เก้าดาวฟ้ามหายุทธ์ - ตอนที่ 516 อัจฉริยะฟ้าประทาน

 

ตอนที่ 516 อัจฉริยะฟ้าประทาน

ถานไถหลิงที่เยือกเย็นสง่างามและสวยงามดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที ผู้พบเห็นหลายคนต่างตกตะลึง

ฉีเหยี่ยนเป็นผู้ฝึกปรือที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่เสียสติเมื่อเห็นหญิงสาวสวยเหมือนคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นถานไถหลิง ดวงตาของเขายังคงเผยให้เห็นความชื่นชม อย่างไรก็ตาม เขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและนำมุกเก้าสีไปให้ถานไถหลิง

“เจ้าไม่จำเป็นต้องสงสัยวิธีการทดสอบนี้ มุกนี้เรียกว่าผลึกวิญญาณแห่งดวงดาว เช่นเดียวกับมนุษย์ พวกมันมีสติปัญญาในระดับหนึ่ง แต่เจ้าไม่สามารถเข้าใจภาษาของพวกมันได้”

เย่เฉินจ้องมองไปที่มุกเก้าสีด้วยความประหลาดใจ มุกเก้าสีนี้มีสติปัญญาจริงๆ มันจะเป็นสิ่งมีชีวิตบางชนิดหรือเปล่า?

วิ้งๆๆ แสงของมุกเก้าสีกวาดผ่านถานไถหลิง มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แสงเก้าสีนั้นพราวและเปล่งประกายด้วยสีศักดิ์สิทธิ์

เมื่อเห็นสภาพแปลกๆ ของลูกปัดเก้าสี มัคนายกทั้ง 16 คนก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าตื่นเต้น

“โอ้พระเจ้า อัตราการรวมวิญญาณดวงดาวของนางคือ 72! ในอนาคต ตราบใดที่นางได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสม ควบคู่กับการทำงานหนักของนางเอง นางจะกลายเป็นจักรพรรดิยุทธ์อย่างแน่นอน! นางอยู่ห่างจากข้อกำหนดของเทพบริกรเพียงเล็กน้อย ช่างน่าเสียดาย แต่บางทีอาจชดเชยด้วยยาศักดิ์สิทธิ์วิญญาณดวงดาวได้!”

“ระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาว ของนางคือ 72 ซึ่งหมายความว่านางจะเป็นหนึ่งในจักรพรรดิยุทธ์ระดับแนวหน้า!”

ทุกคนมองดูถานไถหลิงด้วยสายตาที่เร่าร้อน ไม่ว่าถานไถหลิงจะเข้าร่วมกองทัพใด นางยังคงเป็นอัจฉริยะชั้นยอดที่จะดึงดูดความสนใจได้อย่างมาก

“ถานไถหลิงใช่ไหม? ไม่เลวเลย!”

ฉีเหยี่ยนมองดูถานไถหลิงด้วยรอยยิ้ม และไม่ตระหนี่กับคำชมของเขา เขาแนะนำ

"ในทวีปเทียนหยวน มีกองทัพของอสูรลึกลับและอสูรฟ้าสิบกอง และกองทัพฝ่ายมนุษย์หกกอง เจ้าสามารถเลือกกองพลของอสูรลึกลับและอสูรฟ้าได้ 10 กองพลได้ข้าเชื่อว่าทุกหน่วยรบจะให้คุณค่าเจ้ามาก”

แม้ว่าถานไถหลิง จะไม่ได้มาจากเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวินของพวกเขา แต่นี่เป็นจุดแรกของนางในทวีปเทียนหยวน นางถือได้ว่ามาจากเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวิน ของพวกเขา มันเป็นที่มาของความภาคภูมิใจสำหรับพวกเขาที่มีอัจฉริยะ หากวันหนึ่ง ถานไถหลิงกลายเป็นจักรพรรดิยุทธ์จริงๆ สถานะของเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวินจะแตกต่างออกไปหากมีศิษย์หนึ่งหรือสองคนจากฝ่ายเก่าเข้ามา

ถานไถหลิงพยักหน้าเล็กน้อยและมองดูมัคนายก 16 คนด้วยสายตาที่ชัดเจน

“มาที่กองพลเฉียงไห่ของเรา เรามีเผ่าปีศาจทะเลมากมาย!”

มัคนายกพูดอย่างกระตือรือร้นและยินดี ตัวเขาเองเป็นปีศาจทะเล

“ใครบอกว่าเราต้องไปที่กองพลเฉียงไห่ของเจ้า มีเผ่าปีศาจทะเลมากมายในกองพลซิงไห่ของเรา”

มัคนายกอีกคนที่มีหนวดเคราสีแดงขนาดใหญ่ลูบเคราของเขาและมองถานไถหลิงด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขากำลังดูเค้กแสนอร่อยชิ้นหนึ่ง

“ถานไถหลิง เจ้าสามารถเลือกกองพลของเราได้ แม้ว่ากองพลผู้พิชิตโลหิตของเราจะไม่ได้คัดเลือกเผ่าปีศาจทะเลมามากมาย แต่เราก็มีมรดกอันทรงพลังมากมายที่เจ้าสามารถเรียนรู้ได้ ซึ่งรวมถึงมรดกเทพเจ้าแห่งท้องทะเลที่ทรงพลังที่สุดของปีศาจทะเล กองพลของเราก็มี”

มัคนายกอีกคนที่ดูเหมือนหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“กองพลเฉียงไห่, ซิงไห่และพิชิตโลหิตล้วนมีมรดกของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล"

ฉีเหยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เพื่อประโยชน์ในอนาคตของเจ้า ทั้งสามกองพลนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเจ้าอย่างแน่นอน”

แม้ว่ามัคนายกของอสูรลึกลับตัวอื่นและหน่วยต่อสู้กับอสูรฟ้าจะอิจฉาเล็กน้อย แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้างเช่นกัน นี่เป็นเพราะว่าหน่วยรบของพวกเขามีมรดกซึ่งเหมาะสมกับเผ่าปีศาจทะเลน้อยกว่า แม้ว่าหน่วยรบหลักต่างๆ จะมีความสัมพันธ์เชิงแข่งขันกัน แต่พวกเขาก็มีความเป็นเอกภาพมากกว่า เป็นความรู้ทั่วไปว่าพวกเขาจะให้การฝึกฝนที่ดีที่สุดสำหรับนักสู้ที่มีพรสวรรค์ทุกคน พวกเขารู้ว่าถานไถหลิงไม่เหมาะกับกองพลของตน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ขึ้นไปคว้าตัวนาง

มรดกของเทพแห่งท้องทะเลเหรอ? ดวงตาของถานไถหลิงสว่างขึ้นและนางก็ขยับตัวเล็กน้อย นางเหลือบมองเย่เฉินที่อยู่ข้างๆ นางและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า

"โปรดให้เวลาข้าพิจารณาบ้าง"

“เจ้าสามารถคิดให้รอบคอบก่อนที่จะตอบเรา หากเจ้ามีคำถามใดๆ โปรดอย่าลังเลที่จะถาม ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าเจ้าจะไปกองพลไหน เราจะให้เงื่อนไขที่ดีที่สุดแก่เจ้า!”

มัคนายกทั้งสามแสดงความเห็นด้วยสายตากระตือรือร้น

ระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาวที่ 72 ถือเป็นพรสวรรค์ที่หายาก ในประวัติศาสตร์ของเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวิน มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีระดับ การหลอมรวมวิญญาณดวงดาว มากกว่า 50 คนคนนั้นได้กลายเป็นจักรพรรดิยุทธ์จริงๆ แต่เขาเสียชีวิตไปแล้วในการต่อสู้ ด้วยเหตุนี้ ถานไถหลิงจึงเป็นบุคคลที่สองในเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวินที่มีอัตราการหลอมรวมวิญญาณดวงดาวที่ 50 ขึ้นไป แม้ว่านางจะเป็นคนนอกก็ตาม

ขณะที่พวกเขามองไปที่ถานไถหลิงที่เย็นชาแต่มีเกียรติและงดงาม สายตาของฝูงชนก็ร้อนแรงยิ่งกว่าเดิม ในโลกนี้ ความงามของคนๆ หนึ่งจะได้รับการชื่นชมจากผู้อื่น แต่ผู้ที่แข็งแกร่งจะได้รับความเคารพจากมวลชนมากกว่า ถานไถหลิงไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามอย่างน่ากลัว แต่นางยังมีพรสวรรค์ที่น่าอัศจรรย์อีกด้วย ผู้คนจะไม่คลั่งไคล้นางได้อย่างไร?

ในขณะนี้ ถานไถหลิง ได้กลายเป็นดาราของผู้คนนับไม่ถ้วน หากไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ถานไถหลิงก็จะกลายเป็นตำนานในเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวิน!

อสูรทะเลฉิวถัวมองไปที่ถานไถหลิง แววชั่วร้ายแวบเข้ามาในดวงตาของเขา แต่เขารีบซ่อนงำมันไว้ คนอื่นๆ มุ่งความสนใจไปที่ถานไถหลิงและไม่ได้สังเกตเห็นเขา อย่างไรก็ตาม เย่เฉินสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นศัตรูของเขาต่อถานไถหลิง และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“ใครเป็นคนต่อไป?”

ระดับการหลอมรวมจิตวิญญาณดวงดาวของถานไถหลิงไปถึงระดับ 72 อย่างน่าประหลาดใจ ทำให้ฉีเหยี่ยนยิ่งเพิ่มความสนใจอย่างมากต่อผู้คนที่เหลือ

“ข้า หนานกงเจ๋อเอง”

หนานกงเจ๋อก้าวไปข้างหน้าโดยเอามือไพล่หลัง เขายืนอยู่ที่นั่นอย่างไม่จริงจัง แต่เขาแสดงออกถึงความสงบและอารมณ์อันสูงส่ง

ฉีเหยี่ยนและมัคนายกทั้ง 16 คนให้ความสนใจกับหนานกงเจ๋อมาเป็นเวลานาน มีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์บนร่างกายของหนานกงเจ๋อและพวกเขาทุกคนต่างก็ตั้งตารอคอยมัน พวกเขาสงสัยว่า การหลอมรวมวิญญาณดวงดาวของหนานกงเจ๋อสามารถไปได้ไกลแค่ไหน

มือขวาของฉีเหยี่ยนขยับและมุกเก้าสีก็บินไปทางหนานกงเจ๋อ

มุกเก้าสีเปล่งแสงพราวส่องบนร่างของหนานกงเจ๋อ

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน มุกเก้าสีก็สงบลงและไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ไหมว่าระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาวของเจ้าต่ำมาก?”

ฉีเหยี่ยนขมวดคิ้วด้วยความสับสน เขาสัมผัสได้ว่าหนานกงเจ๋อนั้นไม่ธรรมดา แต่ทำไมระดับการหลอมรวมของเขากับวิญญาณดวงดาวถึงต่ำนัก?

มัคนายกทั้ง 16 คนก็สับสนและผิดหวังเช่นกัน

ทันใดนั้นมุกเก้าสีก็ปล่อยแสงที่แวววาวอย่างยิ่ง มันยิ่งตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าตอนที่ตรวจดูถานไถหลิง มุกเก้าสีเริ่มส่งเสียงหึ่งๆและสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง เสียงนั้นชัดเจนราวกับเสียงพิณ

สีหน้าของหนานกงเจ๋อไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่เขาค่อยๆ ยื่นมือขวาออกไป มุกเก้าสีตกลงบนฝ่ามือของเขาราวกับว่ามันมีความฉลาด

หนานกงเจ๋อมองไปที่มุกเก้าสีในมือของเขา และดวงตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยแสงที่ไม่รู้จัก

โอว! ฉีเหยี่ยนและมัคนายกทั้ง 16 คนอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าอัตราการหลอมรวมจิตวิญญาณดวงดาวของหนานกงเจ๋อสูงถึง 82 อย่างน่าตกใจ!

“ระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาว: 82! เราจะมีเทพบริกรอีกคน!”

ฉีเหยี่ยนรู้สึกตื่นเต้นมากจนเขาร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว มัคนายกหลายสิบคนก็ตื่นเต้นอย่างมากและสูญเสียความสงบไปบ้าง

“นี่ช่างเหลือเชื่อ! ระดับการหลอมรวมของเขากับวิญญาณดวงดาวของเขาสูงถึง 82 แล้ว!”

ฝูงชนระเบิดความโกลาหล ทุกคนตื่นเต้นอย่างมาก

ทุกคนมองดูหนานกงเจ๋อ ด้วยความเคารพและนับถือ พวกเขาโชคดีมากที่ได้พบกับเทพบริกรในอนาคต นี่มันน่าตื่นเต้นเกินไป เราควรรู้ว่ามีเทพบริกรเพียงสิบคนทั่วทั้งทวีปเทียนหยวน

กลุ่มหกคนของเย่เฉินมาจากนอกทวีปเทียนหยวน โดยธรรมชาติแล้ว พวกเขาไม่ทราบถึงความสำคัญของเทพบริกรในทวีปเทียนหยวน อาจกล่าวได้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะเทพบริกรสิบคนที่คอยดูแลทั้งแปดทิศ ทวีปเทียนหยวนคงล่มสลายไปนานแล้ว เทพบริกรคือเทพผู้พิทักษ์ของทั้งทวีป!

“เทพบริกรหลายคนมีอายุนับหมื่นปีแล้ว ในช่วงหลายหมื่นปีนี้ มันหายากมากที่จะเห็นระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาวที่ 80 ขึ้นไป วันนี้ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นอีก!”

การตัดสินใจของจ้าวดวงดาวซิงฉวนนั้นถูกต้อง หลังจากค้นพบอัจฉริยะเช่นนี้ ทุกอย่างก็คุ้มค่า!

"เรากำลังจะได้เห็นการผงาดขึ้นของเทพบริกรอีกคน!"

“ในที่สุดทวีปเทียนหยวนก็ได้รับเทพบริกรที่ทรงพลังอีกคนแล้ว!”

นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง และหลายๆ คนก็ตื่นเต้นมากจนต้องหลั่งน้ำตาด้วยซ้ำ

ด้วยระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาว 82 ควบคู่ไปกับทรัพยากรที่เพียงพอ เขาสามารถก้าวไปเป็นเทพบริกรได้ในช่วงชีวิตของเขา! คนธรรมดาคงไม่สามารถจินตนาการได้ว่าความเร็วการฝึกฝนของพวกเขาจะเร็วแค่ไหนหากระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาวของพวกเขาถึง 82 สำหรับพวกเขา การยกระดับการฝึกฝนของพวกเขานั้นง่ายพอๆ กับการกินอาหาร

มีผู้คนมากมายในทวีปเทียนหยวนและทรัพยากรมีจำกัด โดยทั่วไปแล้ว ผู้ฝึกฝน ระดับจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และวิถีเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ได้รับการจัดสรรทรัพยากรน้อยกว่า แต่อัจฉริยะที่มีระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาวที่ 82 จะไม่มีวันขาดแคลนทรัพยากร ไม่ว่าหนานกงเจ๋อจะเข้าร่วมกองทัพใด เขาจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างเต็มที่จากกองทัพนั้น

“ท่านหนานกงเจ๋อ หกคนทางขวาของข้าคือมัคนายกของหน่วยรบหลักหกหน่วย เจ้าสามารถเลือกจากหน่วยรบหลักทั้งหกหน่วยได้ กองทัพมนุษย์ทั้งหกนี้มีวิชาลับที่สืบทอดมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ขั้นสูงสุด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะพอใจกับพวกเขา”

ฉีเหยี่ยนพยายามสงบสติอารมณ์และพูดด้วยรอยยิ้ม เขาเข้าใจว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งทวีปเทียนหยวนจะได้รู้จักเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวิน นี่เป็นเพราะอัจฉริยะที่มีระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาว 82 ได้ปรากฏตัวที่นี่!

แม้ว่าหนานกงเจ๋อจะออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ไป มันคงจะดีกว่านี้มากในอนาคต อย่างน้อยภาพใหญ่จะไม่ทำให้เรื่องยากสำหรับเมืองศักดิ์สิทธิ์เยี่ยนหวิน

หลังจากที่หน่วยรบของมนุษย์หลักทั้งหกได้ระบุเงื่อนไขของพวกเขาแล้ว หนาน กงเจ๋อ ก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เลือกกองพลวิญญาณพิสุทธิ์ มัคนายกกองพลวิญญาณพิสุทธิ์ตื่นเต้นมากจนหน้าแดง เขาต้องการกอดหนานกงเจ๋อและเฉลิมฉลอง ในทางกลับกันมัคนายกอีกห้าคนรู้สึกผิดหวัง นี่คืออัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งมีศักยภาพที่จะเป็นเทพบริกรได้! เขาคิดถึงพวกเขาเหมือนกัน

ฉีเหยี่ยนยังคงใช้มุกเก้าสีเพื่อทดสอบอาหลี ระดับการหลอมรวมวิญญาณดวงดาวของอาหลีนั้นจริงๆ แล้วสูงถึง 71 ซึ่งเทียบเท่ากับถานไถหลิง สิ่งนี้ทำให้ผู้คนจากกองพันอสูรฟ้าสิบอันดับแรกรู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นอัจฉริยะอีกคนหนึ่งที่มีศักยภาพในการทะลวงเข้าสู่อาณาจักรจักรพรรดิยุทธ์!

โอ้พระเจ้า วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น!

ตอนนี้พวกเขาประทับใจอย่างลึกซึ้งกับจ้าวดวงดาวซิงฉวน ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดสุดท้ายของซิงฉวน พวกเขาจะค้นพบอัจฉริยะขั้นสุดยอดมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?

กองพลของอสูรฟ้าสิบอันดับแรกล้วนเสนอเงื่อนไขที่เอื้อเฟื้อ หนึ่งในกองพลธาตุวิญญาณระบุไว้อย่างชัดเจนว่าพวกเขามีมรดกโบราณของเผ่าชะมดสิบหาง นอกจากนี้ พวกเขามีสุดยอดยอดฝีมือชะมดสิบหางหลายคนในกองพลซึ่งอาจเป็นอาจารย์ของอาหลีได้