วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 1323 ลึกลับซับซ้อน

 

ตอนที่  1323  ลึกลับซับซ้อน

แท่นบูชายัญ บันไดสวรรค์ชั้นที่ห้า

เย่ว์หยางเดินไปที่ขอบแท่น

 

เขาก้าวไปข้างหน้าช้าๆ  เท้าข้างหนึ่งยังคงอยู่บนแท่นบูชายัญ แต่โลกตรงหน้าเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง  ไม่ใช่หุบเขาแม่น้ำขาวที่แห้งแล้งแต่เป็นป้อมสายฟ้าของหอทงเทียนชั้นหก เย่ว์หยางชักเท้ากลับและมองไปรอบๆ ยังคงเป็นบันไดสวรรค์ชั้นที่ห้าที่คุ้นเคย เพราะการต่อสู้ต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งทำให้หุบเขาแม่น้ำขาวพังทลาย...  ใครกัน? ใช้ความสามารถอะไร?  อะไรคือความเชื่อมโยงระหว่างบันไดสวรรค์ชั้นห้ากับป้อมสายฟ้าชั้นหกหอทงเทียน?  เขาจะทำลายวงกตมิติเวลาได้อย่างไร?

“เจ้ารู้จักใครที่มีข้อมูลภายในบ้างไหม?”  เย่ว์หยางหันไปมองผู้ชมดู

“ข้าเองเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก”  เด็กหนุ่มอสูรส่ายหน้าและโบกมือบอกว่าไม่รู้

“นี่คือความลับของสวรรค์” มังกรสองหัวกู่อั๋งบอกว่าเขาไม่รู้

“......” ราชินีว่านกูซูดูเหมือนจะเคยได้ยินมาเล็กน้อย แต่นางริมฝีปากสั่น หลบสายตาเย่ว์หยางโดยไม่ตั้งใจ ทำนองว่าไม่มีอะไรจะพูด

“วงกตมิติเวลา กล่าวกันว่าสร้างโดยท่านจ้าวมิติแห่งแดนสวรรค์บน ปริศนาที่เขาสร้างขึ้นไม่มีใครสามารถไขได้นอกจากตัวเขา  จ้าวมิติได้ค้นพบจุดจบของโลกที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาได้มอบกุญแจเพียงดอกเดียวให้กับเจ้าตำหนักเทียนอี้ศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของเขา  ข้าไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาหลายพันปีหรือไม่เทียนอี้จึงสร้างตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ขึ้นบนรากฐานดั้งเดิมของวงกตมิติเวลา  ตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างจากตรงนั้นด้วยความช่วยเหลือจากนักสู้ระดับเทพ อาทิราชันย์ไร้ใจและนักสู้ระดับเทพอื่นเป็นต้น  มีการปรับปรุงแก้ไขตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์บนเขาต้ากวงหมิง ทำให้เป็นสถานที่นิรันดร์ไม่มีวันพังทลายหรือเสียหายได้  เพราะมีอายุยาวนานเกินไป ไม่เช่นนั้นตำนานนี้จะจริงหรือเท็จก็ไม่สามารถตรวจสอบได้  แต่เพื่อสลายความวุ่นวายและออกจากวงกตมิติเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาไม่มีที่สิ้นสุดได้อย่างราบรื่น การได้รับคำแนะนำและกุญแจที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ต้องทำ!  จักรพรรดิอสูรให้คำแนะนำกับเย่ว์หยาง  แต่เขาไม่สามารถช่วยเย่ว์หยางได้มากกว่านี้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากุญแจผ่านวงกตมิติเวลามีประวัติความเป็นมาเช่นไร

“ขอบคุณ” เย่ว์หยางไม่ฝืนบังคับ เกมปริศนา เป็นเรื่องน่าสนใจมากไม่ใช่หรือ?

“เย่ว์ไตตัน!  ถ้าเจ้าต้องการหาตงฟางภายในเวลาสิบวัน  เป็นไปไม่ได้สำหรับการอาศัยคนเพียงคนเดียว  เจ้าต้องมีคนช่วยมากขึ้น”  ดูเหมือนว่านั่นน่าจะเป็นการส่งข่าวของจั่นซือ ลูกนอกสมรสของถูซื่อ  จู่ๆ เขาก็ตะโกนบอกเย่ว์หยาง

“เจ้าต้องการบอกอะไร?”  เย่ว์หยางมองดูเขาด้วยความสงสัย

“หมาป่าล้างโลกและผีพรายที่ปรากฏออกมาทีละตน ทั้งหมดพิสูจน์ได้ว่านั่นคืออัจฉริยะเหมือนเจ้า   เย่ว์ไตตันเจ้าจะต้องมีวิธีการลับนำผู้ช่วยเข้ามาในโลกกระดานหมากรุกได้ หรือว่าในวงกตมิติเวลาแห่งนี้ ทำไมเจ้าไม่เรียกผู้ช่วยออกมาช่วยเจ้าให้มากขึ้น  เจ้าเพียงคนเดียวกับโลกที่มีอยู่พันใบ เพียงสิบวันจะทำอะไรได้

“เจ้าเป็นลูกของถูซื่อไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่สนใจพี่ชายและพ่อเจ้าได้อย่างไร แต่กลับมาสนใจข้าที่เป็นศัตรูเพราะอะไร?”  เย่ว์หยางกล่าวพร้อมกับยิ้ม

“เพราะข้าเป็นศัตรูกับพวกเขา ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย” จั่นซือพยักหน้าจริงจัง

“ข้าจะเชื่อเจ้าได้ไหม?”  เย่ว์หยางยิ้มอย่างโง่งม

“ระมัดระวังไว้เป็นเรื่องจำเป็น แต่เจ้าก็สามารถลองดูได้” จั่นซือยังคงยิ้มครั้งนี้

“อืม.. ถ้าเราเป็นพันธมิตรกันในตอนนี้ พวกท่านมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆ อีกหรือไม่?”  เย่ว์หยางเกาหลังศีรษะทำตัวเหมือนน้องชายที่เพิ่งออกมาสังคมภายนอก

“ข้าสังเกตเจ้าอย่างระมัดระวัง เย่ว์ไตตัน อาจกล่าวได้ว่าตั้งแต่เริ่มต่อสู้จนถึงตอนนี้ เจ้ายังไม่ใช้พลังที่แท้จริงของเจ้าออกมาเลย  เจ้าไม่เคยเชื่อใจใคร แม้ว่าจักรพรรดิอสูรจะให้ความสำคัญกับเจ้า แต่เจ้าก็ยังไม่ไว้วางใจเขาแม้แต่ระดับพื้นฐานก็ตาม  ข้าไม่เข้าใจว่าเหตุใดการเฝ้าระวังของเจ้าจึงเข้มแข็งมากจนไม่ให้ความสนใจใครๆ แต่ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องมีเหตุผลของเจ้า  ข้าไม่คาดหวังให้เจ้าปฏิบัติต่อข้าในฐานะสหาย  ตราบใดที่เจ้าไม่ถือว่าข้าเป็นศัตรู  ตอนนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะใช้ความสงบและเหตุผลสักเล็กน้อยเพื่อพิจารณาคำแนะนำของข้าต่อไปอย่างรอบคอบ  จงหาผู้ช่วยให้เร็วที่สุดอย่างเช่นหมาป่าปีศาจและผีนางพราย เจ้าจะมีกำลังมากขึ้นและสำรวจวงกตมิติเวลาด้วยกันหาทางออกให้เร็วที่สุด จากนั้นก็ค้นหาตงฟาง”  จั่นซือมองเย่ว์หยางด้วยความจริงใจ

“ท่านคิดว่าช่วงเวลาสิบวันตามที่ตงฟางบอกเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”  เย่ว์หยางมองดูจั่นซือ

“เป็นจริง ไม่แปลกปลอมแน่ ของปลอมไม่อาจเป็นจริงได้” จั่นซือพูดคลุมเครือ แต่เย่ว์หยางเข้าใจ

เขาหันหน้าและเดินตรงไปที่รูปปั้นเทพธิดา

รอจนกระทั่งถึงทางเข้า

จู่ๆ เขาหันกลับมามองจั่นซือ “ท่านคิดว่าถ้าหอทงเทียนถูกทำลาย  จะมีอะไรดีสำหรับเทียนอี้?”

จั่นซืออึ้ง และเขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี  รอจนเย่ว์หยางหันกลับไปอีก  เขาพยายามเดินออกไปและตะโกน  “แดนล่มสลายแห่งทวยเทพจะไม่หายไป และถูกปิดผนึกไว้ บางทีอาจมีการระเบิดมิติเวลาของหอทงเทียน  การปลดผนึกผู้พิทักษ์ของเทพโบราณทั้งหมด สมบัติต่างๆ ที่ปกติหาไม่ได้จะตามมา  แน่นอนว่านี่เป็นความคิดของข้า บางทีอาจไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้”

เย่ว์หยางไม่หันกลับมามอง แต่โบกมือให้  “เจ้าพูดถูก นี่คือคำตอบที่ดีที่สุด”

ร่างของเขาหายวับเข้าไปในทางผ่านอย่างรวดเร็ว

มีเพียงผู้ชมอีกหลายคนเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่

พวกเขามองหน้ากันเองด้วยความตกใจ

เย่ว์ไตตันหมายถึงอะไร? เขาเชื่อหรือยังสงสัยตามปกติของเขา?  ถ้าเขาไม่รีบผ่านวงกตมิติเวลาไปให้ได้ และเขาจะไปไหน? เป็นไปได้ไหมว่าถ้าเขาวิ่งเข้าไปในทางนั้นเขาสามารถเข้าไปในบันไดสวรรค์เดิมและหนีออกจากวงกตมิติเวลาได้? เป็นไปไม่ได้ใช่ไหม?  คนที่วางแผนมานานอย่างตงฟางและเทียนอี้จะทิ้งข้อบกพร่องใหญ่ไว้ให้เขาเห็นหรือ?

เย่ว์หยางเดินผ่านไปตามทางเดิน และบันไดสวรรค์เดิมยังคงดูเหมือนเดิม

แต่เมื่อเขาก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง

ที่ข้างหน้าเขา ภาพบันไดสวรรค์กลับเปลี่ยนไป

กลายเป็นจัตุรัสนอกวังเทียนหลัว และเมื่อเงยหน้ามองก็เห็นทหารรักษาการณ์อยู่หน้าวงเวทเทเลพอร์ตยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์

“ท่านจาง! วันนี้ลูกน้องท่านไม่มาเข้าเวรหรือ?”  เย่ว์หยางทักทายทหารผู้เคร่งครัดปฏิบัติหน้าที่

“ขอรับ,  คารวะคุณชายสาม” เมื่อทหารเห็นเย่ว์หยางเขารีบแสดงความเคารพตามมารยาททันทีท่าทางให้เกียรติ

“หลี่ต้าจุ่ยเล่า?” เย่ว์หยางยื่นมือตบไหล่ทหาร

“เขา เขาเข้าเวรกลางคืน!  ทหารผู้นั้นตื่นเต้นจนพูดไม่ออก

“ทำงานกันแข็งขันดีมาก”  เย่ว์หยางมองทหารทีละคน  “ต่อไปเมื่อข้าพบราชันย์ฟ้าบูรพา ข้าจะขอให้เขาช่วยเลื่อนตำแหน่งเจ้า!

เย่ว์หยางก้าวเท้าถอย และทหารที่ตื่นเต้นหน้าแดงหายไป เขากลับมาอยู่โลกพฤกษา บันไดสวรรค์  เย่ว์หยางก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวและพบว่าฉากภาพข้างหน้าเขากลายเป็นประตูสถาบันฉางชุนเฉิง เดินผ่านประตูห้องยามรักษากาณ์ เขาสามารถเห็นอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าถือหนังสือภาพวาบหวิวเล่มหนึ่ง ดวงตาของเขาแดงน่ากลัว น้ำลายแทบหกใส่เคราแพะ

ครูบาอาจารย์ที่ควรเป็นแบบอย่าง ทำแบบนี้ได้ยังไง?

เย่ว์หยางผู้มีคุณธรรมในใจรีบวิ่งเข้ามาคว้าสมุดภาพหญิงสาววาบหวิวติดมือทันที

อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น ท่าทางน่าสมเพชราวกับไม่ต้องการมีชีวิตอยู่  เย่ว์หยางหัวเราะและหันหลังวิ่งหนี เมื่อเขากลับมาที่ทางเดินเข้าบันไดสวรรค์ ภาพสถานบันศึกษาของเขาหายไป  ภาพอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าผู้ถือมีดทำครัววิ่งไล่ก็หายไป ด้านหลังของเขากลายเป็นโลกบันไดสวรรค์ดังเดิม

เพียงแต่สมุดภาพหญิงสาววาบหวิวยังอยู่ในมือของเขา

เย่ว์หยางพลิกปิด

ด้วยความตั้งใจไม่ให้ของดีต้องเสียไป เขาเก็บใส่กระเป๋า

เดินกลับไปตามทางเดินเข้าแท่นบูชายัญ เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าผู้ชมดูที่แท่นบูชายัญหายไปหมดแล้ว ว่างเปล่ามีแต่หุบเขาแม่น้ำขาวที่ว่างเปล่า

จากนั้นเย่ว์หยางได้สติวิ่งกลับไปที่แท่นบูชายัญในครั้งแรกตรวจมองบนพื้นพล่านไปมาราวกับมด ไม่เพียงแค่นั้น  เขายังปีนขึ้นไปบนรูปปั้นเทพธิดาที่ไม่สมบูรณ์ การยื่นมือออกไปแตะรูปเทพธิดาอย่างไม่สำรวมอาจมองว่าเป็นการดูหมิ่นได้ แต่โชคดีที่ไม่มีใครเห็น

มิฉะนั้นแม้แต่เจ้าอ้วนไห่

ก็ยังดูหมิ่นเด็กหนุ่มจากโลกอื่น!

หลังจากสัมผัสเป็นเวลานาน เย่ว์หยางถอนหายใจทันที “ข้าคิดว่าข้าเป็นคนฉลาดเป็นผู้ที่ไม่มีใครรู้จัก และหลอกคนอื่นมาแต่ต้น  โชคดีที่เราคุณชายผ่านประตูเป็นตาย และข้าได้รับข้อมูลมิติลวงของฝ่าบาทมาบ้าง มิฉะนั้นคงถูกคนปั่นหัวเล่นโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...”

เขาหลับตา

มือทั้งสองผ่อนคลาย

เจตจำนงราชันย์ระเบิดออกทันที

แท่นบูชายัญทั้งหมด และแม้แต่หุบเขาแม่น้ำขาวระเบิดออกไปราวกับกระจกแตก พื้นฟ้าพื้นโลกสลายเป็นผุยผง

มีหลุมดำดูดกลืนและทำลายทุกสิ่ง ขณะที่ท้องฟ้าและพื้นดินสลายไม่ทราบว่ามีแสงฉายส่องมาจากที่ใด โลกใหม่สว่างไสวเกิดขึ้นในขอบเขตการมองเห็นของเย่ว์หยาง

โลกกระดานหมากรุก เย่ว์หยางพบว่ายังไม่ได้ไปจากโลกกระดานหมากรุกแม้แต่ก้าวเดียว

เป็นจักรพรรดิอสูรและคนอื่นๆ ที่ยังเฝ้าดูการต่อสู้ในครั้งแรก

ครั้งนี้พวกเขาอยู่ห่างไกลในมิติเวลาอื่น แต่ยังยืนอยู่บนแท่นบูชายัญ

“เหลวไหล, ข้าคือผู้เดินหมาก ไม่ใช่ตัวหมาก  โลกกระดานหมากรุก เจ้าคิดจะกักตัวข้าไว้นานๆ หรือ?”  เย่ว์หยางยื่นมือออกไปทันที ทันใดนั้นรอบๆ ตัวเขามีประตูล่องหนสี่บาน เขาอยู่ตรงกลางระหว่างประตูใต้ ตะวันออก เหนือ ตะวันตก ประตูแปลกประหลาดทั้งสี่บานนี้ มีสามบานที่มีความคล้ายคลึงกัน แต่ประตูลึกลับสี่บานนี้มีความแตกต่างกันเล็กน้อย

โลกกระดานหมากรุก หากปราศจากการช่วยเหลือจากเจตจำนงของตงฟางที่เป็นเจ้าของ ก็ไม่สามารถป้องกันความเป็นอิสระของประตูทั้งสี่ได้

เย่ว์หยางโบกมือให้จักรพรรดิอสูรที่มองดูอยู่ในมิติเวลาที่ห่างไกล

เขาเปิดประตูล่องหนทางทิศตะวันออก

และก้าวยาวๆ

เข้าไปข้างใน

ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลถึงโลกเบื้องหลังประตูว่าจะเป็นโลกแบบไหน

หลังจากผ่านเข้าประตูไปแล้ว โลกทั้งหมดก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงและโลกกระดานหมากรุกหายไป กลับเป็นประตูแดนสวรรค์ที่เย่ว์หยางเคยผ่านมาและมีความคิดที่แย่อย่างหนึ่ง

มีบางคนอยู่ที่ประตูสวรรค์ปรบมือเสียงดังชัดเจนต้อนรับเย่ว์หยางอย่างอบอุ่นและจริงใจ  “ยินดีต้อนรับเข้าประตูโลก  ข้าคือจางเว่ยสหายเก่าของเจ้า  ใช่แล้วข้ากังวลจริงๆ ว่าจะรอให้เจ้ามาถึงไม่ไหว  เจ้ารู้ไหมว่าคนโง่เง่าบางคนไม่สามารถออกจากวงกตมิติเวลาได้ชั่วชีวิต  และหายไปในวงกตมิติเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา  แต่เจ้ากลับทำได้เร็วไม่เยิ่นเย้ออืดอาด  เย่ว์ไตตัน เจ้าไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ เจ้าสมกับเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบในรอบหมื่นปีที่ผ่านมา  เจ้าสามารถทำลายแผนการวงกตมิติเวลาได้อย่างรวดเร็วและมาอยู่ต่อหน้าข้าได้  แม้ว่าข้าจะเป็นศัตรูเจ้าก็ตาม  แต่ข้าก็อดชื่นชมเจ้าไม่ได้  เจ้าเป็นอัจฉริยะจริงๆ!

“เจ้าไม่ต้องมาประจบเอาใจข้าก็ได้  ต้องการสิ่งใดตอบแทนจากข้าหรือ?”  เย่ว์หยางเป็นเด็กดีที่มักจะมีมารยาทดีเสมอ

“อย่าทำอย่างนี้ ข้ารู้ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหนเมื่อเจ้าต้องทำให้ข้าต้องคลานหาฟันของตนเอง” จางเว่ยไม่โกรธแม้แต่น้อย

“ข้าคิดว่านั่นเป็นไปได้มากทีเดียว”  เย่ว์หยางยิ้ม

“ทุกคนที่เข้าออก หรือผ่านประตูโลกเข้ามาจะไม่สามารถใช้พลังเทพตนเองได้ นี่คือกฎที่ข้าสร้างไว้ในมิติเวลานี้” จางเว่ย องครักษ์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์หัวเราะ  “เจ้าไม่สามารถเรียกอสูรศึกได้ ไม่สามารถใช้คัมภีร์อัญเชิญ ไม่สามารถใช้พลังเทพตนเอง เจ้าจะเอาอะไรมาสู้กับข้า?  คุณชายสามตระกูลเย่ว์ ข้าจะสอนอะไรบางอย่างให้เจ้า โลกนี้ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะคลี่คลายได้ด้วยกำลังป่าเถื่อน!  พลังเทพของเจ้าดีกว่าข้า ใช่แล้ว ข้าไม่ปฏิเสธเรื่องนั้น  แต่เจ้าไม่สามารถทำอะไรได้  ได้แต่รอถูกทุบตี เจ้าคือคุณชายสามตระกูลเย่ว์แล้วไงเล่า? อัจฉริยะอันดับหนึ่งของหอทงเทียนจะทำอะไรได้? ในโลกกระดานหมากรุกในวงกตมิติเวลา ภายใต้ประตูสวรรค์ของข้าองครักษ์ใหญ่ เจ้าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เป็นได้แค่เพียงหนอนน่าสมเพชที่ไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้!

*** *** ***

7 ความคิดเห็น:

Pcha กล่าวว่า...

ตบให้หาฟันอีกสักทีสิ

Apirak Panyakam กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Failz กล่าวว่า...

ขอบคุณ​คับ

Badly กล่าวว่า...

เมื่อไหร่จะเอาคืนสักที ปูบทความเว่อวังของศัตรูอีกกี่ตอน -_- ขอบคุณครับ

CHANTANA กล่าวว่า...

รอบนี้ฟันก็หาไม่เจอ5555555

mimikyu กล่าวว่า...

สกิลโกง ๆ มาแนวลวงตา มายา มิติลวงหมดเลย ถึงว่าต้องมีจักษุญาณทิพย์

Unknown กล่าวว่า...

สนุกมาก รอตงฟางมันอยู่ไหน จะได้ตบกะบานมันชักที

แสดงความคิดเห็น