ตอนที่ 2-8 ทดสอบความถนัดทางเวท (1)
ภายใต้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่วิหาร ผู้คนทั้งหมดในลานวิหารเดินเข้าไปในหอประชุมของโบสถ์
ภายในโบสถ์
โถงโบสถ์กว้างใหญ่พื้นปูด้วยหินอ่อน และมีโคมแก้วแขวนอยู่ข้างบน
สามารถรองรับคนได้นับร้อยสบายๆ และให้ความรู้สึกกว้างใหญ่
ข้างของหอประชุมใหญ่มีแถวเก้าอีกซึ่งมีตัวแทนและผู้รับสมัคของสถาบันจอมเวทใหญ่ๆ
นั่งอยู่ โดยเฉพาะตรงกลางของหอประชุมใหญ่จะเป็นจุดที่ใช้ทดสอบ
เจ้าหน้าที่โบสถ์ในชุดดำยาวยิ้มและพูดน้ำเสียงชัดเจน
“จุดทดสอบอยู่ที่กลางอาคาร ผู้เข้าทดสอบทุกคน
โปรดเข้ามาทีละคน คนอื่นๆ ห้ามเข้ามาในวงแหวนเวทตรงกลาง ผู้เข้าทดสอบทุกคน โปรดเข้าแถว ครอบครัวและสหายเชิญรออยู่ด้านข้าง
“ลินลี่ย์, เอ้านี่, เงินค่าทดสอบ
นี่คือข้อมูลยืนยันสถานะของเจ้า ไปเร็ว โอว..ใช่แล้ว ให้หนูเงาน้อยอยู่กับข้า
มันจะลำบากถ้าหนูเงาน้อยอยู่กับเจ้าขณะที่เจ้าทดสอบ” ฮิลแมนบอก
“บีบี!
อยู่กับลุงฮิลแมนสักประเดี๋ยวนะ
ข้าจะไปทดสอบ”
ลินลี่ย์สั่งหนูเงาทางใจ
มันไม่เต็มใจและขลุกอยู่ในชุดของลินลี่ย์
แต่หลังจากลินลี่ย์ขอร้องหลายครั้ง
หนูเงาน้อยก็พุ่งเข้าไปอยู่ในชุดของฮิลแมนอย่างรวดเร็ว
จากนั้นลินลี่ย์รับเงินสิบเหรียญทองและเดินไปเข้าแถว พวกเด็กๆ มีวัยราวๆ หก
เจ็ดขวบจนถึงสิบเจ็ดขวบ
เด็กเหล่านี้จัดแถวเป็นแถวยาวสองแถว
ขณะที่เจ้าหน้าที่โบสถ์เก็บค่าธรรมเนียมจากพวกเขาทีละคน
วงแหวนตรงกลางกว้างสิบเมตรหรือราวๆ
นั้นและมีผู้ใหญ่สามคนอยู่ในนั้น
สองคนจะรับผิดชอบดูแลการทดสอบ ขณะที่อีกคนรับผิดชอบจดบันทึกผล
อุปกรณ์ทดสอบประกอบด้วยลูกแก้วผลึกและวงเวทหกเหลี่ยม
“คนแรก”
บุรุษหัวโล้นชี้ไปที่ลูกแก้วและพูด
“วางมือบนลูกแก้ว เราจะทดสอบความเข้ากันได้กับธาตุของเจ้า”
ผู้ทดสอบคนแรกเป็นเด็กผู้ชายอายุสิบสองหรือสิบสามปี เด็กคนนั้นวางมือขวาลงบนลูกแก้วด้วยความกังวล ทันใดนั้นลูกแก้วทั้งลูกเริ่มเปล่งแสงสลัว ไฟเรืองแสงสีแดง กับมีแสงสีเขียวปนอยู่เล็กน้อย
ชายชราศีรษะล้านมองดูเศษกระดาษในมือเขา
และพูดอย่างเฉยเมยว่า “อายุสิบสองปี ความเข้ากันได้ของธาตุ
– ธาตุไฟ ปกติ, ธาตุลม ต่ำ
“ทีนี้ ก้าวไปในวงเวท ตอนนี้จะทดสอบความบริสุทธิ์พลังวิญญาณเจ้า จำไว้ ยืนตรงนั้น
อย่าคุกเข่าหรือทรุดตัวลง
เราจะดูว่าเจ้าทนได้นานแค่ไหน”
ผู้เฒ่าศีรษะล้านยังคงเยือกเย็นเหมือนแต่ก่อน เด็กผู้ชายนั้นพยักหน้า จากนั้นก้าวไปยืนบนวงเวทดาวหกแฉก แสงสีขาวศักดิ์สิทธิ์ฉายออกมาจากผู้เฒ่าศีรษะล้านทันที
แสงนั้นยิงตรงไปที่กลางภาพเวทดาวหกแฉกนั้น
เวทแสงประจำธาตุ –
กำราบ
“ดูเหมือนว่ากระบวนการทดสอบในยุคนี้จะเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา” เดลิน
โคเวิร์ทเหาะออกมาจากแหวนปรากฏตัวอยู่ข้างๆ ลินลี่ย์
“ปู่เดลิน”
พอเห็นเดลิน โคเวิร์ท ลินลี่ย์รู้สึกว่าตนเองสงบจิตใจได้
“ในการทดสอบความถนัดทางเวท
การทดสอบความเข้ากันได้กับธาตุเป็นเรื่องรองลงไป
แต่การทดสอบแก่นพลังวิญญาณเป็นเรื่องหลัก
หลังจากฝึกสมาธิมาครึ่งปี
ความบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณของเจ้าน่าจะได้สิบหกหรือสิบเจ็ดเท่าของคนวัยเท่าเจ้าเป็นส่วนใหญ่” เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะให้ลินลี่ย์เบาๆ “สำหรับเจ้าการทดสอบนี้ง่ายมาก”
ในช่วงเวลาสั้นๆ
เด็กที่อยู่ภายในวงเวทไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
“ความบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณ
สองเท่าของคนทั่วไปที่อยู่ในวัยเดียวกัน ไม่มีคุณสมบัติเป็นจอมเวท” ชายชราศีรษะล้านประกาศเยือกเย็น
ขณะที่วงเวทหยุดทำงาน และเด็กผู้นั้นเดินจากไปอย่างเงียบงัน
เสียงอึกทึกดังจอแจมาจากที่ใกล้
“เงียบ” ผู้เฒ่าศีรษะล้านพูดอย่างเยือกเย็น
และในทันใดนั้นคนชั้นสูงกลุ่มใหญ่ก็ไม่กล้าพูดต่อไป “คนต่อไป”
เดลิน
โคเวิร์ทมองดูด้วยความสนใจอยู่ข้างๆ
เด็กคนแล้วคนเล่าเข้ารับการทดสอบ หนึ่งในสิบ ไม่มีผู้ใดมีคุณสมบัติพอ ตอนนี้มีเด็กสาวคนหนึ่งอยู่ในวงเวท นางสามารถทนได้นานกว่าเด็กสิบคนก่อนหน้านาง
“หืม?” ตาของชายชราศีรษะล้านเป็นประกาย
และทันใดนั้นเขาเพิ่มพลังลงไปในวงเวท
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เด็กสาวก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งในที่สุด
ผู้เฒ่าศีรษะล้านพยักหน้าพอใจ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา
“ความบริสุทธิ์พลังวิญญาณ ดีกว่าคนในวัยเดียวกันแปดเท่า คุณสมบัติขั้นต่ำสุดมีพอจะเป็นจอมเวทได้ เจ้ามีความเข้ากันได้กับธาตุในระดับปกติ
สามารถเป็นจอมเวทได้!” การตัดสินของผู้เฒ่าศีรษะล้าน
ได้กำหนดชะตาของหญิงสาวผู้นี้
“โอว..วิเศษจริง”
คนแรกที่ตะโกนยินดีไม่ใช่หญิงสาว แต่กลับเป็นบิดาของหญิงสาว
เป็นบุรุษวัยกลางคนศีรษะล้านท่าทางเป็นสุภาพบุรุษ
“เงียบ!”
ผู้เฒ่าศีรษะล้านพูดเสียงเยือกเย็นด้วยความไม่พอใจ
ทันใดนั้น
พนักงานเดินมาพาเด็กสาวและบิดาของนางไปยังแถวที่นั่งซึ่งสถาบันจอมเวทรอรับสมัครอยู่
สายตาอิจฉามากมายจ้องดูตามหญิงสาว
ขณะที่เวลาผ่านไป
ผู้คนในอาคารเพิ่มจำนวนมากขึ้น
การทดสอบเวทจะดำเนินไปเป็นเวลาเจ็ดวัน
ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่เห็นความสำคัญของการมาตั้งแต่แรก เมื่อถึงคราวลินลี่ย์ แถวผู้รอทดสอบก็ยาวเลยประตูใหญ่ของโบสถ์ไปแล้ว
“คนต่อไป” ผู้เฒ่าศีรษะล้านพูดอีก
ลินลี่ย์เดินอย่างใจเย็นเข้าไปตรงกลาง
โดยมีเดลิน โคเวิร์ทอยู่ข้างๆ เขา
ในสายตาของเดลิน
โคเวิร์ทมีแต่นักสู้ระดับเซียนเท่านั้นถึงจะสัมผัสถึงความคอยู่ของเขาได้ นักเวทธรรมดาเหล่านี้ไม่สามารถตรวจเขาเจอแน่นอน
ลินลี่ย์วางมือขวาลงบนลูกแก้ว
ทันใดนั้น
จู่ๆ
ลูกแก้วก็ส่องแสงพรึ่บเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์
แสงรัศมีธาตุดินตัดกับแสงรัศมีสีเขียว และยังมีแนวแสงแดงบางๆ คั่นระหว่าง แสงสว่างที่แยงตานั้นเจิดจ้าจนคนที่อยู่ใกล้ๆ
ต้องหยีตา
พอเห็นแสงสว่างราวกับดางอาทิตย์กระจายออกมาจากดวงแก้ว ทุกคนในหอประชุมนุมใหญ่ตกตะลึงกันหมด
ผู้เฒ่าศีรษะล้านสั่นขณะจ้องดูชิ้นกระดาษในมือเขา
มันเขียนไว้ชัดเจนว่าลินลี่ย์มีอายุแปดขวบ
“อายุแปดปี
ความเข้ากันได้กับธาตุ – ธาตุดินและธาตุลม
อยู่ในระดับยอดเยี่ยมทั้งสองธาตุ
ความเข้ากันได้กับธาตุไฟ ปานกลาง”
ผู้เฒ่าศีรษะล้านรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นรัว นักเวทส่วนใหญ่มีความเข้ากันได้กับธาตุในระดับปานกลาง
เพียงความเข้ากันได้กับธาตุระดับสูงก็หาได้ยาก ความเข้ากันได้ระดับยอดก็หาได้ยาก และความเข้ากันได้ของธาตุในระดับยอดเยี่ยม..
นับว่าหาได้ยากจนเป็นน่าตลก!
พูดให้ชัดก็คือ
จอมเวทธรรมดาอาจใช้เวลาสิบชั่วโมงในการสร้างพลังเวทจำนวนหนึ่ง
แต่ลินลี่ย์จะใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวกลับได้ผลที่เหมือนกัน
“หูวววว”
ทั่วทั้งหอประชุมตกใจกันหมด
ไม่เพียงแค่ความเข้ากันได้กับธาตุของเด็กนี้จะยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่เป็นธาตุแตกต่างกันสองสายธาตุ นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว
“ความเข้ากันได้กับธาตุลมในระดับยอดเยี่ยมหรือ?” แม้แต่เดลิน โคเวิร์ทที่อยู่ใกล้ๆ ก็ตกใจด้วย
“โห.. ข้า
ข้าเข้ากันได้กับธาตุลมด้วยหรือ?”
ลินลี่ย์ตะลึง
เขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเดลิน โคเวิร์ท
เดลิน
โคเวิร์ทพยายามยิ้ม “ลินลี่ย์, ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนแล้วว่า
ข้าสามารถทดสอบได้เฉพาะความเข้ากันได้กับธาตุดิน
ถูกแล้ว เมื่อเจ้าดูดกลืนแก่นธาตุธรรมชาติ
เจ้าไม่เคยรู้สึกถึงแก่นธาตุลมเลยหรือ?”
“แก่นธาตุลมหรือ?” ลินลี่ย์ตะลึง
“ตอนแรกที่ท่านสอนข้าให้สร้างพลังธาตุ
ท่านบอกข้าไม่ให้วอกแวก
ดังนั้นแม้ข้าจะสังเกตเห็นจุดแสงสีเขียวรอบตัวข้า ข้าจึงไม่ได้สนใจ แต่ต่อมา
เมื่อข้าเริ่มดูดกลืนแก่นพลังธาตุดิน
ข้าจะถูกแก่นธาตุดินล้อมรอบ และจุดแสงเขียวก็ไม่ปรากฏมานานแล้ว
ตอนนี้ เดลิน
โคเวิร์ทเพิ่งเข้าใจ
เมื่อฝึกพลังเวท
โดยเฉพาะพลังเวทสองสายธาตุ
ถ้าผู้ฝึกเอาแต่เพ่งฝึกเพียงธาตุเดียว อย่างเช่นธาตุดิน
แก่นธาตุดินโดยรอบทั้งหมดก็จะถูกดึงดูดมากใกล้ ขณะที่ธาตุอื่นๆ รวมทั้งธาตุลมถูกผลักออกไปข้างๆ
“ตั้งแต่นั้นมา เมื่อใดก็ตามที่ข้าฝึก
ข้าแค่รู้สึกถึงแก่นธาตุดินรอบตัว
ข้าไม่ได้คิดถึงจุดแสงเขียวเหล่านั้น”
ลินลี่ย์รู้สึกมีความสุขมากเช่นกัน
เพราะเขารู้ว่าจอมเวทสองสายธาตุมีพลังมากแค่ไหน ยังมีพลังมากกว่าจอมเวทสายธาตุเดียวมากนัก
หลังจากทดสอบเข้าความกันได้กับธาตุแล้ว
ก็เป็นการทดสอบความบริสุทธิ์ของพลังวิญญาณ
3 ความคิดเห็น:
ขอบคุณคับ
ขอบคุณมากค่ะ☺️
ขอบคุณมากครับผม
แสดงความคิดเห็น