เรียกข้าว่าเทพ - ตอนที่ 564 บริสุทธิ์

ตอนที่ 564 บริสุทธิ์

ภายใต้การนำของฟางซิงหยุน เจียงเสี่ยวรีบกลับไปที่เมืองเอโดะและกลับไปที่โรงแรมที่ทีมชาติพักอยู่

ตามที่คาดไว้เซี่ยเยี่ยน หวีจิ้น และโฮ่วหมิงหมิงรีบกลับมา เมื่อจำนวนผู้เข้าร่วมลดลง ในที่สุดคู่ต่อสู้ของเขาก็ได้รับการวิเคราะห์อย่างครอบคลุมและละเอียดถี่ถ้วน เขาจินตนาการได้ว่าในอีกห้าวันข้างหน้า เจียงเสี่ยวจะมีกิจกรรมทางจิตวิทยามากมายและอาจรู้สึกถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ 

เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน... ดูเหมือนว่าเจียงเสี่ยวจะได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษให้เข้าเรียนที่สถาบันนักรบดวงดาวในปักกิ่งใช่หรือไม่

ในขณะนี้ ในโรงแรม ยกเว้นอู๋เสี่ยวจิ้ง ผู้ต้องเข้าแข่งขันจัดอันดับ สมาชิกคนอื่นๆ ทั้งหมดได้กลับมาร่วมทีมแล้ว

หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เจียงเสี่ยวจะต้องได้รับการยั่วยุอีกครั้งจากโฮ่วหมิงหมิง

จะเรียกว่าเป็นการยั่วยุก็ไม่ได้ ควรจะเรียกว่า

“โชคดี เป็นกำลังใจให้”

เนื่องจากที่นี่เป็นฐานทัพ โรงอาหารของโรงแรมจึงเตรียมอาหารจีนทุกวัน ในที่สุด ฟางซิงหยุน ก็เป็นอิสระและไม่ต้องสั่งอาหารให้เจียงเสี่ยว

เหตุการณ์เกิดขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เจียงเสี่ยวกลับมาที่โรงแรม เขากำลังดื่มน้ำเต้าหู้ ก็มีร่างที่สง่างามในชุดขาวมานั่งลงข้างๆ เขา

เจียงเสี่ยวหันไปมอง แต่กลับพบเพียงดวงตาที่สดใสคู่หนึ่ง

มีข้าวต้มลูกเดือย 1 ชาม, เครื่องเคียง 4 อย่าง และไข่ 6 ฟอง

ถ้าไม่ใช่เพราะอาหารรสเค็มและเผ็ด เจียงเสี่ยวคงคิดว่าเธอกำลังอยู่ในช่วงกักตัว

“อย่าแพ้ล่ะ”

เธอนั่งลงข้างๆ เจียงเสี่ยวและตักโจ๊กข้าวฟ่างร้อนๆ ขึ้นมา

เจียงเสี่ยวตกตะลึงเล็กน้อยและหันกลับไป

“อะไรนะ”

หลังจากนั้น โฮ่วหมิงหมิงก็หยิบไข่ขึ้นมาแล้วบดบนโต๊ะ ส่งเสียง “กร๊อบแกร๊บ” แล้วพูดต่อว่า

“ก่อนที่นายจะมาเจอฉัน อย่าแพ้”

จ้าวเหวินหลงซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามโต๊ะ กำลังรับประทานอาหารอย่างลับๆ กลุ่มสามคนจากเมืองหลวงได้พบกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาได้กลายเป็นคนที่มีสิทธิ์พูดน้อยที่สุดในเรื่องนี้

การแข่งขันเวิลด์คัพแบบคัดออกนั้นช่างโหดร้ายจริงๆ

หากเป็นการต่อสู้เพื่อชิงคะแนนหรือการต่อสู้แบบแท็กทีม เหล่าแกนหลักเก่าๆ อาจยังคงสู้รบอยู่ในสนาม

จากนั้นเธอก็หยิบไข่ที่บดแล้วขึ้นมา ปอกเปลือกอย่างรวดเร็ว แล้ววางลงบนจาน อย่างไรก็ตาม เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและหันไปมองเจียงเสี่ยวที่งี่เง่า

“เกิดอะไรขึ้น นายไม่มั่นใจเหรอ?”

ปรากฏว่าตั้งแต่ที่เขาพูดอย่างนั้น เจียงเสี่ยวก็จ้องมองโฮ่วหมิงหมิงด้วยความมึนงง ดูเหมือนไม่ฉลาดเลย

“โอ้ โอ้” เจียงเสี่ยวกลับมามีสติอีกครั้งและตระหนักว่าตอนนี้เขาเพิ่งจะหลุดออกไปจริงๆ เขาถามว่า

“ทำไมเธอถึงใส่หมวกขณะกินอาหาร?”

จากนั้นเธอก็ยกมือขึ้นเพื่อปรับหมวกเบสบอลสีขาวของเธอและกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อเจียงเสี่ยวใช้โอกาสนี้เอื้อมมือเข้าไปในจานของเธอและขโมยไข่ที่เธอเพิ่งปอกมา

โฮ่วหมิงหมิง “!!!”

เจียงเสี่ยวกัดไข่เข้าไปคำหนึ่งแล้วรู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย เขาจึงรีบก้มหัวลงและจิบน้ำเต้าหู้

โฮ่วหมิงหมิงมีสีหน้าว่างเปล่า เธอหยิบไข่อีกฟองขึ้นมาแล้วบดบนโต๊ะ

ในขณะที่กำลังกิน เจียงเสี่ยวก็มองดูเธออีกครั้ง

จากนั้น การเคลื่อนไหวของโฮ่วหมิงหมิงก็หยุดลงชั่วขณะ จากนั้น ... จากนั้นเธอก็ถือจานย้ายออกไปสองที่นั่ง

“ฮึๆๆ… ฮ่าฮ่าฮ่า!”

จ้าวเหวินหลงอดหัวเราะออกมาดังๆ ไม่ได้ เมื่อเขาเห็นว่าโฮ่วหมิงหมิงพ่ายแพ้

อย่างที่คาดไว้ ผู้ร้ายต้องถูกผู้ร้ายทรมาน!

เขาต่อสู้กับโฮ่วหมิงหมิงมานานถึงสี่ปี ดังนั้นเขาจึงรู้จักนิสัยของเธอเป็นอย่างดี

เธอมีความภูมิใจและเย่อหยิ่งมาก และความแข็งแกร่งของเธอก็แข็งแกร่งเช่นกัน คนทั่วไปไม่สามารถทำอะไรเธอได้จริงๆ ปัญหาคือ… ใครจะกล้าขโมยไข่ของคนอื่นมากินเหมือนกับเจียงเสี่ยวกันล่ะ

หลังจากนั้น เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่จ้าวเหวินหลง ริมฝีปากของเธอขยับราวกับต้องการจะพูดบางอย่าง แต่เธอบังคับตัวเองให้กลั้นเอาไว้ เธอก้มหัวลงและปอกเปลือกไข่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม เจียงเสี่ยวหยิบจานของเขาขึ้นมาแล้วนั่งลงอีกครั้ง

การเคลื่อนไหวของโฮ่วหมิงหมิงหยุดนิ่งเล็กน้อย

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ฉากเช่นนี้ทำให้จ้าวเหวินหลงมีความสุขอย่างยิ่ง

ตราบใดที่ยังมีที่ที่ใบไม้เต้นรำ… เอ่อ ไม่หรอก

ตราบใดที่ยังมีเจียงเสี่ยวอยู่ สถานการณ์ก็จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

ทุกคนในโรงอาหารต่างมองไปที่ทีมมหาวิทยาลัยนักดวงดาวปักกิ่ง โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาถึงมีความสุขมากแค่ได้กินอาหารเช้า

ไม่มีอะไรจะพูดมากนักเกี่ยวกับการเตรียมแข่งในช่วงไม่กี่วันนี้ ข่าวสำคัญเพียงสองข่าวเท่านั้นก็คือทีมของซ่งชุนซีได้เข้าสู่รอบ 33 ทีมสุดท้าย

ในระยะนี้ของการแข่งขันแบบทีม มีทั้งหมด 65 ทีม โดยทีมที่ได้บายหนึ่งทีม ทีม 64 อันดับแรกเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือด ซ่งชุนซีและทีมของเธอเริ่มกล้าหาญมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพวกเขาต่อสู้และเอาชนะอินทรีแพมพาสได้ ครั้งนี้ สาธารณรัฐอาร์ดินถูกคัดออกทั้งการแข่งขันแบบทีมและเดี่ยว

ทีมที่ได้บายมาจากราชอาณาจักรไรส์ และผู้คนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อเห็นว่าจักรวรรดิยุโรปช่างโชคดีเหลือเกินและมีหน้าตาที่ดีงามจริงๆ

คืนนั้น เจียงเสี่ยวและหานเจียงเสวี่ยคุยกันเป็นเวลานาน โดยพูดแสดงความยินดีและให้กำลังใจกันทีละคำ ในที่สุด เจียงเสวี่ยน้อยก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงวางสายไป ทิ้งให้เจียงเสี่ยวต้องอยู่ในความยุ่งวุ่นวาย

ทำไมเธอถึงแขวนผม ผมชมเธอไม่พอ!

สวรรค์สามารถเป็นพยานได้ว่าเจียงเสี่ยวภูมิใจในตัวเธอจริงๆ

เฮ้อ… เด็กสาวคงเขินอายมากและไม่อาจทนต่อคำชมของเจียงเสี่ยวได้ ดังนั้น เธอจึงวางสายทันที

เจียงเสี่ยวเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน เมื่อเซี่ยเหยียนอ่านข่าวในรถแท็กซี่ เจียงเสี่ยวก็รู้สึกอายมากเช่นกัน

ข่าวสำคัญชิ้นที่สองคือเรื่องการแข่งขันจัดอันดับของอู๋เสี่ยวจิ้ง

การแข่งขันจัดอันดับของกลุ่มที่แพ้เป็นการแข่งขันที่ไร้มนุษยธรรม ตารางการแข่งขันแน่นขนัดจนน่ากลัว แทบไม่ให้ผู้เล่นได้พักผ่อนเลย ในวันแรก อู๋เสี่ยวจิ้งชนะติดต่อกันสองเกมและเข้าสู่ 10 อันดับแรกจาก 40 คนในกลุ่มที่แพ้โดยตรง

วันต่อมา อู๋เสี่ยวจิ้งชนะอีกสามรอบติดต่อกัน ในรอบแรก เธอชนะและเข้าสู่รอบห้าอันดับแรก ในรอบที่สอง เธอแพ้ให้กับเจ้าชายบีโนแห่งสเปนและไม่โชคดีพอที่จะเข้าสู่รอบสามอันดับแรก ในรอบที่สาม เธอยังคงพ่ายแพ้และสุดท้ายก็อยู่ในอันดับที่ห้าในกลุ่มผู้แพ้

อยู่อันดับที่ 46 ในการแข่งขันประเภทบุคคลชิงแชมป์โลก

หลังจากประสบความสำเร็จดังกล่าว สื่อท้องถิ่นก็ให้การต้อนรับและชื่นชมสาวสวยคนนี้เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอจะติดอันดับ 50 อันดับแรกของโลกและต่อสู้ท่ามกลางเหล่าเทพผู้ยิ่งใหญ่อย่างกล้าหาญ แต่เธอก็ทำให้สถาบันและประเทศของเธอภาคภูมิใจไปแล้ว

วันรุ่งขึ้น อู๋เสี่ยวจิ้งรีบกลับเมืองเอโดะเพื่อรอการจับฉลากผู้เข้าแข่งขัน 41 อันดับแรก

เด็กสาวคนนี้บุกเข้าไปในห้องโถงเล็ก และสิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือหวีจิ้น

เมื่อมองดูอีกครั้ง หรือจะพูดให้ชัดเจนก็คือ หลังจากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงถอนหายใจ

เสียงถอนหายใจแบบนี้เป็นเรื่องปกติในพิธีการจับฉลาก แต่ต่อมาก็กลายเป็นเสียงตะโกนแสดงความไม่พอใจและการโต้เถียงกัน ฉากที่เสียงดังและวุ่นวายเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องปกติในหอประชุมของทีมชาติ

“เราจะแตะมันได้จริงๆ เหรอ?”

“จะทำยังไงดี ทั้งสองคนมีกำลังใจที่จะก้าวต่อไป!”

“จนถึงขณะนี้ จีนได้ผ่านเข้ารอบ 41 คนสุดท้าย โดยเหลือผู้เข้าแข่งขันมากที่สุด 4 คน สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และประเทศใหญ่ๆ อื่นๆ มีผู้เข้าแข่งขันเพียง 2 คนเท่านั้น”

อู๋เสี่ยวจิ้งมองไปยังจอภาพขนาดใหญ่ตรงหน้าเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วรูม่านตาของเธอก็หดตัวลงเล็กน้อย

ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเหตุใดห้องโถงเล็กจึงมีเสียงคร่ำครวญมากมาย!

บนจอใหญ่ขนาดใหญ่

หวีจิ้น ผู้กำลังเล่นมีดหมอกและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ปรากฏตัวในที่นั่งแรก

ในที่นั่งที่สอง ธงดาวแดงก็โบกสะบัดสูงเช่นกัน และมีร่างหนึ่งที่คาบเข็มขัดหมัดสีดำไว้

หวีจิ้น - เซียะเยี่ยน!

สงครามกันเองของจีน!

หากไม่วิเคราะห์ว่าใครแข็งแกร่งกว่าหรืออ่อนกว่า ผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของแมตช์นี้คือผู้เล่นชาวจีนคนใดคนหนึ่งจะต้องหยุดอยู่ใน 21 อันดับแรก

ในเวลาเดียวกัน หวีจิ้นผู้ซึ่งยืนอยู่ที่หน้าต่างด้านซ้ายของห้องโถง หันศีรษะ สายตาของเขามองผ่านร่างของเซียะเยี่ยน ซึ่งพิงกำแพงทางด้านขวา

ในทางกลับกัน เซียะเยี่ยนเพียงปรับผ้าพันหมัดของเขาอย่างเงียบๆ เขาก้มหัวลงและดูเหมือนจะมีสมาธิอย่างเต็มที่ เขาไม่สนใจผลลัพธ์เลย

ทุกคนในห้องโถงมองดูพวกเขาทั้งสองและรู้สึกว่าน่าเสียดาย แต่พวกเขาก็สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้อย่างช่วยไม่ได้

“เขามาหลังจากนั้นชัดเจน!”

จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องเบาๆ ดังขึ้น ทุกคนจึงจ้องมองไปที่จอภาพขนาดใหญ่ตรงหน้าพวกเขาอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าผังบุคคลทางด้านขวาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หัวใจของทุกคนก็เต้นแรงขึ้น

“อย่าให้เป็นเจียงเสี่ยวผี!”

“อย่าล้อเล่นกับฉัน!”

“ฉันกังวลเหลือเกิน… ฉันจะไป ฉันจะไป…”

อู๋เสี่ยวจิ้งยืนอยู่ที่ประตูหลังกอดอกและจ้องมองจอภาพขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยดวงตาที่สวยงาม เธอพึมพำว่า

“ไม่ ไม่”

ดิง! ดิง!

ในห้องโถง ทุกคนต่างถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ ความต้องการของพวกเขาถูกลดลงเรื่อยๆ ไม่สำคัญว่าจะเป็นเทพหรือปีศาจ ขอเพียงไม่ใช่สงครามกลางเมืองจีน

เทพเสด็จมาประทับนั่งตำแหน่งที่สองแล้ว!

เทพธิดาแห่งนักล่าที่สไตล์แทบจะเหมือนกับโฮ่วหมิงหมิงเลย!

กรีก เธอคือตัวแทนของการใช้หอก ธนู และลูกศรในเวิลด์คัพครั้งนี้: คาร์เมลิตา!

และแล้วโฮ่วหมิงหมิงก็เป็นตัวแทนของธนูและลูกศรในเวิลด์คัพครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

การแข่งขันนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างป้อมปราการสองแห่ง เมื่อผลการแข่งขันประกาศออกมา ผู้ชมจากประเทศอื่นๆ ทั่วโลกก็พากันโวยวายกันหมด ยกเว้นชาวจีนและชาวกรีกวิตกกังวลเล็กน้อย

แม้ว่าการต่อสู้ระหว่างทั้งสองจะยังไม่เริ่มต้น แต่เลือดของผู้ชมก็เริ่มเดือดแล้ว

นี่อาจเป็นแมตช์ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในเวิลด์คัพครั้งนี้!

คาร์เมลิตาสวมตำแหน่งเทพีแห่งการล่าสัตว์ในตำนานกรีกไว้บนศีรษะของเธอ

ในฐานะกัปตันทีมชาติจีนและบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศที่แข็งแกร่ง โฮ่วหมิงหมิงจะสามารถยิงสมาชิกแห่งเทพเจ้าและเดินตามรอยเท้าของเจียงเสี่ยวผีได้หรือไม่

ในห้องโถง ปฏิกิริยาของทุกคนค่อนข้างน่าสนใจ ในตอนแรก พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ตราบใดที่ไม่ใช่สงครามกลางเมืองจีน ก็ไม่เป็นไร จากนั้น หัวใจของพวกเขาก็เริ่มเต้นแรงอีกครั้ง

จนถึงตอนนี้ เขายังไม่เคยพบกับคู่ต่อสู้ประเภทนี้หรือแม้แต่ระดับความแข็งแกร่งเท่านี้มาก่อน การต่อสู้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย …

ผู้คน 41 คนถูกแบ่งกลุ่มอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากจับฉลาก ธงดาวแดงก็โบกสะบัดอีกครั้งในที่นั่งแรก

ภาพเจียงเสี่ยวถูหัวของเขาและเข้าสู่สายตาของทุกคนด้วยรอยยิ้มขณะที่สวมชุดทีมชาติ

การจับฉลากใกล้จะสิ้นสุดแล้ว เหลือคนเลือกเพียงห้าคนในที่นั่งที่สอง และภาพก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ดิง! ดิง!

ขณะต่อมาห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด!

ในตำแหน่งที่ 2 ธงชาติอเมริกาจะกระพริบโบกขึ้นและแขวนอยู่ที่มุมขวาบน

ภายใต้ธงชัย

ชายคนหนึ่งที่มีผมบลอนด์หยิกยุ่งๆ ตาโปน เส้นเลือดสีฟ้าคืบคลานบนหน้าผาก และรอยยิ้มกว้างที่ยาวถึงหูก็ปรากฏขึ้น!

เขาหัวเราะ หัวเราะแบบบ้าคลั่ง…

จอร์จ สตาร์!

“อย่า…อย่า!”

“… ขอบคุณนะ…”

แม้ว่าห้องประชุมจะเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ทีมชาติ แต่ความหยาบคายก็ปรากฏออกมา

แม้ว่านักเรียน 41 อันดับแรกนั้นล้วนเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ แต่แม้ว่าจะมีนักเรียนเก่งๆ เต็มบ้านก็ยังสามารถเปรียบเทียบคนดีกับคนชั่วได้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจอร์จ สตาร์เป็นดาวที่แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งในระดับที่แปลกประหลาด

คนประเภทนี้ไม่ควรถูกตัดสินด้วยสามัญสำนึก เขาบ้าอย่างถึงที่สุดและมีรัศมีความชั่วร้ายที่น่าเกรงขาม

จ้าวเหวินหลงมีสีหน้าบูดบึ้ง เขาหวังจริงๆ ว่าเจียงเสี่ยวจะดึงโฮ่วหมิงหมิงมาแทน

บัซซซซ!

ทันใดนั้น โฮ่วหมิงหมิงก็ยืนขึ้น และทุกๆ คนก็จับจ้องไปที่หน้าจอหรือเจียงเสี่ยว แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากถูกดึงดูดโดยเธอ

โฮ่วหมิงหมิงก้าวไปทางด้านหลังของห้องโถงและยืนอยู่ข้างๆ เจียงเสี่ยว

เธอโน้มตัวลงและกดมือลงบนไหล่ของเจียงเสี่ยว ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด เธอกล่าวว่า

“อย่าแพ้”

จากภาษากาย การแสดงออก และคำพูดของเธอ ในที่สุดเจียงเสี่ยวก็ตระหนักได้ว่าความปรารถนาที่จะต่อสู้ของเธอนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน

มันแข็งแกร่งมากจนเธอสูญเสียความสงบ

เจียงเสี่ยวเอื้อมมือไปดันมือของเธอออกจากไหล่ของเขา ก่อนจะกระแทกลงบนโต๊ะตรงหน้าเขา

เจียงเสี่ยวเงยหน้าขึ้นมองโฮ่วหมิงหมิงแล้วพูดว่า

“ฉันจะไม่แพ้ ปัญหาคือเธอสามารถยิงเทพธิดานักล่าและชิงตำแหน่งเธอมาได้หรือไม่ เธอรู้สไตล์การแข่งขันของฉันดี ฉันจะฆ่าแต่เทพเท่านั้น”

หลังจากนั้น เธอจ้องมองเจียงเสี่ยวด้วยสายตาที่ร้อนรุ่ม หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็กำมือแน่นและยืดนิ้วก้อยออกมา

“สัญญา” โฮ่วหมิงหมิงกล่าว

เจียงเสี่ยวตกตะลึงไปชั่วขณะ เพราะเขาคิดว่าเธอไม่ควรทำเรื่องไร้สาระแบบนั้น อย่างไรก็ตาม เธอดูจริงจังมาก

ทันใดนั้น

เจียงเสี่ยวรู้ว่าทำไมเธอถึงสามารถกลายเป็นนักรบดวงดาวอันดับหนึ่งในปักกิ่งและได้รับการสวมมงกุฎเป็นผู้เล่นเดี่ยวอันดับหนึ่งในประเทศจีน

ความเย่อหยิ่ง ความหยิ่งยโส และกระทั่งความโอหังที่เธอแสดงออกมา

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าเธอเป็นคนเรียบง่ายมาก เป็นนักรบดวงดาวที่บริสุทธิ์และแท้จริง!

เจียงเสี่ยวเกี่ยวนิ้วก้อยของเธอและขยับขึ้นลงเพื่อทำท่า “ยืนยัน”

เขาพยักหน้า หลังจากนั้นพฤติกรรมเด็กๆ ของเขาทำให้เจียงเสี่ยวตระหนักถึงความจริงประการหนึ่ง

ในบรรดาเหล่านักรบดาวนั้น มีคนๆ ​​หนึ่งที่บริสุทธิ์และน่ารักจริงๆ