วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1256 ข้าชอบกินมังกร!

 

ตอนที่  1256  ข้าชอบกินมังกร!

แท่นบูชายัญ

มีบางคน

นั่งอยู่ใต้เทวรูปที่ไม่ปรากฏชื่อ

 

อีกคนหนึ่งลุกขึ้นมายืนต่อหน้าแท่นบูชายัญ เขายิ้มและทักทายเย่ว์หยางและคนอื่น  สำหรับบัณฑิตวัยกลางคนผู้นี้มีรอยยิ้มเต็มหน้า ใบหน้าของเขาคือสิ่งที่เย่ว์หยางคิดว่าอยากต่อยหมัดใส่จมูกและปากที่เต็มไปด้วยฟันและปล่อยให้เขากลืนลงท้องไปทั้งหมด...  แน่นอนว่าสิ่งนี้เขาได้แต่คิด หากต้องการทุบตีคนอย่างเจ้าตำหนักใหญ่ นักกลยุทธ์ที่ฉลาดที่สุดของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

“ยินดีต้อนรับ!  เมื่อเห็นเย่ว์หยางมาหา บัณฑิตวัยกลางคนอารมณ์ดีและเข้ามาต้อนรับอย่างสุภาพ  “ถ้าเจ้าไม่คิดว่าข้าเจ้าตำหนักใหญ่นั้นเสียมารยาท ข้ายินดีให้การรับรองทุกคนแทนคุณชายสามตระกูลเย่ว์แห่งหอทงเทียน เผ่าเก้าหัว เผ่ามังกรฟ้า เผ่าปีศาจทมิฬ ทั้งสามเผ่าใหญ่  ข้าสัญญาได้ว่าจะให้ความยุติธรรมในฐานะพยานที่เป็นกลาง ขอสาบานด้วยเจตจำนงเทพโบราณว่าข้าจะไม่เข้าไปแทรกแซงการจัดการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแน่นอน”

“ขอบคุณตงฟาง, เจ้าเป็นคนที่มีปัญญาที่สุดที่เรารู้จัก เราเชื่อในตัวเจ้า”  มังกรสองหัวแห่งเผ่ามังกรฟ้ายิ้มตอบ

“เราไม่มีความคิดเห็น”  ปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่ามองหน้ากัน

โดยที่พวกเขาเป็นผู้วางแผนฝ่ายราชาปีศาจ พวกเขาจึงรู้สึกทนไม่ได้แสดงตัวอย่างตรงไปตรงมา

พวกเขาทุกคนคิดว่าเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางอยู่ที่นี่ คนส่วนใหญ่รู้สึกไม่สบายใจที่แข่งขันกันแย่งดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  และกลัวว่าทุกคนจะเจรจากับเย่ว์ไตตันเพื่อร่วมมือกัน

อาจมีข้อตกลงลับๆ กับคนเผ่ามังกรฟ้าอยู่ก็ได้  มิฉะนั้นพวกมังกรฟ้าคงไม่กล้าท้าทายเผ่าเก้าหัวเป็นแน่

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย กับการมาของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง

อย่างน้อยเกี่ยวกับการต่อสู้

เป็นเรื่องที่ดี

พอมีเขา คิดจะลงมือกับเย่ว์ไตตันต่อไปย่อมไม่ใช่เรื่องดี

ไม่ว่าเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้หรือไม่ เจ้าเด็กคนนี้ถึงวาระที่จะล้มเหลวแน่นอน  เพราะเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางจะไม่ยอมให้เจ้าเด็กผู้นี้พลิกโอกาสกลับมา!

บุรุษผู้หยิ่งผยองผู้อยู่กับปีศาจหมีและปีศาจหมูป่าแค่นเสียง  แต่เขาไม่คัดค้านแต่อย่างใด  ส่วนใหญ่เขายังคงหงุดหงิดจากการที่เย่ว์หยางโจมตีและปฏิเสธพวกเขา  ตลอดชีวิตของผู้นี้เขามักจะสบถด่าผู้คน  น้อยนักจะชื่นชมคน  แต่เขาไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มคุยผูกมิตรกับคนอื่นก่อน นึกไม่ถึงว่าในเวลานี้เย่ว์ไตตันไม่เพียงแต่ป่าเถื่อนปฏิเสธเขาเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาหงุดหงิดไม่มีที่ระบาย

คนเผ่าเก้าหัวมองหน้ากันเองและหัวเราะ  ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

รอจนกระทั่งบัณฑิตวัยกลางคนมองผ่านเข้ามา

อสรพิษเก้าหัวพูดในนามตัวแทนเผ่า  “ท่านเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางยินดีเป็นพยาน  นั่นเป็นเรื่องดียิ่ง  แต่ข้าไม่รู้ว่าฝ่ายเย่ว์ไตตันจะว่ายังไง?”

“ข้าเพิ่งพนันกับพวกเจ้าไปแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา!  เย่ว์หยางไม่สนใจบัณฑิตวัยกลางคน เขายิ้ม  “ตราบเท่าที่เจ้าเอาชนะข้า อย่างนั้นอย่าว่าแต่แดนล่มสลายแห่งทวยเทพเลย ทั่วทั้งหอทงเทียน รวมทั้งทวีปมังกรทะยาน แดนนรก บันไดสวรรค์ หอทงเทียนทั้งหมด ข้าจะส่งมอบให้ทั้งหมด!  สำหรับข้อตกลงที่เจ้ามีกับเขา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า!

“ดี!  มังกรสองหัวรูปหล่อปรบมือชื่นชม  “ใจกล้ามาก เรามาพูดข้อตกลงกัน!  อย่างไรก็ตามมีแค่หอทงเทียนเท่านั้น อาคันตุกะที่ต้องการครอบครองมีเป็นจำนวนมาก  ข้าไม่รู้ว่าใครเต็มใจจะขึ้นไปสู้กับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ก่อน?”

เขากล่าวอย่างนี้ คนชมดูเงียบกันหมด

การขึ้นไปคนแรกอาจไม่ใช่เรื่องดี

การเปิดตัวครั้ง อาจหมายถึงการโดนกำจัดคนแรก

การสู้ที่ดีบ่อยครั้งที่ฉากต่อมามักเป็นฉากสุดท้าย ที่ขึ้นสู้คนแรกอาจเป็นบุคคลระดับรองๆ.... พวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อมาถึงหอทงเทียน ต้องจ่ายออกไปในราคาที่คุ้ม  ไม่มีใครอยากเป็นบันไดให้คนอื่นก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทุกคนอยากเป็นคนหัวเราะตอนจบ!

บุรุษผู้นั่งอยู่เงียบๆ ภายใต้เทวรูปใหญ่ลุกขึ้นยืนและอาสาทันที  “ในเมื่อทุกคนมัวแต่ถ่อมตัว  อย่างนั้นข้าขออาสาเป็นคนแรก!

ทันทีที่เขาพูด ราวกับว่ามีก้อนหินถูกโยนลงบนพื้น

คนที่อยู่ในที่นั้นตกใจ

หอทงเทียนชั้นที่หก ป่าหยกเขียวฟ้า

ขุนพลเทพเทียนเหลียงหนึ่งในสิบแปดขุนพลเทพบริวารของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางกำลังจุดไฟอย่างบ้าคลั่งทำลายป่าสมบัติสีเขียวนี้

ห่างออกไปหลายสิบไมล์ ทอเรนเลโอ ฟ่านหลุนเถี่ย สี่สาวเผ่าคิวบัวร์ เอลฟ์ทองสองสามีภรรยาล้มลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด แต่ไม่สามารถยืนหยัดเพื่อหยุดยั้งศัตรูที่ทรงพลังนี้ไม่ให้ทำลายป่าหยกได้ อย่าว่าแต่พวกเขาหลายคนเลย ขนาดเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและพวกพบเจอกับขุนพลเทพไท่หยางก่อนนั้นก็ยังสู้อย่างยากลำบาก หากไม่ใช่เพราะได้รับพรพลังจากตั่วตั่ว ได้พลังป่าโบราณ และพลังหนามป่าพลังเทพทั้งสองช่วยเจ้าอ้วนไห่และสหายไว้  คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะขุนพลเทพไท่หยาง!

ตอนนี้ขุนพลเทพเทียนเหลียงกำลังเผาป่าหยกเขียวฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

นอกจากเลโอและฟ่านหลุนเถี่ยที่เป็นกลุ่มของเย่ว์หยางแล้ว นักรบหอทงเทียนที่เหลือซึ่งเข้ามาช่วยล้วนถูกฆ่าตาย

เหตุผลที่ต้องปล่อยพวกเขาไว้เป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเป็นการออกคำสั่งของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง  เช่นเดียวกับขุนพลเทพไท่หยางที่กำลังจะฆ่าเจ้าอ้วนไห่และเย่คง อาจารย์จิ้งจอกเฒ่า พวกเขาต้องการโจมตีจิตใจและความรู้สึกของเย่ว์หยางตลอดเวลา  สำหรับเขาคนเหล่านี้ที่เป็นหมากเบื้องล่าง หากถูกฆ่าจะทำให้เย่ว์หยางโกรธมากขึ้น และระเบิดพลังที่แข็งแกร่งออกมา

แต่ถ้าเขาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ในมือทำร้ายจิตใจเย่ว์หยางอย่างต่อเนื่อง อย่างนั้นเย่ว์หยางจะสงบสติอารมณ์ต่อสู้ไม่ได้

แม้ว่าในเกมหมากรุก เขาจะชนะแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางยังคงระมัดระวังและหวังว่าจะสามารถได้เปรียบเย่ว์หยาง จึงวางแผนเป็นชั้นๆ เพื่อจัดการคู่ต่อสู้อย่างเย่ว์หยางให้ได้สมบูรณ์แบบ  “ก็เหมือนอย่างเคย”  ขุนพลเทพเทียนเหลียงรู้สึกว่างานนี้ง่ายจริงๆ  นั่นคือจับชาวพื้นเมืองไม่กี่คนที่อ่อนแอเหมือนแมลงตัวน้อย และวางเพลิงเผาป่านี้   หลังจากเผาเสร็จสิ้น ก็ไปจับเจ้าเมืองโล่วฮัวคนรักของเย่ว์ไตตันที่บ้านเก่าสวนลอยฟ้า และส่งมอบให้ขุนพลเทพจื่อเว่ยแห่งสิบแปดขุนพลเทพ

ในโลกนี้ มีงานง่ายกว่านี้อีกไหม?

ขุนพลเทพเทียนเหลียงคิดว่าครั้งเป็นงานง่ายเกินไป พวกเทียนถง เทียนฝู เทียนเฉิงล้วนถูกส่งไปที่สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ป้อมสายฟ้า เกาะเพลิง และตำหนักซัคคิวบัส แต่เขากลับได้งานขยะ? วางเพลิงเผาป่า?

ความจริงงานที่ดีที่สุดควรจะเป็นจุดไฟเผาทวีปมังกรทะยานบ้านเกิดเย่ว์ไตตันมากกว่า

น่าเสียดายที่ครั้งนี้เขาโชคไม่ดี ได้งานเผาป่าหยกเขียวฟ้า

ได้ความดีความชอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“นักสู้ที่แท้จริงของหอทงเทียนมาเสียทีเถอะ!  งานง่ายขนาดนี้มันน่าเบื่อจริงๆ!  ขุนพลเทพเทียนเหลียงหวังว่าเขาจะได้พบคู่ต่อสู้  มิฉะนั้นเขาคงไม่รู้สึกกระตือรือร้นในหัวใจ  แน่นอนว่าเขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ในชนบทอย่างหอทงเทียน ไม่มียอดฝีมือพิเศษอื่นใด นอกจากเย่ว์ไตตันแล้ว หอทงเทียนมีนักรบอื่นอีกบ้างไหม?  ขุนพลเทพเทียนเหลียงไม่คิดว่าหอทงเทียนจะให้กำเนิดอัจฉริยะที่ไม่ธรรมดาอย่างเย่ว์ไตตันคนที่สองขึ้นมาอีก

“ตามที่เจ้าต้องการได้เลย!  เงาร่างหนึ่งปรากฏตัวอยู่ด้านหลังขุนพลเทพเทียนเหลียงเงียบๆ

“หือ?” ขุนพลเทพเทียนเหลียงประหลาดใจ

“โอว ข้ากำลังรีบพอดี ข้าคงต้องใช้เวลากับเจ้าสักหนึ่งวินาที  แต่ถ้าเจ้าต่อสู้อย่างรุนแรงขนาดนั้น ข้าจะทำให้เจ้าพอใจในรวดเดียว!” ขณะที่ประโยคนี้ก้องอยู่ในหูของขุนพลเทพเทียนเหลียงก็มีแส้หวดเข้าที่หลังของขุนพลเทพเทียนเหลียงอย่างรุนแรง

แส้อาญานี้ไม่เพียงแต่ทำร้ายถึงวิญญาณเท่านั้น แต่ยังคงมีเพลิงศักดิ์สิทธิ์ปะทุเผาผลาญถึงวิญญาณ

ร่างของเขามีไฟเผาผลาญร้อนรุนแรง

ไขกระดูกร้อนจนกระดูกแทบระเบิดออก

ขุนพลเทพเทียนเหลียงสูดหายใจและพบว่าเขาหายใจไม่ออก ระหว่างจมูกของเขามีเปลวไฟเทพสีม่วงที่น่ากลัวเผาผลาญ

ศัตรูทรงพลังมาถึงแล้ว!  และเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งสุดยอด!  เขามีประสบการณ์การรบมากมายรีบสนองตอบอย่างถูกต้องทันที แทนที่จะหนี แต่เขาสู้ตอบโต้ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา และโจมตีตอบโต้ศัตรูเบื้องหลังเขาอย่างเด็ดขาด

ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งและพละกำลังมหาศาล เขาเชื่อมั่นว่าชัยชนะสุดท้ายยังคงเป็นของเขา

ไม่ว่าศัตรูจะทรงพลังแค่ไหน

เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะตัวเขาได้  เพราะเขามีพลังร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าร้อยเท่า

ในสิบแปดขุนพลเทพ  แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขามีพลังชีวิตที่อดทนที่สุด

“มาได้ดี!  ขุนพลเทพเทียนเหลียงฝืนทนเจ็บปวดในวิญญาณที่ถูกเผาไหม้ เขากัดฟันแน่นรวบรวมพลังที่ยิ่งใหญ่ของเขายิงใส่ศัตรูที่แข็งแกร่งข้างหลังเขาอย่างรุนแรงทันที พลังคนพื้นถิ่นหอทงเทียนไม่ว่าจะทรงพลังเพียงใด ร่างกายและพลังของพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากยกเว้นนักรบเผ่าภูตบูรพา

“วีดดดดดด!

ยังไม่ทันยิงพลังโต้ตอบขุนพลเทพไท่หยางก็ได้ยินเสียงหวีดในหูจนหัวแทบระเบิด

เสียงหวีดร้องนี้ไม่ใช่หวีดธรรมดา แต่เป็นเสียงหวีดที่ทำให้จิตใจสั่นสะท้านและแตกสลาย...  ขุนพลเทพเทียนเหลียงรู้สึกเหมือนศีรษะถูกค้อนขนาดหมื่นตันทุบใส่ ทั้งร่างตนเองและวิญญาณรู้สึกเหมือนระเบิด วิญญาณอยู่ในสภาวะล่มสลาย สมองว่างเปล่าและติดอยู่ในความสับสนคิดอะไรไม่ได้เป็นเวลานาน รอจนตื่นขึ้น เขาพบว่าตนเองนอนอยู่บนพื้น

เหนือศีรษะของเขาเป็นนางพญากระหายเลือดมีปีกเพลิงทองม่วงไฟลุกท่วมกำลังมองลงมาที่เขา ไม่ไกลกันนั้นเป็นสาวเผ่าทอเรน (หัววัว) ที่ล้มบาดเจ็บหนักก่อนนั้น ไม่รู้ว่านางยืนขึ้นได้ตั้งแต่เมื่อใด บาดแผลบนร่างกายหายเกือบสนิทและมีพลังมากกว่าเดิมถึงสิบเท่า

เกิดอะไรขึ้น

เขาหมดสติไปนานเท่าไหน?

ขุนพลเทพเทียนเหลียงพร้อมจะต่อสู้ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของเขากับศัตรูสุดแข็งแกร่งข้างหน้าเขา  คิดจะฆ่าเขาที่เด่นในเรื่องพลังที่แข็งแกร่งอย่างนั้นหรือ  ไม่ง่ายอย่างนั้นแน่นอน!

นางพญากระหายเลือดที่อยู่บนท้องฟ้ามิได้ตอบสนอง

ดวงตาของนาง

ดูถูกเหยียดหยามอย่างนั้นหรือ?

นางกำลังดูแคลนตัวเขาหรือ?

เมื่อความอับอายผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ ขุนพลเทพเทียนเหลียงพบด้วยความเหลือเชื่อว่าเขาไม่สามารถยืนได้

“ไม่”  ขุนพลเทพเทียนเหลียงพบว่าตนเองค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นแกะ  เป็นแกะที่น่าสงสารและอ่อนแอ ไม่มีพลังกายที่น่าภาคภูมิใจอีกต่อไป  ตอนนี้เขาเป็นเพียงแกะที่อ่อนแอจนคนอื่นสามารถหักหลังหักคอได้ในครั้งเดียว  มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?   เขาเป็นขุนพลเทพ เว้นแต่พลังเทพของเทพแท้ ใครอื่นจะมาเปลี่ยนร่างเขาให้เป็นแกะได้อย่างรี?  ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้!

“เปลี่ยนเป็นแกะ มีเวลาสิบนาที ข้าจะปล่อยเขาให้เจ้าจัดการ”  อาหงดึงผังอักขระรูนจากท้องฟ้า แล้วใช้องค์ประกอบพลังกักขัง ตรึงเข้าไปในร่างของขุนพลเทพเทียนเหลียงด้วยพลังเทพ

ขุนพลเทพเทียนเหลียงพบว่าเขากลายเป็นแกะ

เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีจากไป

เขาถูกจองจำอย่างสิ้นเชิง

แม้แต่กระพริบตาก็ยังเป็นไปไม่ได้!

ถึงตอนนี้เขาไม่เหลือความยอดเยี่ยมอยู่อีกเลย และต้องการจะร้องขอความเมตตาจากศัตรู ขอให้อีกฝ่ายไว้ชีวิตเขา... แต่น่าเสียดายที่เขาพบว่าความคิดนี้มาถึงช้าไป และตอนนี้เขาต้องการขอความเมตตา แต่เขาไม่อาจพูดได้

“เจ้าสู้ก่อน ข้าค่อยตัดหัวเขาทีหลัง  ขุนพลเทพผู้งามสง่าอย่างนี้ ข้าต้องการตัดหัวมาทำเครื่องประดับ”  สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยคำนับอาหงแสดงความรู้สึกขอบคุณก่อน จากนั้นโบกมือให้สี่สาวเผ่าคิวบัวร์ลงมือก่อน นางตัดสินใจว่านางจะลงมือคนสุดท้าย ศีรษะของขุนพลเทพแห่งแดนสวรรค์ถือว่าเป็นสินสงครามที่ดีที่สุด

“เราต้องตัดเนื้อบางส่วนไปด้วย!  สี่สาวเผ่าคิวบัวร์รู้สึกว่าพวกนางยังไม่ได้กินเนื้อ พวกนางคงรู้สึกเสียใจมากที่ไม่ได้กิน เพราะขุนพลเทพนี้เดินทางมาไกลเป็นพันๆ ไมล์

“......”  ขุนพลเทพเทียนเหลียงอยากร้องไห้ แต่ภายใต้การตรึง แม้แต่น้ำตาแห่งความสิ้นหวังก็ไม่ไหลออกมา

ป้อมสายฟ้า

ต่างจากขุนพลเทพเทียนเหลียง  ขุนพลเทพเทียนฝู่กำลังสนุก

กล่าวกันว่านี่คือที่มั่นของเย่ว์ไตตัน  เขาสามารถทำลายพื้นดินในสิบนาที  แต่เขาไม่รีบ  เขาเสนอให้ชาวพื้นเมืองหอทงเทียนที่ดูแลอยู่ที่นี่ ไม่ว่าใครก็สามารถมาท้าทายได้  แต่ถ้าคนนั้นแพ้ เขาจะทำลายบ้านของเย่ว์ไตตัน  ในท่ามกลางความสิ้นหวังของคู่ต่อสู้  เขาหวังจะทำลายชื่อเสียงของเย่ว์ไตตัน และฐานที่มั่น สร้างความเจ็บปวดและความเศร้าโศกให้กับคนพื้นเมืองเหล่านี้

“คนต่อไป ใครจะออกมาสู้?  ถ้าไม่มีใครสู้ อย่างนั้นข้าคงต้องเผาสวนของเย่ว์ไตตัน!  ไม่มีนักรบผู้กล้าหาญออกมาใช่ไหม?  คนหอทงเทียนขี้ขลาดกันหมดหรือไง?  ฮ่าฮ่าฮ่า  คนหอทงเทียนขี้ขลาดเป็นพิเศษหรือไง?  มาเลย มาท้าทายข้าตามลำพัง!  ขุนพบเทพเทียนฝู่โบกมือโยนบอลพลังงาน อาคารรอบๆ ป้อมสายฟ้าถูกกวาดหายไปหลังแล้วหลังเล่า

“ให้ข้าลองได้ไหม?”  มีเสียงใสไพเราะดังขึ้นที่ข้างหลังเทียนฝู่

“เจ้าน่ะหรือ?”  ขุนพลเทพเทียนฝูหันหลังกลับไปดูและพบว่าเป็นเด็กสาวที่ดูอ่อนแอ  ไม่ พูดให้ถูกนี่คืออสูรร่างเด็กสาว  เป็นอสูรพิทักษ์!  ร่างเดิมไม่สามารถมองเห็นได้แม้แต่น้อย  และเขาไม่รู้ว่านางเติบโตมาได้อย่างไร ขุนพลเทพเทียนฝู่ถามด้วยความสงสัย  “ร่างแท้จริงเจ้าล่ะ?  มังกรยักษ์หรือ?”

“ไม่ใช่มังกรยักษ์”  นางยิ้มหวานไม่ต่างจากหญิงมนุษย์  “แต่ข้าชอบกินมังกรยักษ์มาก!

 

9 ความคิดเห็น:

พาราเซตามอล กล่าวว่า...

อสูรพี่หยาง op ทุกตัว

Kokuryu กล่าวว่า...

น้องตั๊กแตนแน่เลย

blakaros กล่าวว่า...

ชอบกินมังกร หนูตั๊กแตนแน่นอน

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

กินมันเลยน้อน

Lazykuma กล่าวว่า...

แต่ละนางนี้ยิ่งกว่าหมากเด็ดพิชิตกระดานอีก555

st. กล่าวว่า...

นู๋ตั๊กแตนโหดนะ ระวังไว้พี่ฝู

CHANTANA กล่าวว่า...

โหด มากฯ

PKMint กล่าวว่า...

น้องตั๊กแตน.....

แสดงความคิดเห็น