วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 2-4 สถาบันเอินส์



ตอนที่ 2-4  สถาบันเอินส์ 
 เมื่อเวลาผ่านไป หนูเงาน้อยซึ่งไม่รู้เรื่องความรักจากคนอื่นมากนัก เริ่มกลัวลินลี่ย์น้อยลง  ผ่านไปแปดวัน เมื่อลินลี่ย์วางกระต่ายลง  มันเข้ามาอยู่ในระยะห่างสองก้าว  และหนูเงาน้อยตัวนั้นก็วิ่งเข้ามากินทันที ทั้งยังร้องจี๊ดๆ ใส่ลินลี่ย์สองครั้ง

วันที่สิบ
 เอาล่ะ, วันนี้ข้าจะให้เนื้อปรุงกับหนูเงา  ลินลี่ย์ห่อไก่ป่าไว้ในถุงผ้า จากนั้นก็เดินกลับไปที่ลานเก่าด้านหลังคฤหาสน์
 
เดลิน โคเวิร์ทเดินเคียงข้างลินลี่ย์เช่นกัน  แต่นอกจากลินลี่ย์แล้วไม่มีใครอื่นเห็นเขา  เดลิน โคเวิร์ทกำลังยิ้มกว้างจนหนวดขาวยาวเป็นแนวนอน  ลินลี่ย์!  ผ่านมากว่าเก้าวันแล้ว หนูเงาน้อยเลิกกลัวเจ้าแล้ว  วันนี้เจ้าจะให้เนื้อสุกกับมัน  มันคงจะตื่นเต้นและเข้ามาใกล้เจ้ายิ่งขึ้น
พอได้ฟังคำของเขา  ลินลี่ย์อดยิ้มไม่ได้
ขณะที่ลินลี่ย์เดินเข้าไปในพื้นที่ด้านหลัง
 จี๊ด, จี๊ด!” หนูเงาน้อยวิ่งมาหาลินลี่ย์ทันที และเริ่มกระโดดขึ้นกระโดดลง ขณะที่ร้องจี๊ดๆ ใส่เขา
 ข้ายังไม่ได้เอาอาหารออกมาเลย มันก็วิ่งมาหาข้าแล้ว  มันไม่กลัวข้าเลยแม้แต่น้อย  ลินลี่ย์รู้สึกปลื้มใจ
เดลิน โคเวิร์ทที่ยืนอยู่ข้างๆ เขายิ้มให้หนูเงาน้อย มันไม่ได้รู้ถึงความคงอยู่ของเขาเลยแม้แต่น้อย  เดลิน โคเวิร์ทพูดพลางยิ้ม ดูเหมือนมันรู้สึกสนิทใกล้ชิดกับเจ้าแล้ว
 จี๊ดดด หนูเงาน้อยมองดูลินลี่ย์ด้วยดวงตาดำใสซื่อและเริ่มร้องเรียกอย่างทนไม่ได้  คล้ายกับจะบอกลินลี่ย์ให้รีบเอาอาหารออกมาให้มันได้แล้ว
 อย่าเพิ่งรีบร้อน  ลินลี่ย์หยิบไก่ย่างออกมาจากถุงผ้า
พอได้กลิ่นไก่ย่าง ดวงตาของหนูเงาน้อยเป็นประกาย จากนั้นมันมองดูลินลี่ย์อย่างน่าสงสาร  พอเห็นแบบนี้ ลินลี่ย์ถึงกับหัวเราะจนปวดท้องอย่างช่วยไม่ได้  ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อลินลี่ย์ให้อาหารดีๆ กับน้องวอร์ตัน  น้องวอร์ตันจะพูดว่า พี่,, ข้าจะเอา.. ขณะที่จ้องเขาด้วยท่าทางน่าสงสาร
ตอนนี้หนูเงาน้อยก็ทำอย่างเดียวกัน!
 ฮะฮะ, เป็นของเจ้าทั้งหมดเลย!”  ลินลี่ย์ให้ไก่ปรุงสุกกับหนูเงา
หนูเงาน้อยร้องจี๊ดด้วยความดีใจ มันยึดไก่ย่างไว้ทันที  หลังจากกัดได้คำหนึ่ง หนูเงาน้อยก็เริ่มกินและกินอย่างรวดเร็ว  ในเวลาสั้นๆ ไก่ย่างที่ตัวพอๆ กับตัวมันเองก็ถูกกินไม่เหลือ
 ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ท้องของมันจุได้มากมายได้ยังไง  มันกินอาหารมากมายขนาดนั้นหรือ?”  ลินลี่ย์หัวเราะขณะถอนหายใจ
ดูเหมือนกับว่าช่วงเวลานี้ หนูเงาน้อยมีความเพลิดเพลินกับอาหารของมันมาก  มันมีความสุขมากและเริ่มกระโดดขึ้นกระโดดลงทันทีพลางร้องจี๊ดๆ ใส่ลินลี่ย์  บางทีก็ใช้ขาหน้าของมันกอดขาลินลี่ย์ไว้  ลินลี่ย์อดที่จะยินดีไม่ได้  นี่เป็นครั้งแรกที่หนูเงาน้อยแสดงความรู้สึกผูกพันต่อเขาหลังจากที่มันกินแล้ว
 ลินลี่ย์, ลองใช้มือลูบขนมันเบาๆ ซิ ปกติแล้วอสูรเวทจะชอบให้สมาชิกครอบครัวลูบไล้แต่งขนให้พวกมัน  เดลิน โคเวิร์ทแนะนำ
ลินลี่ย์ลองยื่นมือไปวางบนศีรษะของหนูเงาน้อย หนูเงาน้อยไม่ได้หลบแม้แต่น้อย แต่มันกลับพริ้มตาอย่างมีความสุข  ทันใดนั้นลินลี่ย์รู้สึกมั่นใจมากกว่าเดิม และเริ่มลูบขนมัน  ทำให้หนูเงารู้สึกพอใจและเริ่มส่งเสียงกรน
 เจ้าตัวน้อยนี่ น่ารักจริงๆ ลินลี่ย์เริ่มชอบหนูเงาน้อยนี่มากยิ่งขึ้น
 ปู่เดลิน, อสูรเวทนี่แปลกมาก มังกรลมกรดตัวนั้นตัวใหญ่มากและมีเกล็ดแข็งขนาดนั้น ทำให้มันเป็นอสูรเวทระดับเจ็ด  แต่หนูเงาน้อยตัวนี้ เมื่อมันโตขึ้น ก็ยังกลายเป็นอสูรเวทระดับเจ็ดได้  พวกมันทั้งสองเป็นอสูรระดับเดียวกัน  แต่ทำไมจึงมีความแตกต่างกันมากนักเล่า?”
ขณะที่ลูบหนูเงาน้อย ลินลี่ย์อดรู้สึกทึ่งไม่ได้
 เจ้าไม่อาจตัดสินพวกมันจากลักษณะภายนอกได้นะ  บางทีคนแก่ธรรมดาที่เจ้าพบบนท้องถนนก็สามารถขับขี่มังกรบินและทำให้ภูเขาสั่นสะเทือนได้เพียงแค่โบกมือเท่านั้น  เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ลินลี่ย์เข้าใจถึงเหตุผลนี้
แต่เขาอดเผลอไม่ได้ที่จะตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก
อย่างเช่น มังกรลมกรดตัวนั้น  พอเห็นขนาดร่างมหึมาและเห็นเกล็ดแวววาวเป็นประกายแสงสีทอง ใครๆ ก็บอกได้ว่ามันทรงพลังขนาดไหน
 ข้าสงสัยจริงๆ เมื่อไหร่หนูเงาน้อยนี้จะใช้สัญญาเสมอภาคกับข้าได้  ลินลี่ย์พึมพำ  ไม่มีอะไรที่เขาทำได้  สัญญาเสมอภาคต้องเป็นอสูรเวทเป็นฝ่ายเสนอ  ดังนั้นเขาทำได้แต่รออย่างเดียว
เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะ หลายอย่างกำลังเป็นไปได้ดีมาก จำไว้ให้ดี เจ้าต้องอดทน
 ได้, ข้าเข้าใจแล้ว  ลินลี่ย์หัวเราะเช่นกัน
…..
พริบตาเวลาผ่านไป  ลินลี่ย์ให้อาหารหนูเงาน้อยมาเป็นเวลายี่สิบวันแล้ว และหนูเงาน้อยก็คุ้นเคยกับลินลี่ย์มาก  แต่เพราะเหตุผลบางประการ  แม้ว่าทั้งสองจะสนิทกัน แต่หนูเงาน้อยก็ยังไม่เสนอทำสัญญาเสมอภาค
ความมืดปกคลุมแผ่นดินและทั่วทั้งเมืองอู่ซันเงียบสงัด
ภายในห้องนั่งเล่นของตระกูลบาลุค แสงเทียนวูบวาบจากภายใน ขณะที่ลินลี่ย์และครอบครัวของเขาพร้อมทั้งพ่อบ้านแอชลี่ย์กำลังกินอาหารค่ำด้วยกันที่โต๊ะอาหาร
 ลินลี่ย์! พ่อได้ยินว่าเจ้านำกระต่ายย่างไปที่ลานหลังคฤหาสน์จริงไหม?”  ระหว่างรับประทานอาหาร ฮ็อกวางช้อนซ่อมลงและหันไปทางลินลี่ย์
ลินลี่ย์สะดุ้ง
 ดูเหมือนได้เวลาที่ข้าต้องสารภาพเสียแล้ว  ลินลี่ย์พูดกับตัวเอง  จากนั้นมองหน้าฮ็อกและพยักหน้า ท่านพ่อ, เมื่อเร็วๆ นี้ข้าพบสัตว์น่ารักตัวหนึ่งอาศัยอยู่ที่ลานหลังบ้านของเรา มันเป็นสัตว์ที่น่ารักมาก ดังนั้นก็เลยเอาอาหารไปให้มันบ่อยๆ
 สัตว์ที่น่ารักหรือ?”  ตาของวอร์ตันน้อยเป็นประกาย
 โอว
ฮ็อกพยักหน้า ไม่บ่อยนักที่จะมีคนไปเยี่ยมเยือนลานหลังคฤหาสน์  ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่จะมีสัตว์อยู่ที่นั่น  ช่างเถอะ, อีกหนึ่งอาทิตย์ราวๆ นั้น เมืองเฟนไลจะเริ่มการทดสอบความถนัดทางเวทและรับสมัครจอมเวท ลูกอยากจะเข้าร่วมทดสอบไหม?”
 โอว! ทดสอบและรับสมัครจอมเวทน่ะหรือ?”  ทันใดนั้นลินลี่ย์จำเหตุการณ์นี่ได้
ลำแสงที่มีแต่ลินลี่ย์เท่านั้นถึงจะเห็นได้พุ่งออกมาจากแหวนมังกรขนาด และเปลี่ยนเป็นรูปเดลิน โคเวิร์ทผู้มีเคราขาว  เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะให้ลินลี่ย์  ลินลี่ย์!  การทดสอบและสมัครนักเวทเป็นทางเลือกของเจ้า  ภายใต้การแนะนำของข้า ยังจะมีอะไรที่ด้อยกว่าจอมเวทในสถาบันหรือ?”
ลินลี่ย์เห็นด้วยกับแนวความคิดนั้น
เดลิน โคเวิร์ทเป็นจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียน สถาบันจอมเวทจะมีจอมเวทผู้วิเศษระดับเซียนคอยสอนอยู่ที่นั่นหรือ?
 ว่าไง? ลูกไม่ต้องการไปหรือ?”  หน้าของฮ็อกแต่เดิมที่ยิ้มอยู่ เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีขณะที่เขาขมวดคิ้ว
ฮ็อกจำได้ชัดเจนว่า ตั้งแต่การต่อสู้กันระหว่างจอมเวทสองสายธาตุระดับแปดและกลุ่มจอมเวทเล็ก  ลินลี่ย์ต้องการจะเป็นจอมเวทมาก  ทำไมเขาถึงลังเลในตอนนี้?  ในใจฮ็อก เขาตั้งความหวังให้บุตรของเขาเป็นจอมเวทเช่นกัน
 ท่านพ่อ, ข้า...
 ไม่, ลินลี่ย์, ยอมรับข้อเสนอของบิดาเจ้าซะ  เดลิน โคเวิร์ทขมวดคิ้วและรีบพูด
ลินลี่ย์ยับยั้งคำพูดไว้ที่ริมฝีปาก  ขณะเดียวกัน เขาถามด้วยความสงสัย ปู่เดลิน! ข้ามีท่านคอยสอนอยู่แล้วไม่ดีหรือ?  ด้วยการสอนของท่าน  ทำไมข้าจึงจำเป็นต้องไปสถานบันจอมเวทเล่า?  นั่นมิทำให้ครอบครัวต้องสิ้นเปลืองหรอกหรือ?”
 ไม่ เดลิน โคเวิร์ทพูดจริงจัง  ข้าไม่ได้ติดต่อกับทวีปยูลานมาเกินกว่าห้าพันปีแล้ว  ห้าพันปีเชียวนะ ลินลี่ย์!  เจ้าต้องเข้าใจว่านักเวททั้งหลายในโลกมีการค้นคว้าและพัฒนาคาถาอยู่ตลอดในช่วงเวลาอย่างนี้  ใครจะรู้กันว่ามีเวทใหม่ๆ พัฒนาในช่วงเวลานี้มากแค่ไหน
ลินลี่ย์เข้าใจทันที
 แล้วก็ลินลี่ย์!  เจ้าต้องรู้ว่าเมืองอู่ซันไม่ใช่เวทีที่เจ้าจะแสดงฝีมือได้  เจ้าต้องก้าวไปสู่เวทีที่กว้างใหญ่กว่า เดลิน โคเวิร์ทพูดจริงจัง
 เวทีที่กว้างไกล...
ลินลี่ย์อดตื่นเต้นไม่ได้
เขานึกถึงมังกรลมกรดยักษ์อย่างช่วยไม่ได้  พลังทำลายล้างจากผลของเวทระบำอสรพิษเพลิง  เช่นเดียวกัน จอมเวทผู้วิเศษระดับเซียน รูดี้ ที่สามารถควบคุมหินจำนวนนับไม่ถ้วนได้อย่างง่ายดายจนเป็นสาเหตุแห่งภัยพิบัติ
 เพื่ออนาคต...
หัวใจของลินลี่ย์เริ่มเต้นเร็วขึ้น  ถ้าสักวันเขาสามารถก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนหัวมังกรและควบคุมพลังหายนะได้  ถ้าเขาสามารถรู้สึกถึงพลังของการได้อยู่จุดสุดยอดของมนุษยชาติ นั่นต้องเป็นความรู้สึกที่อัศจรรย์  เมื่อเขาคิดเรื่องนี้แล้ว ลินลี่ย์รู้สึกเลือดเดือดพล่าน
 ลินลี่ย์! ลูกกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่?”  ฮ็อกเริ่มไม่สบายใจ เมื่อเขาคุยกับลินลี่ย์ แล้วลินลี่ย์ใจลอย
 โอว, ไม่มีอะไร!”  ลินลี่ย์รีบมองฮ็อกและพยักหน้าพร้อมกับพูดยืนยันหนักแน่น  ท่านพ่อ! ในใจข้า ข้าอยากเป็นจอมเวทจริงๆ  ในหนึ่งสัปดาห์ โปรดจัดเตรียมให้ข้าได้ไปเมืองเฟนไลเพื่อทดสอบและสมัครเป็นจอมเวทด้วยเถอะ
พอได้ยินคำพูดเช่นนี้ ฮ็อกยิ้มจนได้
 จอมเวท โอว โอว.. เหมือนจอมเวทที่ชอบพ่นไฟใช่ไหม  ขณะที่ฟัง วอร์ตันน้อยปรบมือน้อยๆ
 วอร์ตันนั่นเป็นแค่กลของคณะละครสัตว์  อย่าเอาคณะละครสัตว์มาปนกับจอมเวทตัวจริง ฮ็อกพูดจริงจัง
 โอ๋ว วอร์ตันน้อยหน้าบึ้งและหยุดพูด
ลินลี่ย์หัวเราะแล้วจากนั้นหันไปมองฮ็อก ท่านพ่อ!  คงต้องมีสถาบันจอมเวทอยู่มากมาย  จะเลือกสถาบันไหนดี? ใช่แล้ว สถาบันไหนที่มีทั้งจอมเวทและนักรบสอนรวมกันบ้าง?”
ฮ็อกหัวเราะเช่นกัน ความจริง จักรวรรดิใหญ่ทั้งสี่และสหภาพใหญ่ทั้งสองมีสถาบันชั้นยอดเป็นของตนเอง  ลูกควรจะรู้ว่าหนึ่งในสี่จักรวรรดิใหญ่ จักรวรรดิโอเบรียนเป็นจักรวรรดิที่มีกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุด
ลินลี่ย์พยักหน้า  ทุกคนรู้เรื่องนั้น
 โรงเรียนชั้นยอดในจักรวรรดิโอเบรียนก็คือสถาบันโอเบรียน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถาบันนักรบอันดับหนึ่งในทวีปยูลาน  แต่สำหรับสถาบันจอมเวท..”  ฮ็อกหัวเราะเบาๆ สถาบันจอมเวทอันดับหนึ่งในทวีปยูลานเป็นของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ของเรา  ชื่อของมันได้มาจากจักรพรรดิแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ ก็คือ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เอินส์  สถาบันเอินส์

2 ความคิดเห็น:

tho กล่าวว่า...

ติดตาม ติดตาม ขอบคุณคับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น