วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1275 ข้าก็เดียวดายเหมือนกัน

 

ตอนที่  1275  ข้าก็เดียวดายเหมือนกัน

เวลาในการฝึกฝนอย่างเดียวดายและหนักหน่วงผ่านไปทีละนิด

โดยไม่รู้ตัว

ร้อยปีผ่านไป

 

เย่ว์หยางมองเห็นได้ว่าตลอดเวลาร้อยปีที่ผ่านมา  สตรีผู้เดียวดายนี้แทบไม่ไปจากหุบเขาแห่งชีวิตสถานที่ให้นางฝึกฝนและทำความเข้าใจ  น้องสาวผู้ดื้อรั้นไม่เคยกลับมา  ป้าที่เป็นสมาชิกคนเดียวของครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ เพราะต้องดูแลกิจการของสำนัก จึงไม่มีเวลาว่างมาเยี่ยมนาง  นางฝึกฝนอย่างเดียวดายภายใต้แสงจันทรานภากาศ  มีแต่เงาที่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา ฝึกฝนด้วยลำพังตนเอง ยามเหนื่อยล้าก็นอนมองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาราราย รำลึกถึงท่านแม่และอาจารย์ป้าผู้สั่งสอนให้ความรู้กับนาง นางบรรลุระดับปราณก่อกำเนิดอย่างรวดเร็ว และสนามพลังภายใต้ทักษะตาทิพย์ของนาง และเจตจำนงราชันย์ของนางเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีผู้สอน

กระบี่แห่งชีวิตที่นางบรรลุได้รับพรแห่งวิญญาณ

พลังดับสุริยา

รุ้งสามชั้น ผนึกอมตะและแสงล้างโลกทำลายได้ทุกอย่าง ฯลฯ กลยุทธ์และความรู้ต่างๆ นางฝึกขึ้นในท่ามกลางความสันโดษเดียวดาย

เมื่อท่านป้ามาพบนางในช่วงครบรอบร้อยปีการตายของมารดานาง  นางไม่จำเป็นต้องมอบเทพพิทักษ์สงครามให้นาง

ตัวของนางมีอาวุธเทพร่างมนุษย์อยู่กับตัวนางเอง!

 “เจ้ามีเจตจำนงราชันย์ของตนเองแล้ว เจ้าเป็นหนึ่งในนักสู้ของหอทงเทียนแล้ว”  ท่านป้าบอกให้นางเดินทางไปหาประสบการณ์ในหอทงเทียนต่อไป  ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการผ่านประตูเป็นตาย ตราบเท่าที่นางยินดี  ท่านป้าจะพานางไปที่แดนสวรรค์ก็ได้  ในระยะเวลาเพียงร้อยปี นางเติบโตในระดับสูงมาก  ซึ่งท่านป้าของนางไม่อาจดูแคลนได้เลย

 “แต่ข้าไม่ใช่อันดับหนึ่งในหอทงเทียน”  นางเลือกฝึกฝนและเลือกเป็นจื้อจุนผู้โดดเดี่ยวต่อไป

 “หลานป้า, นี่มันยากลำบากมาก....”  ป้าของนางถอนหายใจ  แม้ว่านางไม่ต้องการจะพูดกระทบความรู้สึก แต่มีความจริงที่โหดร้ายคือหอทงเทียนไม่มีลูกหลานสตรีเป็นสุดยอดนักสู้ในหอทงเทียน

แม้แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลี นางพญาผู้พิชิตที่ทรงพลังที่สุด นางเติบโตขึ้นหลังจากออกจากหอทงเทียนและมีชื่อเสียงระดับสูงในแดนสวรรค์

ช่วงเวลาของนางพญาอสรพิษในหอทงเทียนนั้น ความจริงนางไม่ได้เป็นนักสู้อันดับหนึ่งในหอทงเทียน

แน่นอนนางเองก็รู้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีน้องชาย

นางต้องแก้ความปราถนาสุดท้ายของมารดาและท่านป้า

และนางมีความมั่นใจในตนเองมากพอ ต้องเป็นคนแรกในหอทงเทียนกลายเป็นจื้อจุนนักสู้สูงสุดปกครองโลก

 “ข้าไม่ได้ด้อยความสามารถหรือหย่อนความเพียร สักวันข้าจะประสบความสำเร็จ”  นางเงยหน้ามองท้องฟ้าดวงตางดงามคู่นั้นมีความมั่นใจในตนเองและความเพียรพยายามที่สามารถทำให้รัศมีจันทราเปลี่ยนสีได้ง่ายดาย  เย่ว์หยางก็มีความรู้สึกเดียวกัน ขณะเดียวกันนี้เขามีความรู้สึกอยากจะกอดนางแน่นๆ  เขาเองไม่รู้ว่าเริ่มเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อใด เขาฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อทำให้ได้อย่างที่เทพธิดากระบี่ฟ้าคาดหวัง  เขาแบกความหวังของมารดาและแม่สี่ ด้วยแรงกดดันจากการเอาตัวเองและทุกคนให้รอดเขาฝึกฝนหนักทุกวันเพื่อวันแห่งอนาคตและความสุ

เย่ว์หยางมีความรู้สึก

นาง

เป็นเหมือนกับตัวของเขาเอง

อย่างน้อยก็คล้ายกันอย่างน่าประหลาดใจ ยกเว้นเพศ แต่ความคิดแง่มุมด้านอื่นๆ นั้นแทบจะเหมือนกัน

การฝึกฝนนั้นขมขื่นเกินไป ความทุกข์เช่นนี้ไม่สามารถจะเข้าใจได้ อยู่นอกเหนือความเข้าใจและผู้อื่นยากจะทำให้เจือจางลงได้ มันตราตรึงลึกอยู่ในจิตวิญญาณ  ความเจ็บปวดที่ก่อให้เกิดความกดดันแทบจะถูกทำลายนับครั้งไม่ถ้วน และความมั่นใจที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลายครั้งในที่สุดก็กลายเป็นความแข็งแกร่งผ่านหยาดเหงื่อและการตื่นรู้ค่อยขัดเกลาตัวนางและตัวของเขาเอง

ไม่มีเป้าหมายและเขาไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด  เขาอาศัยพึ่งพาตนเองในการสำรวจค้นหา

ผ่านความสำเร็จและล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน

เพียงแต่พังทลายแล้วกลับมาเริ่มใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่ากลายเป็นความนิรันดร เป็นความสุขที่ได้ประสบความสำเร็จ เกิดพลังความแข็งแกร่งเป็นรสชาติของความสุข

ยากมากเกินไป .... ขมขื่นเกินไป... เย่ว์หยางสามารถเข้าใจได้ถึงความทุกข์ทรมาน เข้าใจถึงการเติบโตอย่างโดดเดี่ยว แม้แต่เขาก็ยังคิดว่านางเจ็บปวดมากกว่าตัวเขา และลำบากมากกว่า  เพราะเบื้องหลังของเขายังมีเทพธิดากระบี่ฟ้า  มีสาวปราณกระบี่  แม้ว่าจะเป็นคนที่ฝึกฝนอยู่คนเดียว แต่ก็ยังคงมีพวกพ้องรอบตัวเขา  ยังไม่เหมือนกับนางอยู่คนเดียวฝึกฝนคนเดียวมาเป็นเวลาร้อยปี!

ความรู้สึกเห็นใจนางอย่างเดียวกัน เขามองนางอย่างว่างเปล่า

มองดูนางและในหุบเขาแห่งชีวิตที่นางใช้เวลาฝึกฝนมาร้อยปี

คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์!

เมื่อนางอัญเชิญคัมภีร์ที่ได้เลื่อนเป็นระดับคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ นั่นก็เป็นเวลาสายเกินไป นางได้รับข่าวร้าย

ป้าที่เป็นญาติคนสุดท้ายของนางตายจากไปเช่นกัน

สายเลือดตระกูลหมิงเยี่ย (เผ่าจันทรา) ไม่มีผู้อาวุโส ไม่มีผู้นำสำนักอีกต่อไป  ต้องขอร้องนางผู้สืบทอดผู้บ้าคลั่งไคล้วิทยายุทธและความสำเร็จ ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ให้ออกจากหุบเขาแห่งชีวิตรับสืบทอดสำนักตำหนักภูตจันทราเหนือ  เพราะป้านางรู้จักนิสัยและอารมณ์ของนางมาก่อนและสัญญาจะให้นางรับตำแหน่งในสำนักภูตจันทราเหนือ

บางทีอาจเป็นความหวังดี  มือกระบี่ดาวตกออกจากตำหนักภูตอมตะเพื่อถามหาความปรารถนาและความตั้งใจของนาง

 “น้องสาวข้าเล่า?”  นางไม่เข้าใจเลย นอกจากตัวนางแล้ว น้องสาวของนางไม่ใช่ทายาทหรือ?

 “เจ้าหญิงน้อย นาง... นางเข้าตำหนักมารและกลายเป็นผู้มีทักษะแฝงเร้นดีที่สุด มีฉายาว่าเทียนฟา (มารกฎฟ้า) เรา เราเคยไปหาองค์หญิงน้อยมาก่อน แต่นางขอให้เรามาหาท่าน!” มือกระบี่ดาวตกมีคารมคมคายที่สุดในโลกและเป็นที่ชื่นชมในหอทงเทียน  แต่ต่อหน้านางภายใต้ความยิ่งใหญ่ของจื้อจุน กลับไม่สามารถพูดให้จบประโยคได้

 “เข้าใจแล้ว”  นางพยักหน้าเบาๆ

สามวันต่อมา

ตำหนักภูตจันทราเหนือ มีปรมาจารย์ผู้มีทักษะจักษุทิพย์นามว่า “ราชันย์หมิงซิน”

ช่วงเวลาสิบปีที่นางดูแลตำหนักภูตจันทราเหนือ นางไม่ได้ออกจากสำนักแม้แต่ก้าวเดียว นางฝึกศิษย์สตรี โดยใช้ทักษะแฝงเร้นตาทิพย์ของนาง นางเลือกศิษย์สตรีจากที่ต่างๆ ในทวีปมังกรทะยานฝึกเป็นมือกระบี่  นางไม่จำเป็นต้องรับศิษย์อย่างเป็นทางการ  แต่ทุกสำนักที่นางเอ่ยปากแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งที่สุดหรือศิษย์นอกชั่วคราวที่ได้รับการชี้แนะจากนางจะมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่  ตำหนักภูตจันทราเหนือแต่เดิมอยู่ในสถานการณ์เทียบกับสี่สำนักใหญ่นั้น ใกล้จุดเสื่อมโทรมกลับฟื้นฟูพลังได้ในทันใดไล่ตามสามสำนักนิกายใหญ่อื่น และก้าวหน้าทิ้งคู่ต่อสู้ห่างไกล เลื่อนสู่ระดับขอบเขตใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ

ทุกอย่างแค่เพียงเพราะการมาของนาง!

สำนักภูเขาหมอกลอยใต้ สำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตก และสำนักวังแก้วผลึกทะเลตะวันออกล้วนส่งคนสู่ขอคนของนางเพื่อแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ทางการเมือง

มีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างศิษย์มากขึ้น  และมีการขอการสนับสนุนพลังตาทิพย์จากนาง  นางยังคงเลือกไม่สนใจข่าวลือภายนอกรวมทั้งคำขอแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีอีกมาก

จนกระทั่งบ่ายวันหนึ่ง เจ้าสำนักใหญ่ทั้งสามสำนักมาถึงโดยไม่ได้รับเชิญ

นางให้คำตอบอย่างเป็นทางการ

 “พญาหงส์ทะยานฟ้า ตั้งใจบินไกลหมื่นลี้โดยไม่ยอมร่วงหล่น”

คำตอบนี้ทำให้บุรุษนักสู้ทวีปมังกรทะยานผู้แข็งแกร่งโกรธ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสำนักล้วนถูกยกเลิก คำตอบเช่นนี้เหมือนการตบหน้ากัน  ต้องทราบว่าทวีปมังกรทะยานให้ความนับถือบุรุษมาตลอด แม้จะมีนักรบสตรีเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าท้าทายสถานะของบุรุษ  ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการไม่สนใจบุรุษทั้งหมดในทวีปมังกรทะยานอยู่ในสายตา!

เป็นสตรีที่ไม่สำคัญคนหนึ่ง ทำไมถึงได้หยิ่งยโสนัก?

เมื่อมีคนมาสู่ขอแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี ส่วนใหญ่ต้องการได้ภรรยาที่มีพลังตาทิพย์  ขณะเดียวกันก็จะยึดสำนักตำหนักภูตจันทราเหนือเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สำนักตนเอง

ปฏิเสธโดยตรงทั้งยังกล้าพูดว่า พญาหงส์ใจทะเยอทะยานหวังบินไปทั่วโลกไม่ลดตนลงมา”  นี่เป็นการยั่วยุและดูถูกคนในทวีปมังกรทะยานทั้งหมด!  บุรุษทั่วทวีปมังกรทะยานไม่คู่ควรกับนางหรือ

 “นับจากวันนี้เป็นต้นไป ภายในทวีปมังกรทะยาน ไม่ว่าสำนักใด ไม่ว่าตระกูลใด ชื่อใด ข้าคือนักสู้อันดับหนึ่ง  ใครไม่ยอมรับ ฆ่าให้หมดสิ้น!  นางปิดบังตัวเองมาทั้งชีวิต การปรากฏตัวครั้งแรกต่อหน้ายอดฝีมือทั่วทวีปมังกรทะยาน กลับประกาศตัวทำให้ทุกคนตะลึงและสั่นสะเทือนไปทั่ว!

 “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”  เจ้าสำนักภูเขาหมอกลอยแดนใต้หัวเราะก้องฟ้า   แม้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งมากที่สุด แต่เขาจะไม่ใช้คำพูดเสียสติออกมา

 “สตรีเพ้อเจ้อ สมควรเป็นเพียงนางบำเรอคนอื่นบังอาจพูดจากหยิ่งยโสงั้นหรือ?”  ผู้อาวุโสเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกโกรธ  เขาคิดว่าการได้ยินคำพูดนี้นับเป็นความอับอายยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต  เขาเป็นนักสู้บุรุษ ไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ถูกสตรีดูถูก

 “ผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับการยอมรับนับถือ!  นางไม่สนใจความโกรธของนักรบทั้งหมด

 “ก็ได้ งั้นข้าลองเอง...”  ผู้อาวุโสจากสำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกพุ่งออกมาราวกับราชสีห์พิโรธท้าทายนางด้วยความโมโห

 “ไม่มีความจำเป็นต้องพูดถึงชื่อเจ้า  คนเล็กๆ อย่างเจ้าถูกตัดสินประหารแล้ว  ในสายน้ำประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่คู่ควรที่จะจดจำชื่อของเจ้า”  ด้วยดาบของนาง นางตัดศีรษะของผู้อาวุโสแห่งสำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตก ผู้ที่ชื่อว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของทวีปมังกรทะยาน

ภายใต้เจตจำนงของจื้อจุน นางมองดูสิ่งมีชีวิตเหมือนอยู่ในโลกของนาง

ผู้อาวุโสไป๋เหอแห่งภูเขาหมอกลอยแดนใต้ที่รู้จักกันในนางว่าวีรบุรุษคู่มังกรทะยานเคียงคู่กับผู้อาวุโสแห่งสำนักเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกก็ยังตกตะลึง เขาก้มหัวที่เคยเย่อหยิ่งยโสทันที

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพลังที่แข็งแกร่งแท้จริง เขามีแต่ต้องก้มหัว

ยอมรับนับถือสตรีคนหนึ่ง!

นักสู้ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดตัวสั่น แสดงความเคารพนาง

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจของนางที่มีต่อโลก!  ร้อยปีต่อมาเย่ว์หยางเห็นว่าห้าจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดในหอทงเทียนมีตายสามและบาดเจ็บอีกสอง  จักรพรรดิฟ้าแข็งแกร่งที่สุด จักรพรรดิสมุทรก็เหมือนกัน จักรพรรดิปีศาจผู้อ้างว่าตนเองแข็งแกร่งที่สุด ทุกคนล้มลงแทบเท้านาง และจักรพรรดิมังกร จักรพรรดิใต้พิภพที่มีสองหัวใจได้รับบาดเจ็บกระอักโลหิต ชื่นชมนางอย่างจริงใจและยกมือยอมแพ้และให้ความเคารพนาง

ต่อหน้าผู้เฒ่าหนานกงพยานประวัติศาสตร์เส้นทางของจื้อจุน  นางเปิดตัวอย่างเป็นทางการ..... “ข้าทำได้!

นางกลับไปที่หุบเขาแห่งชีวิต ที่สุสานมารดาและอาจารย์ป้าของนาง นางสวดภาวนาอยู่ใต้ต้นไม้พูดถึงความปรารถนาที่สอง  “พวกท่านคอยดูแลสนับสนุนข้าอยู่เบื้องหลังคงจะได้เห็นแล้ว โปรดมอบน้องชายอีกคนหนึ่งให้ข้าด้วยเถิด, ข้าเดียวดายเหลือเกิน!

12 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

มิน่า ถึงได้ดีกับเย่ว์หยางนัก

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

SatunG_NonG กล่าวว่า...

จุดเริ่มต้นของเฮียมาแล้ว

Akirabas กล่าวว่า...

นี่สินะ การมาถึงของเฮียเย่ว์

CHANTANA กล่าวว่า...

เริ่มเล่าตัวตนกันแล้ว

BJ กล่าวว่า...

ไม่น่าจะได้น้องชาย​ น่าจะได้สามีแทนดูแล้ว

หมูน้อย กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Kjui กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ เริ่มรู้ความเป็นมาของแต่ละคนแล้ว

Emptiest กล่าวว่า...

+1

Popcorn กล่าวว่า...

น้องชายหรือ??????

Tingtong กล่าวว่า...

ความเป็นมาเริ่มกระจ่าง ขอบคุณครับ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ไม่ได้หรอกน้อง ได้ฝาชีแทน

แสดงความคิดเห็น