วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1296 มีเขา ย่อมมีทุกอย่าง!

 

ตอนที่  1296  มีเขา ย่อมมีทุกอย่าง!

ถูว่านกระทืบเท้ากับพื้น

 

แต่สิ่งที่แปลกคือไม่มีความรู้สึกว่าอะไรจมลงไปในพื้น  แต่ร่างนั้นกลับมีแสงที่อธิบายไม่ได้ และคนผู้นั้นยืดตัวขึ้นมาอีกครึ่งหนึ่งทันที

ถูว่านก้มหัวมองดูและพบว่าตนเองกำลอยวืดขึ้นไปเบื้องบน  บุรุษเคราดำที่ควรจะถูกเหยียบย่ำเหมือนมดแมลงยังคงอยู่ปกติสุข เกิดอะไรขึ้น?

มังกรสองหัว ราชินีว่านกูซูและคนอื่นมองดูด้วยความประหลาดใจ

มังกรปีศาจชี้นิ้วด้วยท่าทีสบายๆ  ไปที่อีกคนที่กำลังอาละวาดบ้าคลั่ง  ถูว่านโกรธจัดอาละวาดไล่เหยียบเขาด้วยความโมโห แต่การเคลื่อนไหวมืออย่างอิสระราวกับจิตรกรที่ชำนาญสะบัดพู่กันวาดภาพที่ต้องการ

ถ้าไม่เห็นด้วยตาตนเอง

ต่อหน้าต่อตาของผู้ชมดูทุกคน

อย่างนั้นคงยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

ด้วยวิธีนี้ทำเอาทุกคนตกตะลึงค้างไปสามวินาที เงียบไปทั้งโลก ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร?

แต่ว่า

ฉากภาพที่น่าอึดอัดอับอายเกิดขึ้นทันที

เพียงแต่ตอนนี้ ถูว่านที่อยู่ด้านบนหัวทิ่มลงมาข้างล่าง

ขณะที่หัวอยู่ล่างเท้าชี้ฟ้า ตัวคนก็ร้องลั่นถูว่านหัวทิ่มพื้นด้านนอกลานบูชายัญมีแต่เท้าทั้งสองโผล่ชี้ฟ้าออกมาข้างนอก  บางทีเขาคิดว่าท่านี้ยังไม่เหมาะสม หรืออาจมีช่องว่างในการแก้ไขได้  อย่างไรก็ตามมังกรปีศาจเปลี่ยนใจอย่างรวดเร็ว

เขาเอื้อมมือจับข้อเท้าถูว่านอย่างไม่ใส่ใจนัก

นี่คือนักสู้ระดับเทพ

แต่ถูกดึงออกมาจากพื้นราวกับถอนหัวไชเท้า

เขาดึงถูว่านออกมาจากดินขึ้นไม่รอให้ถูว่านได้แสดงออกอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นประท้วงโกรธเคือง อ่อนแอ หรือให้ความร่วมมืออย่างกระตือรือร้น ในท่ามกลางสายตาของทุกคน มังกรปีศาจจับถูว่านปักหัวลงไปในดินอีกครั้งอย่างไม่เกรงใจ

ถูว่านเท้าชี้ฟ้าดิ้นไม่หยุด และดูเหมือนจะตะโกนด่าว่าอะไรบางอย่าง

แต่มันเร็วเกินไป

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครได้ยินชัด

แน่นอนเพราะว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทุกคนไม่สนใจ

“น่าเบื่อจริงๆ!

มังกรปีศาจดูเหมือนจะพอใจการทำงานหนักปลูกหัวไชเท้าของเขา ปกติเขามักเป็นคนเกียจคร้าน ยากนักที่จะยอมทำงานหนัก

แม้ว่าท่าปัจจุบันของถูว่านจะทำให้เขาขัดใจบ้างเล็กน้อย แต่เขาคิดว่าต้นหอมหัวใหญ่อยู่ในท่านี้ เป็นท่าที่ดีที่สุดของอีกฝ่าย แต่น่าเสียดายที่สภาพปัจจุบันมีเวลาจำกัด ต้องรีบเร่งและสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม  เขาจึงทำเท่าที่ทำได้และได้แต่ส่ายหน้า ปัดฝุ่นที่มือและแขนเสื้อ ไม่เหลือเศษธุลีดินติดแขนเสื้อ

เขาทำอย่างสบายๆ

มีประโยชน์

มังกรสองหัวกู่อั๋ง ว่านกูซู ปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่ามองภาพข้างหน้าปากอ้าค้าง

เด็กปีศาจหนุ่มผู้ดื้อรั้นสะบัดไล่ความมึนงงในแววตา นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยแววศรัทธาราวกับพบเจอศาสดาของตนเอง เขาตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก

เด็กหนุ่มผู้มักมีการกระทำที่ก้าวร้าวหยิ่งลำพอง อาจกล่าวได้ว่าตลอดชีวิตของเขานี้ได้ทำสิ่งน่ากลัวมากมายเรียกว่าแทบจะทั้งชีวิต แต่บุรุษที่ทำตัวธรรมดาแต่เล่นงานนักสู้ระดับเทพได้อย่างง่ายดายด้วยความเยือกเย็น เขารู้สึกว่าพฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้

เขาไม่เคยรู้ตัวเองมาก่อน

เขาอ่อนแอมากจริงๆ!

เพราะการแสดงฝีมือของผู้อาวุโสมังกรปีศาจ

บุรุษยโสจอมห้าวถึงกับคลั่งไคล้ฝีมือของเขาโดยไม่ต้องคิดอะไร

เมื่อถูว่านนักสู้ระดับเทพตะเกียกตะกายคลานออกมาจากฝุ่นสกปรกด้วยอาการมึนงง การเคลื่อนไหวของมังกรปีศาจยังไม่จบสิ้น เขาใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบนักสู้ระดับเทพไม่หยุด และเหยียบหน้าของเขาโดยตรงพลางถอนหายใจ  “ช่างเป็นใบหน้าที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!  ขณะที่เขาใช้นิ้วอีกข้างแคะหูข้างซ้าย  “ยังไม่มากพอให้ข้าแสดงความจริงใจได้!  เขาเปลี่ยนเป็นแคะหูข้างขวาอยู่นาน ในที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความเสียดายและป้ายนิ้วที่จมูกถูว่านพลางขอโทษ  “น่าเสียดาย เท้าข้าไม่พอเหยียบ....”

“ข้ามี ข้าจะร่วมด้วย”  เด็กหนุ่มผู้ใจร้อนยกมือ  ถ้ามีทรัพยากรไม่พอ เขามีพอและขอเสนอตัว

เขาวิ่งเข้ามาได้สองสามก้าว

เขากระตือรือร้นมือซ้ายขวาแคะขี้หูและเอาออกมาอวดต่อหน้าถูว่าน  “ถ้าไม่พอ ของข้าก็มี เจ้าไม่ต้องเกรงใจข้าก็ได้!

ถูว่านโกรธจนปอดแทบระเบิด

อวัยวะภายในของเขาปั่นป่วนหรือ?

เขาแทบจะกระอักโลหิตออกมาสามลิตร  ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้ว!

อย่างไรก็ตามเขาเข้าใจดีขึ้นเล็กน้อยหากมีใครบางคนในโลกนี้ที่สามารถเหยียบยอดฝีมือระดับเทพด้วยฝ่าเท้าโดยที่เขาไม่มีพลังจะดิ้นรน ไม่ว่าอีกฝ่ายทำอะไรก็ไม่ควรจะโกรธเกินไป...  เคารพความแข็งแกร่งในเมื่อทักษะฝีมือด้อยกว่า การยอมจำนน ยอมแพ้ ทำตัวเป็นเหมือนหลานชายนับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“โอว ไม่ถูกต้อง มังกร มังกรปีศาจไม่ใช่คนผู้นั้นกระมัง..”  จู่ๆ มังกรสองหัวก็นึกถึงความทรงจำเก่าๆ ที่ทำให้เขาตัวสั่น

“เจ้าว่าอะไรนะ?”  จากเสียงเตือนของเขา ว่านกูซูและคนอื่นล้วนหันหัวมองตาม

“ตุ้บ!” ปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่าคุกเข่ากับพื้นด้วยความหวาดกลัวพร้อมกัน

แน่นอนว่าไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่กลัวจนปัสสาวะแทบราด

ยังรวมถึงถูว่าน

หากตอนนี้ไม่มีใครเหยียบเขาอย่างน่าสมเพช เขาก็อยากจะคุกเข่าขอความเมตตาอย่างปีศาจหมีดำและปีศาจหมูป่า

ชื่อของมังกรปีศาจไม่ได้ยินมาในแดนสวรรค์บนมาหลายปีแล้ว  มังกรปีศาจผู้นี้ไม่ได้อยู่ในแดนสวรรค์บนมานานเป็นแสนปีแล้ว

จู่ๆ เขาก็มาปรากฏตัวข้างหน้าหากไม่ใช่ของปลอมจะให้เข้าใจว่าอะไร?

ตาย ทำลาย

หรือล่มสลายไปพร้อมกับโลกทั้งโลก

บางทีสถานการณ์อาจไม่แย่นัก แต่หลังจากรู้ว่าคนมีเคราที่อยู่ข้างหน้าเป็นใคร สีหน้าเขาไม่ค่อยดีนัก  ไม่มีใครคิดว่าการเป็นศัตรูกับบุรุษผู้มีนามว่ามังกรปีศาจจะเป็นเรื่องดีในชีวิต  ในทางตรงกันข้ามเขาเชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความน่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลกและโศกนาฏกรรม  ต่อให้เป็นตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ยกเว้น การตอแยอสูรร้ายตนนี้ย่อมมีผลลงเอยที่ไม่สวย

คนผู้นี้น่ากลัวมากมายขนาดไหน เขาหลับอยู่ในผนึกมานานและมายังหอทงเทียนได้อย่างไร?

นอกจากนี้ฟังจากน้ำเสียงของเขา

ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นพี่ใหญ่ของเย่ว์ไตตันหรือเปล่า?

“น่าสนใจ ดูเหมือนว่าหอทงเทียนและกลุ่มของเขาจะอยู่กันที่นี่จริง!  ในบรรดาผู้ชมทั้งหมดมีเพียงปีศาจจากเผ่าเก้าหัวที่ยังมีสีหน้าเหมือนเดิม พวกเขายิ้มลึกลับที่มุมปาก

บันไดสวรรค์ โลกพฤกษา

ที่บันไดขั้นที่ล้าน เย่ว์หยางรู้สึกถึงการสนับสนุนจากทุกคนได้ จิตใจของเขาพลุกพล่าน

เขาตะโกนก้องฟ้า  “ยักษ์ชะตาหนึ่งกิโลเมตร  ข้าจะต้องควบคุมเจ้าให้ได้ด้วยมือของข้า ถึงตอนนี้ข้าจะรับภาระเอง  ข้าเย่ว์หยาง เย่ว์ไตตันแห่งหอทงเทียนจะไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาแน่นอน นั่นคือความรับผิดชอบของข้า!

ดูเหมือนว่าหลังจากได้ยินเสียงจากหัวใจของเย่ว์หยาง มือวิเศษที่มองไม่เห็น ใช้พลังวิเศษและแยกพลังชะตาขนาดกิโลเมตรอย่างสมบูรณ์วางไว้บนไหล่ของเย่ว์หยาง  แต่น่าเสียดายแม้ว่าเย่ว์หยางจะเต็มไปด้วยความมั่นใจ  แต่ความอดทนของเขาเป็นเพียงภาพสะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของร่างกายเขาเท่านั้น และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณนักสู้ ความปรารถนาและกำลังใจ

พลังของยักษ์ชะตาขนาดกิโลเมตร

วางลงบนไหล่

ทั้งร่างเย่ว์หยางทรุดลงทันที

เขาไม่สามารถอยู่บันไดขั้นที่หนึ่งล้านได้ต่อไป ร่างของเขาพุ่งลงไปดุจดาวตกเหมือนกับเทพธิดาประกายจันทรา

จื้อจุนไม่สามารถจะไล่ตามได้ทัน ไม่ว่าจะไล่ตามอย่างไตก็ตาม ไม่ต้องพูดถึงขั้นที่ล้าน ขั้นที่ห้าแสน ขั้นที่แสน หรือแม้กระทั่งขั้นที่หมื่นเย่ว์หยางที่แบกรับพลังชะตาหนึ่งกิโลเมตรยังยืนทนแบกไม่ไหว  เขาพยายามดิ้นรนอย่างหนักและพยายามทำให้ดีที่สุด เขาต้องการจะยืนด้วยลำแข้งตัวเองและไปต่อยังจุดพักทุกก้าวที่เขาเคยพัก แต่นี่เป็นเพียงความตั้งใจปรารถนา ระดับล้านขั้นไม่สามารถอยู่ได้นานถึงเสี้ยววินาที  เมื่อเขาล้มลงมาถึงระดับขั้นที่ห้าแสน เขาต้องดิ้นรนอีกครั้ง แต่อยู่ได้ไม่ถึงครึ่งวินาที เขาก็กลิ้งลงมาอีก

ขั้นที่แสนอยู่ได้เพียงหนึ่งวินาที แต่ก็แค่หนึ่งวินาที

ขั้นที่หมื่นเขาแบกรับได้เต็มที่สิบวินาที ร่างกายก็ทนไม่ได้ยังคงร่วงต่อไป

ขั้นที่พัน ขั้นที่ร้อย ขั้นที่สิบและในที่สุดเขาร่วงกลับไปที่ชั้นจุดเริ่มต้นของบันไดสวรรค์โลกพฤกษาจุดเดียวกับเทพธิดาประกายจันทรา

จื้อจุนยังคงไล่ตามลงมาอย่างรีบเร่ง แต่เวลาไม่เพียงพอ  เย่ว์หยางนอนอยู่บนพื้นและมีภาพยักษ์ชะตายืนอยู่บนท้องฟ้าราวกับภูเขา มองดูราวกับพระยูไลวางพระหัตถ์ลงบนไหล่ของซุนหงอคง มีน้ำหนักมาก ไม่ต้องพูดถึงการเคลื่อนไหว แม้แต่กระพริบตาก็ยังรู้สึกว่ายากลำบากมาก  ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเขาประเมินพลังของชะตาและความสามารถในการแบกรับภาระของตนเองผิดไป... ก่อนหน้านี้เทพธิดาประกายจันทรานับเป็นเทพที่ทรงพลัง นางแบกรับพลังชะตาร้อยเมตรยังร่วงลงมาเหมือนดาวตก  ตอนนี้เขาแบกหนึ่งกิโลเมตร ดูเหมือนว่ามากเกินไปบ้าง

แต่ถ้าเขาไม่แบกไว้ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำตามสัญญา

การท้าทายชะตาไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน

เย่ว์หยางตัดสินใจกัดฟัน ก็แค่ในตอนที่ซุนหงอคงแบกภูเขา ยังแบกนานถึงห้าร้อยปี  เขามีเวลาไม่ถึงสามวัน ถ้ายังใช้ไม่ได้ก็จะเสียเวลาเปล่า

“เฮ้, นั่นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้มีความหมายต่อหอทงเทียนไม่ใช่หรือ? ท่านี้ดูหล่อเท่ห์จริงๆ!  หญิงสาวคนหนึ่งถือดาบเทพพยัคฆราชเดินเข้ามาหา และมองดูร่างเย่ว์หยางที่นอนอยู่บนพื้น  เมื่อเย่ว์หยางพบว่าที่จุดเริ่มต้นเดิมบันไดสวรรค์นี้หญิงสาวกลุ่มใหญ่มาถึงแล้ว ทุกคนมองดูตัวเขาและหัวเราะขบขัน  บุรุษผู้มีหน้าหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองไม่ได้รู้สึกอายเลยแม้แต่น้อย  เขาพยายามทบทวนบทเรียนอีกครั้ง

ไม่ใช่เรื่องใหญ่!

อย่างไรก็ตาม เพราะมุมมองของเย่ว์หยางมองเห็นแม่เสือสาวเหมือนไม่มีอะไรปิดบัง (ตาทิพย์)

ในมุมมอง 90 องศายังดูดีกว่ามุมมอง 45 องศา

แม้ว่าเด็กหนุ่มจากโลกอื่นเคยฝึกฝนมาทุกรูปแบบ แต่ภายใต้สายตาพิเศษเขาแทบเกิดอาการเลือดกำเดาทะลัก  และเย่ว์หยางที่มองผิวเผินนอนอยู่บนพื้นเหมือนตายภายใต้แรงกดดันของพลังยักษ์ชะตา ยังอดมองโลกในแง่ดีไม่ได้

“ยังมีพลังมากมายเหลือเฟือ ดูเหมือนว่าการเพิ่มพลังแห่งชะตาให้สูงพันเมตรนั้นไม่เป็นปัญหา!  นางเซียนหงส์ฟ้าใช้สัญชาตญาณตรวจเจอจุดสำคัญ และคำพูดของนางทำให้เย่ว์หยางอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้

“ฮ่าฮ่า!” สาวงามทั้งใหญ่ทั้งน้อยมองดูเขาแล้วอดหัวเราะไม่ได้

เงาแห่งความตายหลังจากการรุกรานของแดนสวรรค์ การบีบบังคับที่มองไม่เห็นซึ่งนำโดยคนที่มีพลังมากมายจากตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เช่นตงฟาง, ราชันย์ไร้ใจและเจ้าตำหนักสูงสุดและนักสู้อื่นๆ ที่บีบบังคับกดดันจนแทบหายใจไม่ออก เสียงหัวเราะร่าเริงนี้ค่อยๆ ห่างออกไปเรื่องยๆ  ตราบใดที่มีเขาอยู่ด้วย พวกนางจะมีความมั่นใจเย้ยฟ้าท้าดิน สู้กับทุกอย่างในโลกรวมทั้งโชคชะตา

มีเขาอยู่เคียงข้าง

ก็มีความมั่นใจ มีทุกอย่าง!

9 ความคิดเห็น:

6Ixšick6​ กล่าวว่า...

ขอบคุณ​มาก​ครับ​

CHANTANA กล่าวว่า...

สู้ฯไอ้3

krisda กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ คุณชายสามช่างเป๋นต้นแบบในความพยายาม

blakaros กล่าวว่า...

เมียอยู่ สู้ได้ยาวๆ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ฮาเร็มจะแบ่งพลังกันไปแล้ว

Anunaki กล่าวว่า...

ยังจะมีการจนตนาการอีกนะพี่สาม

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Failz กล่าวว่า...

หื่นได้ทุกเวลาจริงๆ

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

แค่ในฮาเร็มแบ่งคนละนิดก็น่าจะพอละ

แสดงความคิดเห็น