วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1273 ดั่งวันวาน

 

ตอนที่  1273  ดั่งวันวาน

บันไดสวรรค์

ขั้นที่ล้าน

 

เวลามีเพียงสามวัน แต่เย่ว์หยางจำเป็นต้องเข้าใจและควบคุมพลังของยักษ์เทพชะตาให้ได้

ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้นี้  กลายเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้  ราชันย์ไร้ใจ เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง เจ้าหนักสูงสุดเทียนอี้ จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ แต่ละคนเป็นนักสู้ไร้เทียมทาน  ทั้งสามวันนี้จักรพรรดินีราตรีก็ต้องใช้พลังต่อสู้เพื่อถ่วงเวลา  ดังนั้นเขาต้องสำเร็จอย่างเดียว ผิดพลาดไม่ได้

ถ้าล้มเหลว เย่ว์หยางเชื่อว่าเขาจะต้องเริ่มดำเนินการแก้แค้นที่เขาไม่ต้องการเห็นอย่างแน่นอน

ในใจของเขาไม่ต้องการให้มีวันเช่นนั้น

ดังนั้นการรู้แจ้งต้องทำให้สำเร็จ!

 “ในขั้นเริ่มต้นของการสืบทอด ต้องเข้ามาสู่โลกความรู้แจ้งของข้าเสียก่อน บางทีอาจช่วยเจ้าได้บ้างเล็กน้อย”  จื้อจุนเหยียดนิ้วชี้ที่ระหว่างคิ้วของเย่ว์หยางเบาๆ

ทั่วทั้งบันไดสวรรค์ระเบิดปังแตกสลาย  ทุกอย่างสูญสลายหายไป

เย่ว์หยางไม่สามารถแม้แต่จะรู้สึกถึงร่างกายของเขา มีแต่สำนึกรู้ แต่ไม่ใช่การหลับลึก เป็นสภาวะที่ยอดเยี่ยมที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และแม้แต่ความคิดก็ช้ามาก เงียบสงบมากความรู้สึกเหมือนอยู่ในอ้อมอกมารดาในตอนที่ยังเป็นเด็กทารก  ความรู้สึกนั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นความสะดวกสบายและสงบสุขประเภทหนึ่ง ไม่มีความรู้สึกถึงร่างกาย

ราวกับว่าร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกับโลกและสวรรค์ตลอดไป

เหมือนกับว่าวิญญาณที่สงบสุขนี้มีอยู่มาเป็นพันๆ ปีแล้ว  แต่หลังจากที่มีร่างกายเป็นอมตะ  ความเป็นไปทุกอย่างในโลกนี้จรเข้ามายั่วเย้าหลอกล่อจนปกปิดแหล่งที่มาของอิสรภาพและความสุข คิดว่าร่างกายมนุษย์ ความเจ็บป่วย ความตายเป็นภาระ การแสวงหาความหมายที่แท้จริงของชีวิตคือสิ่งที่มีความหมาย หลังจากหนีจากร่างกายมนุษย์นี้ได้แล้ว รอให้จิตสำนึกของวิญญาณที่อยู่ใกล้แหล่งกำเนิดความรู้ ทำให้รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงแล้วคือแสงสว่าง และนั่นคืออิสรภาพแห่งความเงียบสงบ

สังสารวัฏของชีวิตดำเนินไปครั้งแล้วครั้งเล่าสั่งสมประสบการณ์ซ้ำๆ กัน ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการกลับไปสู่ตัวตนดั้งเดิม แต่กลับสูญหายไปจากโลกและเข้าไม่ถึงความจริงของชีวิตอีกต่อไป

มีแต่เพียงขณะนี้เท่านั้น

ในที่สุดเย่ว์หยางก็ตระหนักว่าสิ่งที่เขาต้องการและไล่ไขว่คว้าก็คือกระบวนการหลุดพ้นสูงสุดกลับไปสู่ความเป็นตัวตนดั้งเดิม

นี่คือจิตสำนึกที่จื้อจุนมอบให้กับตัวเขาเองหรือไม่?  ไม่ เหมือนกับว่ามารดาผู้ลึกลับนั้นเป็นผู้มีแรงบันดาลใจในตนเอง อาจเป็นพี่สาวของแม่สี่หรืออาจเป็นเทพธิดากระบี่ฟ้าที่มอบแนวทางการฝึกฝนอย่างแท้จริง

แต่ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นแรงบันดาลใจ  สิ่งที่สำคัญคือเขาเข้าใจเป้าหมายสูงสุดได้

และเขาเข้าใจความหมายที่ตนเองมี

ในทันใดนั้นเย่ว์หยางรู้สึกตกใจสะท้านไปทั้งวิญญาณ ภาษาใดๆ ในโลกทั้งหมดยากจะอธิบายและแสดงความตื่นเต้นและปลาบปลื้มเป็นสุขแบบนั้นได้  เหนืออื่นใดรวมถึงโชคชะตา เวลาและสถานที่ทุกอย่างในโลก... ขณะที่เย่ว์หยางพร้อมจะอุทิศใจทั้งหมดเพื่อมีส่วนร่วมอย่างกลมกลืนผสานกับแหล่งกำเนิดอย่างแท้จริง  เมื่อกลับมาที่นี่ซึ่งเป็นตัวตนเอง ลึกลงไปในใจ ความคิด ความสนใจต่างๆ รวมทั้งวิญญาณต่างถูกหลอมรวมอยู่ในนั้น

จิตวิญญาณที่เบาพลันจมดิ่งลงไป

จมลึกลงไปทุกขณะ

ในห้วงเหวมิติเวลาไม่มีที่สิ้นสุด จมดิ่งลึกลงไปจนกระทั่งความสว่างและความมืดฟ้าและดินปรากฏขึ้นอีกครั้ง  ความรู้สึกของร่างกายปรากฏ เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาหลุดออกมาจากสภาพดั้งเดิมของวิญญาณที่สุขที่สุดกลับสู่สภาพจิตวิญญาณที่วุ่นวายทั้งกายและใจ       

ในสภาวะเช่นนี้ มีอารมณ์และความคิดต่างๆ ในชีวิต มีเครือญาติ ความรัก ความคิดคำนึงถึง  มีวิวัฒนาการความรู้ความสามารถที่ได้รับจากอสูรศึก คนรัก อารมณ์สัมพันธ์สมาชิกครอบครัว สหาย ความคิดภายในมีซับซ้อนมากมาย  จนบุคคลที่มีสติปัญญาสูงก็ยังไม่สามารถกำจัดออกไปได้ ไม่สามารถขุดลงไปจนถึงรากเหง้าได้  เย่ว์หยางมีแรงกระตุ้นส่วนตัวอย่างหนึ่ง เขาอยากร้องไห้ ในฐานะบุคคล เขาสามารถชักนำให้เกิดกระบวนการวิวัฒนาการของการเกิดและความตายในชีวิตของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ใช่ร่างกายหลักของเขา วิวัฒนาการร่างกายของญาติสนิทมิตรสหายในครอบครัวเขาก็สามารถกระตุ้นได้  เพื่อความแข็งแกร่งของโชคชะตา... การเสียชีวิตของอาสี่และความตายของแม่นางฟงผู้ให้กำเนิดทารกน้อยที่อาสี่และแม่นางฟงทิ้งไว้ ทำให้เกิดชะตาชีวิตทั้งเกิดใหม่และแตกดับ

ตั้งแต่โบราณกาล

ภูตอัจฉริยะเย่ว์กง วีรบุรุษในยุครุ่งเรืองสามร้อยปีก่อน  ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ เย่ว์ซาน เย่ว์ถิง การตกทอดของทายาทตระกูลเย่ว์คนอื่นๆ จากรุ่นสู่รุ่นล้วนแต่เป็นพลังของโชคชะตา

ไม่มีใครควบคุมได้ และไม่สามารถดำเนินการตามความต้องการของใครๆและความต้องการของตนเองได้ แต่ในเวลาเดียวกัน ทุกคนมีส่วนร่วม

มีความมุ่งมั่นเพื่อเลื่อนระดับ

พลังแห่งโชคชะตากว้างใหญ่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้ และไม่มีใครแยกออกจากมันได้

ตรงกันข้ามทุกคนถูกผลักดันด้วยพลังต่างๆ ไปสู่ความเจ็บปวดด้วยชะตากรรมที่มิอาจคาดเดาได้  ยกเว้นแต่เทพ แทบจะไม่มีใครสามารถหลบหนีจากโชคชะตา เมื่อเกิดแล้วก็ดำเนินไปสู่ความตายอย่างไม่หยุดยั้ง

แม้แต่ทวยเทพในสวรรค์บนก็ไม่สามารถหนีพ้นชะตากรรมจากเทพผู้ยิ่งใหญ่กว่า

เพียงแค่นั้นเขาจึงเข้าใจทุกอย่างกลายเป็นเทพราชันย์อมตะ สามารถกำจัดสัญญาณรบกวนจากภายนอกและสร้างชีวิตที่แท้จริงที่เป็นของตน

 “เทพจอมราชันย์ที่แท้จริงคือใคร? พลังนิรันดร์ที่สามารถก้าวข้ามทุกสิ่งทุกอย่าง รู้แจ้งตนเองอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยพลังของตนเองข้าจะทำเช่นนั้นได้หรือไม่?  ข้าไม่ได้เป็นนักสู้ระดับเทพ ข้าจะสามารถก้าวข้ามการเกิดและการตายควบคุมชะตากรรมของตนเองด้วยมือข้าเองด้วยพลังจิตสำนึกและเอาชนะตัวเองได้หรือไม่?  แม้ว่าข้าสามารถทำได้  ข้าจะทำและควบคุมชะตากรรมของผู้อื่นได้อย่างไร?”   เย่ว์หยางตกอยู่ในความคำนึงที่ไม่รู้จบ

ดูเหมือนว่าเขาเห็นว่าเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและสหายอื่นๆ กำลังต่อสู้อาบเลือดกับศัตรู

ถ้าเขาไม่สามารถควบคุมชะตากรรมของพวกนั้น

อย่างนั้นเจ้าอ้วนไห่และเย่คงและคนอื่นจะไม่สามารถหลบหนีผลของการเกิด เจ็บ ตายได้ พวกเขาไม่ใช่ผู้มีชีวิตนิรันดร์ พวกเขาจะต้องเสียสละตลอดเวลาภายใต้การโจมตีของศัตรู....   อู๋เสีย เชี่ยนเชี่ยน โล่วฮัว อู๋เหิน พี่หวี่ หลิวเย่ เซี่ยอี เป่าเอ๋อ สาวใช้ลูกครึ่งเอลฟ์  แม้แต่อสูรพิทักษ์อย่างเสี่ยวเหวินหลี อาหง อาหมัน เจี้ยงอิง อิคคาและเว่ยหลาย  พวกนางก็เหมือนกัน หากพวกนางไม่สามารถควบคุมพลังแต่โชคชะตาได้ พวกนางอาจล้มลงพลาดท่าเช่นเดียวกับความพ่ายแพ้ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี  ที่กำลังจะตายอยู่ในผนึกกลายเป็นความหายนะ โดยไม่ต้องคำนึงถึงการต่อสู้เกียรติยศ และทำลายล้าง ในท่ามกลางเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนตลอดเวลา

ต้องปล่อยให้เป็นไป

มีเพียงทางเดียว

นั่นคือทำให้ทุกอย่างเป็นนิรันดร์

ฟันฝ่าชะตาชีวิต แยกชีวิตออกมาภายนอกสร้างและบรรลุชีวิตนิรันดร์ใหม่ที่มีการควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ด้วยเจตจำนงอิสระเสรี  จากนั้นจึงจะสามารถควบคุมพลังแห่งโชคชะตาได้อย่างแท้จริง  มิฉะนั้นแม้ว่าเขาจะบรรลุถึงระดับเทพ แต่ก็ยังเป็นระดับเล็กน้อยและยังสามารถตกลงไปในห้วงกระแสเวลาอันยาวนานได้

 “ใครจะช่วยข้าได้ ใครจะยื่นมือช่วยข้า  ตอนนี้ข้ายังอ่อนแอเกินไป  ใครจะมอบความแข็งแกร่งให้ข้าได้  ใครจะทำให้ข้ามีสติปัญญามากขึ้นได้  ใครจะทำให้ข้ารู้แจ้งได้มากขึ้น...”  ในหัวใจของเย่ว์หยาง ความคิดเช่นนี้ปรากฏขึ้น เขาเห็นตัวเองและตระหนักถึงชะตากรรมของเขา  สิ่งที่เขาขาดตอนนี้คือการพัฒนาความก้าวหน้าของตนเอง

 “ปัง!

ปรากฏว่ามีแสงสว่างและความมืด โลกและสวรรค์แตกสลายอีกครั้ง

เหมือนกับว่ามีบางคนกำลังหัวเราะอยู่ในหูของเขา โบกมือแล้วหลุดออกมา

เย่ว์หยางไม่มีเวลาจับความรู้สึกว่าคืออะไร

เขารู้แต่เพียงว่าเขาได้ออกมาจากสภาวะแห่งการรู้แจ้ง  ไม่เพียงแต่เขาไม่สามารถมองเห็นได้  แม้แต่พลังแห่งโชคชะตาก็ยากที่จะเข้าใจคนทั้งหมดในทันที  ดูเหมือนว่าเขาไม่รู้ตัว แต่สมองของเขาไม่สามารถปรับได้ทัน  เขายังคงสับสน

ทำไมถึงเป็นแบบนี้

ทำไมเขาถึงสูญเสียสิ่งที่เรียนรู้ไปแล้ว ทำไมจู่ๆ ถึงโง่ขึ้นมาทันที?

ก็แค่บางคนเพิ่มภูมิปัญญาที่สูงส่งเป็นพิเศษให้พวกเขาไม่ใช่หรือ?  หรือว่านั่นไม่ใช่ความเข้าใจที่แท้จริงของตนเอง

เจ้าอ้วนไห่กำลังต่อสู้  เขามีตระกูลของเขาและแนวคิดของเขา มีคัมภีร์อัญเชิญของตน และรูปแบบการต่อสู้ของตัวเอง  ชะตาของเขาไม่สามารถควบคุมได้ จะก้าวไปข้างหน้าหรือต่อไป หรืออาจพลาดพลั้งร่วงลงห้วงเหวแห่งความตาย.... เย่คงกำลังต่อสู้ ชะตากรรมของเขา ไม่อาจควบคุมล่วงหน้าได้...  ทุกคนที่รู้จัก อยู่ในสถานที่เดียวกันและเวลาเดียวกันมีการดำเนินชีวิตโดยพวกเขาเอง รวมทั้งศัตรูอย่างเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง และผู้ที่ยังซ่อนตัวอยู่อย่างเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ พวกเขาไม่นิ่งเฉย  พวกเขายังคงต่อสู้อย่างเปิดเผยด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อส่งเสริมชะตากรรมของตนเองหรือคนอื่นด้วยพลังที่หลากหลาย

ถ้าเขาต้องการหยุด

ก็ต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมากมาย

นั่นคือต้องสูงกว่าบรรพต ลึกกว่ามหาสมุทร  ต่อให้บรรจุเต็มท้องฟาและแผ่นผืนดินสติปัญญาจะต้องล้นเกินยิ่งกว่านั้น  ด้วยวิธีนี้จึงจะสามารถควบคุมโชคชะตาของญาติสนิทมิตรสหายและของศัตรูทั้งหมดในฝ่ามือ

ขณะที่เย่ว์หยางมีสติ ใจของเขาก็ตระหนักได้ว่าเขามองเห็นความรู้ขั้นสูง

หรือว่าจื้อจุนมอบความรู้แจ้งทั้งหมดให้เขา

ตอนนี้

เพิ่งเริ่มต้นอย่างแท้จริง!

ดังนั้นสิ่งที่เขาเห็นก่อนนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาอย่างนั้นหรือ?  หรือว่ามารดาผู้ลึกลับ เทพธิดากระบี่ฟ้าลอบแนะนำทางรู้แจ้งให้เขา?

 “โอ๊ว!  เย่ว์หยางเห็นเด็กทารกล้มลงกับพื้นและจากนั้นมีใบหน้าของหญิงสาวผู้งดงามเข้ามากอดจูบปลอบโยนลูกเบาๆ ไม่หยุด นางยิ้มในขณะที่สมาชิกในครอบครัวกล่าว  “ดูตาของเจ้า ดวงตาทิพย์ มีความฉลาดไม่สิ้นสุด  ลูกแม่!  ต่อไปเจ้าจะได้ตำแหน่งนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด  เจ้าต้องหลุดพ้นจากโชคชะตา และแม่คิดว่าเจ้าจะควบคุมชีวิตได้อย่างอิสระ”

 “ใช่แล้ว ความคาดหวังในหลายพันปี ในที่สุดข้าก็สมหวังได้สิ่งที่ต้องการในวันนี้ ด้วยศักยภาพของเธอ ตราบใดที่เดินตามเส้นทางไม่ผิดพลาด ข้าหวังว่าต่อไปเจ้าจะทำให้หอทงเทียนรุ่งเรือง เป็นเทพจอมราชันย์แห่งหอทงเทียน!  สหายของหญิงงามเหยียดนิ้วหยอกล้อทารกที่เพิ่งเกิด

 “น่าเสียดายที่เป็นสตรี  ถ้าเป็นบุรุษจะดีเพียงไหน”  บางคนรู้สึกเสียดาย

 “ไม่เป็นไร เราจะอธิษฐานขอให้มีเด็กผู้ชายที่มีศักยภาพเท่ากัน และประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นเทพจอมราชันย์ก็ต้องอยู่เป็นคู่ จะได้ไม่เหงาในชีวิตอันยืนยาวนาน เราจะมองหาเพื่อนตัวน้อยๆ ให้เธออีก  ให้กำเนิดลูกน้อยที่เป็นบุรุษอีกครั้ง ดีไหม? ไม่ดีเหรอ?”  ในระหว่างที่หยอกล้อ เด็กทารกที่เพิ่งร้องไห้ก็สงบลงและมองพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดวงตากลมโตใสราวกับว่าเธอเกิดมารับรู้ทุกสิ่งในโลกด้วยดวงตาของเธอ

ดวงตะวันตก ดวงจันทราก็ขึ้นหมุนเวียนสลับกันไป

เย่ว์หยางเห็นภายใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ทารกคนที่สองถือกำเนิด

ครั้งนี้ยังคงเป็นทารกหญิง ต่างจากพี่สาว ทำให้มารดาและสหายกระสับกระส่าย

 “เธอมีพลังทำลายล้างอยู่ในร่างของเธอ แต่ไม่มีร่องรอยที่ชัดเจน  ข้าเกรงว่าข้าเธอจะเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางที่ไม่อาจคาดเดาได้ในอนาคต”  สหายหญิงที่มีนิ้วขาวดุจหยกถอนหายใจ

 “สบายใจได้ ข้าจะดูแลเธอในอนาคต ด้วยชะตาข้านางจะไม่หลงทาง ข้าจะใช้พลังของข้าเปลี่ยนแปลงเธอในหอทงเทียน!  เนื่องจากไม่มีน้องชายที่จะรับช่วงต่อจากนั้น ข้าจะรับผิดชอบต่อไป ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!  เด็กสาวคนหนึ่งมีสีหน้ามุ่งมั่น นางกำหมัดของนางแน่น  “ข้าจะเป็นคนแรกของหอทงเทียนที่จะบรรลุพลังสูงสุดให้ได้ แม้ข้าจะเป็นสตรีก็ตาม ตราบเท่าที่ข้ามุ่งมั่นอย่างหนัก  ข้าจะทำให้ได้!

 “อย่าพยายามจนเกินไปนัก เจ้ายังเป็นเด็กอายุน้อย และอยู่เพียงคนเดียวจะเปลี่ยวเหงาเกินไป  เราจะภาวนาให้เจ้าได้มีน้องชาย!  ครั้งนี้จะต้องสำเร็จ บางทีอาจใช้เวลาสิบปี อาจเป็นร้อยปี หรืออาจเป็นพันปี  ต่อให้เราไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป ก็ยังมีพฤกษาอธิษฐานไม่ใช่หรือ? มันจะต้องสำเร็จ ป้าๆ รักเจ้าที่สุด และจะไม่ปล่อยให้เจ้าเดียวดาย...”

***

14 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

จื้อจุนกับเทียนฟา?

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ได้น้องสาวเป็นเทียนฟาแน่

CHANTANA กล่าวว่า...

งงเลย55555

Popcorn กล่าวว่า...

รวบทั้งพี่และน้อง

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

Unknown กล่าวว่า...

อ่าวเห้ยยยย.. ได้พี่สาวเป็นเมียเฉยเลย เข้าใจถูกม่ะ?

Akirabas กล่าวว่า...

อ่าว เฮ้ยย ยังไงเนี่ย

Lazykuma กล่าวว่า...

งงภาพตัด

Anunaki กล่าวว่า...

อันนี้คือสายจือจุ่นสินะ

Sairys กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

SatunG_NonG กล่าวว่า...

ลูกที่เกิดจากต้นพฤกษา โดยการอธิฐาน
ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือด
วรรคสุดท้ายมีบอกอยู่ ลองทำความเข้าใจดีๆ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

กินรวบหมดแน่นวลไอ้สาม

eak_sj กล่าวว่า...

น้ำล้วนๆ

แสดงความคิดเห็น