ตอนที่ 1309 เกลียดมากไม่มีทางหยุดได้
ใจกลางแท่นบูชายัญ
หมอกและฝุ่นม้วนตัวเป็นคลื่น
เงาดำที่ปรากฏขึ้นบนแท่นบูชายัญไม่ขยับเขยื้อน ทำท่าดื่มด่ำเหมือนสุภาพบุรุษ
“นี่ ... นี่เกินไปแล้ว!” ถูว่านหลั่งเหงื่อแทบตาย นี่เขาต้องปรากฏตัวด้วยวิธีเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แบบนั้นด้วยหรือ? อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนชอบเล่นการละเล่น เขาตัดสินใจอย่างลับว่า เมื่อมีโอกาสครั้งหน้าเขาจะทำแบบนี้บ้าง เพราะดูแล้วอลังการเป็นบ้า! ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเขาทำได้อย่างมีสีสันอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับพวกบ้านนอกที่อยู่ข้างหน้านี้เหมือนกับกลายเป็นคนหัวโบราณ
ลมกระโชกพัดแรง หมอกควันที่บดบังสายตาค่อยๆ กระจายและสลายไปตามลม
เงาดำยืนนิ่งอยู่ในกลางพื้นที่ไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
ในที่สุด
ก็ปรากฏสถานะที่แท้จริง
ทุกคนกวาดตามองไม่ว่าจะเป็นมังกรสองหัวกู่อั๋ง ว่านกูซูแห่งเผ่ามังกรฟ้า หรือปีศาจหมีดำ ปีศาจหมูป่าแห่งเผ่านอสูรทมิฬและเผ่าเก้าหัว
แม้แต่คุณชายถูอี้ที่มักจะยิ้มและคงความสง่างามไว้เสมอ เขาข่มความสงสัยอยากรู้อยากเห็นและความตกใจมองไปที่กลางพื้นที่ด้วยความสงสัยและตรวจสอบ เป็นครั้งแรกที่เขาอยากเห็นผู้แข็งแกร่งซึ่งปรากฏตัวบนกลางแท่นบูชา เขาต้องการเห็นเย่ว์ไตตันอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งแห่งหอทงเทียนที่ยังดึงดันต่อสู้กับเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางจนถึงที่สุด
หลังจากฝุ่นจางลงเงาร่างนั้นปรากฏต่อหน้าทุกคน แต่ไม่ใช่เย่ว์ไตตัน
เป็นหมาสีทองแดงสกปรกตัวหนึ่ง
มันเป็นหมาที่ดูแย่มากๆ หากมองเพียงครั้งเดียวแล้วไม่รู้สึกอยากทุบตีมันอีก ผู้เห็นคงจะรู้สึกเสียอกเสียใจหากไม่ได้ทุบตีมัน
มันยืนตัวตรงอยู่ในพื้นที่เหมือนมนุษย์ชูเท้าหน้าทั้งสองเหมือนกำลังประกาศชัยชนะ เหล่ตามองด้วยความเย่อหยิ่งลำพองเหมือนเจ้านายชั้นสูงโอ้อวดศักดิ์ฐานะดูถูกเหยียดหยามคนบ้านนอก ใครที่เห็นมันล้วนแต่อยากจะเอาหมัดซัดหน้าของมันด้วยความหมั่นไส้ แม้จะไม่ได้มีป้ายเขียนห้อยไว้ แต่สีหน้าของมันคล้ายจะประกาศว่า ‘ตกใจอะไรกันนักหนา พวกเจ้าไม่เคยเห็นคน (หมา) หล่อมาก่อนในชีวิตหรือไง’ และเหมือนกับซึงหงอคงที่ดีใจได้เสาค้ำสมุทรมาเป็นพลองอาวุธคู่ใจ
โชคดีที่นอกจากเย่ว์หยางแล้วไม่มีคนข้ามมิติคนที่สองในโลกนี้
ไม่เช่นนั้นเมื่อเห็นภาพนี้แล้ว เขาคงโวยออกมาแน่นอน ‘เจ้าโง่! ความซื่อสัตย์ของเจ้าเอาไปทิ้งไว้ที่ไหน!’
แน่นอนว่าเจ้าสุนัขขราคาต่ำนี้ไม่ต้องพูดถึง ยังมีจอมงี่เง่าอันดับหนึ่งอีกคนหนึ่งก็คือเจ้างี่เง่าไห่ต้าฟู่ ถ้าเป็นเพราะเจ้าตัวข้างหน้านี้มิได้เป็นสุนัข อาจมีคนสงสัยว่ามันเป็นพี่น้องกับเจ้าอ้วนไห่ก็เป็นได้
“หมา? หมาหรือนั่น?” รอยยิ้มของถูอี้รูปงามค้างเหมือนกับลาวาภูเขาไฟที่เย็นตัวลงกะทันหัน
“........”
มังกรสองหัวกู่อั๋งและว่านกูซูกับคนอื่นที่เหมือนกับตายไปครึ่งหนึ่ง รู้สึกเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
นี่พวกเขากลัวกับการปรากฏตัวของหมาตัวหนึ่งหรือนี่?
ไม่มีทาง
ถ้าพูดเรื่องนี้ออกไปคงอับอายยันโลกแตก ทำแบบนี้ยังกล้าสู้หน้าผู้คนได้อีกหรือ? เจ้าหมาตัวนี้โผล่มาจากไหน? เจ้าหมาชั้นต่ำนี้จะเจียมเนื้อเจียมตัวสักหน่อยไม่ได้หรือ? การกินอุจจาระเป็นหน้าที่ของมัน นี่มันบังอาจหมายปองเนื้อล่ำและกระดูก เจ้านายของมันต้องถูกฆ่าทั้งเป็น ถึงกล้าใช้หมาสวะแบบนี้? บังอาจใช้พลังระเบิดให้พวกเขากลัวอย่างนั้นหรือ?
ฮ่าฮ่าฮ่า ดี ดี! หน้าอย่างนี้ดูเท่มาก เยี่ยมสมกับเป็นกลุ่มนักสู้ปราณฟ้า เยี่ยมสมกับเป็นนักสู้ระดับเทพ! ปรากฏว่าตกใจกลัวหมาสกปรกตัวหนึ่งของหอทงเทียน! ฮ่าฮ่าฮ่า อะไรกัน นักสู้แดนสวรรค์ ยังสู้หมาตัวหนึ่งไม่ได้ ไม่ ไม่มีอะไรเหลวไหลไร้สาระยิ่งกว่านี้อีกแล้ว” ตอนแรกคนพวกนี้แสดงสีหน้าฉงนและอิจฉา ต่อมาก็หัวเราะอย่างไม่ยั้ง
ตอนแรกกลั้นหัวเราะ
พอเริ่มหัวเราะก็ไม่อาจหยุดยั้งได้
พวกเขางอตัวลงกับพื้นใช้มือทุบพื้นด้วยความสะใจ หัวเราะจนน้ำตาไหล แต่ก็ยังรู้สึกยากจะเข้าใจ
ที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือเจ้าหมาราคาต่ำเดินออกมาจากกลางลานบูชายัญ และผายลมอีกครั้งหนึ่ง
เสียงผายลมนั้นดังมาก
มันหมุนตัวหันก้นไปทางเทพสังหารถูว่าน
และผายลมเสียงดังยาวดังยิ่งกว่าหวูดรถไฟตอนลอดอุโมงค์เป็นร้อยเท่า แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลแต่ว่าถูว่านกับคนอื่นถูกลมจากการผายลมเป่าใส่หน้า นี่เป็นเรื่องที่น่าหดหูใจยิ่งกว่าคนแก่ถูกขืนใจ
“ตาย! แกต้องตาย!” จางหู่ที่อารมณ์ไม่ดีทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาต้องการเข้าไปฉีกเจ้าหมาบ้านี่ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
แต่ก่อนที่เขาจะทันเคลื่อนไหว
บางทีไม่ถึงหนึ่งในร้อยวินาที
ด้านหลังสุนัขมีคนปรากฏเพิ่มอีกคนหนึ่ง
ทันทีที่เขาปรากฏด้านหลัง เขาเตะโด่งเจ้าสุนัขนั่นกระเด็นออกไปจนหายกลายจุดเล็กๆ
เมื่อสุนัขนั้นร่วงลงมาจากท้องฟ้า มันกระแทกกับพื้นแท่นบูชายัญอย่างรุนแรงจนแผ่นดินสั่นสะเทือน
ความโกรธยังไม่หายไป
เขายกเท้า
และย่ำใส่สุนัขตัวนั้นอย่างไร้เหตุผล
“ข้าสั่งให้แสดงเรื่องสนุกๆ แต่เจ้าบังอาจตดใส่หน้าข้า ข้าบอกให้เจ้าหลบไป ไอ้เจ้าหมาตาบอด แต่เจ้ากลับแย่งบทเด่นบนเวทีของข้า! ในฐานะแบบอย่างอันดับหนึ่งของหอทงเทียน ฝ่ากระแสวุ่นวายของโลก บุรุษผู้ขับเคลื่อนบรรยากาศของโลกทำให้ชาวโลกจับตามองและสาวๆ ต้องกรี๊ดกร๊าดร้องวิ่งตาม แต่เจ้าพยายามแย่งบทเด่นของข้าผู้เป็นนายหรือ? ถ้าสาวๆ ทั้งหมดมองมาที่เจ้าตัวเดียวแล้วใครจะรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่ไร้เหตุผลนี้? เป็นเพราะเจ้ามีบทน้อยก็เลยคันเนื้อคันตัวใช่ไหม? เป็นแค่หมาเฝ้าบ้าน แต่แทนที่จะรู้จักนอบน้อมถ่อมตัวให้สมฐานะ กลับแย่งบทเด่นของเจ้านาย นั่นเท่ากับกำลังหาที่ตาย!” ขณะนั้นพวกเขาเห็นบุรุษคนหนึ่งเดินตามออกมาด้านหลังมีภาพลักษณ์กักขฬะหยาบกร้าน เหมือนกับอันธพาลข้างถนนมากกว่า
มีภาษิตของชาวแดนสวรรค์ผุดขึ้นมาในใจทุกคน ‘นายเป็นเช่นใด บ่าวก็เป็นเช่นนั้น’
ในทางกลับกันก็เหมือนกัน
บ่าวแสดงออกอย่างไร นายก็แสดงออกอย่างนั้น
มีการใช้สายลมเพื่อครอบงำตบตาคนที่เห็น ขนาดสุนัขยังน่าอายขนาดนี้ เจ้านายจะน่าอับอายขนาดไหน
เป็นไปได้ไหมว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คือคนที่เอ่ยก็อาจทำให้ผู้คนระอาจนตาย ทั้งเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของหอ ทงเทียน เย่ว์ไตตันผู้ทรงพลังหรือไม่?
ถูว่านในฐานะเทพ และคุณชายถูอี้เป็นต้น หลายคนอย่างมังกรสองหัว ว่านกูซูเคยเห็นเย่ว์ไตตันมาก่อน พวกเขายืนยันว่าใช่ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือบุรุษหนุ่มที่ปรากฏตัวออกมาก็ทุบตีสัตว์เลี้ยงของตนเองก็คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ หรือเย่ว์ไตตันที่ตงฟางและทุกคนหาตัวไม่พบ
ถูว่านหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
เย่ว์ไตตันผู้นี้คือคนที่ตงฟางยังรับมือไม่ได้อีกหรือ?
อ่อนแอขนาดนี้มีชีวิตยืนยาวมาได้อย่างไร? พลังของเจ้าเด็กนี่แย่กว่าคำที่ร่ำลือกันเสียอีก
“โฮ่ง โฮ่ง (ข้าสัญญาว่าจะเชื่อฟังแต่โดยดี!)” ฮุยไท่หลางเปลี่ยนบุคลิกทันที มันเชิดหน้ากระดิกหางดีใจ เหมือนกับจะสัญญาว่ามันจะทำตัวเป็นสุนัขที่ดี เป็นสุนัขในอุดมคติ มีความรู้คู่คุณธรรมและอยู่ในระเบียบวินัยอันดีงาม
“เฮอะ, เจ้าต้องเล่นให้น้อยลง!” เย่ว์หยางไม่หยุด เขาทุบตีจนพอใจ
“เจ้านายต้องชนะ” ฮุยไท่หลางรีบประจบจากนั้นทำท่าทางใหม่
“ไสหัวไปจากนี่!” เย่ว์หยางไม่คล้อยตาม
“ที่แท้เจ้าก็คือเย่ว์ไตตันนี่เอง ด้วยพลังระดับเจ้ายังไม่มีคุณสมบัติพอเป็นพนักงานเก็บขยะบนแดนสวรรค์ ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ท่านตงฟางและท่านถูซื่อผู้ยิ่งใหญ่กับนักสู้แดนสวรรค์บน ทำไมพวกเขาถึงได้มองเจ้าแตกต่างออกไป?” มนุษย์เผ่าแมลงที่ยืนอยู่หลังคุณชายถูอี้นามว่าจางหลางอดแค่นเสียงเยาะเย้ยไม่ได้
“จางหลาง! บางทีคุณชายเย่ว์ไตตันอาจมีทักษะแฝงเร้นเฉพาะตัวเอง จะไปมองแค่เรื่องพลังของเขาอย่างเดียวได้อย่างไร? ในแดนสวรรค์มีผู้รู้คงแก่เรียนอยู่มากมาย แต่สถานะของพวกเขาสูงส่งเกินกว่านักรบระดับเดียวกันมากมาย บิดาข้าและคนอื่นๆ ก็ยังให้เกียรตินับถือ บางทีทักษะอัจฉริยภาพของคุณชายเย่ว์ไตตันอาจเป็นไปในทำนองนี้ก็ได้” คุณชายถูอี้เทพรุ่นสองของตระกูลกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ใบหน้าที่แข็งกระด้างเหมือนกับหินภูเขาไฟ พอยิ้มได้ก็เหมือนกับสายลมพัดในฤดูใบไม้ผลิ
“ข้าเกรงว่ามันคือขยะจริงๆ ข้างในกลวงว่างเปล่ามีแต่ก้อนฟาง” จางหลางแค่นเสียงเยาะเย้ย
“ฮ้าด..เช้ย!” เย่ว์หยางได้ยินแล้ว เขาทำจมูกฟุดฟิดและจามเสียงลั่น
เขาดีใจ
เขาทำสีหน้าประมาณว่า ‘ไม่ว่าสาวคนไหนก็คิดถึงเขาทั้งนั้น’ ก่อนที่เขาจะจามเป็นครั้งที่สองและเปลี่ยนสีหน้าทำนองว่า ‘มีคนแอบนินทาลับหลัง’ เย่ว์หยางคลำจมูก ผลของการจามสองครั้งต่างกันโดยสิ้นเชิง ครั้งแรกแสดงว่าสาวๆ กำลังคิดถึง ครั้งที่สองแสดงว่ากำลังด่าเขาลับหลัง ขณะที่เย่ว์หยางหันกลับไปทางคุณชายถูอี้และมนุษย์แมลงจางหลางเตรียมพูดคุยสนทนา เขาจามออกมาเป็นครั้งที่สาม
ฮ้าด..เช้ย
แล้วจามสามครั้งติดกันหมายความว่ายังไง? อืม..สงสัยจะเป็นหวัด!
เย่ว์หยางรีบกล่าวขอโทษคุณชายถูอี้และจางหลาง “ข้านึกว่าพวกเจ้าแอบนินทาลับหลังข้า นึกไม่ถึงเลยว่าข้าจะเป็นหวัด! ขอโทษจริงๆ แต่เจ้าช่วยคุยให้ดังขึ้นสักนิดได้ไหม เห็นว่าพูดคุยถึงขยะอะไรสักอย่าง พูดกับข้าตรงๆ ได้ไม่ต้องเกรงใจ ข้าเป็นเด็กดีมาตลอด ไม่เคยสร้างเรื่องใส่ร้ายผู้ใด แน่นอนว่าพวกเจ้าอาจจะชอบ เพราะว่านั่นคืองานอดิเรกของพวกเจ้า ข้าไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนในโลกนี้มีสมองเหมือนกับเจ้า มันก็สมเหตุผลดีแล้ว ถ้าเจ้าไม่ปัญญาอ่อน ก็คงไม่รู้หรอกว่าสติปัญญาของข้าเหนือกว่าแค่ไหน!”
รอยยิ้มของเทพถูอี้เทพรุ่นที่สองค้างเติ่งเหมือนหินลาวาที่เย็นตัวลง
ทุกคนตะลึง
ปากอ้าตาค้าง
คนเผ่าเก้าหัวทั้งห้าคนฝืนยิ้มให้กัน และมั่นใจว่านี่คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ที่แม้แต่ตงฟางยังปวดเศียรเวียนเกล้ากับเขา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่วาจาเชือดเฉือนก็ทำให้หลายคนอึดอัดใจได้
มนุษย์เผ่าแมลงสาบจางหลางตัวสั่นด้วยความโกรธ ขณะที่เขาเตรียมพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางที่ทำตัวเด่นเท่กว่าเขา จางหู่แมลงปีกแข็งชิงลงมือก่อน เขาใช้มีดแสงที่ตัดได้กระทั่งมิติโจมตีสังหารทันที
ในพื้นที่นั้น เย่ว์หยางอดตื้นตันใจไม่ได้
ในที่สุดก็ได้ลงมือเสียที!
จากในตอนแรก
เขาเกรงว่าเมื่อตอนที่เขาปรากฏตัว เขากลัวว่าศัตรูจะหนีกระเจิงโดยไม่ยอมสู้ ตอนนี้เขาสบายใจแล้ว และยั่วให้ศัตรูโกรธ มาเถอะ เราคุณชายแทบจะรอไม่ไหวพร้อมจะทุบตีลงมือให้สมอยาก พวกเจ้าพร้อมจะร้องไห้หรือยัง พวกเจ้าไม่ควรมาทำตัวไร้มารยาทกับเราคุณชาย มาสู้กันเลย ข้าไม่เกี่ยงจะต้องสู้กันนานแค่ไหน
ถ้าคนที่บุ่มบ่ามใจร้อนที่อยู่เหนือหัวเราะยินดีรับ เย่ว์หยางพร้อมจะมอบรางวัลศัตรูยอดนิยมให้กับเขา
หรือ รางวัลศัตรูดีเด่น!
เมื่อคนที่อยู่ในเหตุการณ์ลังเล พวกเขากระโดดถอยออกไปและมองดูอย่างเย็นชา
เขามีความตั้งใจอะไรกันแน่
หรือว่านี่คือจิตวิญญาณการอุทิศตนในตำนาน
นั่นคือความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ‘เราไม่ลงนรก แล้วใครจะลงนรก!’
เย่ว์หยางตื่นเต้นมาก จนอดตะโกนตื่นเต้นมิได้ ‘บ้าจริง ต้องคงความเกลียดนี้ไปเรื่อยๆ อย่าได้เลิกรา!”
16 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ขอบคุนคับ
ขอบคุณครับ
เรื่องยั่วโมโหนี่ยกให้ ทั้งคนทั้งหมา55
กวนจริงๆ 555++
หมากับเจ้านายนี้สฺดฯจริงฯ
ตอนนี้พี่ฮุ่ยน่าจะแดกเทพได้สบายๆละ
จะฮาไปไหน
ใกล้ล่ะๆเริ่มดุเดือดล่ะ
บทเปิดตัวที่ไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ลูกพี่กับลูกน้องอยู่ด้วยกัน ฮาตลอด
สรุปไม่ใช่เฮียเย่ยังไม่ทันทำอะไรเฮียฮุยกระโดดงับแมลงจนหมดนะ
เป็นอันว่าไอ้แมลงสาบหมาคาบไปแดก ไอ้ฮุนโดนเตะอีกรอบ โชว์ว่ามีแต่เฮียเย่คนเดียวที่ทำร้ายร่างกายหมาได้ โชว์โหดยาวๆ
ยั่วเพื่อไม่ให้หนีจะได้เก็บรวดเดียวชัดๆ
แสดงความคิดเห็น