เรียกข้าว่าเทพ - ตอนที่ 586 อาหารสุนัขกัด

ตอนที่ 586 อาหารสุนัขกัด

ยิ่งใกล้การแข่งขันชิงแชมป์โลกมากเท่าไหร่ ระดับการต่อสู้ก็จะยิ่งสูงขึ้นและมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น

แม้ว่าจะมีผู้เล่นเพียง 5 คนในการแข่งขันรอบคัดเลือกอันดับที่ 7 ถึง 11 แต่เจียงเสี่ยวก็ยังมีเวลาพักผ่อน 5 วัน รอบคัดเลือกไม่ได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ผู้เล่นที่ผ่านเข้ารอบ 6 อันดับแรกมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ

เวลา 5 วันเพื่อศึกษาคู่ต่อสู้ 5 คนนั้นก็เกินพอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าในรอบก่อนหน้านี้ เจียงเสี่ยวได้จดจำข้อมูลของคนเหล่านี้ขึ้นใจไปแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น ภายใต้การจัดทีมผู้ฝึกสอน เจียงเสี่ยวไม่ได้ศึกษาคู่ต่อสู้ของเขาเป็นเวลาพิเศษ แต่กลับชมการแข่งขันของทีมจีนในหอประชุมเล็กกับนักเรียนและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

ในวันนี้มีการแข่งขันระหว่างทีมสถาบันการทหารเซี่ยงหนานกับทีมมหาวิทยาลัยนักรบดวงดาวปักกิ่ง โดยทีมของซ่งชุนซีถูกกำหนดให้ลงเล่นเกมแรก

แต่น่าเสียดาย… ทีมจากมหาวิทยาลัยนักรบดวงดาวปักกิ่งพ่ายแพ้

พวกเขาเผชิญหน้ากับผู้เล่นระดับเมล็ดพันธุ์ที่แท้จริง ทีมนอร์เวย์ ซึ่งแข็งแกร่งเกือบจะเท่ากับสถาบันการทหารเซี่ยงหนาน

ในแมตช์นี้ นักรบดวงดาวแห่งปักกิ่งอย่างเหอซู่ได้แสดงฝีมือราวกับเทพเจ้า เขาเดินไปทั่วเพื่อดับไฟและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสูญหายไป อย่างไรก็ตาม เทพเจ้าได้ปรากฏตัวในตำนานนอร์ส นี่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่ถูกเขียนไว้ในเรื่องราวของตำนานนอร์ส

กลุ่มนักรบดวงดาวจากนอร์เวย์นี้มีพลังเหนือกว่าจริงๆ พลังสายฟ้าของพวกเขามีพลังมหาศาล ไม่มีการป้องกันใดที่พวกเขาจะทำลายไม่ได้ และไม่มีผู้ใดที่พวกเขาจะโจมตีไม่ได้

ภายใต้การจัดรูปแบบสายฟ้าที่ยึดไว้โดยคนสี่คน สมาชิกทั้งสี่ของนักรบดวงดาวแห่งปักกิ่งต้องดิ้นรนเพื่อยึดไว้ ซ่งชุนซีต่อสู้จนหมดสติ อู่เย่าซึ่งมีร่างกายเป็นเหล็กก็เต็มไปด้วยบาดแผลเช่นกัน และเหอซู่ก็ถูกยืดออกไปอีก ในท้ายที่สุด เขาใช้ทักษะดวงดาวของเขาเพื่อปกป้องหานเจียงเสวี่ยครั้งหนึ่งและหมดสติไปในที่สุด

หานเจียงเสวี่ยผู้อ่อนโยนในที่สุดก็พบชะตากรรมของเธอ

คนทั้งสี่จากนอร์เวย์ชนะการแข่งขันหลังจากชดใช้ด้วยการบาดเจ็บอย่างหนักต่อนักเวทย์และผู้สนับสนุนของพวกเขา ในทางกลับกัน นักรบสี่คนจากปักกิ่งกลับถูกเผาและถูกทำลายจนหมดสิ้น

ผู้คนในห้องประชุมเล็กต่างวิตกกังวลจนแทบสิ้นสติ เจียงเสี่ยวแทบจะนั่งนิ่งไม่ได้ โชคดีที่ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้เจียงเสี่ยวรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

จนกระทั่งถึงตอนจบ เมื่อเจียงเสี่ยวเห็นหานเจียงเสวี่ยที่เสื้อผ้าถูกเผา กลับมามีสติและถูกพาตัวออกจากสถานที่แข่งขัน เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

ทีมเมืองหลวงมหาวิทยาลัยนักรบดวงดาวปักกิ่ง ตกรอบสี่ทีมสุดท้ายของการแข่งขันเวิลด์คัพ

ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยนักรบดวงดาวปักกิ่งและมหาวิทยาลัยนักรบดวงดาวเซี่ยงไฮ้เป็นคู่ต่อสู้ที่สูสีกัน โดยทั้งสองทีมพ่ายแพ้ให้กับทีมวางอันดับหนึ่งของนอร์เวย์

เพียงแค่มหาวิทยาลัยนักรบดวงดาวปักกิ่ง อยู่ได้เพียงแค่สองรอบเท่านั้นและผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของเวิลด์คัพ

การแข่งขันรอบสุดท้ายในกลุ่มทีมเดิมทีนั้นเป็นการแข่งขันแบบ 17 คัด 9 แต่ในระหว่างการแข่งขันรอบสุดท้าย มีการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ชนะ ส่งผลให้ทีมที่ชนะต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันเนื่องจากบุคลากรไม่ครบ

ดังนั้น ทีมของซ่งชุนซีจะต้องทำการแข่งขันรอบคัดเลือกในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเพื่อแข่งขันเพื่ออันดับที่ 5 ถึงอันดับที่ 8

เจียงเสี่ยวยังส่งข้อความหาหานเจียงเสวี่ยด้วยหวังว่าเธอจะติดต่อเจียงเสี่ยวทันทีที่เธอเห็น

อย่างไรก็ตาม ทีมงานที่นั่นได้ติดต่อมายังทีมงานที่นี่โดยเร็วที่สุด และแจ้งให้เจียงเสี่ยวทราบว่าหานเจียงเสวี่ยมีสุขภาพแข็งแรงดีและไม่มีปัญหาใดๆ

ดูเหมือนว่าเมื่อความเข้มแข็งของเธอได้รับการยอมรับ จะมีผู้คนสนใจคุณมากขึ้น

เนื่องจากเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในการแข่งขันประเภทบุคคล ทีมชาติจึงไม่อยากให้เจียงเสี่ยวมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ มากเกินไป

การแข่งขันนัดที่สองในตอนเช้านั้นน่าตื่นเต้นมากสำหรับทุกคน ทหารทั้งสี่นายจากโรงเรียนทหารเซี่ยงหนานปฏิบัติตามคำสั่งและประพฤติตนอย่างพร้อมเพรียงกัน

ทั้งสี่คนเล่นกันราวกับเป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ทุกคนหลงใหล การต่อสู้จบลงภายใน 11 นาที และพวกเขาก็ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของเวิลด์คัพ!

เป็นเกมที่น่าตื่นเต้นมาก การแข่งขันเป็นทีมเป็นเรื่องของทั้งทีม!

ไม่ว่าความแข็งแกร่งส่วนบุคคลของคุณจะโดดเด่นเพียงใด คุณอาจสามารถครอบงำในกลุ่มเล็กๆ ของคุณได้ แต่ในรอบชิงชนะเลิศเวิลด์คัพ ทุกคนก็มีความแข็งแกร่งเท่ากัน และเป็นเรื่องไม่สมจริงเลยที่คุณจะแสดง ความกล้าหาญส่วนตัวบ้าง

ยังไงก็ยังคงเป็นทหารอยู่…

นักเรียนมัธยมปลายส่วนใหญ่อยู่ในระดับเมฆดาวและมีช่องดาวว่าง 8 ช่อง

หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยและผ่านชั้นนทีดาวแล้ว ช่องดาวพิเศษแปดช่องใน ชั้นนทีดาวจะต้องใช้ในการดูดซับทักษะดาวโดยตรงตามการกำหนดค่าของทีมสี่คน

ในระดับหนึ่ง จำเป็นต้องเสียสละส่วนบุคคลเพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

เห็นได้ชัดว่านักเรียนทหารทั้งสี่คนไม่สนใจผลประโยชน์และความเสียหายส่วนตัว และเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนในระดับหนึ่งเพื่อทีม ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดของโลกได้สำเร็จ ผลตอบแทนที่เขาได้รับอาจจะมากขึ้น ดังนั้นจากมุมมองทางโลก การมองในระยะยาวจึงเป็นเรื่องที่ดีกว่า

สถาบันการทหารเซี่ยงหนานผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเจอกับใครต่อไป จะดีที่สุดถ้าไม่ใช่เหล่าเทพแห่งอาณาจักรนอร์เวย์ ทักษะดวงดาวของเหล่าเทพสายฟ้าเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละภูมิภาค ซึ่งยากจะต้านทานได้จริงๆ

เจียงเสี่ยวมีเวลาพักผ่อนเพียงช่วงเช้าเท่านั้น ตอนบ่าย เขาถูกเจ้าหน้าที่ฝึกสอนลากไปวิเคราะห์คู่แข่ง

ระหว่างการสัมภาษณ์เมื่อวานตอนบ่าย คำเยินยอของเจียงเสี่ยวเป็นประโยชน์มาก โดยเฉพาะกับนักวิเคราะห์สองคนที่ไปกับเขาในการค้นคว้าคู่แข่งของเขา พวกเขาถือเอกสารไว้ในมือและวางแล็ปท็อปไว้ตรงหน้าเจียงเสี่ยว พวกเขาดึงเจียงเสี่ยวไปข้างๆ แล้วเทศนาซึ่งทำให้เจียงเสี่ยวหัวร้อน

มันจบแล้ว มันจบแล้ว ฉันขยายความมันออกไปนิดหน่อย

ฉันผลักดันตัวเองอย่างหนักมาก ดังนั้นอีกห้าวันข้างหน้าจะเหนื่อยมากกว่าช่วงสุดท้ายของการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

ที่น่าสังเกตก็คือ เมื่อศึกษาคู่ต่อสู้ในตอนเช้า วิดีโอคอลของหานเจียงเสวี่ยก็ปรากฏขึ้น หลังจากที่หัวหน้าทีมเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าของหานเจียงเสวี่ย เขาก็ไม่ได้ห้าม เจียงเสี่ยวไม่ให้รับสาย แต่กลับให้เวลาเขาพัก 10 นาทีแทน

หลังจากที่ได้ยืนยันด้วยตัวเองว่าหานเจียงเสวี่ยมีสุขภาพแข็งแรง เจียงเสี่ยวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ และสามารถอุทิศตนเพื่อศึกษาคู่ต่อสู้ของเขาได้

คืนนั้น ในที่สุดเจียงเสี่ยวก็ได้พบกับอีกสองทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในช่วงพักของเขา

ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเทพที่แท้จริงก็ยังคงเป็นเทพที่แท้จริง

หากเปรียบเทียบกับผลงานที่แข็งแกร่งของประเทศต่างๆ ในยุโรปในการแข่งขันแบบผู้เล่นเดี่ยว ในการแข่งขันแบบทีม มีเพียงอาณาจักรเหนือของยุโรปทั้งหมดเท่านั้นที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

สถานที่ที่เหลืออีกสองแห่งมาจากแอฟริกา สาธารณรัฐอียิปต์

ในความเป็นจริง ทีมสถาบันการทหารเซี่ยงหนานได้กำจัดทีมนักรบดวงดาวชุดที่ 2 ของสาธารณรัฐอียิปต์โบราณในรอบ 33 คัด 17

ทีมที่ติดอันดับสี่ของโลกนี้คือทีมจากสาธารณรัฐอียิปต์โบราณ

ในการแข่งขันแบบทีม ตำแหน่งแกนหลักของระบบเวทย์จะถูกยกระดับขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด และนี่ไม่ใช่แค่พูดเล่นๆ ราชาทรายมีพลังโจมตีแย่กว่าราชาสายฟ้าจากทางเหนือเล็กน้อย แต่มีการควบคุมมากกว่า ซึ่งทำให้เขาเหมาะกับการต่อสู้แบบทีมมากกว่า

เมื่อสนามหญ้าสีเขียวถูกปกคลุมไปด้วยทรายสีเหลือง และเมื่อผู้เล่นของทั้งสองทีมสามารถต่อสู้ได้เฉพาะบนพื้นทราย ข้อได้เปรียบในบ้านของฟาโรห์อียิปต์โบราณก็มีมากเกินไป

ประเทศสุดท้ายที่คว้าตำแหน่งในรอบรองชนะเลิศคือประเทศจากเอเชีย

มันมาจากเอเชียตะวันตก ประเทศอิสราเอล

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ทีมนี้ถือเป็นตัวเลือกที่แตกต่างไปจากทางเลือกอื่นๆ ทั้งจีนและนอร์เวย์ต่างก็มีสายโล่ 1 คน สายคล่องแคล่ว 1 คน สายเวทย์ 1 คน และสายสนับสนุน 1 คน อียิปต์โบราณมีโล่ 1 คน สายเวทย์ 2 คน และสายสนับสนุน 1 คน อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าแข่งขันทั้งสี่จากประเทศอิสราเอลมีสายคล่องแคล่ว 3 คน และสายสนับสนุน 1 คน

สิ่งที่พวกเขาเล่นคือการลอบสังหาร และสิ่งที่พวกเขาต่อสู้คือการต่อสู้ที่รวดเร็ว

การเคลื่อนไหวของเขาแปลกและไม่แน่นอน เขาสามารถซ่อนตัวตอนกลางวันแสกๆ และไม่ให้ใครเห็นได้

ถ้าบอกว่าเป็นเอกลักษณ์ก็ต้องเป็นเอกลักษณ์แน่นอน การจัดทีมแบบนี้คงไม่สามารถยืนหยัดในการแข่งขันแบบทีมได้

“ถ้าจะบอกว่ามันเป็นแบบดั้งเดิม…” จริงๆ แล้ว มันก็เป็นแบบดั้งเดิมมากเช่นกัน เพราะทีมต่างๆ ที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันเวิลด์คัพในอดีตไม่เคยเปลี่ยนรูปแบบทีมเลย พวกเขาใช้ทีมที่มีสายคล่องตัว 3 คนและสายสนับสนุน 1 คนเสมอมา

ผู้เล่นจากประเทศนี้มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ละคนโหดเหี้ยมกว่าคนอื่น แม้แต่นักรบดวงดาวจากแผนกการแพทย์ หมัด เตะ มีดสั้น และเทคนิคการลอบสังหารอันครอบคลุมอันน่าภาคภูมิใจของประเทศก็ล้วนแต่เป็นระดับชั้นนำ

ในความเป็นจริงเจียงเสี่ยวคิดว่าเขาควรไปที่นั่นเพื่อศึกษาเพิ่มเติม

ระหว่างการเตรียมการที่เข้มข้น เจียงเสี่ยวได้เห็นชัยชนะครั้งแรกของทีมนักรบดวงดาวปักกิ่งในกลุ่มผู้แพ้ ก่อนที่เกมที่สองจะเริ่มในวันรุ่งขึ้น ในคืนวันที่ 2 กรกฎาคม เจียงเสี่ยวได้พบกับเพื่อนเก่า

คืนนั้น ขณะที่เจียงเสี่ยวกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างลับๆ บนเตียง เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูทันที

เจียงเสี่ยวรีบซ่อนโทรศัพท์มือถือของเขาไว้ใต้หมอน สวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้น และเดินไปเปิดประตูด้วยรองเท้าแตะ

ทันทีที่เขาเปิดประตู ปากของเจียงเสี่ยวก็เต็มไปด้วยความรัก และเขาก็ประหลาดใจมาก

นอกประตูมีชายรูปงามคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน เขามีผิวขาว ผมดำหนาแสกข้าง และสวมแว่นสายตาไร้กรอบไว้บนจมูก

บนใบหน้าที่อ่อนโยนนั้น ดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งเต็มไปด้วยความพอใจขณะที่เขามองลงมาที่เจียงเสี่ยว

ไห่เทียนชิง?

และข้างๆ ไห่เทียนชิง ฟางซิงหยุนก็จับแขนของไห่เทียนชิงอย่างอ่อนโยน

เธอมีรอยยิ้มบนใบหน้า ศีรษะเอียงเล็กน้อยไปทางไห่เทียนชิง ผมหยิกของเธอสยายอย่างเฉื่อยชาบนไหล่ของไห่เทียนชิง ดวงตาของเธออ่อนโยน มองดูเจียงเสี่ยวอย่างเงียบๆ

ไห่เทียนชิงที่สูง 188 ซม. และ ฟางซิงหยุนที่สูง 177 ซม. เหมาะสมกันมากจริงๆ!

ดูสิทุกคน ดูสิ นี่คือสิ่งที่ครูควรทำเหรอ

เจียงเสี่ยวไม่สามารถแยกได้ว่ารอยยิ้มของครูคนไหนอ่อนโยนกว่ากัน

โอ้พระเจ้า มันช่างน่ารักจริงๆ!

โปรดรับพรของฉันแล้วออกไปจากสายตาฉันโดยเร็วได้ไหม

“เสี่ยวผี! เธอเติบโตมาถึงจุดนี้แล้ว”

ไห่เทียนชิงวางมือบนไหล่ของเจียงเสี่ยว มองลงไปที่ท่าทางสับสนของเจียงเสี่ยว แล้วอุทานอย่างจริงใจว่า

“ฉันภูมิใจในตัวเธอมาก”

เจียงเสี่ยวเอียงศีรษะและมองไปที่ฟางซิงหยุนและพูดว่า

“ทำไมไห่เทียนชิงของอาจารย์ถึงเข้าไปในโรงแรมได้ ในขณะที่เซี่ยเหยียนของผมต้องรออยู่ข้างนอก”

ฟางซิงหยุน “...”

ไห่เทียนชิงดูตกตะลึงและพูดว่า

“ฉันเดินทางมาหาเธอและนี่คือประโยคแรกที่เธอพูดกับฉันเหรอ?”

“เอ่อ” เจียงเสี่ยวเม้มปาก

“โอเค แม้ว่าผมจะรู้ว่าคุณมาที่นี่เพื่อตามหา อาจารย์ฟางซิงหยุน แต่คุณก็ยังมาหาผมระหว่างทาง”

เจียงเสี่ยวก้าวออกจากประตู ปิดประตูอย่างแน่นหนา และพูดว่า

“พวกอาจารย์ทั้งสองควรยืนอยู่ตรงนี้และอย่าขยับ ผมจะไปย้ายสำนักงานกิจการพลเรือนมาหาอาจารย์”

ไห่เทียน ชิงฟางซิงหยุน “!!!”

หลังจากถูกทำให้ตะลึงไป 2 วินาที ไห่เทียนชิงก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ตบไหล่เจียงเสี่ยวแล้วพูดว่า

“แน่ใจนะ เธอยังแสบอยู่เลย อาจารย์ฟางพูดถูก เธอไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ”

“เฮ้อ อาจารย์ไห่ ผมคิดถึงอาจารย์จังเลย!”

จู่ๆ เจียงเสี่ยวก็ยิ้มกว้าง กอดไห่เทียนชิง และตบหลังเขาอย่างรุนแรงห้าหกครั้ง

ฟางซิงหยุนที่อยู่ด้านข้างได้ก้าวออกไปแล้ว และเมื่อเธอเห็นฉากนี้ เธอก็อดหัวเราะไม่ได้พร้อมกับเอามือปิดปาก

ไห่เทียนชิงเผยฟันและพึมพำเบาๆ

“โอเค ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน”

เจียงเสี่ยวรีบพูด “ไปกันเถอะ”

ไห่เทียนชิง “ไปที่ไหน?”

เจียงเสี่ยวกล่าว “สุกี้ยากี้ บาร์บีคิว อาจารย์ตัดสินใจเอาเองแล้วกัน ไปกินเลี้ยงกันเถอะ”

ไห่เทียนชิงมองไปที่ฟางซิงหยุนด้วยความเขินอาย และถามว่า

“นี่มันอะไร?”

เจียงเสี่ยวกล่าว

“ผมยังมีเวลาพักผ่อนอีกสองวัน รีบๆ หน่อยเถอะ! อาจารย์เดินทางมาไกลถึงที่นี่แล้ว อาจารย์ไม่มีไอเดียเลยหรือว่าจะตอบแทนและให้กำลังใจผมยังไงดี?”

ฟางซิงหยุนมองเจียงเสี่ยวด้วยรอยยิ้ม และอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขา เขาพูดกับไห่เทียนชิงว่า

“ฉันจะติดต่อทีม เธอรอที่นี่สักพัก”

เมื่อพูดเช่นนั้น ฟางซิงหยุนก็หันหลังและจากไป โดยปล่อยให้อาจารย์และศิษย์ยืนอยู่ที่ทางเข้าทางเดิน

ไห่เทียนชิง มองไปที่เจียงเสี่ยวที่สวมเสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้น และพูดว่า เธอไม่ได้เอากุญแจห้องมาใช่มั้ย

“โอ้” เจียงเสี่ยวหลบ และทันใดนั้น ประตูก็เปิดออกอีกครั้งจากด้านใน เจียงเสี่ยวยืนอยู่ในห้องและชี้ไปทางขวา

“ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น”

ไห่เทียนชิงอดไม่ได้ที่จะยิ้ม

“การเทเลพอร์ตมันยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยเหรอ ใครบอกเธอว่าฉันต้องไปห้องน้ำ”

ไห่เทียนชิงคิดอยู่ในใจแล้วก้าวเข้าประตูและไปเข้าห้องน้ำ