วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1322 วงกตมิติเวลา

 

ตอนที่  1322  วงกตมิติเวลา

ฮุยไท่หลางปรากฏตัว

 

มันคลานมาอยู่ที่เท้าของเย่ว์หยางอย่างเฉื่อยชาราวกับว่านอนหลับมาสิบแปดคืน น้ำลายหยดเป็นทาง

บางทีมันอาจรู้สึกได้ถึงสายตาแปลกๆ รอบตัวจับตามองดูมัน มันอ้าปากหาวเบื่อหน่ายกางเล็บอุ้งเท้าทั้งสองข้างยืดตัวบิดขี้เกียจเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน พอเห็นเจ้านายก็กระดิกหางดีใจ และใช้หางปัดทำความสะอาดรองเท้าให้เย่ว์หยางแสดงให้เห็นว่ามันขยันขันแข็งกระตือรือร้น

จักรพรรดิอสูรขมวดคิ้ว  แต่เขาเห็นตงฟางขับไล่หมาป่าปีศาจล้างโลกตัวนี้ออกไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับโลกกระดานหมากรุก?

แม้ว่าเจ้าผู้นี้จะมีความสามารถเพิกเฉยต่อม่านพลังป้องกันและเดินผ่านมิติเวลาได้

แต่ก็ควรจะอยู่ที่บันไดสวรรค์ชั้นห้า

เป็นไปไม่ได้กับการมาถึงแดนสวรรค์นี้ เจ้าสุนัขตัวนี้ผ่านเข้ามาในโลกกระดานหมากรุกโดยไม่ได้รับอนุมัติจากตงฟางได้อย่างไร?  ที่น่าสงสัยที่สุดก็คือสุนัขตัวนี้เข้ามาโดยที่ตงฟางเจ้าของโลกกระดานหมากรุกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ   ราชันย์ไร้พ่ายเข้ามาก็ต้องทิ้งหมากแลกเปลี่ยนกับหมากลับที่ได้จัดเอาไว้ก่อน  เย่ว์ไตตันไม่สามารถกำจัดโลกกระดานหมากรุกได้  เขาเองยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎต่างๆ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาเรียกหมาป่าปีศาจล้างโลกเข้ามาช่วยได้?

อย่างไรก็ตามนี่ก็คือข้อเท็จจริงหนึ่ง

ตงฟางจะไม่ทำผิด

กฎของโลกกระดานหมากรุกไม่ผิดพลาด อย่างนั้นมีจุดผิดปกติตรงไหน?

หรือว่าเป็นการลงมือโจมตีของมังกรปีศาจ?  ได้ทำลายโลกกระดานหมากรุก? หรือว่าเย่ว์ไตตันมีความสามารถพิเศษสามารถผ่านกฎสวรรค์ได้

“บึ้ม บึ้ม บึ้ม...”  มังกรปีศาจโจมตีน้อยลงเรื่อยๆ ไม่ถี่เหมือนเมื่อก่อน และบาดแผลบนร่างกายก็เพิ่มมากขึ้น ตอนนี้ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางเท่านั้น แต่ผู้ชมดูทุกคนเข้าใจ คนที่อยู่ด้านหลังมังกรปีศาจจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งคอยโจมตีมังกรปีศาจอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำลายโลกกระดานหมากรุก

คนผู้ทำร้ายและสร้างบาดแผลให้กับมังกรปีศาจได้คือใครกันแน่?

เจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้?

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ?

นอกจากสองคนนี้แล้ว ทั่วทั้งแดนสวรรค์บน เกรงว่าจะไม่มีใครที่มีความสามารถมากกว่า

ปัง!  โลกกระดานหมากรุกเหมือนกับจะพังทลายด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ ท้องฟ้าแตกแผ่นดินแยกมิติเวลาอันไกลโพ้นมีมือสีทองขนาดใหญ่ซึ่งทะลวงสิ่งกีดขวางทะลุผ่านเข้ามา มันยาวราวๆ สองสามกิโลเมตร

มือทองขนาดใหญ่อยู่ระหว่างพื้นดินและพื้นฟ้าพยายามควานหาอยู่สองสามครา

ดูเหมือนจะมองหาเย่ว์หยาง

อย่างไรก็ตามมันไม่สามารถหาตำแหน่งที่ถูกต้องของเย่ว์หยางได้ มันพยายามควานหาอยู่หลายสิบครั้งขุดเอาภูเขา แม่น้ำจนอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง

ทุกคนมองดูเย่ว์หยางด้วยความสงสัย  ดูเหมือนพวกเขาไม่เข้าใจทำไมเขาถึงไม่ยอมรับหรือเข้าใกล้มือยักษ์ทอง แม้ว่าจะมีตงฟางอยู่ก็ตาม แต่ไม่น่าประสบความสำเร็จ แต่การพยายามก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่หรือ  เย่ว์หยางยืนอยู่เงียบๆ ราวกับว่าเขาไม่เห็นมือใหญ่ที่ควานหาเขาอยู่ข้างหน้า  และราวกับว่าเขาไม่เห็นมือทองที่เต็มไปด้วยบาดแผลกำลังมองหาตัวเขาอย่างดึงดัน...  ดูเหมือนว่าจะมีพลังเทพที่มากกว่ากำลังลากเขาออกไป

นิ้วทั้งห้าปักลึกลงไปในดิน แต่ยังไม่สามารถต้านทานแรงฉุดข้างหลังได้

โลกกระดานหมากรุกถูกขุดเป็นรอยนิ้วห้าสายเหมือนมีการไถพรวนเป็นร่องลึกอย่างน้อยร้อยเมตร ไม่ว่าเป็นภูเขาหรือแม่น้ำต่างก็พังทลาย และแตกเป็นเสี่ยง  แขนสีทองถูกบังคับว่าจะต้องออกไปจากโลกกระดานหมากรุก

ใช้เวลาห้านาที

มือนั้นก็ถูกพลังที่เหนือกว่าฉุดลากออกมา

“ทำไมเจ้าไม่ถือโอกาสจากไป? นั่นคือโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว!  เด็กหนุ่มอสูรผู้ดื้อด้านคำรามใส่เย่ว์หยางอย่างกราดเกรี้ยว

“......” จักรพรรดิอสูรยังคงเงียบและคิดถึงปมข้อต่อที่เขายังไม่เข้าใจ

เย่ว์หยางไม่สนใจคำถามของเด็กหนุ่มอสูรผู้ดื้อด้าน เขาแค่ยื่นมือลูบขนที่คล้ายเปลวไฟที่หน้าผากของฮุยไท่หลางเบาๆ สำหรับสุนัขเฝ้าบ้านตัวนี้เขาไม่เคยทำดีใส่มัน เป็นที่รู้กันดีว่าเย่ว์หยางมักต่อยและเตะฮุยไท่หลาง ที่ไหนจะมีวันดีๆ เช่นนี้ได้?

ฮุยไท่หลางพริ้มตาลงมีความสุขกับการสัมผัสครั้งนี้

มันกระดิกหางด้วยความพอใจ

หนึ่งคน และหนึ่งสุนัข

ดูเหมือนว่าจะมีสัมผัสทางวิญญาณทางบางอย่างโดยไม่สนใจสิ่งที่อยู่ภายนอก

ตงฟางเงียบอยู่นานโดยไม่พูดอะไร  จนกระทั่งจ้าวภูผากระแอมและถาม “เย่ว์ไตตัน เจ้าพบเห็นมันได้อย่างไร?”

“ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่ยอมให้มังกรปีศาจรู้ว่าโลกกระดานหมากรุกอยู่ที่ไหน  ต่อให้ถูกค้นพบ ก็จะไม่ยอมให้เขาโจมตีทำลาย  นอกจากนี้ข้าเชื่อว่าในโลกนี้นอกจากโลกคัมภีร์อัญเชิญแล้ว ไม่มีโลกพิเศษไหนที่มังกรปีศาจทำลายไม่ได้  เจ้าไม่ยอมทำผิดพลาดแบบนี้ได้  ดังนั้นข้ามั่นใจว่าสิ่งที่ข้าเพิ่งเห็นเป็นภาพลวงตา กับดักและอื่นๆ”  เย่ว์หยางยิ้ม  รอยยิ้มของเขาทำให้หลายคนอึดอัด

“แต่ภาพมังกรปีศาจเป็นของจริง ทุกอย่างเป็นของจริง รวมทั้งมือที่ยื่นเข้ามาให้เห็นก็เป็นของจริง!” ตงฟางยังคงไม่เข้าใจ

“ถูกแล้ว ข้าไม่ได้บอกว่ามังกรปีศาจเป็นตัวปลอม” เย่ว์หยางพยักหน้า

“แล้วทำไม เจ้าจึงยังสงสัย?”  ตงฟางทึ่ง

“อะแฮ่ม!  บางทีเจ้าคงลืมไป ฝ่าบาทหัวซิ่วรี่มีทักษะมิติลวงอยู่กับตัว ก่อนนั้นข้าไม่ได้เรียนรู้มามากนัก แม้แต่วงกตมิติเวลาที่ตงฟางเจ้าสร้างขึ้นและบางคนอาจเป็นของจริง แต่ยังไม่อาจเทียบได้กับมิติลวงของฝ่าบาท” นี่คือเหตุผลสำหรับเย่ว์หยาง

“องค์หญิงเย่เมิ่ง (ฝ่าบาท) เพื่อเจ้าแล้วถึงกับยอมตื่นนิทราและยอมสละชีวิตได้  ทำให้ข้านึกไม่ถึงจริงๆ ดังนั้นข้าถึงบอกว่าเจ้าโชคดีมาก เมื่อใดก็ตามที่ถึงช่วงเวลาสำคัญจะมีคนลุกขึ้นมาช่วยเจ้าทั้งที่เป็นการเสียสละโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน...นี่คือเรื่องที่ข้าอิจฉาเจ้ามากที่สุด  ข้าพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำการสู้รบ  แต่น่าเสียดายที่ข้ายังทำไม่สำเร็จ น่าเสียดาย!  ตงฟางถอนหายใจด้วยความรู้สึกเสียใจ

“อย่างน้อยมังกรปีศาจ เจ้างี่เง่านั่นก็ถูกหลอกได้ เจ้าสมควรพอใจได้แล้ว” เย่ว์หยางแค่นเสียง

“ในเมื่อเจ้าไม่ได้ถูกหลอก อย่างนั้นข้าจะเผยไพ่ในมือข้า!  เสียงของตงฟางค่อยๆ แผ่วเบาลงห่างไกลออกไปทุกที  “บางทีเจ้าคงจะคาดเดาหมากลับชิ้นต่อไปของข้าได้แล้ว  แม้ว่าเจ้าจะรอให้ข้าล้มเหลวพลาดท่า เพื่อให้เราต่อสู้ขั้นสุดท้ายก็ตาม ก็ได้ งั้นเรามาเริ่มสู้กันในศึกสุดท้าย!

โลกกระดานหมากรุกเริ่มเปลี่ยนไปทันที

แสงเทพนับไม่ถ้วนฉายออกมา

ย้อมโลกให้มีสีสันงดงาม

ท้องฟ้าที่สดใส ไม่รู้ว่ากลับมีหน้ากากโปร่งใสลอยให้เห็นตั้งแต่เมื่อใด

โลกถูกแบ่งออกเป็นทีละส่วนแยกกัน  แต่ละส่วนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตอิสระ และโดยผ่านการเชื่อมต่อด้วยคำสั่งบางอย่าง เชื่อได้ว่านอกเหนือจากผู้สร้างเดิมอย่างตงฟางแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่ใครจะมีเข้าใจความลึกลับนี้  การเชื่อมต่อที่ซับซ้อนและพิเศษเหล่านี้แม้แต่เจ้าของแห่งโลกกระดานหมากรุก ก็ไม่สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกวินาที

เนื่องจากกระบวนการของโลกกระดานหมากรุก มีการเพิ่มพลังเทพบางอย่างที่ไม่มีใครรู้จัก แต่กว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุด

มันคือพลังเหนือธรรมชาติ

จากโลกกระดานหมากรุกเปลี่ยนแปลงเป็นโลกที่หลากหลายที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ดูสงบ

“บางทีเจ้าอาจเห็นชัดเจน บางทีเจ้าอาจสับสน  เย่ว์ไตตัน!  ก็อย่างที่เจ้าเห็น นี่คือของขวัญอย่างดีที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้า  ถ้าเจ้าสามารถทำลายมันได้ ข้าจะยอมรับและไม่มีอะไรจะพูด  มาเถอะเย่ว์ไตตัน หนุ่มน้อยผู้โชคดี มาเล่นเกมของข้าเถอะ!  ถ้าเจ้าสามารถหาข้าพบได้ภายในสิบวันข้าจะปล่อยเจ้าออกจากโลกกระดานหมากรุกของข้า  แต่ถ้าเจ้าหาข้าไม่พบหลังจากผ่านไปสิบวัน ก็เสียใจด้วย โลกกระดานหมากรุกของข้าเชื่อมต่อกับบันไดสวรรค์ หอทงเทียนและระเบียงเวลาของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ มันจะระเบิดและพังทลายลง  แน่นอนว่าจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ทันที มันจะทำลายทุกอย่างที่เชื่อมต่อ  บางทีเจ้าที่เพิ่งได้เลื่อนเป็นระดับเทพอาจจะอยู่รอดต่อไปได้  แต่สิ่งที่เจ้าเคยครอบครองจะไม่มีอยู่อีกต่อไป!” เสียงของตงฟางเบาลงๆ ราวกับว่าถูกแยกออกจากกันในโลกหลายๆ ใบในมิติเวลา

“เจ้าทำแบบนี้จะมีประโยชน์อะไร?”  เย่ว์หยางส่ายศีรษะมึนงง

“เมื่อข้าไม่ได้มันมาครอง ข้าก็ต้องทำลายมัน” ตงฟางตอบ

“แม้ว่าต้องเดิมพันด้วยชีวิตน่ะหรือ?” เย่ว์หยางถามอีกครั้ง

“นี่คือนิสัยของข้าตงฟาง ข้าคือเทพที่มีอิสระ มีประกายเทพ”  เสียงของตงฟางแทบไม่มีใครได้ยิน และในที่สุดก็จางหายไป

ตงฟางจากไปแล้ว

เขาไม่รู้ว่าไปไหน

อย่างไรก็ตามสำหรับเย่ว์หยางนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้

บางทีอาจเป็นราชันย์ไร้ใจ บางทีอาจเป็นเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ บางทีอาจเป็นทั้งสองคนลงมือพร้อมกัน  ตงฟางใช้วิธีการลับบางอย่างเพื่อสร้างโลกกระดานหมากรุกเชื่อมกับบันไดสวรรค์ หอทงเทียนและระเบียงเวลาของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพรวมทั้งที่อื่นๆ จากนั้นก็นับเวลาถอยหลังสิบวัน...

ทำไมต้องสิบวัน เย่ว์หยางยังคงไม่เข้าใจ

อาจเป็นเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ใช้เวลาที่จำกัดเปิดแดนล่มสลายแห่งทวยเทพเข้าไปในระเบียงเวลา หรือให้จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อใช้เวลาที่สั้นที่สุดเอาชนะมังกรปีศาจซึ่งยังไม่ฟื้นฟูพลังสูงสุดหรืออาจเป็นเหตุผลอื่น

อย่างไรก็ตาม ตงฟางบอกว่าให้เวลาสิบวันต้องมีเหตุผล เขาไม่สงสัยความจริงเรื่องนี้

ในเวลาเพียงสิบวันจะให้เขาผ่านวงกตมิติเวลาที่วิวัฒนาการมาจากโลกกระดานหมากรุกของตงฟาง และพยายามหยุดยั้งเขาด้วยพฤติกรรมที่น่าระอาบ้าคลั่งเช่นนี้ได้อย่างไร?  มีจางเว่ย ถูซื่อ จ้าวภูผาและราชันย์ไร้พ่ายตามด้วยอีกสองคนที่ยังไม่ปรากฏตัวอย่างราชันย์ไร้ใจและเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้  นักสู้ระดับเทพเหล่านี้คอยขวางทางเขาอยู่  เขาจะบุกฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปได้อย่างไร?

ศึกครั้งนี้นับว่าน่าปวดหัวจริงๆ!

ในที่นั้น ไม่มีการรอให้เย่ว์หยางตัดสินใจ ไม่รู้ว่าจางเว่ยแยกออกไปอยู่ในมิติเวลาอื่นตั้งแต่เมื่อใด เสียงหัวเราะค่อยๆ ดังห่างออกไป  “เย่ว์ไตตัน จงสนุกกับสิบวันสุดท้ายนี้ให้ดี!  เจ้าต้องการให้ข้าบอกใบ้ให้หรือเปล่า?  เด็กน้อยผู้น่าสงสาร, ถ้าเจ้ารู้ว่าวงกตมิติเวลามีมากกว่าพันโลก  แม้จะได้คำแนะนำก็ต้องใช้เวลาหนึ่งปีในการสำรวจ เจ้าจะกลัวจนฉี่ราดหรือเปล่า?  แม้แต่ข้าจางเว่ยยังเลิกคิดใช้ประตูสวรรค์ของข้า  ข้าหวังว่าเจ้าคงจะมาอยู่ต่อหน้าข้าได้ทำให้ข้ามีความสุขหรอกนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”

เย่ว์หยางมองดูรอบๆ และพบว่าถูว่าน ถูซื่อ จ้าวภูผา ราชันย์ไร้พ่าย ฯลฯ ถูกแยกไปอยู่ในโลกต่างๆ และค่อยหายไปต่อหน้าต่อตาเขา

แต่สำหรับผู้ชมดั้งเดิมรวมทั้งจักรพรรดิอสูร

ยังอยู่ฝ่ายเขา

เมื่อเด็กหนุ่มอสูรผู้ดื้อด้านเห็นเย่ว์หยาง เขาเดินเข้ามาหา  “ข้าผู้นี้คันไม้คันมืออยากจะช่วยเจ้าด้วย!

แต่สิ่งที่แปลกก็คือไม่ว่าเขาจะเดินอย่างไรก็ไม่สามารถเดินไปอยู่ข้างเย่ว์หยางได้ แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างเย่ว์หยางนิ้วครึ่งก็ตาม แต่เขาไม่สามารถสัมผัสร่างกายเย่ว์หยางได้ ดูเหมือนว่าจะมีมิติว่างเปล่าขวางเขาอยู่  บุรุษดื้อด้านโมโหพยายามเตะต่อย แต่ไม่ว่าจะพยายามหนักอย่างไร เขาก็ไม่สามารถยืนในพื้นที่เดียวกับเย่ว์หยางได้

จักรพรรดิอสูรโบกมือเบาๆ เตือนให้เขาสงบสติอารมณ์  “ไม่มีประโยชน์  เรายังเป็นผู้ชมดูหมากรุก ทุกอย่างจะไม่เปลี่ยนแปลง ตราบเท่าที่ตงฟางยังมีชีวิตอยู่ เราไม่สามารถทำอะไรได้”

ขณะนั้นเองฮุยไท่หลางยืนขึ้นและขู่คำราม มันอยู่ที่ปลายเท้าของเย่ว์หยาง  ทันใดนั้นมันพยายามกระโจนกลับไปหาเจ้านายของมัน

แต่ไม่ว่ามันจะวิ่งหรือพยายามเพียงใด มันไม่สามารถกลับไปหาเย่ว์หยางได้

นี่ก็ยังคงคล้ายกับกรณีเดียวกับผีพรายที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

ร่างของเย่ว์หยางสั่นเล็กน้อย  เขาพบว่าจู่ๆ ตัวเขาเองกลับไปที่หุบเขาแม่น้ำขาว บันไดสวรรค์ชั้นห้า เขายืนอยู่บนแท่นบูชายัญ เหมือนกับว่าไม่เคยจากไป  การต่อสู้ก่อนหน้านั้นดูเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น  อย่างไรก็ตามการชักนำความรู้สึกแบบนี้ทำให้รู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของโลกกระดานหมากรุก  ถูกจำกัดโดยกฎสวรรค์บางอย่าง  แม้ว่าจะกลับมายังบันไดสวรรค์ชั้นที่ห้า แต่ก็ยังอยู่ในโลกกระดานหมากรุกไม่เปลี่ยนแปลง

แม้แต่แท่นบูชายัญนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของวงกตมิติเวลา

ใครกันที่มีความสามารถที่น่ากลัวเช่นนี้สามารถเปลี่ยนมิติเวลาทั้งหมดบนพื้นฟ้าและพื้นโลกให้เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนเขาวงกตได้โดยไม่รู้ตัว?

แม่เจ้า, ตัวบอสในเกมที่เราคุณชายพบเจอทำไมถึงได้ผิดธรรมดานัก? ไม่มีการคัดสำเนาเลียนแบบบ้างหรือ?

เย่ว์หยางชูนิ้วกลางให้กับท้องฟ้า

*** *** ***

6 ความคิดเห็น:

Pcha กล่าวว่า...

55ยังกะตัวเองไม่โกง

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

oBABYVOXo กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ จะทำยังไงล่ะทีนี้

CHANTANA กล่าวว่า...

เอาแล้ว

12ed กล่าวว่า...

อ่านไปอ่านมาเหมือนกับว่าถ้าเจ้าสามจัดการหมากทั้งหลายได้หมดก็จะจัดการตงฟางได้ไม่ยากเพราะที่อ่านๆมาตงฟางเหมือนจะไม่มีความสามารถสู้ได้เองได้แค่อาศัยหมากสู้แทนเพราะถ้าสู้เองได้น่าจะทำลายหอทงเทียนตั้งนานแล้วไม่มามัวยืมมือคนอื่นตั้งนานหรอก

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

แสดงความคิดเห็น