสมบูรณ์ หากปล่อยพลังเล็ดลอดออกมาเล็กน้อยเพียงหนึ่งในร้อย ไม่ต้องพูดถึงคุณชายหลี่หมิงที่ตกตะลึงเท่านั้น แม้แต่ขุนพลเทพไท่หยางผู้หยิ่งผยองไม่เห็นใครอยู่ในสายตาก็อาจปัสสาวะราดทันทีก็เป็นได้! ขุนพลเทพจะสักเท่าไหนกันเชียว? ในขุนเขาเหนือขุนเขา บุรุษลึกลับผู้มีพลังระดับเทพแท้นอกจากซื่อเสิน แม้แต่เฮยโจวและนักสู้อื่นที่มีพลังระดับเทพก็ยังถูกพลังกดดันจนนอนราบเช่นกัน
“นี่คือนางพญาดอกหนามมงกุฎทองหรือ?” บัณฑิตวัยกลางคนที่อยู่ตรงข้ามเย่ว์หยางอุทาน
ทันใดนั้นเอง
เขาส่ายหน้าอย่างเคร่งขรึมอีกครั้ง
หลังจากผ่านไปนาน เขายืนยันอย่างไม่เต็มใจ “ระดับเทพ นี่เป็นระดับเทพบุปผาไปแล้ว! นี่ไม่น่าเป็นไปได้ง่ายๆ นางคืออสูรพิทักษ์ของเจ้า ต่อให้เจ้าทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญตั้งแต่เกิดได้ เจ้ามีอายุกี่ปีแล้ว? เจ้าฝึกนางได้อย่างไร? นางเลื่อนเป็นระดับเทพได้อย่างไร? ไม่, นี่เป็นไปไม่ได้แน่นอน บนศีรษะนางมีดอกไม้สามดอกซึ่งเป็นศูนย์รวมการฝึกปรือของเผ่าบูรพาอมตะ นางไม่น่ามาถึงระดับนี้ได้!”
เย่ว์หยางไม่ตอบ ความจริงนั้นอยู่ตรงหน้าเขา แม้คนอื่นจะถามก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้
สำหรับตั่วตั่วเลื่อนเป็นระดับเทพเจ้า
เขารู้ แต่ระดับดอกไม้ระบุระดับพลังสามดอกนี้คืออะไร? เขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาวกิเลนปิงหยินสอน หรือสองพี่น้องหงส์เพลิงหรือเป็นเพราะเทพมังกรและสุดท้ายอาจเป็นเทพธิดากระบี่ฟ้า... ตั่วตั่วไม่บอก เขาก็ไม่ถาม นี่อาจเป็นความลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สะดวกกับการแบ่งปัน ทุกคนมีความลับ ถ้าตั่วตั่วต้องการบอก นางสามารถพูดได้ นางจะพูดออกมาเอง และไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น ในโลกคัมภีร์ ทุกคนไม่ถาม แม้แต่เป่าเอ๋อที่แก่นและซุกซนสงสัยไปทุกเรื่อง นางก็ยังไม่ถาม
ตั่วตั่วไม่ได้ลงมือกับคุณชายหลี่หมิงหรือขุนพลเทพไท่หยาง
ศัตรูที่มีพลังระดับนี้
ไม่คู่ควรให้เทพธิดาบุปผาต้องลงมือ
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่คง เจ้าอ้วนไห่ เสวี่ยทันหลาง คนเหล่านี้เป็นสหายของเย่ว์หยาง และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าสุ่ยตงหลิวเป็นอาจารย์ของเย่ว์หยาง อย่างนั้นนางจะไม่มาด้วยตนเอง อย่างมากก็ส่งแค่ร่างแยกดอกหนามมาก็สามารถทำลายคู่ต่อสู้เล็กน้อยนี้ได้แล้ว
“เพราะศัตรูวางกำลังรออยู่ข้างหน้า ตั่วตั่วต้องรีบออกไปช่วยพี่อู๋เสียกวาดล้างผู้บุกรุกมิอาจอยู่นานเกินไปได้” ตั่วตั่วพยักหน้าให้อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าเล็กน้อยและยิ้มหวานภายใต้ความสนใจของเย่คงและเสวี่ยทันหลาง เสียงของนางดังเหมือนระฆังเงิน “ดังนั้นศัตรูสองคนนี้ให้สองท่านรับมือก่อน!”
“สบายใจได้ เดี๋ยวพี่ไห่จะจัดการคุณชายหลี่หมิงด้วยหมัดที่ร้ายกาจของพี่ไห่เอง ไม่ต้องถึงมือน้องตั่วตั่ว เจ้าแค่ตบมือให้กำลังใจเราก็พอแล้ว!” เจ้าอ้วนไห่หน้าบวมเหมือนหัวหมูทำท่าเบ่งกล้ามอวด
“ถ้าเจ้าไม่โม้จะตายหรือเปล่า?” นางนวลสายลมสาวเท้าเปล่าบิดหูเจ้าอ้วนไห่ ลงโทษตามกฎบ้าน ลืมแล้วหรือว่าความเจ็บปวดเป็นอย่างไร
“โอ๊ยเจ็บนะ หูข้าจะขาดอยู่แล้ว” เจ้าอ้วนไห่ร้องเหมือนหมู
คุณชายหลี่หมิงกับขุนพลเทพไท่หยางมองหน้ากันเอง
ถ้าตั่วตั่วต้องการลงมือ
ทั้งสองไม่มีความมั่นใจในตนเอง
ที่สำคัญการปรากฏตัวของตั่วตั่วน่าทึ่งเกินจินตนาการเกินไป
แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินมาว่านางพญาดอกหนามมงกุฎทองมีพลังน่ากลัว พวกเขาไม่เคยลองสู้มาก่อน และพวกเขาไม่รู้ว่าข่าวลือนั้นจริงหรือไม่ ตอนนี้เขาเพียงได้แต่เห็นในสนามรบ อย่าว่าแต่คุณชายหลี่หมิงเลย แม้แต่ขุนพลเทพไท่หยางก็ไม่ยินดีจะสู้กับตั่วตั่ว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เมื่อได้ยินว่านางจะไม่ลงมือกับพวกเขา หรือจะให้เจ้าอ้วนบัดซบสู้.. คุณชายหลี่หมิงและขุนพลเทพไท่หยางลอบยินดี
นี่เท่ากับป้อนอาหารให้ตัวเขาเองไม่ใช่หรือ? นึกว่าจะหาทางกดดัน แต่กลับไม่มีเรื่องนั้น
แม้ในขณะนี้ขุนพลเทพไท่หยางก็ยังสงสัย
นั่นคือนางพญาดอกหนามมงกุฎทองแต่ไม่มีพลังโจมตีแม้แต่น้อย บางทีอาจมีพลังป้องกันสูงหรืออาจมีความสามารถในการเยียวยาระดับสูงสุด นางพญาดอกหนามมงกุฎทองอาจจะไม่ใช่ประเภทต่อสู้ หรืออาจยังไม่เติบโตเต็มที่ และคงอยู่ในช่วงอายุน้อยก็ได้!
“ไร้สาระสิ้นดี ข้าคิดว่าเจ้าสามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวด้วยการโปรยกลีบดอกไม้จนเต็มท้องฟ้าอย่างเดียวใช่ไหม?” ขุนพลเทพไท่หยางมองผิวเผินนั้นดูหมิ่น แต่ในความเป็นจริงเขารู้สึกหวั่นเกรงความน่าเกรงขามของตั่วตั่ว หลังจากที่ตั่วตั่วปล่อยพลังให้รั่วไหลออกมาทำให้เขาลอบหวาดกลัว นางพญาดอกหนามมงกุฎทองแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินชื่อมาในรอบหลายพันปี แต่ในหลายพันปีที่ผ่านมา แดนสวรรค์มีข่าวลือเกี่ยวกับท่านหมื่นบุปผา ได้มีการพบเจอนางพญาดอกหนามมงกุฎทอง แค่วัยเด็กของนางก็ไม่ธรรมดาแล้ว โชคดีที่นางพญาดอกหนามมงกุฎทองมีความภาคภูมิใจมากและประกาศว่านางจะไม่ลงมือกับตำหนักใหญ่ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคิดว่าควรจะล่าถอยเพื่อปกป้องตนเองหรือไม่
“ในนามของข้า ข้าจะให้พลังป่าโบราณกับพวกท่าน” ตั่วตั่วโบกมือ จุดแสงสีเขียวหลายจุดพุ่ง พุ่งเข้าไปในร่างเย่คง เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลาง
เย่คงและคนอื่นมองผิวเผินไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่ขณะนั้นเองพวกเขารู้สึกว่ามีพลังเทพอยู่ในร่างทำให้พวกเขาสามารถยืนหยัดได้ตลอดไป และสามารถดึงพลังงานจากโลกขึ้นมาฟื้นฟูตนเอง หากไม่ใช่เพราะโลกมีหัวใจธรณีสารเพียงหนึ่งเดียว พวกเขาคงคิดว่าได้รับหัวใจธรณีสารมาจากอาหมันแล้ว
แม้ว่ารูปแบบพลังป่าโบราณที่เป็นพลังเทพจะมีอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งยังส่งผลได้ชั่วคราว
แต่
แค่นี้ก็เพียงพอให้เย่คงและเจ้าอ้วนไห่กับพวกสามารถตอบโต้ได้
ความจริงพลังป่าโบราณมีจุดสำคัญมากกว่าสองจุด ทั้งยังมีพลังมากมาย เจ้าอ้วนไห่และพวกจะตรวจสอบพลังทั้งหมดได้อย่างไร? คนที่เป็นเจ้าของพลังนี้จริงๆ มีเพียงตั่วตั่วกับเย่ว์ปิง พวกเขาไม่มีเวลาจะทำความรู้จัก สิ่งที่พวกเขาต้องทำตอนนี้คือกลายเป็นนักรบผู้บ้าคลั่ง แต่ละคนเป็นเหมือนหมาป่าหิวโหยสำหรับคุณชายหลี่หมิงและขุนพลเทพไท่หยาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าอ้วนไห่ผู้ถูกทุบตีอย่างหนักกลายเป็นผู้นำ
ใบหน้าที่บวมปูดของเขามีรอยยิ้ม ขณะวิ่งเข้าหาคุณชายหลี่หมิงราวกับว่าพบเจอพี่เขยในร้านเดียวกัน “ที่รัก, คุณชายไห่มาแล้ว คันเนื้อคันตัวคิดถึงพี่ไห่หรือเปล่า ไม่ต้องกลัว พี่ไห่กำลังมาพบเจ้าแล้ว!”
3 ความคิดเห็น:
555++ ประโยคท้ายนี่ฮาจริงๆ
ทนไม้ทนมึอจริงฯไอ้อ้วน(พี่ใหญ่)55555
เย่ไห่ยังชวนฮาได้แม้ตึงเครียด
แสดงความคิดเห็น