เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1300 ปล่อยให้ตายไปเลย!

 

ตอนที่  1300  ปล่อยให้ตายไปเลย!

ด้วยพลังชะตาของมารดาเขาสูงถึง 3,600 เมตร ความต้องการในการฝึกในคัมภีร์เทพย่อมสามารถทำได้

เย่ว์หยางมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง

 

เจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นถูกดูดเข้าไปฝึกฝนโดยรังสีเทพอัญเชิญ  แม้ว่าพวกเขาจะละไปจากโลกและเสียสละกันหมด  แต่พวกเขาไม่ได้ตายอย่างแท้จริง เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ อยู่ในสภาวะทำลายล้างอิสระ ตราบใดที่แสงเทพอัญเชิญได้รับพลังชะตาเพียงพอจนสามารถพลิกสภาวะทำลาย จากสภาวะทำลายกลายเป็นสภาวะสร้างทีละคน พวกเขายังสามารถเปลี่ยนไปเป็นสภาวะนิรันดร์ในโลกคัมภีร์เทพได้

ในโลกคัมภีร์เทพใหม่จะเป็นชีวิตใหม่ ทุกอย่างก่อนนั้นจะถูกทำลาย

เป็นการสร้างจากพื้นฐาน

ตราบเท่าที่มีพลังชะตามากพอ อย่างนั้นพวกเขาจะไม่จากจริงตายจริง... “ขอบคุณท่านแม่!”  เย่ว์หยางตะโกนออกมาจากก้นบึ้งหัวใจเป็นครั้งแรกพร้อมกับรับของขวัญจากมารดาและคำแนะนำ พลังแบกรับชะตาของนาง 3,600 เมตร เจ้าอ้วนไห่ เย่คง เสวี่ยทันหลาง อาจารย์จิ้งจอกเฒ่า จุนอู๋โหย่ว ผู้เฒ่าหนานกงเป็นต้น รวมทั้งผองญาติสนิทมิตรสหาย และบริวารผู้ติดตามทุกคนที่สนับสนุนตัวเขา  พวกเขาจะต้องไม่ตาย พวกเขาจะต้องกลับมาอยู่ข้างๆ เขาอีกครั้ง

“ขอบคุณ, ขอบคุณท่านแม่!” เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนหลั่งน้ำตาราวกับสายฝน  พวกนางคำนับมารดาผู้คอยปกป้องเย่ว์หยางด้วยความเคารพ

นี่คือมารดาของเขา และแน่นอนว่าเป็นว่าที่แม่สามีของนาง

นับว่าได้มารดาที่ดีจริงๆ!

สถานการณ์วิกฤตแทบสิ้นหวัง

เพราะมีนาง ความโชคร้ายและความเจ็บปวดทั้งหมดในตอนต้นเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนความหวังได้เพราะนาง  ตอนนี้ทุกคนไม่ต้องกังวลและกลัวอีกต่อไป  บางคนมีความมั่นใจและกล้าหาญ!  ตราบเท่าที่มีมารดาช่วยปกป้อง อย่างนั้นทุกคนไม่มีอะไรต้องกลัว!  ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อใดทุกคนจับมือกันล้อมเป็นวงกลมขนาดใหญ่โดยมีเย่ว์หยางเป็นจุดศูนย์กลาง

ไม่จำเป็นต้องจ้องมอง เพียงแค่ปิดตาเบาๆ เขาก็สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของมารดาของเขา  เขาสามารถรู้สึกได้ว่านางกำลังปกป้องทุกคนจากบนท้องฟ้า!

ร่างของยักษ์ชะตาดูเหมือนจะเพิ่มส่วนรูปแบบที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่มีสิ้นสุดโดยเฉพาะที่ระหว่างอกและหน้าท้อง

นั่นคือภาพของมารดาหรือ?

เพราะความกดดันทุกคนไม่สามารถมองเห็นนางได้อย่างเต็มที่  แต่มีความรู้สึกแปลกเลือนราง ดูเหมือนว่านางกับเย่ว์หยางจะมีความคล้ายคลึงกันทั้งรูปร่างและจิตวิญญาณ ไม่มีคำพูดใดๆ สามารถบรรยายได้อย่างสุดซึ้ง

นั่นคือแรงสั่นสะเทือนและสะท้อนจากจิตวิญญาณส่วนลึกโดยไม่ต้องมีการพิสูจน์ตัวตนใดๆ ก็สามารถยืนยันได้ทันที

ยิ่งกว่านั้นตลอดชีวิตนี้

เมื่อหลายปีนับไม่ถ้วน

ก่อนนั้น

นางก็เป็นมารดาอยู่แล้ว

และนางคอยปกป้องบุตรรักของนางเช่นนี้มาโดยตลอด...  พลังแห่งชะตาที่มารดามอบให้เขานั้น ต่างจากพลังชะตาที่ดำเนินการโดยเจ้าอ้วนไห่และเย่คงกับพวกได้แบกรับมาก่อนนั้น ก่อนถูกรังสีเทพอัญเชิญดึงเข้าไป  ตรงกันข้ามนั่นเป็นพลังแห่งชะตาที่สูงถึง 3,600 เมตร ส่งผ่านรังสีอัญเชิญดึงเข้าไปคลุมคัมภีร์เทพ  แต่สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียประหลาดใจก็คือคัมภีร์เทพเล่มนั้นเปล่งแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างนุ่มนวล  และกลับไม่ได้รับพลังสนับสนุนจากพลังชะตาที่มารดาเขาให้

ทำไมกัน

เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียหาสาเหตุไม่พบ!

หลังจากพยายามซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาพบว่าไม่สามารถเข้าไปในพลังชะตาของคัมภีร์เทพได้ และทันใดนั้นกลับถูกดึงไปหาคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เย่ว์หยางถือครองเสมอ

ระหว่างกระบวนการเติบโตทั้งหมดของเย่ว์หยาง  คัมภีร์อัญเชิญนี่ติดตามไปกับเขาตลอดช่วยให้เขาเติบโตจากอ่อนแอไปสู่ความแข็งแกร่ง และค่อยๆ เติบโตกล้าแข็งจนถึงทุกวันนี้  เริ่มแรกเดิมทีเป็นคัมภีร์อัญเชิญระดับบรอนซ์ จากนั้นมีการต่อสู้ก้าวหน้ารู้แจ้งจนกระทั่งวันนี้กลายเป็นคัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์  อาจกล่าวได้ว่ากฎสวรรค์ระดับศักดิ์สิทธิ์ดั้งเดิมคือพยานที่เห็นประวัติการเติบโตของเย่ว์หยาง เป็นสมบัติที่เย่ว์หยางขาดไม่ได้ในการช่วยเหลือในการเติบโตกล้าแข็งของเขา และเป็นองค์ประกอบพื้นฐานสำหรับการเติบโตและการอยู่รอดของเขา...  จากแรกเริ่มมีเพียงทักษะแฝงเร้นและอสูรพิทักษ์เพียงตนเดียว จนถึงปัจจุบันเป็นโลกงดงามที่เขาสร้างขึ้น ในขณะนี้คัมภีร์ชั้นศักดิ์สิทธิ์นี้ก็มาถึงจุดสูงสุดที่ไม่อาจเลื่อนชั้นต่อไปได้อีก

วันนี้ มันจะเพิ่มบางอย่างที่ใหม่เข้าไปในโลกภายใน

นั่นคือพลังชะตา

ตราบใดที่มีการเพิ่มพลังวิเศษนี้แล้ว มันจะย้อนกลับเส้นทางเดิมสร้างอนาคตรูปแบบใหม่ตามแนวที่เจ้านายต้องการ

ปรากฏว่าคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ปฏิเสธพลังชะตาที่มารดามอบให้เขา ในทันใดนั้นรังสีเทพอัญเชิญก็ปรากฏทักทายเขาทันทีเหมือนกับเด็กน้อยที่กางแขนวิ่งเข้าหาพ่อแม่ รัศมีเหมือนกับรุ้งสาดกระจายทั่วท้องฟ้า

“นี่..” เย่ว์หยางงงเล็กน้อย

ถ้าคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ดึงดูดพลังชะตาของมารดาแล้วไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เขาจะทำอย่างไรกับแสงเทพอัญเชิญของคัมภีร์เทพ?

ข้อกำหนดขั้นต่ำสุดของคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ก็คือพลังชะตาสูง 5000 เมตร  ถึงแม้ว่า 3600 เมตรจะมากแต่ก็ยังไม่เพียงพอ หากพลังชะตานี้ถูกนำไปใช้ฝึกในคัมภีร์เทพ อย่างนั้นจำเป็นต้องใช้พลังชะตา 3600 เมตรสำหรับการฝึกถึงจะพอเหลือล้น  ในกรณีนี้เจ้าอ้วนไห่ เย่คง และญาติพี่น้องคนอื่นๆ จะสามารถกลับคืนมาจากสภาวะทำลายได้

แต่ในตอนนี้

กลับตรงกันข้าม พลังทั้งสองด้านไม่เพียงพอ

“มาเถอะ มันต้องพอ!”  เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคุกเข่าพร้อมกัน และตัดสินใจยอมสละทุกอย่างในโลกอุทิศตนเพื่อแลกพลังชะตาที่ยิ่งใหญ่ตามความต้องการของคัมภีร์อัญเชิญทั้งสามเล่ม

“ต้องชนะ!  เรามั่นใจว่าชะตาของเราสามารถพลิกกลับชะตาได้!  เราเชื่อมั่นในเจ้า!” ปรากฏว่าอู๋เหินผู้อ่อนแอที่สุดเดินเข้ามาหา แต่นางคือผู้สนับสนุนเย่ว์หยางที่แข็งขันที่สุด

“แม่สาวน้อยทั้งหลาย พวกเจ้ากลายเป็นกลุ่มผู้เยาว์ที่โดดเด่นตั้งแต่เมื่อใดกัน?   พวกเจ้าต้องรู้นะว่าคนที่อยู่เบื้องหลังหนุ่มน้อยผู้นี้ไม่ใช่มีแต่มารดาของเขาเท่านั้น แต่เขายังเป็นเจ้านายข้าด้วย!  เจ้าบัดซบตงฟางดีแต่หดหัวเป็นเต่า  หนุ่มน้อย เจ้าจะใช้กำปั้นเจ้าให้เกิดประโยชน์อย่างไร?  เจ้าต้องลงมือให้ดี ต้องช่วยข้าทุบหัวเจ้าลูกเต่าตงฟาง!”  เสียงของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีดังขึ้นในส่วนลึกของหัวใจเย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสีย

จากนั้นมีมวลพลังที่ครอบงำได้ทั้งโลก

ปรากฏที่บันไดสวรรค์

สะท้านสะเทือนไปทั้งโลกพฤกษา

ทันทีที่เจตจำนงของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีมาถึง มีพลังชะตาสูงถึง 2800 เมตร

แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่านางพญาผู้พิชิตได้สร้างชื่อเสียงทำให้แดนสวรรค์ต้องสั่นกลัว  แต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่เคยคิดว่านางจะรับพลังชะตาใหญ่ได้ถึง 2800 เมตร แม้ว่าจะด้อยกว่ามารดาผู้ลึกลับเล็กน้อย  แต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเพิ่งหลุดจากผนึกหลุมดำไม่นาน จากนั้นสร้างโลกหิมะน้ำแข็ง คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีมีพลังเทพที่สามารถรับพลังชะตาได้สูงถึง 2800 เมตร

เรื่องน่าประหลาดใจไม่ได้อยู่แค่เพียงนางพญาเฟ่ยเหวินหลีเท่านั้น

แทบจะในเวลาเดียวกันมีพลังของจักรพรรดิเทียนหลัวส่งพลังเข้ามาเสริม

และแม่สี่ผู้ดูแลชีวิตเย่ว์หยางและเป็นเสาหลักจิตใจของเขาก็ส่งพลังชะตาสนับสนุนเย่ว์หยาง

พลังชะตาที่จักรพรรดิเทียนหลัวสนับสนุนทำให้เย่ว์หยางมองดูด้วยความตะลึง สามารถรองรับพลังชะตาที่ความสูง 1200 เมตร

“แม่สี่!”  เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนพบว่าแม่สี่ สตรีผู้อ่อนแอสามารถสนับสนุนพลังชะตาสูงระดับ 800 เมตร พวกนางไม่กล้าจะเชื่อ

นี่คือเรื่องที่น่าประหลาดใจจริงๆ.. เป็นเรื่องเกินคาดไปมากมาย!

เย่ว์หยางมั่นใจว่าฝ่าบาทไม่ใช่นักสู้ที่มีพลังรบ  แต่เขาได้รักษามิติลวงตาและป้องกันรักษาทางเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพมานานนับพันปีก็ย่อมจะมีพลังมาก  เขาคิดว่าฝ่าบาทจะรับชะตาได้ 300 เมตรหรือ 500 เมตร นั่นเป็นความปรารถนาที่มากที่สุดในใจของเขา  คาดไม่ถึงเลยว่าฝ่าบาทรับพลังได้ถึง 1200 เมตร ด้วยการสนับสนุนเพียงครั้งเดียวทำให้เขารู้สึกว่าตนเองประเมินผิด

สำหรับแม่สี่ผู้อ่อนแอบอบบาง เย่ว์หยางไม่เคยคิดว่านางจะต้องอุทิศตัวขนาดนั้น

รับพลังชะตาได้สูงถึง 800 เมตรทำลายภาพประทับใจและความคิดเดิมเกี่ยวกับแม่สี่ที่เขารู้จักไปอย่างสิ้นเชิง?

ถ้าแม่สี่มีพลังมหาศาลขนาดนี้ ทำไมนางถึงไม่ใช้?  นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจจับพลังของแม่สี่ และพบว่านางเป็นคนทั่วไป

เย่ว์หยางเชื่อว่าแม่สี่ใจดี จิตใจอ่อนโยนและไม่หลอกลวงเขา

แต่ตอนนี้

นางมีพลังที่ไม่ธรรมดาสามารถสนับสนุนพลังชะตาได้ถึง 800 เมตร รู้ไหมว่าเทพธิดาประกายจันทราสามารถรับพลังชะตาได้ 100 เมตรเท่านั้น มีเหตุผลใดกันแน่

ขณะที่เย่ว์หยางอยู่ในสภาพมึนงง หลังจากไตร่ตรองมากกว่าร้อยครั้ง พลังชะตาทั้งสามสายก็ลอยขึ้นพร้อมกัน

สายแรกลอยเข้าหาคัมภีร์เทพ

ภายใต้แสงเทพที่ไม่อาจต้านทานได้ แสงกลับถูกสะท้อนหักเหไปที่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เย่ว์หยางถือครอง

“ไม่ ไม่ ไม่  นั่นมากเกินไป ต้องแบ่งเป็นชุดส่งเข้าไปในคัมภีร์อัญเชิญ!”  เย่ว์หยางแตกตื่นเมื่อพบว่าพลังชะตาทั้งหมด ถูกคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ดูดซับไว้ไม่มีทีท่านว่าจะหลากล้นแต่อย่างใด น่าเสียดายที่คัมภีร์เทพสำหรับฝึกรอคอยอย่างกระตือรือร้น แต่มันไม่ใช่ตัวเลือกแรกของพลังชะตาตัวแทนของเจตจำนงนางพญาเฟ่ยเหวินหลี ตัวแทนของฝ่าบาท และของแม่สี่

พลังชะตาที่พวกเขามอบให้มีแต่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์หรือคัมภีร์เทพเท่านั้นที่ได้รับ

หลังจากการปฏิเสธอย่างคาดไม่ถึงของคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เล่มนั้น

พลังชะตาที่พวกเขาสนับสนุนทั้งหมดหันไปเข้าคัมภีร์อัญเชิญชั้นศักดิ์สิทธิ์

เย่ว์หยางไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเช่นกัน เขาอยากจะเป็นลม!  เห็นได้ชัดว่าพลังชะตาไม่เพียงพอ แต่คัมภีร์เทพปฏิเสธไม่รับ ปล่อยให้คัมภีร์อัญเชิญอื่นกลืนกินอย่างบ้าคลั่ง และอีกเล่มหนึ่งรออย่างน่าสงสารโดยไม่มีโอกาสได้รับส่วนแบ่ง

ในทำนองเดียวกัน คัมภีร์อัญเชิญ พวกเจ้าไม่หยิ่งภูมิใจกันบ้างหรือ?  เจ้ายังมีพลังชะตาไม่เพียงพอมิใช่หรือ? ทำไมถึงปฏิเสธที่จะรับพลังไว้? เห็นอย่างนี้แล้วเขาอยากฆ่าตัวตายในฐานะเจ้านายนัก

สำหรับคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ อย่าเป็นเหมือนข้าจะได้ไหม ทำไมเจ้าโลภอย่างนี้?

ข้ารวบรวมพลังชะตาอย่างยากลำบาก แต่เจ้าต้องการมันทั้งหมด แม้ว่าเจ้าจะมีลักษณะคล้ายเจ้านาย แต่ข้าไม่ได้สิ่งนี้มันเสียหายมากเกินกว่าที่ข้าผู้เป็นเจ้านายจะทนได้จริงๆ สำหรับคัมภีร์เทพพี่เจ้า นั่นคือคัมภีร์เทพ เป็นระดับเจ้าเหนือกว่า ไม่ใช่คัมภีร์บรอนซ์ ไม่ใช่คัมภีร์เงิน หรือคัมภีร์อย่างอื่น  คัมภีร์เทพ เจ้าอ่อนแอมากขนาดนี้ได้อย่างไร?  ความต้องการอย่างต่ำไม่ต้องพูดถึง แต่เจ้ากลับไม่รับพลังชะตาไว้ แล้วยังจะรออยู่อีก  ข้าจะไปหาพลังชะตามากมายจากไหนมาให้เจ้า?

เมื่อเห็นคัมภีร์อัญเชิญทั้งสามเล่มต่างมีสติปัญญาเฉียบขาด เย่ว์หยางอยากจะร้องไห้

อุตส่าห์คิดคำนวณมาทุกอย่าง

เขาไม่คิดว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

หรือว่าที่ทำสัญญากับข้าเป็นการโกงทั้งหมด? เรื่องสำคัญขนาดนั้นยังจะเล่นละครโดยไม่คาดคิด?  พวกเจ้าเคยพบวิกฤตมาบ้างหรือไม่? พวกเจ้าเคยคิดบ้างไหมว่าข้าผู้เป็นนายรู้สึกอย่างไร? อย่างนั้นก็มาตายกันให้หมดไปเลย!