วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 390 สาวน้อยเซี่ยอี



ตอนที่  390  สาวน้อยเซี่ยอี
 “หาเรื่องตาย!  หญิงงามสองคนข้างๆ มารมังกรฟ้าขมวดคิ้วเดือดดาล  เจ้าคนอ่อนแอผู้นี้กล้าดียังไงถึงได้หลู่เกียรติเจ้านายพวกนาง  อย่าว่าแต่เจ้าผู้นี้มิได้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด  ต่อให้เขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด  พวกนางก็จะต้องฆ่าเขา

หน้าของหญิงงามคนซ้ายมือเริ่มเปลี่ยนรูป ขณะที่ริมฝีปากแดงของนางฉีกขยายกว้างจนถึงหูเผยให้เห็นเขี้ยวฟันเลื่อยที่แหลมคม
 
ตาของนางเป็นประกายสีเขียว
เกล็ดสีขาวขยายลามไปทั่วตัว หลังมือของนางมีเล็บแหลมคมสีดำ  กลายเป็นรูปกรงเล็บพิษคู่สังหาร
กับพลังของนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่ง พื้นไม้มะเกลือแตกระเบิดจากแรงย่ำของนาง เพียงชั่วแว่บกรงเล็บดำแหลมคมก็กวาดมาถึงข้างหน้าของเย่ว์หยาง  ขณะที่เงากรงเล็บครอบคลุมไปทุกที่ ยากที่จะบอกได้ว่าภาพใดเป็นกรงเล็บจริงหรือปลอม  ทันใดนั้นภาพกรงเล็บหนึ่งพุ่งตรงมาจากกลุ่มภาพกรงเล็บที่แน่นขนัดตรงมายังหัวใจเย่ว์หยาง  เซี่ยอีกรีดร้องลั่นขณะที่นางพยายามจะช่วยเย่ว์หยาง  อย่างไรก็ตาม  ขณะที่นางเองก็เป็นเพียงนักสู้ระดับหก  นางมิอาจเทียบได้กับนักสู้ปราณก่อกำเนิดทั้งในแง่พลังและความเร็ว
ก่อนที่นางจะชักมีดออกมาจากเอว  กรงเล็บของศัตรูก็มาถึงหัวใจของเย่ว์หยางแล้ว
เซี่ยอีรีบวิ่งไปข้างหน้า  ขณะที่พยายามผลักเย่ว์หยางออกไป
บางทีนางต้องการใช้ร่างกายตัวเองเป็นโล่ปกป้องเจ้านายที่อารมณ์เลวร้าย ยุ่งยาก หยิ่งยโสแต่ใจดีของนาง  นางไม่เคยคิดถึงเหตุผลว่าทำไมนางต้องทำเช่นนั้น  เพราะนางเองก็ต้องการฆ่าเขามาก่อน  แต่ตอนนี้ เมื่อชีวิตของเขาตกอยู่ในความเสี่ยง  ร่างกายนางกลับทำหน้าที่เองไวกว่าความคิดนางเสียอีก
 “ไม่!
เซี่ยอีตระหนักว่านางยังคงช้ามาก
เมื่อนางไปถึงเขา กรงเล็บดำของหญิงที่จู่โจมจากระยะไกลก็ประทับเข้าที่อกของเย่ว์หยางและในวินาทีต่อมาก็ฉีกเข้าที่หน้าอกของเขา
เซี่ยอียังสามารถเห็นรอยยิ้มที่ชั่วช้าโหดร้ายของศัตรูของนางได้  แต่ทำหมดที่นางทำได้ก็คือร้องออกมาอย่างเศร้าโศก
 “ไม่....”
ขณะที่น้ำตาของเซี่ยอีไหลออกมาบดบังทัศนวิสัยของนางจนพร่ามัว  นางรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างระเบิดขึ้น
เลือดเนื้อกระเด็นไปทุกทิศทาง
มีส่วนหนึ่งกระเด็นมาถูกหน้าและตัวของเซี่ยอี
นั่นไง!
เซี่ยอีหลับตาอย่างเศร้าโศก  นางไม่เคยร้องไห้ให้บุรุษ  แต่ตอนนี้น้ำตากลับไหลนองหน้านาง  ขณะที่เขายังมีชีวิต นางเกลียดเขา เจ้าคนลามกที่ชอบมองแต่อกสตรี  และคิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายที่แข็งแกร่งทรงพลังของเขา  เขาก็คงถูกศัตรูสับเละทุบตีไปนานแล้ว  แต่พอเขาถูกฆ่าจริงๆ  นางไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย  และนางไม่อาจยอมรับได้และถูกความเศร้าโศกครอบงำในที่สุด  ความโศกที่ฉีกกระชากและเผาผลาญนาง  นางอยากจะล้มกลิ้งเกลือกกับพื้นและฉีกทึ้งตัวเองเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องยอมรับความเป็นจริงเช่นนี้
ขณะเดียวกัน  ความโกรธความเกลียดที่ไม่สิ้นสุดเต็มอยู่ในใจนาง
ฆ่าศัตรูชั่วช้าเพื่อล้างแค้นให้กับความตายของเขา
ฆ่า!
ความโกรธบ้าคลั่งครอบงำเซี่ยอี ขณะที่นางรู้สึกว่าบางอย่างแตกทำลายอยู่ในตัวนาง  วิญญาณนางระเบิดพลังงานที่ทรงพลังออกมาจากจุดตันเถียนของนางและไหล่บ่าไปทั่วตัว  แขนขาทั้งสี่ของนางสั่นคล้ายกับว่าพยายามจะยับยั้งพลังงานมหาศาลนี้
อย่างไรก็ตาม เซี่ยอีไม่สนใจอีกต่อไป  ขณะที่นางกำมีดแน่น
นางกัดฟันและใช้พลังนางเต็มที่
นางพุ่งเข้าใส่ตรงที่ศัตรูอยู่.. นางไม่เคยฝึกการใช้มีดฟันคน  แต่ตอนนี้เป็นไปโดยสัญชาตญาณ
นอกจากนี้ มันเกิดจากความเกลียดชัง ต้องการทำลาย
นางสาบานว่าจะต้องทำลายศัตรูโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น
 “อ๊าาาาา!  เซี่ยอีคำรามด้วยความโกรธ  แม้ว่านางจะไม่ได้ลืมตา  แต่มีดยาวก็ฟันใส่สตรีกรงเล็บดำด้วยความเกรี้ยวกราดน่ากลัว  ร่างนั้นขาดเป็นสองท่อน
มีดยาวชั้นทองแดงไม่สามารถทนต่อแรงบ้าระห่ำของนางได้ มันแตกทำลายเป็นชิ้นตกกระจายอยู่ทั่วพื้น หลังจากฟันใส่หญิงสาวกรงเล็บดำขาดครึ่งแล้ว
หลังจากฆ่าศัตรูตายแล้ว  ขาของเซี่ยอีก็หมดแรง ขณะที่นางทรุดตัวกับพื้นเหมือนกับว่านางสูญเสียพลังไปทั้งหมด
นางจมอยู่กับความเศร้ากำลังหลั่งน้ำตาร้องไห้
นางไม่สนใจว่าศัตรูที่เหลืออยู่จะฆ่าจะฟันนาง  ทั้งหมดที่นางอยากทำก็คือร้องไห้ และปล่อยไปตามยถากรรม
นางเพียงต้องการระบายความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
น้ำตานางหลั่งไหลพร่างพรูดุจสายฝน
แต่ก่อนที่นางจะส่งเสียงร้องไห้  เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ “เฮ้, ทำอะไรของเจ้าน่ะ?”
เซี่ยอีลืมตาและตกตะลึงกับสิ่งที่นางเห็น
ไตตันน้อยที่ถูกศัตรูฉีกอกไปแล้วยังไม่ตาย และเขายังดูดีเป็นปกติสุข
เซี่ยอีมองดูเย่ว์หยางที่กำลังจ้องดูนาง  ขณะที่เขาชูศพที่ไร้ศีรษะของศัตรูของเขา  จากนั้นนางเหลือบมองไปที่ร่างครึ่งท่อนของสตรีกรงเล็บดำ จึงตระหนักได้ว่ากรงเล็บดำของนางยังอยู่บนเกราะมังกรบินตรงอกของเย่ว์หยาง แต่ไม่สามารถฉีกทะลุได้  เซี่ยอีใจชื้นขึ้นทันทีและกระโดดขึ้นมา  “เจ้าไม่ตายหรอกหรือ?” นางตะโกนอย่างดีใจ
 “เหลวไหล, พูดอะไรอย่างนั้น”  เย่ว์หยางพูดพลางโยนศพสตรีที่ตอนนี้กะโหลกศีรษะแหลกสลายและร่างนางก็ถูกเซี่ยอีฟันขาดสองท่อนออกไปนอกหน้าต่าง
 “แง.......” เซี่ยอีรู้สึกถึงคลื่นอารมณ์ถาโถมเข้ามา ขณะที่นางลดการระมัดระวังตัวเนื่องความประหลาดใจครั้งใหม่นี้  นางอยากวิ่งไปหาเย่ว์หยางและกอดเขาแน่นๆ แต่นางกลับวิ่งไปที่มุมผนังด้านหนึ่งทรุดตัวลงปิดหน้าร้องไห้เสียงลั่น
น้ำตาซึมผ่านร่องนิ้วมืออาบชุดนางจนชุ่ม
เย่ว์หยางไม่เคยเห็นผู้หญิงแปลกแบบนั้น  ไม่เป็นไรถ้านางต้องการร้องไห้  แต่ทำไมต้องไปแอบร้องไห้ที่มุมห้องด้วยเล่า?
เย่ว์หยางคงได้แกล้งหยอกล้อนางแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในสภาพเผชิญหน้ากับมารมังกรฟ้าที่โกรธจัดจนแทบจะกลืนกินคนได้ทั้งคน
จนกระทั่งถึงตอนนี้ มารมังกรฟ้าถึงได้ตระหนักว่าเย่ว์หยางแกล้งเล่นบทหมูกินเสือ
ศัตรูร้ายกาจผู้นี้มีพลังปราณก่อกำเนิดแน่นอน  เขาแค่แกล้งแสดงออกว่าเป็นนักสู้ระดับหก
เพียงคิดชั่วขณะ ก็ทำให้เข้าใจได้ทั้งหมด  ถ้าเย่ว์หยางไม่ใช่นักสู้ปราณก่อกำเนิด  เขาจะกล้าท้าทายเยาถงอย่างเปิดเผยได้ยังไง?  เยาถงสามารถฆ่านักสู้ระดับหกได้ง่ายดายอยู่แล้ว  ทำไมจะต้องขอความช่วยเหลือจากเขา?  มารมังกรฟ้าต้องการจะปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดทันทีเพื่อสังหารศัตรูของเขา  แต่สัญชาตญาณนักสู้ของเขา ทำให้เขาตระหนักว่าศัตรูของเขากำลังยั่วยุเขา  ดูเหมือนคงไม่เรื่องง่ายอย่างที่เห็น
สตรีกรงเล็บดำที่อยู่ข้างมารมังกรฟ้าตัวสั่นด้วยความกลัว
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวนางโจมตีใส่พวกเขา  นางคงจะตายไปแล้วเห็นพี่สาวนางที่ตายกลับคืนร่างเป็นอสรพิษเงินอยู่บนพื้น
เยาถงถึงกับหม่นหมอง
เขาได้ยินมาว่าไตตันผู้พี่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่สามารถฆ่าเอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ได้ทันที เรื่องนี้มีสาธารณชนเป็นประจักษ์พยานได้
แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าไตตันผู้น้องจะแกล้งแสดงตนเป็นนักสู้ระดับหก และเขาก็ยังเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด  เห็นหน้าของเขาดูสงบเรียบเฉย  แต่พลังของเขาอาจไม่ด้อยกว่าตัวเขาก็เป็นได้  ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นการท้าทายเขาอย่างเปิดเผย  สองพี่น้องความจริงเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่มีพลังพอๆ กับเขา
ซานเซียวและเซวี่ยเหอค่อยโล่งใจ นอกจากนี้พวกเขายังมีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไป  พวกเขาเกือบโห่ร้องปรบมือให้กำลังใจแล้ว
พวกเขาคาดไม่ถึงความจริงที่พลิกผันว่า ไตตันน้อยก็เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดเหมือนกัน  แต่พวกเขาก็ยังยินดีต้อนรับเหตุพลิกผันนี้
ตอนนี้ พวกเขารู้สึกว่าทางเลือกเป็นพันธมิตรกับพี่น้องไตตันเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง
แม้เยาถงจะมีมารมังกรฟ้าเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุด  ถ้าเขาต้องสู้กับพี่น้องไตตัน  คงยากจะตัดสินได้ว่าฝ่ายไหนจะชนะ
ยิ่งกว่านั้น  มารมังกรฟ้าเป็นคนนอก  เขาคงจะไม่อยู่ในป้อมสายฟ้าตลอดไป  แม้ว่าพี่น้องไตตันจะมีพลังด้อยกว่าเล็กน้อย  แต่ทันทีที่มารมังกรฟ้าจากไป  เยาถงไม่มีพันธมิตรแล้วเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไร?
 “เป็นไปไม่ได้ที่จะคลี่คลายความเกลียดชังของข้าที่มีต่อเจ้าเพราะฆ่านางบำเรอของข้า  เนื่องจากเราทั้งคู่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด  เราจะคุยกันด้วยพลังของเรา  มาสู้กัน”  มารมังกรฟ้าคงไม่สามารถรุกได้ก่อนแน่นอน  เขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดและยังเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก  ถ้าเขาไม่แก้แค้นให้นางบำเรอที่ถูกฆ่าตายต่อหน้าธารกำนัล  ต่อไปเขาจะเดินยืดอกเชิดหน้าอยู่ในหอทงเทียนได้ยังไง?  แม้ว่าเขาจะมีนางบำเรอหลายคน  แต่เขาไม่ยอมปล่อยวางศักดิ์ศรีตนเองแน่
 “เป็นเพราะนางบำเรอของเจ้าจู่โจมทำร้ายข้าที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดก่อน  ข้ามีเหตุผลพอจะฆ่านางได้ ถ้าเจ้าต้องการแก้แค้นให้นาง ก็เริ่มได้เลย”  เย่ว์หยางยิ้ม
อย่าว่าแต่เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรปราณก่อกำเนิดเลย  ต่อให้เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่ง  เขาก็สามารถแสดงออกถึงการกระทำของเขาได้
ใครก็ตามที่เริ่มโจมตีใส่นักสู้ปราณก่อกำเนิดอย่างประสงค์ร้าย ก็จะถูกมองว่าท้าทายเกียรติของนักสู้ปราณก่อกำเนิด
เมื่อคนที่ทรงพลังอำนาจพูด ก็ไม่ต้องคำนึงว่าเขาจะถูกหรือผิด
ถ้ามารมังกรฟ้าชนะ ก็ไม่เป็นไร  แต่ถ้าเขาเอาชนะไม่ได้  เย่ว์หยางก็มีสิทธิ์ฆ่าเขา
พอเห็นว่าไตตันน้อยไม่กลัว แม้ขณะเผชิญหน้ากับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก  ซานเซียวและเซวี่ยเหอต่างก็ปลาบปลื้ม  พี่น้องไตตันหยิ่งมากขนาดกล้าสู้กับมารมังกรฟ้าที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก  พวกเขาต้องการผูกมิตรกับเขาให้ได้แน่นอน
ทั้งสองมองหน้ากันเองจากนั้นจึงลุกขึ้นยืน
 “การต่อสู้ของนักสู้ปราณก่อกำเนิดจะสร้างความเสียหายได้  ทำไมถึงไม่เปลี่ยนสนามต่อสู้ไปเป็นสังเวียนเลือดนักสู้เพื่อมิให้คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องบาดเจ็บเล่า”  ซานเซียวพูดเสียงในลำคอ
เซวี่ยเหอพยักหน้าเห็นด้วย  “ถ้าทั้งสองท่านไม่รอจนกระทั่งราชาฉงนี่มาเป็นสักขีพยานโดยเฉพาะ  เราทั้งสองกับเจ้าเมืองใต้พิภพหม่าหลงจะช่วยเป็นสักขีพยานแทน”
 “ไปกันเลย” สีหน้ามารมังกรฟ้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเมื่อได้ยิน แต่ก็รีบกลับคืนสู่ความหยิ่งยโสตามปกติทันที
เขาโบกมือเล็กน้อยก็ทำลายหน้าต่างส่งผลให้โต๊ะเก้าอี้ปลิวว่อนในอากาศ  เป็นเหมือนกับว่ามือยักษ์ที่มองไม่เห็นฟาดใส่สถานที่ขณะที่พ่อค้าและนักรบล้มลงกับพื้น  มารมังกรฟ้าปลดปล่อยพลังปราณของเขาและบินขึ้นไปในอากาศ ทำลายหลังคาอาคารประมูลและเปลี่ยนตัวเองเป็นอุกกาบาตตรงไปยังสังเวียนเลือดนักรบ  สตรีกรงเล็บดำตามหลังเขาไปติดๆ ขณะที่นางพุ่งตามไปเหมือนนกและเปลี่ยนร่างเป็นงูเหลือมเงินยาวสามสิบเมตร แหวกว่ายอากาศตามหลังเจ้านายนางไป
เย่ว์หยางชำเลืองมองจั๊ดด์และพ่อบ้านเหยียนเจิ้ง “พวกท่านไม่จำเป็นต้องตามมา”  เขาสั่ง
ในอดีตที่ผ่านมา จั๊ดด์คิดว่าเย่ว์หยางได้ครอบครองสมบัติทั้งหมดเพราะมีพี่ชายแข็งแกร่งคนหนึ่ง  แม้ว่าเขายังคงนับถือเขา  แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามก็ยังไม่มากเท่าที่เขามีความนับถือต่อไตตันใหญ่  ดูเหมือนว่าสองพี่น้องจะมีความแข็งแกร่งทั้งคู่  ข้อแตกต่างกันก็คือท่านไตตันใหญ่จะเยือกเย็นกว่าและไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจใดๆ  ขณะที่ไตตันน้อยเข้าสังคมมากกว่าและจัดการควบคุมทุกอย่าง  บางทีทั้งสองอาจมีพลังพอๆ กัน  พอคิดเช่นนี้แล้ว จั๊ดด์ยิ่งเพิ่มความยำเกรงและนับถือต่อเย่ว์หยางขณะที่เขาคุกเข่าขออภัย
 “ข้าจะรีบกลับไปรายงานท่านไตตันใหญ่ทันที”  พ่อบ้านเหยียนเจิ้งก็ตกตะลึงในทำนองเดียวกันเมื่อเขารู้ว่าไตตันน้อยก็เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดเช่นกัน  แต่เขารู้ว่าพวกเขาสามารถชนะได้  ถ้าสองพี่น้องสู้ศึกกับมารมังกรฟ้าด้วยกัน
 “ถ้าสู้กันสองต่อหนึ่ง  พวกวังมารจะพูดได้ว่าพี่ชายข้ากับข้ารังแกเขา  ดังนั้นข้าคนเดียว ก็พอแล้ว”  เย่ว์หยางโบกมือ  เขารู้ว่าปีศาจเงาเจมินี่หลอกได้เฉพาะคนที่ไม่ใช่นักสู้ปราณก่อกำเนิดเท่านั้น  มารมังกรฟ้าสามารถมองเห็นมันได้  ยิ่งกว่านั้น  ถ้าเขาเอาชนะมารมังกรฟ้าได้ในการต่อสู้โดยไม่ต้องได้รับความช่วยเหลือจากไตตันใหญ่  เขาจะสร้างความประทับใจได้มากยิ่งขึ้น  ต่อให้ฉงนี่ต้องการเข้าข้างมารมังกรฟ้า  เขาก็ต้องหวั่นไหว  เย่ว์หยางไม่ต้องการโค่นฉงนี่ก่อน  ในขณะที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขา  เย่ว์หยางตัดสินใจว่าเวลาดีที่สุดที่จะโค่นฉงนี่ก็คงเป็นหลังจากที่เขาได้อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีมาก่อนและทำสัญญากับมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง
เย่ว์หยางคงโง่แน่ ถ้าเขาไม่เอาชนะศัตรูความรักอย่างมารมังกรฟ้าในตอนนี้  ทั้งๆ ที่ได้โอกาสแล้ว
เย่ว์หยางไม่ได้กลัวคนในพวกสิบมารฟ้าของวังมาร  ยกเว้นแต่มารสัมฤทธิ์ฟ้าซึ่งเขาไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้
ยิ่งกว่านั้น นางมารกฎฟ้าคนงามก็ยังมีใจปฏิพัทธ์ต่อเขา  มารสัมฤทธิ์ฟ้าและมารกฎฟ้าจะโกรธเขาไหม  หากเขาทำร้ายมารมังกรฟ้าที่น่ารำคาญ?  เป็นไปไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมารกฎฟ้า นางเซียนหงส์ฟ้าผู้รังเกียจมารมังกรฟ้า  ตอนนี้เขากำลังจะทุบตีมารมังกรฟ้าที่น่าเบื่อหน่าย  นางก็น่าจะมีความสุขแน่นอน และอาจให้รางวัลเขาได้ซบกับอกขนาดยักษ์ของนางจนหายใจไม่ทันก็ได้
 “ความจริงเขาคือไตตันใหญ่ใช่ไหม?”  พอเห็นเย่ว์หยางไปจากโรงประมูลสินค้า  เจ้าเมืองหม่าหลงก็เข้ามาสอบถาม
 “ไม่ใช่!  เขาคือไตตันน้อยแน่นอน!” เซี่ยอีหยุดร้องไห้เงยหน้าตอบยืนยัน  “ท่านไตตันใหญ่จะสง่างามมาก  เขากลับตรงกันข้ามกับท่านไตตันใหญ่สิ้นเชิง”
 “น้องเรา!  ข้าเห็นว่ามีดของเจ้าหักพังแล้ว  ข้าจะให้มีฆ่าปีศาจกับเจ้าเล่มหนึ่ง”  ภรรยาของหม่าหลงพยายามผูกมัดใจนาง   นางใจกว้างพอจะมอบมีดระดับเงินเหน็บไว้กับเอวเซี่ยอี และพูดคุยกับนางด้วยน้ำเสียงไพเราะเหมือนกับเป็นคนครอบครัวเดียวกัน  เซี่ยอีอยากปฏิเสธ แต่ภรรยาของหม่าหลงทำเป็นไม่พอใจ  ขณะที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้นางรับไว้  “ท่านไตตันน้อยเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด  การต่อสู้ระหว่างเขากับมารมังกรฟ้าจะต้องสร้างชื่อเสียงให้เขา   ถือเสียว่าข้าเป็นพี่สาวเจ้า  ข้าอิจฉาเจ้าจริงๆ นะ วางใจได้ ข้าจะไม่ดูเฉยๆ อยู่วงนอกแน่  เราไปดูการต่อสู้ของพวกเขาเถอะ”
(สงสัยสาวน้อยเซี่ยอีจะซีดแตก แบบเทพคิระ)

18 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

มีแววได้สาวเพิ่มนะเนี่ย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Jenokira กล่าวว่า...

ฟรีดอมออกตัว

Unknown กล่าวว่า...

กันดั้มมาเเต่ไกล

Jae2t กล่าวว่า...

ซึนแตกเลยเซี่ยอี

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Lucky กล่าวว่า...

ฮาเร็มเฮียเย่ว์หยางแกมีธรรมดาสักคนทีไหน รอดูต่อไปสาวน้อยเซี่ยอี่ก็ไม่ธรรมดานะ

Unknown กล่าวว่า...

ได้เวลาตบเกรียนโชว์สาวๆ

Unknown กล่าวว่า...

โอ้ ค้าง มารมังการฟ้า เตรียมตัว ไปเกิดใหม่ได้เลย 555

Nopanser Kung กล่าวว่า...

แหม่ๆๆ เซียอีนี่เห็นซึนๆ นิ่งๆ แต่เป็นห่วงเย่ว์หยางไม่แพ้ใครเลยแฮะ ไม่รอดมือมารแน่เธอ!!

งำงำ มีดบิน กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ
ไปยืนดูเดี๋ยวเจอลูกหลงหรอก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ดูเยว่หยางมันวางแผน ไปๆมาๆก็ไม่พ้นเรื่องหื่นๆ รางวัลการซบออกใหญ่โต เดี๋ยวก็ไปน้ำลายใหลใส่อกน้องสาวจือจุ่นอีก 5555

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

8lek8 กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น