วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 1-18 วิญญาณในแหวนมังกรขนด (1)


ตอนที่  1-18  วิญญาณในแหวนมังกรขนด (1)
 ในท้องฟ้าด้านทิศตะวันออก  บุรุษชุดเทายังคงยืนอยู่บนหัวมังกรดำซึ่งขดตัวอยู่กลางอากาศ  รอยยิ้มมั่นใจในตนเองปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา  ขณะที่เขามองดูบุรุษชุดเขียวต่อสู้กับยักษ์ดินของเขา

 “ฉัวะ...”
 
เสียงฟันแทงแหวกอากาศขณะที่ดาบของบุรุษชุดเขียวแทงเข้าที่ศีรษะของยักษ์ดินโดยตรง “บึ้ม!  ศีรษะของยักษ์ดินแตกกระจาย  แต่ยักษ์ดินไม่ได้ล้มลง  หมัดที่เหมือนกับก้อนศิลาของมันกระแทกใส่บุรุษชุดเขียว
 “อ๊าค!” บุรุษชุดเขียวกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง  สีหน้ากลายเป็นขาวซีด
จากนั้นศีรษะของยักษ์ดินที่แตกกระจายเริ่มรวมตัวคืนรูปเดิมเหมือนกับไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย
 “ดิลลอน! เจ้าวางมือเสียดีกว่า  ผู้พิทักษ์ปฐพีที่ข้าเรียกออกมาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเอาชนะได้”  บุรุษชุดเทาที่ขับขี่มังกรดำพูดอย่างใจเย็น
บุรุษชุดเขียวจ้องมองบุรุษชุดเทาอย่างเย็นชา  ทันใดนั้นเขาพูดกระชากเสียงว่า “รูดี้! ถ้าข้าไม่ได้มันไป  อย่างนั้นเจ้าอย่าหวังว่าจะได้เลย”  แสงเขียวสว่างเปล่งออกมาจากมือของบุรุษชุดเขียว  พอเห็นอย่างนี้ บุรุษชุดเทาซึ่งแต่เดิมยังยืนใจเย็นอยู่บนหัวมังกรดำถึงกับตกใจและกังวลมากขึ้นทันที “หยุดนะ!
 “แผละ”
แขนทั้งสองของบุรุษชุดเขียวเปล่งแสงสว่างราวกับดวงอาทิตย์  เสียงระเบิดสามารถได้ยินและจากนั้นก็หายไปทันที
 “ดิลลอน, เจ้า!  บุรุษชุดเท่าชี้บุรุษชุดเขียวอย่างเดือดดาล แต่พูดอะไรไม่ออก
หน้าของบุรุษชุดเขียวซีดขาว ขณะที่เขาจ้องดูบุรุษชุดเทา ที่หน้าซีดเช่นกัน “ตอนนี้ ไม่มีใครได้มันไป รูดี้, ข้าก็บาดเจ็บแล้ว  แต่ถ้าเจ้าต้องการจะฆ่าข้า นั่นคงยากจะทำได้สำเร็จ” บุรุษชุดเขียวหัวเราะเย็นชาและกลายเป็นลำแสงสีเขียวเหาะไปทางท้องฟ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็วเต็มที่
บุรุษชุดเทามองเขาบินจากไป  เขาได้แต่ขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ไล่ตาม
ยักษ์ดินที่อยู่ข้างๆ บุรุษชุดเทาค่อยๆ หายไป
 “เซียนดาบดาราดิลลอน? น่าเสียดายที่ข้ายังมิอาจฆ่าเจ้าได้”  บุรุษชุดเทาพูดเสียงในลำคอ  จากนั้นมังกรดำที่เขาควบคุมอยู่ เหมือนกับจะรู้ความปรารถนาของเจ้านาย กระพือปีกมหึมาและบินไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ในชั่วพริบตา นักสู้ระดับเซียนทั้งสองคนก็หายลับไป
แต่ภาพการทำลายล้างยังคงอยู่ในสายตาของชาวเมืองอู่ซัน บ้านพังทลายเกือบพันหลัง เสียงร้องเจ็บปวด เสียงสาปแช่งและความทุกข์ระทม  ในอากาศแว่วเสียงร้องเจ็บปวด  ในช่วงเวลาสั้นๆ เมืองที่เงียบสงบก่อนหน้านี้กลายเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ
…………….

ในลานคฤหาสน์ตระกูลบาลุค  มีแต่เพียงฮ็อก
ฮ็อกนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง ขณะที่เขาย่นหน้าผาก  ในฐานะผู้ปกครองเมืองอู่ซัน  เขาต้องคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับวิธีดูแลคนของเขา
เสียงฝีเท้าดังนั้น ลุงแอชลี่ย์ออกมาจากห้องรับแขก “ใต้เท้า”
 “ลินลี่ย์เป็นยังไงบ้าง?” ฮ็อกหันศีรษะมาถามทันที
แอชลี่ย์หัวเราะ “ใต้เท้า, โปรดวางใจ ข้าล้างแผลทำความสะอาดแผลให้คุณชายลินลี่ย์แล้ว  จากนั้นพันแผลให้ใหม่  ข้าให้เขากินเนื้อชามโต จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและให้เขาไปนอนพัก พอเขาตื่นขึ้น เขาจะอาการดีขึ้นมาก”
ตอนนี้ฮ็อกรู้สึกโล่งใจ และพยักหน้า  แต่หน้าผากเขายังคงขมวดอยู่
 “ใต้เท้า, ท่านกังวลเรื่องชาวเมืองอู่ซันหรือ?”  แอชลี่ย์ถาม
ฮ็อกพยักหน้าฝืนยิ้มและพูดว่า “ลุงแอชลี่ย์ ชาวเมืองอู่ซันเกือบทั้งหมดไม่เหมือนเรา  บุรุษชาวเมืองอู่ซันยังไม่แย่นัก  พวกเขาเกือบทั้งหมดเป็นนักรบระดับหนึ่งหรือไม่ก็ระดับสอง  แต่สตรีไม่เป็นเช่นนั้น  มีก้อนหินมากมายตกลงมาจากท้องฟ้าไม่หยุด ยากที่พวกนางจะป้องกันตัวได้”
แอชลี่ย์พยักหน้าเช่นกัน
จำนวนคนชาวเมืองอู่ซันผู้สามารถใช้ปราณยุทธได้ แทบจะนับนิ้วได้เลย  หินเป็นพันก้อนร่วงลงมาจากฟากฟ้า ถ้าไม่มีผู้เข้าไปหลบที่ห้องใต้ดินเสียก่อน  หรือใช้โล่หนาป้องกันหินที่กระแทกลงมาให้ทันเวลา
 “ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้  นอกจากรอรายงานจากฮิลแมน”  ฮ็อกรู้สึกกระสับกระส่าย
หลังจากผ่านไปนาน  มีเสียงฝีเท้าเร่งด่วนเข้ามาในคฤหาสน์
ตาของฮ็อกกระจ่างวูบ  เขาหันไปดูฮิลแมนเดินเข้ามาในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
 “ฮิลแมน  เหตุการณ์ในเมืองอู่ซันเป็นยังไงบ้าง?”  ฮ็อกรีบถาม
ฮิลแมนมีแววตาเจ็บปวด “เราเพิ่งประมาณการไปบางส่วน  มีคนเสียชีวิตเกินกว่า 300 คน และบาดเจ็บ 1,000 คน”  ประชากรชาวเมืองมีทั้งหมด 5,000 คน นี่หมายความว่าอัตราความเสียหายคือ 20% และนี่เป็นพวกที่อยู่อาศัยในบ้านหิน  นี่นับเป็นหายนะโดยแท้
 “มีคนบาดเจ็บล้มตายกันมากนัก?” ฮ็อกเริ่มกังวลใจอย่างช่วยไม่ได้
อาหารคือเลือดและชีวิตของทุกประเทศ และเมืองเล็กก็เช่นกัน  สำหรับคนทำงานจะลดลงไปอย่างมากมาย  แต่จำนวนคนบาดเจ็บและพิการจากการโจมตีด้วยหิน.. จะทำให้เศรษฐกิจของเมืองย่ำแย่ในอนาคต
 “เฮ้อ..” ฮ็อกถอนหายใจยาว
เขาต้องการลดภาษีให้พวกเขา  แต่ภาษีเมืองอู่ซันก็ต่ำมากอยู่แล้ว  ตอนนี้ความอยู่รอดของตระกูลเขากลายเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง  เขาจะช่วยชาวเมืองได้ยังไง?  สถานการณ์แตกต่างจากเมืองอื่นที่ภาษีสูงมาก จนประชาชนเสียชีวิตจากความเหนื่อยล้าและทุกข์ยาก
 “ใต้เท้าฮ็อก ชาวเมืองอู่ซันชื่นชมน้ำใจและความเอื้อเฟื้อของท่าน  ทุกคนรู้ว่าท่านทำเพื่อพวกเรามากมายแค่ไหน  โปรดอย่าร้อนใจมากเกินไปเลย”  ฮิลแมนกล่าวอยู่ด้านข้าง
ฮิลแมนเองก็เกิดอยู่ในเมืองอู่ซันเช่นกัน
ในฐานะที่เป็นนักรบระดับหก  แม้อยู่ในเมืองหลวง เขาสามารถเป็นหัวหน้าองครักษ์ให้ตระกูลขุนนางได้  แต่เพราะฮิลแมนรู้สึกถึงความเมตตาเอื้ออาทรที่ตระกูลบาลุคมี หลังจากฮิลแมนลาออกจากกองทัพแล้ว  เขาจึงกลายเป็นหัวหน้าองครักษ์ในตระกูลขุนนางเก่า ตระกูลบาลุคนี้
 “ฮิลแมน, ส่งหน่วยรักษาการณ์ไปสอดส่องในเมืองให้มากขึ้น  ลุงแอชลี่ย์ ท่านไปพักบ้างเถอะ” ฮ็อกออกคำสั่ง
 “ขอรับ, ใต้เท้า” ฮิลแมนรับคำ
พ่อบ้านแอชลี่ย์ยังคงแสดงความเคารพและแยกจากมา  หลังจากฮิลแมนออกจากศาลามาแล้ว ก็เหลือฮ็อกอยู่เพียงคนเดียวอีกครั้ง
….
ภายในห้องนอนของลินลี่ย์
เนื่องจากลินลี่ย์ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ  แอชลี่ย์ได้สั่งทุกคนไม่ให้รบกวนลินลี่ย์และปล่อยให้เขาได้พักผ่อน  ขณะที่เมืองอู่ซันยังคงปั่นป่วน  แต่ห้องนอนของลินลี่ย์สงบเงียบ  ลินลี่ย์หลับลึกจนอยู่ในโลกของความฝัน
 “ติง!
เสียงดังเหมือนระฆังนุ่มนวลสามารถได้ยินได้  ขณะที่แสงรัศมีเริ่มฉายออกมาจากหน้าอกลินลี่ย์  จากนั้นแสงที่อาบแหวนมังกรขนดสีดำ  ค่อยๆ ลอยออกมาจากใต้ชุดนอนและเริ่มลอยอยู่เหนือเขาสิบเซนติเมตร
แหวนเริ่มสั่นรุนแรงมากขึ้น  และแหวนมังกรขนดเริ่มเรืองแสงมากยิ่งขึ้น
โชคดีที่ไม่มีใครอื่นอยู่ในห้องนอนของลินลี่ย์ในตอนนี้  ใครเข้าห้องมาในตอนนี้คงได้ตะลึงแน่  อย่างไรก็ตาม ลินลี่ย์ยังนอนหลับอย่างสบายและไม่สังเกตเห็นว่าตอนนี้แหวนมังกรขนดกำลังลอยอยู่
 “ติง” แสงสว่างเรืองรองรอบแหวนมังกรขนดเริ่มการทำสัญญาอย่างรวดเร็วทันที  จากนั้นแสงรังสีลอยออกมาจากแหวน  แล้วลงมาอยู่ข้างเตียงของลินลี่ย์ มันกลายเป็นภาพของคนๆ หนึ่ง
เป็นภาพของบุรุษสูงอายุที่ดูใจดีอยู่ในชุดขาวนวลและมีเครายาวสีขาว
ถึงตอนนี้ แหวนมังกรขนดได้ร่วงลงไปอยู่ที่อกของลินลี่ย์  เปลือกตาลินลี่ย์กระตุกอย่างไร้กำลัง จากนั้นเขาจึงลืมตาขึ้น  พอเห็นเป็นบุรุษสูงอายุที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนมาอยู่ที่หัวเตียงของเขา  เขาตกใจอย่างช่วยไม่ได้ “ท่าน...ท่านเป็นใคร?”
 “หวัดดี, เด็กน้อย, ข้าชื่อเดลิน โคเวิร์ท  ข้าคือจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนแห่งจักรวรรดิพูเอนท์”  ชายชราที่ดูอารมณ์ดีพูดพลางยิ้ม
ลินลี่ย์ตาเหลือกทันที “ท่าน...ท่านเป็นอาจารย์จอมเวทระดับเซียนหรือนี่?”
ชายชราผมขาวพยักหน้าแข็งขัน
 “ไม่มีทางหรอก ปู่, ท่านบอกว่ามาจากจักรวรรดิพูเอนท์  จักรวรรดิพูเอนท์ล่มสลายไปเมื่อห้าพันปีที่แล้วมิใช่หรือ?”  ลินลี่ย์คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์โลกดีและเขารู้ดีว่าอาณาจักรพูเอนท์มีมาก่อนตระกูลของเขาด้วยซ้ำ  ในยุคปัจจุบันอาณาจักรพูเอนท์ไม่ใช่หนึ่งในสี่อาณาจักรใหญ่ของโลกแล้ว

1 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับผม

แสดงความคิดเห็น