วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

บทที่ 149 เงินท่าน คืนแก่ท่าน

บทที่ 149 เงินท่าน คืนแก่ท่าน

“ยินดีด้วย เจ้าได้คะแนนความประทับใจครบ 10,000 คะแนน สำเร็จ 'ก้าวเล็กๆ บนเส้นทางมหาคุรุ' ให้รางวัลเป็นหีบสมบัติทองแดงหนึ่งกล่อง”

หีบสมบัติที่ส่องประกายด้วยแสงสีบรอนซ์ตกลงข้างหน้าซุนม่อ

 

“อาจารย์! การเดามันไม่สนุกเลยเมื่อท่านทายถูกต้องในการเดาครั้งแรก”

หลี่จื่อฉีบุ้ยริมฝีปากดูเหมือนไม่พอใจ อย่างไรก็ตามรอยยิ้มที่มุมตาของนางยังคงเผยให้เห็นถึงอารมณ์ที่มีความสุขของนาง

เนื่องจากหลี่จื่อฉีใช้กำลังกายได้ไม่ดี ความก้าวหน้าในการฝึกฝนของนางจึงช้ามาก อย่างไรก็ตามหลังจากที่นางเริ่มเรียนรู้วิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์และกระตุ้นศักยภาพของนาง นางรู้สึกว่าศักยภาพร่างกายของนางดูเหมือนจะสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แน่นอนว่าเคล็ดการนวดแผนโบราณก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน แม้ว่าการที่ซุนม่อลงมือนวดด้วยตัวเองไม่ได้มีผลดีเท่ากับการนวดของยักษ์จินนี่ แต่ก็ยังคงทำให้หลี่จื่อฉีพัฒนาขึ้นอย่างมาก

"ฮะฮะ!"

ซุนม่อจับศีรษะของลู่จื่อรั่วแปดครั้งพอดี ซึ่งก็มีความหมายว่าเป็นมงคล

'เปิด!'

ขณะที่ซุนม่อนึกสั่งในใจ หีบสมบัติทองแดงก็เปิดออก จากนั้น ป้ายทรง'ไพ่นกกระจอก' ที่ส่องประกายด้วยแสงสีบรอนซ์ลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ

มุมปากของซุนม่อโค้งขึ้น และเขาอยากจะร้องไชโยเสียงดังจริงๆ ว่า 'เด็กสาวมะละกอนำโชคดีของข้า จงเจริญ!'

"อย่าย่อหย่อน!"

ซุนม่อสั่ง

"แน่นอน ข้าจะพุ่งทะยานไปสู่ขอบเขตการกลั่นวิญญาณให้ได้!”

หลี่จื่อฉีดูมั่นใจมาก นางต้องการบอกคนที่รู้สึกว่านางไม่เคยสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตอายุวัฒนะได้ในช่วงชีวิตนี้ว่า นางคือหลี่จื่อฉีสามารถทำได้เช่นกัน!

“งั้นก็จงพากเพียรให้หนัก!”

ซุนม่อมองไปที่หยิงไป่อู่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“ทุกคนเข้ากันได้ง่าย เจ้าไม่จำเป็นต้องจำกัดตัวเองจนเกินไป”

“อืม!”

หยิงไป่อู่พยักหน้า

เห็นได้ชัดว่าหลี่จื่อฉีมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ไม่ใช่สิ เป็นครอบครัวที่มีอิทธิพล เพราะนางไม่เพียงแต่รวยเท่านั้น แต่แม้กระทั่งนิสัยใจคอและวิธีการวางตัวของนางก็ยังดีอีกด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงดูผู้หญิงอย่างนาง เว้นแต่จะเป็นตระกูลขุนนางที่มีการสืบทอดมาหลายศตวรรษ

พูดตามความจริงหยิงไป่อู่รู้สึกอิจฉาและไม่พอใจเล็กน้อย ทำไมคนเหล่านี้จึงมีความสุขตั้งแต่เกิด?

สำหรับลู่จื่อรั่ว หยิงไป่อู่อาจดูเหมือนให้เกียรตินางอย่างผิวเผิน แต่นางรู้สึกรังเกียจนางจริงๆ นางดูถูกคนขี้ขลาดอย่างนาง

หากความหวาดกลัวและขี้ขลาดอาจเหมือนกับพลังปราณที่ถูกใช้เพื่อเพิ่มระดับ แสดงว่านางได้เลื่อนระดับเป็นระดับตำนานแล้ว 13 ปีแห่งความยากลำบากได้บอก หยิงไป่อู่ว่าความขี้ขลาดและหวาดกลัวนั้นไร้ประโยชน์ ถ้านางอยากจะอิ่มท้องนางก็ต้องสู้

“อ่อนแอ!”

หยิงไป่อู่พึมพำ

นิ้วมีความยาวต่างกัน โลกไม่เคยยุติธรรม ดังนั้นหยิงไป่อู่ รู้สึกว่าถ้านางต้องการที่จะเป็นศิษย์ที่ซุนม่อชื่นชมมากที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงได้รับทรัพยากรและความสนใจมากที่สุด หลี่จื่อฉีก็เป็นศัตรูตัวฉกาจที่ขวางทางนาง

ซุนม่อพาเด็กหญิงทั้งสามมาที่บ้านนอกโรงเรียน โดยวางแผนที่จะให้การนวดทั้งหมดแก่พวกนาง

ในห้องตะวันออก หลี่จื่อฉีนำชุดสำรองที่จะสวมใส่ระหว่างการนวดออกมา

“ไป่อู่สูงเกินไป เจ้าจะต้องใช้ชุดนี้ในตอนนี้ไปก่อน ข้าจะให้คนงานเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะกับเจ้าในครั้งต่อไป”

หลี่จื่อฉีกล่าวอย่างเป็นกันเอง

“ไม่… ไม่จำเป็น!”

หยิงไป่อู่รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เป็นเพราะไม่มีใครปฏิบัติต่อนางดีขนาดนี้มาก่อน  นางจึงไม่คุ้นเคย

“ข้าเป็นศิษย์พี่ใหญ่ แค่ใช้เป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรกของเรา”

หลี่จื่อฉีไม่ใช่คนเตี้ยและสามารถพูดได้ว่านางร่างโปร่งเพรียวและสง่างาม อย่างไรก็ตาม เมื่อนางยืนอยู่ข้างหยิงไป่อู่ นางค่อนข้างเตี้ย

อาจเป็นเพราะว่าเด็กสาวคนนี้ใช้เวลามากกับงานหยาบจนทำให้นางสูงและกล้ามโต ขายาวของนางดูแข็งแรงและสวยงามมาก

เด็กสาวคนนี้สามารถเป็นยอดนางแบบได้ แค่ขาเรียวยาวสองข้างของนางเต็มไปด้วยพละกำลังและความงาม

หลี่จื่อฉีเพิ่งตามหาช่างตัดเย็บเพื่อทำชุดนวด การออกแบบนั้นเรียบง่าย แม้ว่าจะมีกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวและเสื้อกล้ามหนึ่งตัว แต่วัสดุที่ใช้ก็มีคุณภาพสูงและฝีมือการผลิตก็ประณีต แต่ละชุดจะมีราคามากกว่า 100 ตำลึงเงิน

หยิงไป่อู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ อย่างไรก็ตามเมื่อนางรับเอาไว้ก็รู้สึกว่าเนื้อผ้านั้นราบรื่นเพียงใด นางกลับรู้สึกตระหนกตกใจอีกครั้ง

สัมผัสได้ชัดเจนว่านี่เป็นของคุณภาพสูง จะเกิดอะไรขึ้นถ้านางทำสกปรก?

เมื่อเปรียบเทียบลู่จื่อรั่ว ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้มากนัก หลี่จื่อฉีบอกให้นางสวมมัน ดังนั้นนางจึงใส่ ท้ายที่สุดแล้ว คำสั่งของศิษย์พี่ใหญ่ก็ไม่ควรถูกขัดขืน

“ใส่เร็วเข้า!”

หลี่ซีฉีกระตุ้น

“อย่าให้อาจารย์รอนานเกินไป”

หลังจากดิ้นรนขัดขืนและล่าช้าไปบ้าง ในที่สุด หยิงไป่อู่ ก็สวมเสื้อผ้า อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของนางแดงก่ำเหมือนกุ้งปรุงสุก

"เกิดอะไรขึ้น?"

ลู่จื่อรั่วรู้สึกงงงวย จากนั้นนางก็สังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างสวย แม้ว่าใบหน้าของนางจะซีดเล็กน้อย แต่นางก็มีนิสัยเหมือนดอกกุหลาบที่มีหนาม

“ผ้า… มีน้อยชิ้นเกินไป”

หยิงไป่อู่ รู้สึกอึดอัดและอับอาย

“แต่ถ้าเราต้องนวดโดยสวมเสื้อผ้า ผลกระทบจะลดลง”

ลู่จื่อรั่วกระพริบตาของนาง

“ก็… ข้าไม่นวดได้ไหม?”

แม้ว่านางไม่ควรเห็นอาจารย์ของนางเป็นคนนอก แต่หยิงไป่อู่ ยังไม่ชินกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดนางเพิ่งถูกซุนม่อพาไป อย่างน้อยพวกเขาควรจะอยู่ด้วยกันสิบวันถึงครึ่งเดือนก่อนที่จะทำเช่นนี้!

"ฮะ? เจ้ายินดีที่จะพลาดโอกาสเช่นนี้หรือ?

ลู่จื่อรั่ว รู้สึกประหลาดใจ

หยิงไป่อู่รู้สึกงุนงงเล็กน้อยเมื่อเห็นการแสดงออกของลู่จื่อรั่ว ไม่ใช่แค่การนวด? ทำไมมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะละทิ้งมัน? แม้ว่าใครจะไปอาบอบนวดตามท้องถนน แต่ก็อาจต้องเสียเงินเพียงไม่กี่เหรียญสำหรับการบริการของพวกเขา

จากสีหน้าของหยิงไป่อู่ หลี่จื่อฉีเข้าใจว่า นางไม่รู้จักชื่อเสียงอดีตของซุนม่อ ว่ายิ่งใหญ่เพียงใด ดังนั้นนางจึงอธิบายอย่างอดทนว่า

“อาจารย์ของเรามีเคล็ดวิชาหัตถ์จับมังกรที่น่าทึ่งมาก จนได้รับฉายาว่าหัตถ์เทวะ!”

"ถูกต้อง  ชั้นเรียนการฝึกปรือยุทธเวชกรรมของอาจารย์โด่งดังมากในหมู่นักเรียน หากใครไม่ไปล่วงหน้าสองชั่วโมง ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ที่นั่ง”

ลู่จื่อรั่วพยักหน้าแล้วยิ้ม

“แต่เราไม่ต้องลำบากกับการตื่นเช้า เพราะเราเป็นลูกศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์ จึงมีที่นั่งให้เราอย่างแน่นอน”

นี่เป็นกฎที่ไม่ได้พูดในทุกสถาบัน โดยปกติที่นั่งแถวแรกจะเก็บไว้สำหรับศิษย์ส่วนตัวของอาจารย์

“หัตถ์เทวะ?”

หยิงไป่อู่รู้สึกประหลาดใจและปากน้อยๆ ของนางอ้ากว้าง (ข้าเพิ่งหยิบสมบัติมาได้เหรอ?)

หยิงไป่อู่มาจากพื้นเพที่ยากจนและต้องทำงานทุกวันเพื่อเติมเต็มท้องของนาง นอกจากนี้ นางไม่ใช่นักเรียนของสถาบันจงโจว นางเพียงแค่ไปเก็บกวาดในตอนกลางคืนและด้วยเหตุนี้นางจึงไม่ทราบถึงชื่อเสียงของซุนม่อ

“อาจารย์ของเราน่าจะเพิ่งได้งานใหม่ใช่ไหม?”

หยิงไป่อู่ ถาม

“นั่นจึงเป็นสาเหตุที่จำนวนนักเรียนแสดงให้เห็นว่าอาจารย์ของเราน่าทึ่งแค่ไหน!”

ลู่จื่อรั่วรู้สึกภูมิใจ

ติง!

+30 คะแนนความประทับใจจากลู่จื่อรั่ว มิตรภาพ (758/1000)

“เด็กสาวมะละกอกลายเป็นแฟนคลับตัวยงของเจ้าไปแล้วจริงๆ”

ระบบพูดไม่ออก ลู่จื่อรั่วและอีกสองคนกำลังพูดถึงซุนม่อระหว่างกันและไม่ได้รับคำแนะนำใดๆ หรือทำการพัฒนาก้าวหน้าจริงๆ ถึงกระนั้น นางก็ยังมีส่วนทำให้เกิดความประทับใจมากมายเช่นนี้ ซุนม่อนับว่าได้ผลรับครั้งใหญ่มากที่ได้เป็นศิษย์คนนี้

ซุนม่อไม่ได้สนใจระบบเลย เขามีความขัดแย้งเกี่ยวกับทักษะที่เขาควรเพิ่มด้วยตราสัญลักษณ์เวลา

เขาไม่ได้พิจารณาสามวิชา  (1) ของเคล็ดการนวดแผนโบราณ นั่นมีเพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ เคล็ดการวาดยันต์วิญญาณก็ไม่จำเป็นเช่นกัน จากนั้นสิ่งที่เหลืออยู่คือวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์และมหาเวทไวโรจนนิรันดร์  ถูกต้องแล้ว เคล็ดวิชาชั้นเซียนระดับไร้เทียมทานนี้เพียงพอที่จะจัดการกับสถานการณ์ส่วนใหญ่ในระดับที่สี่ แต่ เคล็ด'เงินท่าน คืนให้ท่าน' ที่ระดับห้านั้นน่าดึงดูดใจจริงๆ!

ระดับนี้ตามชื่อจริงของมันคือการเคลื่อนไหวที่สามารถตอบโต้การเคลื่อนไหวของศัตรูได้ทั้งหมด รวมถึงทักษะที่ยอดเยี่ยมและเคล็ดความลึกลับที่ลึกซึ้ง

แน่นอน หากพลังโจมตีของศัตรูแข็งแกร่งเกินไป เกินระดับที่ซุนม่อสามารถต้านทานได้ เขาจะได้รับความเสียหายเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แม้ว่าซุนม่อจะทำสิ่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อเผชิญกับการโจมตีของยอดฝีมือจากขอบเขตพลังศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ไม่สามารถป้องกันได้ แต่มันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาที่จะป้องกันศัตรูที่แข็งแกร่งซึ่งสูงกว่าเขาเพียงหนึ่งหรือสองระดับ

อย่างไรก็ตาม ซุนม่อก็ต้องการเพิ่มระดับของมหาเวทไวโรจนนิรันดร์ก่อนด้วย เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก่อนการแข่งขันกับเกาเปิน และพวกเขาทั้งสองจะต้องเผชิญหน้ากันอย่างแน่นอน

เขาได้ยินมาว่าเกาเปินมีเวิทยายุทธ์ที่ยอดเยี่ยมที่เรียกว่า วิชาหอกน้ำแข็งเร้นลับ  ซุนม่ออยากจะทำสิ่งนั้นด้วยตัวเองจริงๆ

“ลืมมันไปเถอะ เล่นอย่างปลอดภัยจะดีกว่า  เพิ่มระดับของวิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์ดีกว่า!”

เมื่อนึกถึงตัวตนของเกาเปินในฐานะบัณฑิตจากสถาบันทหารกองพลประจิม ซุนม่อจึงตัดสินใจเล่นอย่างปลอดภัย จากนั้นเขาก็ทุบสัญลักษณ์เวลาให้แตก

แสงสีบรอนซ์จางหายไป จากนั้นแสงดาวก็พุ่งเข้าใส่หน้าผากของซุนม่อ ข้อมูลจำนวนมหาศาลพุ่งเข้ามาในสมองของเขาทันที

แสงสีเขียวล้อมรอบซุนม่อทันที ทำให้เขารู้สึกเหมือนต้องคำสาปแช่ง

ติง!

“ขอแสดงความยินดีด้วย วิชาเซียนมหาจักรวาลไร้ลักษณ์ของเจ้าได้รับการย่นย่อลงเป็นเวลาสิบปีแล้ว ระดับที่สี่ 'ลอกเลียน' มีดัชนีความชำนาญเพิ่มขึ้นเป็นระดับปรมาจารย์ ในขณะที่เคล็ดระดับที่ห้า 'เงินท่านคืนแก่ท่าน' ได้รับการยกระดับเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ”

ซุนม่อเข้าใจความรู้และประสบการณ์นั้นอย่างรอบคอบ

สามเด็กสาวออกมาจากห้องไม่กล้ารบกวนซุนม่อเพราะพวกเขาเห็นว่าเขากำลังครุ่นคิดอยู่ลึกๆ พวกนางยืนนิ่งอยู่ด้านหนึ่ง

หยิงไป่อู่ยังคงรู้สึกอายมาก พยายามปกปิดร่างกายของนางด้วยมือทั้งสองและใบหน้าของนางก็แดง

“พวกเจ้าเตรียมของเสร็จหรือยัง”

เมื่อเห็นเด็กสาวพยักหน้า ซุนม่อก็ยิ้ม

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพมาก พวกเจ้าปฏิบัติกับข้าเหมือนเป็นพี่ชายของพวกเจ้าได้!”

ห้องทิศตะวันตกถูกดัดแปลงเป็นห้องนวดทั้งหลัง หลี่จื่อฉี พิถีพิถันมากเมื่อทำสิ่งต่างๆ

“จื่อฉีเจ้าอยากมาก่อนไหม”

ซุนม่อถาม

“ให้ศิษย์น้องเล็กไป่อู่ไปก่อน”

หลี่จื่อฉีกล่าวอย่างสุภาพ

หยิงไป่อู่ มีความประทับใจที่ดีต่อหลี่จื่อฉี เพราะสิ่งที่นางพูด ตอนนี้นางรู้สึกแย่ที่ได้ปฏิบัติกับนางในฐานะคู่แข่งก่อนหน้านี้

นางได้คำนวณหัวใจวิญญูชนด้วยความคิดของนางเอง

“งั้นก็ให้ไป่อู่มาก่อน!”

ซุนม่อยังต้องการค้นหาว่าความถนัดของศิษย์คนนี้เป็นอย่างไร!

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น