วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1302 พลังอัญเชิญลึกลับ

 

ตอนที่  1302  พลังอัญเชิญลึกลับ

ตงฟางเจ้าตำหนักใหญ่ผู้เจ้าเล่ห์

 

เขาไม่เพียงแต่ใช้วิธีล่อลวงฟงชิซา เหยียนพั่วจวิน เย่ว์เทียน เย่ว์เยี่ยน เย่ว์ฟงและอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนอื่นให้ทรยศเท่านั้น แต่เขายังส่งภาพแยกนับล้านออกไปปรากฏทุกที่ กับนักเรียน นักรบ ตระกูล สำนัก ราชวงศ์ต่างๆ และเผ่าพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับเย่ว์หยางบีบบังคับให้ตาย

ด้วยพลังเทพของเขา เขาสามารถยึดเจตจำนงของฝ่ายตรงข้ามได้เต็มที่

ทำให้เจ้าชายหรือพวกนักรบที่ติดตามมาตกอยู่ในอาการคลั่งไคล้ บ้าเหมือนที่ทำกับอัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกร

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น

ตงฟางใช้แต่เพียงคำพูดและแรงกดดันจากสถานการณ์ทั่วไปบังคับนักรบแต่ละเผ่าพันธุ์ให้ทำการเลือก  ในสถานการณ์เช่นนี้มีนักรบหลายคนที่ไม่ต้องการตาย  แต่การถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศนั้นหนักหนาสาหัสเกินไปไม่มีใครสามารถแบกรับไว้ได้  นักรบนับไม่ถ้วนไม่มีทางเลือกนอกจากยอมสละชีวิตแบกรับชะตาเพื่อเย่ว์หยาง จนพวกเขาจมลงไปจนถึงจุดแตกสลาย  ลูกหลานของตระกูลในทวีปมังกรทะยาน โอรสกษัตริย์ นักรบวิบัติจากวังมาร เผ่าซัคคิวบัส  เอลฟ์ทอง ลูกหลานขุนนางและเผ่าพันธุ์ที่ติดตามเย่ว์หยางหลายคนในหอทงเทียน ถูกตงฟางบีบบังคับให้ต้องสละตนเองในเส้นทางรับชะตา

การได้เห็นเผ่าพันธุ์และทาสต่างๆ หายไปพร้อมกับแสงเทพ

ตงฟางทำเรื่องนี้สำเร็จ เขาเงียบอยู่นาน

หน้าของเขา

ไม่เศร้าหรือมีความสุข

ไม่สามารถเห็นความรู้สึกที่แท้จริงได้

มือสังหารเทพถูซื่อรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและอดถามไม่ได้  “ทำไมเจ้าถึงทำอย่างนี้? แม้ว่าพวกเขาจะถูกบังคับให้ตาย นั่นหมายความว่าเป็นการเร่งให้หอทงเทียนล่มจมเร็วขึ้น  แต่นี่จะเป็นการเพิ่มความช่วยเหลือเย่ว์ไตตันหรือเปล่า?”

“เป็นไปไม่ได้ที่เย่ว์ไตตันจะทำได้สำเร็จ!  ตงฟางโบกมืออย่างสงบ  “ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าคนเหล่านี้ จะแบกพลังชะตาทั้งหมด แต่พวกเขาจะแบกรับพลังชะตาให้เย่ว์ไตตันได้เท่าไหร่  ตามมาตรฐานแดนสวรรค์บน พวกเทพวัดกันที่กำลังรัศมี  ความสำเร็จระดับเทพราชันย์ อย่างน้อยต้องการความสูงรัศมีถึงหมื่นเมตร เจ้าคิดว่าเย่ว์ไตตันสามารถแบกรับพลังชะตาได้ถึงหมื่นเมตรหรือ  ขีดจำกัดของเขาไม่ถึงหนึ่งในสิบ หรืออาจถึงหนึ่งในร้อย ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้มีความสามารถดีเพียงไหน ในที่สุดเขาก็จะแพ้  จงดูคนเขลาที่เหมือนมดเหล่านี้ ข้าจะบังคับให้พวกมันตายกันทั้งหมด  พวกมันจะอดทนเพื่อเย่ว์ไตตันได้เท่าไหร่กัน  เจ้าก็สามารถมองเห็นได้ว่าต่อให้เพิ่มกำลังคนเข้าไปอีกพลังชะตาก็ยังมีความสูงไม่เกิน 300 เมตร ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างชะตากรรมของพวกเขากับของเย่ว์ไตตัน ชะตาที่พวกเขามีอยู่มากที่สุดเพียง 20%  ซึ่งยังน้อยกว่าร้อยเมตร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น  มดตัวน้อยอ่อนแอจะไม่มีทางเพิ่มโอกาสได้  พวกมันไม่มีทางแข็งแกร่งได้เพราะปริมาณ”

“ถึงจะเป็นเช่นนั้นข้าก็ยังรู้สึกว่าจำเป็นต้องระมัดระวังมากขึ้นเมื่อกดดันเย่ว์ไตตัน  ท้ายที่สุดนี้เย่ว์ไตตันนี้เป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบ และไม่เคยปรากฏมีมาก่อนในหอทงเทียน!” มือสังหารเทพถูซื่อตั้งคำถามไม่เลิกรา

“หอทงเทียนหลังจากผ่านการกวาดล้างแล้วมีความจำเป็นมาก!  ข้าไม่ต้องการให้คนติดตามเย่ว์ไตตันมีโอกาสฟื้นฟูสักวันหนึ่ง  ถูซื่อ!  เจ้ามองเห็นความเป็นจริงอย่างหนึ่ง  เย่ว์ไตตันไม่สามารถแบกรับพลังชะตาหมื่นเมตรได้ เขาไม่สามารถบรรลุระดับเทพราชันย์ได้!  แต่เมื่อไม่มีความสำเร็จระดับเทพราชันย์ เขาจะไม่สามารถควบคุมชะตาของคนอื่นได้  ต่อให้เป็นชะตาสมาชิกครอบครัวที่เกี่ยวข้องและคนรักของเขาก็ตามก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้  ดังนั้นความล้มเหลวของเขาถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้ว ถูซื่อ! เจ้ายังมองไม่เห็นจุดอื่น  ความจริงก็คือ แม้ว่าเย่ว์ไตตันไม่สำเร็จเป็นเทพราชันย์แต่ก็มีผู้คนมากมายที่ยอมแบกรับชะตาให้เขาสามารถเปลี่ยนชะตาได้ระดับหนึ่ง และจะต้องสำเร็จเป็นระดับเทพแน่นอน  ถ้าเทียนอี้ไม่เคลื่อนไหวลงมือกำจัดการมีอยู่ของเย่ว์ไตตันแล้ว ต่อไปจะฆ่าได้ยากมาก นี่คือเหตุผลที่ข้าขอให้ปลดผนึกเจ้า” ตงฟางให้คำอธิบายที่ครบถ้วน

“เจ้าเป็นกังวลว่าผู้ติดตามเย่ว์ไตตันจะปล่อยเวลาให้เนิ่นนานและปลดผนึกปลดปล่อยเขาหรือ?  นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าบีบบังคับพวกเขาให้ตายทำให้เย่ว์ไตตันถูกผนึกไว้ตลอดกาลไม่มีโอกาสกลับคืนมาใช่ไหม?”  ตอนนี้ถูซื่อเริ่มเข้าใจเล็กน้อยแล้ว

เย่ว์ไตตันไม่สนใจว่าตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เกลียดเขาหรือไม่

เขาจะคงอยู่ตลอดไป ไม่สามารถฆ่าได้

มีมากมายหลายคนที่ร่วมแบกรับพลังชะตา  เขาเกรงว่าแม้แต่เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้

นอกจากนี้เย่ว์ไตตันถูกกำจัดไปอย่างหมดจดสมบูรณ์ไม่มีประโยชน์อะไรต่อการทำให้เทียนอี้เคลื่อนไหว  ตงฟางต้องการให้เย่ว์ไตตันถูกผนึกอยู่ในชั้นหมากลึกลับของเขา  เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้จะไม่มีทางโกรธตงฟางได้ตลอดไป  มิฉะนั้นเย่ว์ไตตันที่อยู่ในผนึกอาจหนีกลับแดนสวรรค์แก้แค้นตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์และเทียนอี้เจ้าตำหนักสูงสุด  มือสังหารเทพถูซื่อเข้าใจความจริงทั้งหมด เขาลอบตื่นตัวระวังในใจ

ถ้าเลือกได้ เขาจะไม่เป็นศัตรูของตงฟางเป็นดีที่สุด

เพราะ

เพราะการคำนวณของคนผู้นี้ลึกซึ้งและร้ายกาจเกินไป!

“เย่ว์ไตตันกำลังจะตกอยู่ในอาการบ้าคลั่ง  แต่เขาไม่ใช่คนที่น่ากลัวที่สุด เจ้าต้องระมัดระวังนางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลี  ข้าคิดว่านางไม่น่าจะเสียสละตัวเองตายเพื่อเย่ว์ไตตัน  เจ้าต้องระวังการลอบโจมตีข้างหลังจากนางให้ดี”  ตงฟางเตือนเป็นครั้งสุดท้าย

“คู่ต่อสู้ของนางคือจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและเจ้าตำหนักสูงสุด....นอกจากนี้ ถ้านางโจมตี ข้าจะหลีกเลี่ยง นั่นจะเป็นการโจมตีที่ไร้ประโยชน์”  ในสายตาของมือสังหารเทพถูซื่อมีประกายเจิดจ้าวูบวาบ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรเลย แต่จิตวิญญาณนักสู้ของเขาเป็นเหมือนภูเขาไฟที่เงียบสงบ อาจระเบิดในเวลาใดก็ได้

“เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ เขาคือคนที่เราต้องระมัดระวังที่สุด!” ตงฟางใช้คำพูดประโยคนี้จบการพูดคุย

ข้อเท็จจริงและข้อสงสัยของตงฟางและมือสังหารเทพถูซื่อ

แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

นางพญาเฟ่ยเหวินหลีไม่มีความคิดจะปกป้องตัวเองแม้แต่น้อย ตั้งแต่ครั้งแรกที่นางกับเขาพบกัน ชีวิตและชะตาของนางเชื่อมโยงกับเย่ว์หยางอย่างใกล้ชิดไม่มีทางแยกจากกันได้เลย

แล้วนางจะห่วงแต่ปกป้องตัวเองได้อย่างไร?

ไม่เพียงแต่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโลกหิมะน้ำแข็งที่นางสร้าง อาวุธเทพและสมบัติเทพต่างๆ อสูรเทพ คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่นางเพิ่งฟื้นฟูมาทั้งหมดล้วนเข้าสนับสนุนแบกรับชะตาสูงถึง 2800 เมตรเพื่อเย่ว์หยาง  ภายใต้การนำของนางอสูรแทบทั้งหมด รวมทั้งอาวุธเทพร่างอสูร อาวุธเทพร่างมนุษย์ล้วนเข้าร่วมเป็นกองกำลังรับพลังชะตาครั้งนี้

เสี่ยวเหวินหลี, ตั่วตั่ว, เจี้ยงอิง, อาหง, อาหมัน, อิคคา, เว่ยหลาย, ภูตฟ้าปั่นป่วน... หนูทองค้นสมบัติ เด็กสาวเผ่ารอยัลไตตันเสี่ยวเสี่ยวเอิน, อสูรโลก, เทาเถี้ย, แมงป่องดาวฟ้า, อสูรกลืนสวรรค์, ... อัญมณีเทพสร้างโลก, สาวจิ้งจอกเก้าหางหลิงหลิง (อสูรของโล่วฮัว) แพนด้าน้อยหนิวหนิว นางพญาซัคคิวบัส รวมทั้งอสูรพิทักษ์ อาวุธเทพ สมบัติเทพ คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย.. ร่วมประสานกับคัมภีร์เทพของยักษ์ชะตา คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ และคัมภีร์อื่นๆ ที่ร่วมกระบวนการ

เย่ว์หยางและเสวี่ยอู๋เสียได้ประสานจิตสำนึกเข้าด้วยกันก่อนนั้นโดยไม่รู้ตัว

ไม่สามารถเห็นเหตุทั้งหมดได้อีก

เมื่อแบ่งพลังชะตาออก ความต้องการของคัมภีร์ทั้งสามที่ไม่ผสานกันเป็นหนึ่งทำให้แย่ยิ่งขึ้นไปอีก  พลังชะตาที่มาจากผู้ติดตามไม่สามารถเข้าไปในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ได้  อย่าว่าแต่กระทั่งพลังเทพที่มารดา แม่สี่, ฝ่าบาทและของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็ยังถูกปฏิเสธ และมีแต่เพียงคัมภีร์เทพจากมิติฝึกฝน ได้รับเอาพลังสนับสนุนของผู้ติดตามและผู้สนับสนุนอย่างอัศวินมังกรไว้

อสูรทั้งหลายอย่างฮุยไท่หลางและอสูรอื่นที่รับภาระชะตา ก็ถูกนำเข้าไปในคัมภีร์เทพมิติฝึกฝน

แต่ระดับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อสูรอื่นติดตามเจ้านายอย่างเจ้าอ้วนไห่ เย่คงและคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ห่าง แต่ฮุยไท่หลางสามารถเข้าไปอยู่ในระหว่างท้องและอกของยักษ์ชะตาได้ ขดตัวอยู่หลับอย่างเกียจคร้านในตำแหน่งหัวใจเหมือนเป็นสุนัขบ้านจอมเกียจคร้านนอนรอคอยเจ้านายกลับเข้าบ้าน

แต่อัศวินมังกรและนักรบเลือดมังกรและอสูรของนักรบตระกูล สำนัก สถาบันต่างๆ ย่อตัวเบียดเสียดอยู่ที่นิ้วเท้าของยักษ์ชะตา มีจำนวนเล็กน้อยที่เบียดขึ้นไปอยู่หลังเท้าและขอบด้านหน้าของนิ้วเท้า  ไม่เพียงแต่อสูรที่เสียสละโดยไม่สมัครใจและนักรบที่สละกำลังเพราะถูกตงฟางล่อลวงก็ไม่ยกเว้น

พวกเสวี่ยอู๋เสียและพวกพ้องเชื่อมโยงใจถึงกันอาบอยู่ในแสงเทพ

พายุพัดรุนแรง

สะพานสายรุ้งรองรับเท้าของพวกเขา  ทั้งคนทั้งคัมภีร์อัญเชิญลอยขึ้นไปด้วยกัน ผ่านคัมภีร์เทพมิติฝึกฝน จากนั้นเลี้ยวตกลงที่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์  ยกเว้นเสวี่ยอู๋เสีย อี้หนานและเย่ว์ปิงที่กลับมาจากการต่อสู้ และมีร่องรอยของพลังชะตาเล็กน้อยที่พวกนางได้รับการยอมรับจากคัมภีร์เทพและได้รับการยอมรับจากคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ คัมภีร์เทพมิติฝึกฝนรอแล้วรอเล่า แต่กลายเป็นเหมือนกับเป็นเข่งไม้ไผ่ที่ใช้ตักน้ำ

ถ้าเย่ว์หยางรู้สึกตัวขึ้นมาตอนนี้ อย่างนั้นเขาคงจะเป็นบ้าแน่

น่าเสียดายที่จิตวิญญาณและสำนึกของเขากลมกลืนไปกับร่างยักษ์ชะตา เขาไม่รู้ว่ารอบๆ ตัวเขาเกิดอะไรขึ้น

มีพลังลึกลับไม่รู้ว่ามาจากที่ใดตัดพลังชะตาหนึ่งกิโลเมตรที่เย่ว์หยางแบกรับซึ่งเป็นขีดจำกัดสูงสุดที่เขารับได้แบ่งออกเป็นสี่สาย ในพลังสี่สายนี้พลังชะตาสูงห้าร้อยเมตรเก็บไว้ในคัมภีร์เทพ สามร้อยเมตรเข้าไปในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ และคัมภีร์เทพมิติฝึกฝนแทบรอไม่ทันดูดซับพลังชะตาขนาดร้อยเมตรทันที

ยังมีพลังชะตาสูงร้อยเมตร แต่ถูกข่มด้วยพลังลึกลับ

แม้ว่าคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์จะรับพลังชะตาไว้เต็มที่ และคัมภีร์เทพมิติฝึกฝนยัมีพลังเทพไม่พอ สถานการณ์ของคัมภีร์เทพมีความต้องการที่เกินคาดเย่ว์หยางไปมาก พลังลึกลับที่มองไม่เห็นยังคงดำเนินการกระจายแผนกำลังที่ไม่ยุติธรรมนี้

ถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้ เย่ว์หยางจะทำได้ไม่สำเร็จ

ภายในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ มีพลังชะตาที่สูงมากกว่าหมื่นเมตร แต่มันกลืนกินเพียงอย่างเดียว และไม่ยอมแบ่งให้คัมภีร์เทพมิติฝึกฝนแม้แต่น้อย คัมภีร์เทพทั้งหมดยินดีจะร่วม  แต่นอกจากเย่ว์หยางแล้ว ทั้งหมดถูกปฏิเสธไม่ให้เข้า แม้แต่เสวี่ยอู๋เสีย อี้หนานและเย่ว์หยางที่ฝึกฝนอยู่ภายในคัมภีร์ ก็มีสัญลักษณ์ที่น่ากลัวอยู่เล็กน้อย

ทุกชีวิตที่สนับสนุนเย่ว์หยาง ล้วนอุทิศตนเองทั้งหมด

รวมทั้งสหาย ทาส บริวารทั้งหมดในโลก

แม้แต่หมิงเยี่ยกวงซึ่งเป็นจอมภพแดนสวรรค์และเป็นคนรักของเขาก็ยังสนับสนุนเขาเพื่อความรัก

ขณะนี้ไม่มีสหายหรือญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้องกับเย่ว์หยางที่จะเข้าร่วมใหม่อีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องมีการสนับสนุนพลังให้เขาในภายหลัง.... ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่สัญญาณแห่งความล้มเหลวจะปรากฏ มีสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับยิ่งกว่าสำนึกเทพศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เสียงร้องหรือเสียงเรียก แต่เป็นเหมือนเสียงเรียกเมื่อนักรบใช้พลังอัญเชิญ... แม้แต่ตงฟางผู้อ้างว่าจัดการกับสถานการณ์โดยรวมและหยั่งรู้ทุกสิ่งได้ รวมทั้งนักสู้ระดับเทพที่บุกรุกหอทงเทียนก็ไม่สามารถตรวจสอบเสียงเพรียกหานี้ได้

แต่หอทงเทียนเงียบสงัดทั้งหมด

ทันใดนั้นมีเสียงตอบสนองคล้ายเสียงก้องสะท้อน

ครั้งหนึ่งเย่ว์หยางเคยผ่านด่านสิบสองนักษัตร  ผ่านด่านกองทัพสามตำหนัก สวรรค์, โลก, มนุษย์  ผ่านด่านวังเบญจธาตุศักดิ์สิทธิ์ และพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์อีกนับไม่ถ้วนต่างสะท้อนก้องตอบรับกัน

เริ่มจากจิตสำนึกนักรบโบราณนับไม่ถ้วนในโลกพฤกษาบันไดสวรรค์ ดูเหมือนจะตื่นขึ้นจากการหลับใหลพร้อมกัน

พวกเขาเต็มใจให้การสนับสนุนพลังชะตาเย่ว์หยางเต็มที่เท่าความสามารถพวกเขาทำได้

มีสถานที่บางแห่ง

ที่เย่ว์หยางไม่เคยก้าวเท้าเข้าไปเลย อย่างเช่นวิหารนำทาง, ระเบียงเวลา เป็นต้น ภายใต้เสียงเพรียกลึกลับและการสนองตอบที่อธิบายไม่ได้ แม้แต่ในแดนสวรรค์หลายภูมิภาคมีการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายกัน  แต่เมื่อเทียบกับการตอบสนองของหอทงเทียน จิตสำนึกนักรบโบราณนับไม่ถ้วนประเภทต่างๆ ทิ้งพลังชะตาที่พวกเขาสนับสนุนไว้แม้ว่าจะไม่มากเท่าสมัยมีชีวิต แต่เนื่องจากมีจำนววนมากมายจึงกลายเป็นมวลพลังมหาศาล  การสนับสนุนของพวกเขาไม่เหมือนเจ้าอ้วนไห่และสหายคนอื่น และพวกเขาไม่ได้รวมเข้ากันกับยักษ์ชะตา  แต่กลายเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มีความพิเศษคอยช่วยเหลืออยู่รอบยักษ์ชะตาตอบสนองความต้องการพลังฝึก

ที่เท้าของยักษ์ชะตา พลังแสงเทพศักดิ์สิทธิ์เริ่มควบแน่นกลายเป็นพื้นที่ต่างๆ

มีวิหารสิบสองนักษัตร และสามตำหนักกองกำลัง มนุษย์ โลก สวรรค์.... โลกพฤกษา

ระเบียงเวลา

ภาพแล้วภาพเล่าปรากฏรายล้อมยักษ์ชะตาและฉายประกายไปรอบๆ คัมภีร์อัญเชิญทั้งสาม

คัมภีร์เทพมิติฝึกฝนเพิ่มพลังจนถึงขีดจำกัด คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ก็เช่นกันเพราะมีพลังลึกลับที่ไม่ธรรมดาเข้ามาเสริม คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เปล่งรัศมีออกมาหลายพันสาย  ก่อนหน้านี้คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ปฏิเสธไม่ให้พลังชะตาบ่าไหลเข้ามา  แต่ไม่มีใครรู้ว่าพลังที่เข้ามาสนับสนุนนั้นสามารถทำให้คัมภีร์เทพชะตาผ่านความต้องการพลังชะตาระดับหมื่นเมตรได้อย่างง่ายดาย

ทั้งหมดเข้าไปผสานรวมอยู่ในร่างยักษ์ชะตา เย่ว์หยางก็ไม่ยกเว้น เขาไม่รู้ว่าข้างนอกนั้นเกิดปาฏิหาริย์อะไรขึ้น

แม้ว่าเย่ว์หยางจะผสานรวมกับยักษ์ชะตาทีละเล็กน้อย แต่เขาพร้อมจะเป็นหนึ่งเดียวกัน

ในพื้นที่ข้างนอก ยังมีพลังชะตาสูงร้อยเมตรที่ยังเป็นอิสระ

และยังถูกพลังลึกลับข่มไว้

ไม่มีใครรู้

ว่าความต้องการที่แท้จริงของมันคืออะไร!

13 ความคิดเห็น:

blakaros กล่าวว่า...

ต้องถามว่าใครแอบช่วยเฮียเย่ว์อยู่ละนั่น

Badly กล่าวว่า...

ลึกลับซับซ้อน ขอบคุณครับ

Deils(of)darK กล่าวว่า...

ผู้เฒ่าที่เตะเจ้าหย่างข้ามโลกมาคงทนดูไม่ได้เลยลงมือช่วยเหลือซะละมั้ง

Sairys กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

CHANTANA กล่าวว่า...

หลอกตงฟางจนเปึ่อย55555(จะได้เวลาตบมัน)

Popcorn กล่าวว่า...

ตาเฒ่าขี่กระบี่บินแน่ๆ

Pcha กล่าวว่า...

ขอบคุนคับ

Unknown กล่าวว่า...

อย่างน้อยก็ต้องมีเฒ่ามังกือปีศาจกับเทียนอี้ไหม เพราะถ้าเท่าที่คิดเทียนอี้อยากถึงนิรันดร์มากเหมือนกันการฝึกเองจะช้ามากๆ แต่ถ้าเข้ารวมกับเย่ว์หยางเขาก็ไม่ต้องเสียเวลาฝึก

Anunaki กล่าวว่า...

นางฟ้าคือใครหล่ะ

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ตงฟาง จะเป็นตัวโกงจริงๆไหมนิ555

ïиƒïиï†ч гє†гч กล่าวว่า...

ลุ้นจริงๆ หอทงเทียนจะล้าวละยังฟิวชั่นไม่ได้

แสดงความคิดเห็น