วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1292 หลอกลวงคลั่งไคล้

 

ตอนที่  1292  หลอกลวงคลั่งไคล้

“ฮึ..เลิกคิดได้เลย ตราบใดที่ข้าตงฟางยังอยู่ พวกเจ้าเลิกความคิดใดๆ เกี่ยวกับโชคชะตาได้เลย!

 

“พวกอ่อนแอก็ต้องอ่อนแอไปตลอดชีวิต พวกมันจะไม่มีโอกาสตอบโต้ได้แม้แต่วันเดียว!  โชคของพวกเจ้าอาจทำให้เจ้าภูมิใจในชั่วขณะหนึ่ง แต่มีแต่ปัญญาเท่านั้นที่สามารถเปล่งประกายได้!  ข้าตงฟางที่คู่ควรพอจะได้ชัยชนะสุดท้าย!

ตงฟางยืนอยู่เหนือสวรรค์เก้าชั้นฟ้าดูสง่างามราวกับเทพ  เขากำลังมองดูการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างกองทัพแดนสวรรค์และอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรผู้ห้าวหาญแห่งทวีปมังกรทะยาน  แม้ว่าเขาจะไม่สามารถฟังเสียงเรียกจากแม่สี่ผู้น่าเคารพได้ แต่ทักษะแฝงเร้นหมากรุกและสติปัญญาที่สูงล้ำ ทำให้เขาสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนมากมายในสนามรบได้

นักรบมังกรทะยานหลายคนที่ต้องการสู้ตายเพื่อแลกกับเกียรติยศ ตัวอย่างเช่นผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ ปู่ของเย่ว์ไตตัน จักรพรรดิต้าเซี่ยจุนอู๋โหย่ว และประมุขสี่ตระกูลที่เกษียณไปแล้ว

ด้วยวิธีการลึกลับบางอย่าง พวกเขาเริ่มได้รับพลังลึกลับ

ตงฟางยอมรับว่าเขาไม่ได้ตาบอด แต่ถึงแม้ว่าเขาจะตาบอด เขาเชื่อว่าเขาสามารถมองเห็นความคิดพวกเขาได้

เจ้าพวกนี้ต้องการใช้พลังแห่งชะตาเพื่อให้เย่ว์ไตตันผ่านบททดสอบบางอย่าง  ไม่ว่าเย่ว์ไตตันจะมีความสามารถมากแค่ไหน แต่เขาก็ยังเด็กเกินไป  ด้วยสติปัญญาและความรู้แจ้งของเขา  เขาไม่สามารถต้านทานความเสื่อมโทรมของหอทงเทียนทั้งหมดได้  หากเย่ว์ไตตันต้องการเปลี่ยนแปลงและหวังว่าจะมีการตอบโต้กลับ  เขาจะต้องเอาญาติสนิทมิตรสหายมาเสี่ยง  คนเหล่านั้นจะต้องยืนคอยสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลังแน่นอน... แบกรับชะตาหรือ?  มันจะง่ายอย่างนั้นหรือ?  ไม่ต้องพูดถึงว่าเขามีคนคอยซุ่มทำร้ายขัดขวาง ต่อให้ไม่มีความเป็นไปได้ของความสำเร็จก็มีเพียงหนึ่งในพันหรือหนึ่งในหมื่นเท่านั้น!

ด้วยคุณสมบัติของคนเหล่านี้จะสามารถแบกรับโชคชะตาได้สักเท่าใด?

ไม่มีแม้แต่ระดับเทวทูต หรือขุนพลเทพ

ข้อจำกัดเป็นอันดับแรก

แม้แต่ระดับนักสู้ปราณก่อกำเนิดก็ยังหายาก

กล้าบอกว่าจะแบกรับชะตาของผู้อื่นหรือ?  นี่ฟังแล้วอยากหัวเราะให้ฟันร่วง!

จากการวิเคราะห์ระดับพลังชะตานี้ดูเหมือนว่าจะสามารถแบกรับเพียงหนึ่งในสิบของเมตรหนึ่งจะต้องมีความแข็งแกร่งระดับเทวทูต และครึ่งเมตรต้องเป็นระดับขุนพลเทพ! คนเหล่านี้รวมกันจะได้ถึงครึ่งเมตรหรือไม่? น่าขันเหลือเกิน นี่น่ะหรือผู้สนับสนุนช่วยเหลือเย่ว์ไตตัน? ขยะกลุ่มนี้น่ะหรือ?  ดูเหมือนว่าจะคู่ควรกับการกวาดเข้าไปในขยะประวัติศาสตร์มากกว่า!

ผู้คนหลายพันหลายหมื่นคนดูเหมือนว่าแม้พลังแห่งโชคชะตาที่มีความสูงสิบเมตรก็ยังไม่สามารถรองรับได้ อ่อนแออย่างนี้มีหรือที่หอทงเทียนจะไม่ล่มสลายและตกต่ำ

แน่นอนว่าเพราะเป็นคนอ่อนแอจึงสมควรแล้วที่ถูกรังแก  นี่คือบทเรียนที่คนฉลาดใช้กำจัดคนโง่

“สหายที่รักทุกท่าน ไม่ว่าพวกท่านจะมาจากเผ่าพันธุ์ใดหรือภูมิภาคใดก็ตาม เราจะร่วมมือกันต่อต้านผู้รุกรานจากแดนสวรรค์  ข้าคือเย่ว์หยาง เย่ว์ไตตัน หรือคุณชายสามตระกูลเย่ว์  ในหลายๆ ที่ข้าคือสหายของพวกท่าน เป็นทั้งจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ผู้คอยปกป้องหอทงเทียนเช่นกัน  ข้ารู้ว่าพวกท่านสามารถได้ยินเสียงของข้า  ตราบใดที่พวกท่านเป็นนักรบที่เต็มไปด้วยเลือดนักสู้และต่อสู้เพื่อหอทงเทียน พวกท่านจะได้ยินเสียงเรียกของข้า  พวกท่านเข้าใจไม่ผิด ข้าเป็นคนส่งสารเรียกพวกท่าน  ข้าต้องการให้ท่านคนทำสิ่งที่สำคัญให้ข้าตอนนี้ ง่ายมากสำหรับทุกคน ตรามเท่าที่พวกท่านชูมือทั้งสองขึ้นด้วยหัวใจที่เป็นสมาธิ และทำตามคำแนะนำที่สะท้อนก้องภายในใจ  อย่างนั้นพวกท่านจะสามารถช่วยข้าต่อต้านสิ่งชั่วร้าย เอาชนะผู้รุกรานจากแดนสวรรค์... โปรดเชื่อข้า นี่ไม่ได้ต้องการชีวิตของพวกท่าน และทุกท่านจะไม่สูญเสียความสามารถ  ในช่วงเวลาชั่วคราวนี้จะทำให้ข้าควบคุมอสูรของพวกท่านได้ ข้าต้องการศรัทธาความเชื่อของพวกท่านเช่นเดียวกับพลังของอสูรของพวกท่าน  ด้วยการสนับสนุนและความช่วยเหลือของพวกท่านข้าจะสามารถคว้าชัยชนะในที่สุดได้อย่างแน่นอน  รอยยิ้มและเสียงเชียร์จะกลับมาอยู่ที่ใบหน้าท่านแน่นอน ข้ายินดีจะต่อสู้เพื่อพวกท่าน พี่ชายน้องชาย น้องสาวที่รักของข้าด้วย ข้าหวังว่าพวกท่านจะสามารถยื่นมือออกมาช่วยหนุนข้าให้ข้าประสบความสำเร็จ!  ทันใดนั้นตงฟางใช้เสียงของเย่ว์หยางผ่านพลังเทพและทักษะแฝงเร้นหมากรุกส่งสารผ่านไปยังหัวใจของนักรบทุกคนรวมทั้งคนธรรมดาบนชั้นที่สิบของหอทงเทียน

การแก้เกมและการแนะนำของเขาทำให้ผู้คนสับสน

ก่อนหน้านี้ไม่มีความลับหรือ?

วิธีใหม่ในการปลดปล่อยโลกด้วยการยกแขนหรือ?  ยิ่งกว่านั้นความลับนั้นไม่ง่ายเมื่อเทียบกับการนั่งทำสมาธิ มันซับซ้อนยิ่งกว่า เป็นไปได้หรือว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์เห็นว่าทุกคนไม่สามารถทำตามข้อกำหนดได้?

“นี่มันง่าย ฮ่าฮ่าฮ่า  ข้ารู้สึกว่าพลังของการเรียกสัตว์อสูร ได้รับการปรับสภาพให้ราบรื่น แต่ร่างกายผ่อนคลายมาก และไม่มีภาระที่หนักหน่วงน่าวิตก อาการปวดหัวทรุดโทรมหายไปแล้ว เยี่ยม!  ทันทีที่มีคนลองทำ เขารู้สึกถึงความเงียบสงบ สวรรค์และโลกเชื่อมโยงกัน มีประสิทธิภาพ  เขาอดตะโกนว่าสวรรค์และโลกเป็นแขนของสรรพสิ่งด้วยความแปลกใจมิได้ มันกระจายออกไปในระยะกว่าสิบกิโลเมตรทันที ได้ยินชัดเจนมาก

“โอว ง่ายมาก ข้าก็ทำได้สำเร็จ!  จากนั้นก็มีคนลองทำมากขึ้น และส่งเสียงเชียร์มากขึ้น

“เรามาตะโกนด้วยกัน สวรรค์และโลกเป็นแขนของทุกอย่าง  ศัตรูจะต้องสั่นเทิ้มด้วยเสียงตะโกนของเรา  พลังของเราจะอยู่ยงคงกระพัน เสียงคำรามแห่งความยุติธรรมจะเป็นกุญแจสู่ชัยชนะและเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ เรามาตะโกนกัน!  ตงฟางปลอมเสียงเย่ว์หยาง ทำให้ผู้คนตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง

เมื่อได้ยินเสียงเรียของเขา เขามีสหายนับไม่ถ้วนที่ลองพยายามทำ

ทหารรับจ้างและนักรบเพิ่มมากขึ้น

ตอนแรกเริ่มยังไม่ค่อยเรียบร้อย

แต่มีผู้คนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อย และแรงผลักดันก็ยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดกลายเป็นเสียงตะโกนดังกึกก้องท้องฟ้าซ้ำแล้วซ้ำอีก สวรรค์และโลกเป็นแขนของสรรพสิ่ง  สวรรค์และโลกเป็นแขนของสรรพสิ่ง ในขณะที่ตะโกนนั้น พลังของอสูรนับไม่ถ้วนถูกดึงออกมา และรวมเกาะกลุ่มอยู่ภายใต้พลังเทพของตงฟาง ปรากฏเป็นโล่ยักษ์โผล่ออกมาและผลักดันกองทัพแดนสวรรค์ให้ถอยออกไปทีละก้าวๆ จนแทบจะพังทลายลง

การปรากฏตัวของปรากฏการณ์นี้ทำให้นักรบหอทงเทียนแทบเป็นบ้า

พวกเขากระตือรือร้นร่วมกิจกรรมนี้ และคนนับไม่ถ้วนตื่นเต้นกับพลังที่พวกเขามอบให้

กองทัพแดนสวรรค์ไม่สามารถต้านทานการสู้รบที่ดุเดือดในขณะนี้ได้ จำต้องถอยเพราะพลังศรัทธา... นี่คือปาฏิหาริย์ที่เกิดจากความเชื่อของแต่ละคนเป็นพลังศรัทธาของพวกเขา!

เสียงตะโกนประโยคว่า สวรรค์และโลกเป็นแขนของสรรพสิ่ง”

พวกเขาไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจากเสียตะโกน

ไม่ต้องใช้ดาบกระบี่

ไม่มีความจำเป็นต้องหลั่งเลือดเนื้อ ถ้าพวกเขาตะโกนต่อไป พวกเขาจะทำให้ศัตรูวิ่งหนีไปอย่างยากลำบาก ช่างเป็นเรื่องที่วิเศษและน่าภูมิใจ!

“เย่ว์หยาง เจ้าเด็กนี่ช่างมีความหมายนัก!  ราชาฟ้าบูรพา เขารู้สึกว่าพลังแห่งชะตาที่เขาช่วยแบกภาระลับๆ เพิ่มความเจ็บปวดให้จริงๆ  ขณะที่ตอนนี้วิธี สวรรค์และโลกเป็นแขนของสรรพสิ่ง นี้ช่วยดึงพลังของสัตว์อสูรออกมาโดยตรงเป็นเรื่องง่าย ตรงกันข้ามกับวิธีการก่อนหน้านี้ลำบากเหมือนแบกภูเขา”

“เราควรตะโกนด้วย!

ราชันย์ฟ้าประจิมก็ชอบเรื่องครึกครื้น

เขาเห็นอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรเข้าร่วมตะโกนตามคำเรียกร้องของเย่ว์หยาง พวกเขาทรงพลังมาก โล่พลังงานขยายขึ้นอีกหนึ่งกิโลเมตร พลังกดดันผู้รุกรานก็มากขึ้น พวกเขาตะโกนจนแสบคอ

แน่นอนว่าราชันย์ฟ้าบูรพาไม่ใช่คนงี่เง่าอย่างนั้น  พวกเขาไตร่ตรองดูคิดว่านี่คงเป็นอุบาย

รู้จากการดูจุนอู๋โหย่ว อาจารย์จิ้งจอกเฒ่า และผู้เฒ่าหนานกงผู้เชี่ยวชาญทิศทางกลยุทธ์

ครั้งแรกที่เห็น พวกเขาตกใจ เพราะพวกเขาพบว่าจุนอู๋โหย่วตัวสั่นไปหมด  อาจารย์จิ้งจอกหน้าซีด แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกงผู้ใจเย็นที่สุดมือถือคัมภีร์อัญเชิญก็ยังสั่นไปด้วย....  “เกิดอะไรขึ้น ราชันย์ฟ้าบูรพากับประจิมมองหน้ากันเอง

“นั่น นั่นเป็นการแอบอ้างชื่อไปใช้!  อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าไม่สามารถพูดอะไรต่อไป

“นั่นมันคนทรยศตงฟาง!  ผู้เฒ่าหนานกงลอบถอนหายใจอยู่นาน  “คนผู้นี้น่ากลัวเกินไป เขาคำนวณแผนเราออก และบางทีอาจวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว”

“เมื่อครู่นี้ไม่ใช่เย่ว์หยางหรือ?”  ฟงขวงและอาจารย์ตาเหยี่ยวกลัวจนตัวสั่นสะท้าน

“การแบกรับพลังแห่งชะตาต้องแบกรับความเจ็บปวดเช่นเดียวกันร่างกาย มิฉะนั้นก็ไม่ใช่!  กลโกงตงฟางใช้ธรรมชาติของคนที่กลัวเจ็บหลอกลวงคนหนุ่มคนสาวที่มีพรสวรรค์บางคนทำได้ง่ายกว่า อัศวินมังกร นักรบเลือดมังกรและทหารรับจ้างนับไม่ถ้วนที่เข้าร่วมสงครามโดยสมัครใจ  แต่พวกเขาสับสนและหลงใหลในภาพลวงตาและตกอยู่ในความคลั่งไคล้บ้าคลั่ง...”  แม่เฒ่าอู่เถิงส่ายหน้าถอนหายใจ หมากของตงฟางครั้งนี้ยอดเยี่ยมชั่วร้ายจริงๆ มิน่าเล่าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ตั้งให้เขาเป็นกุนซืออันดับหนึ่ง

“สวรรค์และโลกเป็นแขนของสรรพสิ่ง!  เสียงของทหารรับจ้าง อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรนับหมื่นตะโกนก้องพร้อมกัน ใบหน้าทุกคนคลั่งไคล้และตะโกนส่งเสียงพร้อมกันครั้งแล้วครั้งเล่าลั่นฟ้าสะเทือนดิน

“เราต้องรีบป้องกัน!  ฟงขวงกับพวกกังวลเช่นกัน

“มันไร้ประโยชน์ พวกเขาไม่ได้ยินเรา   โล่พลังงานนั้นตงฟางใช้ปิดกั้นเรา ไม่ได้ใช้ต่อต้านกองทัพผู้รุกราน  เขาสั่งกองทัพแดนสวรรค์ได้โดยตรง และการแสดงโดยโยนหมวกโยนเกราะทิ้งนี้ทำให้จิตใจทุกคนมีความเชื่อที่ผิดเพี้ยนไป เราทำอะไรไม่ได้  ยิ่งกว่านั้นเราต้องยืดเวลาและต้องแบกรับพลังแห่งชะตาของเย่ว์หยาง เราไม่มีเวลาหยุดความคลั่งไคล้นี้ ถ้าเราทำเช่นนั้นเราจะตกอยู่ในเงื้อมมือของตงฟาง เขาหวังว่าเราจะหยุดมือ  เราจะไม่เปลี่ยนปณิธานของเรา  เราจะต้องดำเนินการต่อไป เราจะต้องไม่ถูกชักจูงโดยเจตนาที่แปลกปลอม  ภายในช่วงเวลาที่จำกัด เราจะแบกรับพลังชะตาให้เย่ว์หยาง  ไม่อย่างนั้นเราจะล้มเหลวในที่สุด!  ผู้เฒ่าหนานกงห้ามฟงขวงกับพวก

สิ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คือการไม่ปลุกอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรที่ตกอยู่ในอาการคลั่งไคล้

แต่เขากลับแบกรับพลังชะตาให้เย่ว์หยางแทน

ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ทุบพื้นอย่างแรงและหลั่งน้ำตา

อีกด้านหนึ่งเป็นกองทัพที่ได้รับการฝึกฝนจากเขา อีกคนหนึ่งคือหลานชายของเขาที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะมองดูด้านไหนพินาศดับสูญ ก็ล้วนแต่ทำให้เขาต้องเจ็บปวด

อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรนับหมื่น กับหลานชายที่น่าภูมิใจ เขาต้องเลือก

นอกจากนี้มีเพียงตัวเลือกเดียว

ไม่ว่าจะในสถานะผู้บัญชาการสูงสุดหรือปู่ เขาต้องเลือกหลานชายของเขา เพราะเขาเป็นความหวังเดียวของหอทงเทียน

“ถ้าเราลังเลอีกต่อไป หอทงเทียนจะถูกทำลายด้วยน้ำมือของเรา!” จุนอู๋โหย่วสมกับเป็นจักรพรรดิ  เขากัดฟันตัดสินใจ  “ไม่ว่าอัศวินมังกรหรือนักรบเลือดมังกรจะกลับมาได้หรือไม่ เราสามารถทำได้สิ่งเดียว นั่นคือเสียสละทุกอย่างและเป็นชะตากรรมเราที่ต้องแบกหอทงเทียนไว้บนไหล่เรา  เราต้องทำให้เย่ว์หยาง เด็กคนนั้นทราบว่าเขาไม่ได้เป็นคนเดียวที่แบกภาระ  พวกเราเหล่าผู้เฒ่ายังสนับสนุนเขาอยู่เบื้องหลัง  มาเถอะ มาเป็นผู้อาวุโสที่ดีกันเถอะ!

“ไหล่ของข้า ยินดีจะแบกรับชะตานี้ให้เขา เพื่ออนาคตของหอทงเทียน...”  อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าตาแดง

สองปรากฏการณ์ที่แตกต่างกันเกิดขึ้นในสนามรบ

ตัวละครมากมายอยู่ทางด้านหนึ่ง

พวกเขากำลังต่อสู้กับโล่ม่านพลังทองสูงหลายร้อยกิโลเมตร พวกเขายกแขนดูราวกับป่าไม้ตะโกนพร้อมกันอย่างบ้าคลั่ง

ตรงกันข้ามอีกด้านหนึ่งที่มีคนเพียงหยิบมือ พวกเขายันอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดทั้งที่พวกเขามองไม่เห็นพลังชะตาที่หนักหน่วงนั้น ก่อนที่พวกเขาจะถึงขีดจำกัด ก่อนที่เย่ว์หยางจะประสบความสำเร็จ พวกเขาจะไม่ผ่อนคลายแม้แต่น้อย

ทั้งนี้เพราะพวกเขาไม่เพียงแต่แบกพลังชะตาเท่านั้น แต่ยังแบกความหวังและอนาคตของหอทงเทียน

ตงฟางเห็นภาพทั้งหมด

เขาไม่ได้ขัดขวาง

นั่นเป็นเรื่องแน่นอน

การแบกรับพลังชะตาไม่สามารถหยุดยั้งได้  การทำลายล้างใดๆ เพื่อให้เกิดความหวาดกลัวจะถูกสะท้อนกลับ ตงฟางจะไม่สามารถทำอะไรญาติสนิทมิตรสหายครูบาอาจารย์ที่แบกรับชะตาให้เย่ว์หยาง

“พวกเจ้าจะอดทนเพื่อเขาได้มากแค่ไหนกัน?  สิบเมตรก็เต็มที่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า หากไม่มากไปกว่าหมื่นเมตรก็จะไม่มีทางบรรลุเทพจอมราชันย์ได้ พวกเจ้ามีชะตาจะต้องประสบความล้มเหลว!  แบกรับหอทงเทียนด้วยความเจ็บปวด นั่นไม่ใช่สิ่งที่กำลังของมนุษย์จะแบกรับได้เลย นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น  ความสนุกจริงๆ ยังมาไม่ถึง”  ตงฟางหัวเราะเยาะเย้ย พลังเทพทะลวงผ่านมิติว่างและเทเลพอร์ตไปที่หอทงเทียนชั้นสิบซึ่งเป็นเป้าหมายโดยตรงต่อไป

12 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

ระวังโดนพลิกเกมอีกรอบนะ

Popcorn กล่าวว่า...

อืมๆๆๆๆไม่ไปใหนมาใหนเลยจริงๆๆเริ่มเบื่อๆอืดๆๆมากขึ้นทุกทีล่ะ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ชั่วได้ใจจริงๆ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

เลิกอ่านครับถ้าเบื่อ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Pcha กล่าวว่า...

ชั่วร้ายจิงๆ

CHANTANA กล่าวว่า...

มันเป็นแผน5555

akeoaal กล่าวว่า...

ชั่วได้ใจ แต่หัวเราะที่หลังดังกว่า 555

Unknown กล่าวว่า...

นิยายใกล้จบแล้ว​ ไม่อ่านตอนนี้อาจโดนลบตอน

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

Anunaki กล่าวว่า...

สุดท้ายพวกโง่นี่น่าจะตายหมด

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ดีกว่านี้ก็ไม่ใช่ตงฟาง

แสดงความคิดเห็น