ตอนที่ 1277 สืบทอด
ความปรารถนายังไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตามหลังจากผลตอบรับและวิธีการลับของสาวน้อยจากเผ่าตระกูลร้อยบุปผาล้มเหลว ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจความจริง สวดภาวนาต่อพฤกษาชีวิต ไม่รู้ว่าเป็นกฎหรือมีข้อห้ามบางอย่าง หรืออาจเป็นคำสาปจากพลังระดับเทพก็ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะให้กำเนิดเด็กผู้ชาย กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไม่ว่าคนรุ่นต่อไปจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ก็จะไม่มีผู้สืบทอดที่เป็นบุรุษที่สามารถรับช่วงและนำพาบันไดสวรรค์ทั้งหมดได้
“ท่านแม่....” หลังจากนางได้รับข่าวนี้ นางรู้สึกเศร้าไม่สบายใจ
แต่เพราะผลกระทบนี้ จะไม่ทำให้นางซึมเศร้า
นางฝึกฝนอย่างหนักด้วยเจตจำนงราชันย์
เพราะ
นางตัดสินใจว่าจะแบกรับความรับผิดชอบของน้องชายผู้ที่ยังไม่สามารถปรากฏตัวและแบกรับความคาดหวังของมารดาและป้า รับสืบทอดชีวิตทั้งหมด แบกภาระบันไดสวรรค์ไว้บนไหล่นางเอง
กลับกลายเป็นจื้อจุนสร้างโลก ฟื้นฟูบันไดสวรรค์และหอทงเทียน
นี่คือเป้าหมายใหม่ของนาง
เป็นเวลาหลายร้อยปีที่นางเดินอยู่ใต้ดวงดาวในโลกในมิติต่างๆ และสังเกตเข้าใจชีวิตทั้งหมด ด้วยวิธีการที่หลากหลายรวมทั้งเข้าใจความจริงทั้งหมดด้วยตาทิพย์อย่างชัดเจน นางสำรวจความลับของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ความเป็นจริงของโลกที่ผ่อนคลาย ในเวลาเดียวกันเพื่อเสริมสร้างภูมิปัญญาในการมองโลกเช่นเดียวกับการทำความเข้าใจชีวิต บางครั้งหมู่แมลงก็ตอมดอกไม้ที่โดดเดี่ยว รู้สึกถึงกลุ่มวัชพืชที่รวมตัวกันมากมาย
ไม่ใช่แค่การเติบโตในการสู้รบ ประสบการณ์ทั้งหมดของนางก็ยังก้าวหน้าด้วย
และความก้าวหน้านี้มีการเติบใหญ่อย่างมั่นคง
รอวันหนึ่ง
เมื่อมองกลับไป นางประหลาดใจที่พบว่านางข้ามผ่านระดับใหม่มาโดยไม่รู้ตัว.... ในแดนนรกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน นางฆ่าพ่อมดปีศาจ ได้ฟังเพลงไพเราะของเอลฟ์ในป่าแสงจันทร์ เดินทางเป็นพันไมล์ผ่านทะเลทรายที่ร้อน และมองดูดวงดาวในราตรีเปลี่ยวเหงา
เวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำไม่เห็นร่องรอย
นักสู้โบราณที่ครั้งหนึ่งหลุดออกมาจากผนึกทำลายบ้านเมืองในรัศมีร้อยลี้ได้ต่อสู้กับนางสามวันสามคืนและตายในที่สุด นางต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักที่ประตูเป็น ดวงตาที่เหนื่อยล้าแต่มีแววดื้อรั้นไม่ยอมแพ้ท้อถอย และด้วยความตั้งใจของนางเองนางได้ตั้งกฎที่ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน นอกจากนี้นางยังได้อยู่ที่ใต้โลกพฤกษา ก้าวขึ้นบันไดทีละก้าว และนางได้ตระหนักถึงมรดกเก่าๆ ของคนรุ่นก่อน ได้เพิ่มพูนสติปัญญาของนาง
นางไม่ทราบว่าตนเองฝึกฝนทั้งวันทั้งคืน ไม่รู้ว่าการฝึกจะจบลงเมื่อใด
เท่าที่รู้
ระดับเทพนั้นยังคงห่างไกล
ดูเหมือนว่าระดับเทพอยู่ใกล้แค่เอื้อม ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งรู้สึกลึกซึ้งและลึกลับ
จนกระทั่งวันหนึ่ง นางกลับไปที่หุบเขาแห่งชีวิตที่นางเคยใช้ชีวิตในนั้น มีเด็กสาวรับการอบรมมารยาทมาอย่างดีรอนางอยู่เงียบๆ แม้ว่านางจะดูตัวเล็ก แต่นางก็ดูโดดเด่นจากคนอื่นๆ นางดูงดงามมีชีวิตชีวา นางเคยใช้ตาทิพย์มองเห็นอัจฉริยะมามากแล้ว แต่เด็กสาวผู้นี้ทำให้นางรู้สึกทึ่ง
“เจ้าคือสาวน้อยจากตระกูลร้อยบุปผาใช่ไหม?” นางรู้สึกว่าสาวน้อยที่อยู่ข้างหน้านางยังอายุเยาว์มาก แต่ฉลาดไม่เป็นรองนางเลย
“จื้อจุน! คนที่ท่านพูดถึงนั่นคือพี่สาวข้า!” เด็กสาวผู้งดงามเรียกตัวเองว่าฮัวเซียนและนางถูกพี่สาวส่งมาหาจื้อจุนเพื่อรายงานข่าวดี
“ข่าวดีอะไรกัน?” นางประหลาดใจ เพราะนางไม่ได้ยินข่าวอะไรเกี่ยวกับบันไดสวรรค์มาหลายปีแล้ว
จู่ๆ นางรู้สึกตื่นเต้นในใจ
มีรัศมีที่น่าอัศจรรย์ปรากฏขึ้น
นางรีบถาม “พี่สาวเจ้าทำได้สำเร็จไหม? ภายใต้คำอธิษฐานขอให้เกิดเด็กทารกชาย?”
เด็กสาวที่ชื่อฮัวเซียนยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้าตอบอย่างชาญฉลาด “ใช่แล้วแม้ว่าความปรารถนานั้นจะไม่ได้มาจากบุปผาต้นกำเนิด แต่พี่สาวข้าส่งมรดกและคำภาวนาแห่งชีวิตของนางไปที่เผ่ามังกรบูรพาอมตะ ด้วยผู้พิทักษ์แห่งเผ่าบูรพาอมตะ ทารกน้อยจะผ่านการเติบโตอย่างราบรื่น”
“แล้วคำสาปล่ะ?” นางไม่เข้าใจเลยว่าพี่สาวของฮัวเซียนทำได้อย่างไร รวมเอามรดกและพลังชีวิตฝากไว้ในบุตรของเผ่ามังกรบูรพาอมตะ? มังกรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นพบเผ่าบูรพาอมตะที่ยากจะพบเห็นหัวเห็นหางได้หรือ? แม้ว่าจะเห็นด้วย แต่พี่สาวของฮัวเซียนหาพวกเขาพบเจอได้อย่างไร? อย่าว่าแต่หอทงเทียนเลย แม้แต่แดนสวรรค์บนก็ยังหาร่องรอยเผ่าบูรพาอมตะไม่พบ นางทำงานนี้สำเร็จได้อย่างไร? เผ่าบูรพาอมตะมักเกลียดกลัวคนต่างเผ่าพันธุ์มาโดยตลอด และไม่สนใจถ่ายทอดสายเลือดไปยังคนที่มิใช่เผ่าพันธุ์ตนเอง และพวกเขายอมรับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมนี้ได้อย่างไร? ถึงอย่างนั้นคำสาปของเทพซึ่งคงอยู่มานานหลายๆ พันปีจะคลี่คลายได้อย่างไร?
“ท่านพี่มีผู้พิทักษ์ผู้ภักดียินดีใช้ลูกชายเขารับคำสาปโบราณไว้แทน ยิ่งกว่านั้นเด็กน้อยเติบโตมาจากการดูแลของเผ่าบูรพาอมตะ จนกระทั่งเมื่อเวลาที่เขาเติบโตเต็มที่จึงถูกอัญเชิญกลับมา.....” สาวน้อยชื่อฮัวเซียนอธิบายทีละคำๆ
“ทำได้สำเร็จจริงๆ หรือ?” นางรู้สึกประหลาดใจไม่มีใดเทียบ แม้ว่าจะไม่ใช่น้องของนางเอง แต่เป็นผู้สืบทอดมาจากตระกูลร้อยบุปผา แต่เป็นบุรุษผู้จะช่วยปลดเปลื้องภาระบนบ่าของนาง บางทีสักวัน บางทีนางอาจยืนอยู่ต่อหน้ามารดาและป้าของนางเหมือนเมื่อก่อน มีน้องสาวหัวเราะเหมือนที่เคยเป็น และมีเด็กผู้ชายวิ่งอยู่รอบๆ ตัวนาง
“ฮืม.. เด็กสาวที่ชื่อฮัวเซียนพยักหน้าตอนแรก
“แล้วจะให้ข้าทำยังไง?” นางรู้สึกว่าเด็กสาวชื่อฮัวเซียนมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์อื่นด้วย ไม่ใช่แค่เพียงส่งข่าว
“ท่านพี่บอกว่า นางต้องการให้จื้อจุนช่วยเป็นอาจารย์แนะนำ ให้เด็กน้อยได้เจริญเติบโต!”
“ทำไมนางไม่ดูแลด้วยตนเอง?”
“นี่... ท่านพี่บอกว่านางไม่ใช่ยอดฝีมือสายนักสู้เหมือนกับจื้อจุนท่าน นางไม่สามารถสอนลูกน้อยและฝึกปรือได้ดีแบบท่าน นอกจากนี้นางยังมีสัญญากับเผ่าบูรพาอมตะว่านางไม่สามารถดูแลและชี้นำทารกให้เติบโตได้ นางเป็นได้แต่เพียงมารดาในนาม สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือท่านพี่ได้รับสืบทอดจากภูมิปัญญาโบราณที่มีความหมายลึกซึ้ง นางต้องเข้าสู่แดนล่มสลายแห่งทวยเทพเพื่อความรู้แจ้ง... ต่อจากนั้น บางทีนางอาจจะไม่กลับมา นางอาจจะข้ามแดนสวรรค์หรือแดนสวรรค์บนมุ่งสู่โลกของเผ่าบูรพาอมตะโดยตรง ถ้าจื้อจุนไม่เห็นด้วย ก็จะคงเหลือแต่เพียงฮัวเซียน ข้าสับสนจริงๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร!” เด็กสาวชื่อฮัวเซียนขอร้องอย่างอ่อนใจ
“นางรู้แจ้งระดับเทพแล้วหรือ? นางถึงสามารถเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพเพื่อการรู้แจ้ง!” นางตกใจ พี่สาวแห่งตระกูลร้อยบุปผากลับเป็นอัจฉริยะมากยิ่งกว่าจื้อจุนอย่างนางหรือนี่?
“พี่สาวทิ้งคัมภีร์เทพของนางไว้ให้ข้า แต่ฮัวเซียนไม่สามารถรับไว้ได้ เพราะเป็นภาระที่หนักสำหรับพี่สาว...” สาวน้อยฮัวเซียนพูดถึงคัมภีร์เทพ
“แน่นอน, นี่นางเก่งกว่าข้าอีกหรือนี่?” นางหัวเราะ
ความกดดันที่หนักหน่วงและมองไม่เห็นในหัวใจนางสลายหายไปไม่เหลือร่องรอย ปรากฏว่ามีเด็กสาวจากตระกูลร้อยบุปผามีอัจฉริยภาพและทักษะแฝงเร้นที่โดดเด่นขึ้นมาและมีสติปัญญามากกว่านาง ทั้งบันไดสวรรค์และหอทงเทียน ไม่จำเป็นต้องสนับสนุนอย่างเดียวและไม่จำเป็นต้องรับภาระทำงานคนเดียว นอกจากพี่สาวของฮัวเซียนยังมีน้องชายที่เกิดมาและกำลังเติบโต เป็นน้องชายที่ท่านแม่ท่านป้าตั้งความหวังไว้แต่กลับไม่มาเกิด หลังจากเขาเติบโตเขาจะต้องรับดูแลบันไดสวรรค์ จัดการหอทงเทียนสามารถหนุนโลกค้ำฟ้าได้... ตระกูลราตรี ตระกูลร้อยบุปผา ตระกูลภมร และตระกูลแสงจันทราล้วนแต่ทำงานกันอย่างหนักจริงๆ!
นางไม่ได้อยู่คนเดียว ไม่ได้ต่อสู้คนเดียว!
เมื่อก่อนนี้อาจจะใช่ แต่ต่อไปในอนาคตจะไม่ใช่อย่างแน่นอน
เพราะมีพวกเขาและมีเขาที่จะกลายเป็นน้องชายนางแต่อาจกลายเป็นศิษย์ของนางด้วย!
“ก็ได้, ข้าสัญญาไว้ก่อนนั้นแล้ว เราจะพยายามอย่างหนักร่วมกัน กลับไปบอกพี่สาวของเจ้าได้ ขอบคุณที่นำข่าวดีมาบอกข้า!” นางหัวเราะ และทันใดนั้นนางรู้สึกว่าไม่มีแรงกดดันที่ไหล่นางอีกต่อไป โลกทั้งใบเปล่งประกายมีชีวิตชีวา การฝึกฝนที่ติดอยู่ในสภาพคอขวดของนางก็สามารถบรรลุผ่านได้สำเร็จ
“ขอบคุณจื้อจุน, ฮัวเซียนจะพยายามอย่างหนัก และเมื่อทารกเติบโตขึ้น ถ้าเขาอยู่คนเดียวเขาคงจะเดียวดายมาก ดังนั้นฮัวเซียนจะหาทางมีน้องสาวให้เขาสักคนสองคน ข้าเชื่อว่าพอมีน้องสาวอยู่ด้วย เขาจะไม่รู้สึกเดียวดาย”
สาวน้อยนามฮัวเซียนหัวเราะเบาๆ
เมื่อนางจากไป จื้อจุนพึมพำเบาๆ
นางหัวเราะออกมาเป็นครั้งคราว
ดูเหมือนว่าจะมีวิธีค้นพบที่ดีจากสมองน้อยๆ ที่น่ารัก “ท่านแม่ ท่านป้า ท่านได้ยินหรือไม่? ไม่ใช่แต่เพียงข้าเท่านั้น ทุกคนพยายามกันอย่างหนัก! โปรดปกป้องพวกเราต่อไป ภายใต้ดวงดาว ภายใต้สายตาของท่าน พวกเราจะไม่เดียวดายอีกต่อไป เราจะเติบโตได้อย่างสบายใจเสียที!”
ตอนนี้เย่ว์หยางก็รู้สึกเหมือนกัน เขาเข้าใจทุกอย่างดีแล้ว
เขาเข้าใจทุกอย่าง
แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้พบเห็นมารดาผู้นั้น จนกระทั่งบัดนี้ ไม่เคยได้ยินเสียง ไม่เคยเห็นรอยยิ้มของนาง ไม่รู้ว่านางตั้งความปรารถนาได้อย่างไร และนางเรียกตัวเขากลับมาจากโลกเดิมนั้นได้อย่างไร และนางมีสัมพันธ์ใดกับนักพรตเต๋าผู้นั้น แต่เขารู้อยู่บ้างว่า เขาที่แต่เดิมเป็นเด็กกำพร้ายังมีมารดาคนหนึ่ง! มีคนที่รักห่วงใยและดูแลเขาเสมอ!
เขาไม่จำเป็นต้องให้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างแม่ลูกตามคติชาวโลก
ไม่ว่าจะเป็นความปรารถนาอะไร
ไม่ว่าจะรุ่งเรืองขึ้นมาอย่างไร
ตราบเท่าที่
นางสร้างชีวิตให้เขาเอง... ในจิตวิญญาณของเขาเองได้รับถ่ายทอดทุกอย่างมาจากชีวิตนาง
ความจริงไม่ใช่แค่นางผู้เป็นมารดาเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคนมากนัก เช่นจื้อจุน, มารดาและท่านป้าของนาง เด็กสาวผู้อยู่ในความฝันของนาง, รวมทั้งคนที่มีส่วนร่วมทั้งที่เขารู้จักและไม่รู้จัก ถือว่าเป็นเหมือนมารดา พวกนางร่วมอธิษฐานด้วยกันร่วมกันสร้างชีวิตให้กับตัวเขา!
หลังจากเกิดเป็นชีวิตรูปแบบหนึ่งมีสายเลือดรูปแบบของเผ่าบูรพาอมตะ ได้รับการชี้แนะสืบทอดความรู้สติปัญญา จนมีความสำเร็จเป็นของตนเอง
กระทั่งถึงความนิรันดรในที่สุด
นี่คือกระบวนการชีวิตของเขาเอง และทิศทางในอนาคต
“เข้าใจแล้ว ในที่สุดข้าก็เข้าใจแล้ว...” เย่ว์หยางค่อยๆ ลืมตาและพบว่าทุกอย่างหายไป เขากลับไปอยู่ที่ทะเลสาบสว่างสดใสของบันไดสวรรค์ชั้นที่หนึ่งล้านและหันไปทางจื้อจุนผู้ที่ใช้สำนึกเทพของนางผสานชีวิตของเขาและนำทางเขา!
เขาอดไม่ได้ที่จะหันมากอดจื้อจุนผู้โดดเดี่ยวเดียวดายและแข็งแกร่ง นางคือผู้ที่เขาอยากกอดมานานแล้ว แต่ไม่กล้าทำ
ไม่เพียงแต่กอดเท่านั้น
แต่เขายังจูบนางอย่างดูดดื่ม
เขาจูบหน้าผากน้อยของนาง จูบคิ้วเรียวบาง จูบนัยน์ตา และแก้มและริมฝีปากสีชมพูที่พูดไม่ออกเพราะตกใจสั่นสะท้าน..... สตินางที่ได้รับการปกป้องโดยเจตจำนงราชันย์แตกกระจายราวกับกระจกเป็นครั้งแรกที่มีคนบังอาจหยาบคายรุกล้ำเข้ามาใจจิตใจนางและผสานกับจิตวิญญาณของนาง... บางทีอาจเป็นตั้งแต่วันเกิด หรือก่อนเขาเกิด เขามีชะตาที่สักวันจะต้องเชื่อมวิญญาณกับนางอย่างวันนี้
ท้องฟ้าไร้ขอบเขตคอยหนุนประคับประคองพื้นโลก ใครเล่าจะรู้ความจริง!
********
ตระกูลราตรี – จักรพรรดินีราตรี, หัวซิ่วรี่,
ตระกูลร้อยบุปผา - มารดาเย่ว์หยาง, แม่สี่
ตระกูลภมร - อี้หนานและตระกูล
ตระกูลจันทรา - จื้อจุน, เทียนฟา
สรุปก็คือ เย่ว์หยางเป็นชาวบันไดสวรรค์
18 ความคิดเห็น:
เฉลยแล้ววววว
จากที่จับใจความได้เเสดงว่าเผ่าบูรพาอมตะสุดop ก็อาศัยอยู่ที่โลกเดิมของพระเอกใช่ไหมครับ
ได้เวลารับสาวเข้าฮาเลมแล้ว
อื้อหืออ!!
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค้าบ
ใกล้จบเเล้วหรอ
ร่างที่จ้าวปีศาจโบราณสิงใช่ร่างที่รับคำสาปแทนป่ะ
ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ ขอบคุณครับ
และแล้วก็ได้รู้ชื่อจริงของแม่สี่
สรุปโลกที่เราอยู่ในเรื่องยกให้เป็นเผ่าบูรพาอมตะ (ผมพูดเรื่องจริงนะครับ เพราะยังมีอีกหลายๆ อย่างที่คุณยังไม่เข้าใจในโลกเรา)
คายปมแล้วกดสูตรเลยไอ้3
เข้าใจล่ะ.
สุดดดดยอดดดเฉลยปมต่างๆซะที
บันทึกที่แม่เยย์ทิ้งไว้ให้คือคัมภีร์เทพอีกเล่มหรือป่าวนะ?
ไหนว่าจะได้น้องชาย
ใกล้จบแล้วหรอ
กว่าจะแก้ปมสงสัยซัดไปเกือบ 1300
แสดงความคิดเห็น