วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 405 หัวใจธรณีสารและโคเงา



ตอนที่  405  หัวใจธรณีสารและโคเงา
เจ้าอ้วนไห่มาสมทบกับลีน, แอนนา, เสวี่ยทันหลางและองค์ชายเทียนหลัว  เดินตามรอยเท้าของฮุยไท่หลางไป  พวกเขาจึงได้ออกจากตำหนักเพลิงมุ่งสู่ตำหนักดิน  ขณะเดียวกัน เย่ว์หยางกำลังตบไหล่จ้าวปฐพีปลอบใจเขา “แพ้หรือชนะล้วนเป็นเรื่องขี้ผง  ลูกผู้ชายปล่อยวางกันได้อยู่แล้ว  เอาอย่างนี้เป็นไง  ข้าจะทิ้งหมาป่าดินและแมงมุมทรายไว้ให้เจ้า  พวกมันเป็นลูกน้องของเจ้า  ข้าจะเอาพวกมันไปได้ยังไงกัน?  ข้าเกรงใจเจ้า และข้าจะให้เงินหมื่นเหรียญทองไว้กับเจ้า  เพราะเจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ต้องการเงินนั้น  แต่ข้าต้องการสมบัติที่ข้าชนะจากเกมตังเตและเกมห้าแถว  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมแข่งฉี่ไกล ข้าต้องการหัวใจธรณีสาร  เจ้าคงต้องให้ข้า เพราะลูกผู้ชายพูดแล้วไม่ควรคืนคำ  แน่นอนว่าเจ้าไม่ชอบอย่างนี้ ข้าได้ยินมาจากปีศาจไม้หมื่นปีที่ตำหนักไม้มาแล้วว่า เจ้าเป็นยอดฝีมือทางการพนันที่รักษาคำพูดเสมอ และเจ้าก็ไม่ตีโพยตีพายมากนักเมื่อเจ้าแพ้!

จ้าวปฐพีเริ่มมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย
เขาเสียใจมาก เขารู้ผลของการเล่นพนันของพวกเขาแล้ว  เขาไม่อาจสู้เย่ว์หยางได้ โดยเฉพาะเกมฉี่ไกล เขาไม่คาดว่าเขาจะแพ้ในที่สุด
หัวใจธรณีสารเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุดในตำหนักดิน ใครก็ตามที่สามารถหลอมรวมกับมันได้จะสามารถดูดซับพลังจากดินได้ไม่มีขีดจำกัด
จ้าวธรณีสูญเสียสมบัติมีค่าและหาได้ยากในการแข่งขันว่าใครฉี่ไกลที่สุด  ผลกระทบเช่นนี้ถือว่ามากเกินไปหน่อยสำหรับจ้าวปฐพี  โชคดีที่เย่ว์หยางยังมีน้ำใจเหลือหมาป่าดิน, แมงมุมทราย, ตะกวดผาและงูดำดินไว้ให้  มิฉะนั้นจ้าวปฐพีจะต้องเหลือตัวคนเดียวแน่นอน
 “.....” เย่คง, เลโอทอเรนหัวหน้ากลุ่ม, สี่สาวคิวบัวร์, นายกององครักษ์เลือดเหล็กและนักผจญภัยอื่น ทุกคนมองด้วยอาการงุนงง  พวกเขาไม่เคยนึกฝันเลยว่าจ้าวปฐพีจากตำหนักดินจะตกอยู่ในสภาพเสียใจเช่นนั้น
 “เอาล่ะ, ว่ากันต่อ ถ้าเจ้าให้หัวใจธรณีสารกับข้า  ข้ารู้ว่ามันมีค่าต่อเจ้า แต่ที่สำคัญคือเจ้าแพ้ไปแล้ว  เอาอย่างนี้เป็นไง เจ้าอยู่ที่นี่คนเดียวไม่เบื่อหรือไง? ในอนาคต ข้าจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนมาเที่ยวมาเล่นกับเจ้าที่นี่  พวกเขาโง่กันทั้งนั้น  ดังนั้นข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะต้องเอาชนะพวกนั้นได้ง่าย ก็เหมือนตอนที่เจ้าเพิ่งเอาชนะเจ้าโง่เย่คงก่อนนั้นไง  อีกอย่างหนึ่ง ข้าพนันได้ว่าเจ้าไม่รู้ว่าข้ามีความเชี่ยวชาญอักษรรูนสวรรค์  ข้าสามารถจารึกอักษรรูนสวรรค์บนศีรษะ, ไหล่, อกและแขนของเจ้า  เจ้าต้องการกายเพชรไหม? ข้าช่วยให้เจ้าได้กายเพชรเช่นกัน”  เย่ว์หยางวางเงินมากมายและพยายามให้ได้รับหัวใจธรณีสาร
 “จริงเหรอ?”  การได้กายเพชรเป็นสิ่งเย้ายวนใจจ้าวปฐพี และอักษรรูนสวรรค์ก็ทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งขึ้น
 “ข้าคงไม่ยอมเปิดเผยฝีมือข้าแน่  ถ้าข้าทำให้เจ้ามีกายเป็นเพชรไม่ได้  อย่าว่าแต่เพียงแค่นั้นเลย  ข้ายังทำให้บริวารของเจ้าเป็นยักษ์ทอง, ยักษ์เงินและยักษ์ทองแดงก็ยังได้ ข้ารับรองเรื่องนั้นได้”  เย่ว์หยางตบอกด้วยความมั่นใจ
หลังจากเย่ว์หยางสะบัดลิ้นเกลี้ยกล่อมไปมา  ในที่สุดจ้าวปฐพีก็ยอมเอาหัวใจธรณีสารออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก
เขาส่งมอบให้เย่ว์หยางด้วยมือที่สั่นเทา โดยไม่กล้ามองดูมัน
เย่ว์หยางเอื้อมมือไปรับและรีบเก็บเข้าไปในโลกคัมภีร์ด้วยความไวที่เร็วกว่าแสง  จากนั้นเขาสั่งให้โคเงาอาหมันทางความคิดให้ผสานสมบัตินั้นเข้ากับตัวนาง  เพื่อที่ว่าจ้าวปฐพีจะได้ไม่สามารถคิดเป็นอย่างอื่นต่อไป
หัวใจธรณีสารเป็นสมบัติเช่นใดกันแน่?
สำหรับอสูรบิน ของเช่นนี้เป็นเหมือนกับซี่โครงไก่ (ความหมายคืออร่อย แต่มีคุณค่าน้อย)
แต่สำหรับอสูรที่ไม่ถนัดในการบินและเก่งในการสู้ระยะประชิด  มันกลับเป็นสมบัติที่ไม่มีใดเปรียบ ทรงค่าสูงสุด
หลังจากผสานเข้ากับหัวใจธรณีสาร  สัตว์อสูรจะมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีในสายธาตุดินทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นฝังดิน, ดินทรายถล่ม พายุทราย  ผลกระทบของการดูดซับพลังงานสายธาตุดินทั้งหมด อย่างเช่น ผลึกเวทสายธาตุดิน, แร่ธาตุ, และอัญมณีสายธาตุดิน ก็จะทำได้ดีขึ้นเป็นสิบเท่า  อสูรหุ่นสายธาตุดินทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโกเลมศิลา, งูแพรศิลาและยักษ์ภูผาจะไม่มีความเป็นปฏิปักษ์  และทำเหมือนกับว่าอสูรนั้นเป็นฝ่ายเดียวกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออสูรที่เป็นเจ้าของหัวใจธรณีสารจะสามารถดูดซับพลังงานจากธาตุดินได้ไม่สิ้นสุด  ตราบใดที่เท้าของมันยังสัมผัสอยู่บนพื้น  ดังนั้นมันจะไม่มีทางอยู่ในสภาพที่หมดพลัง
ผลกระทบของนางพญากระหายเลือดจากการใช้หัวใจธรณีสาร  จะไม่มีผลอะไรมากนัก เพราะส่วนใหญ่นางจะต่อสู้ในอากาศ
แต่สำหรับโคเงาอาหมัน  ทันทีที่ผสานเข้ากับหัวใจธรณีสาร  นางจะกลายเป็นโคเงาสาวที่ไม่มีทางเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้
ในโลกคัมภีร์ ภายใต้สายตาที่อิจฉาของนางพญากระหายเลือดหงและนางพญาดอกหนามมงกุฏทองตั่วตั่ว  โคเงาอาหมันเริ่มดูดซับและผสานเข้ากับหัวใจธรณีสาร  แม้ว่าการผสานกันอาจต้องใช้เวลานานมาก  แต่ทันทีที่ทำสำเร็จ  โคเงาอาหมันจะยกระดับกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับสองดาว  ไม่เพียงแต่นางจะมีพลังมากขึ้น แต่นางจะกลายเป็นผู้ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้  นางจะกลายเป็นฝันร้ายของคู่ต่อสู้ของนาง  จะไม่มีสิ่งอื่นที่น่ากลัวยิ่งกว่าอสูรพิทักษ์ผู้ครอบครองทักษะเนตรประหารและท่าย่ำที่ทรงพลัง ทั้งยังได้รับหัวใจธรณีสาร นางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะประชิด
โคเงาสาวผู้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  ถ้าใครได้ยินอย่างนี้  ต่อให้เป็นนักสู้อย่างซุ่นเทียนจักรพรรดิแห่งจื่อเว่ยและองค์ชายเงาดำ  พวกเขาคงต้องมึนชาเพราะตกใจเป็นแน่
แน่นอนว่า เย่ว์หยางต้องทุ่มเทไปมากเพื่อให้ได้หัวใจธรณีสารเช่นกัน
นอกจากต้องรีดเค้นสมองพยายามหาวิธีเอาชนะจ้าวปฐพีแล้ว  เย่ว์หยางยังคงใช้อักษรรูนสวรรค์และกายเพชรหลอกล่อจ้าวปฐพีให้ยอมมอบหัวใจธรณีสารให้เขา
ในสายตาของเย่ว์หยาง อะไรก็ตามที่สามารถแลกเปลี่ยนหัวใจธรณีสารได้ เขาก็จะใช้สิ่งนั้นไปต่อรอง
เขาใช้เวลาครึ่งวันและต้องเปลืองพลังปราณก่อกำเนิดไปมาก
เย่ว์หยางจารึกอักษรรูนสวรรค์บนศีรษะ, ไหล่, อก, หลัง, แขนและเข่าของจ้าวปฐพี  เขาจารึกอักษรรูนสวรรค์ว่า “สมดุล” ที่กึ่งกลางคิ้วของจ้าวปฐพี คำว่า “เพชร”ตรงตำแหน่งหัวใจและ “ที่กักเก็บพลัง” บนท้องของเขา  ด้วยความช่วยเหลือของอักษรรูนทั้งสามนี้ ร่างของเขาจะค่อยๆ กลายเป็นเพชร  ทันทีที่ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นเพชรโดยบริบูรณ์  พลังรบของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า
สำหรับคำถามที่ว่า เขาจะเปลี่ยนไปเป็นอสูรระดับเพชรได้หรือไม่  เย่ว์หยางรู้สึกว่าโอกาสเป็นไปได้ไม่สูงนัก
การได้กายเพชรยังไม่เท่ากับกลายเป็นอสูรชั้นเพชร
กรณีแรกเป็นเรื่องของรูปแบบกายภาพ ขณะที่อีกกรณีหนึ่งเป็นเรื่องของระดับชั้น  เหมือนในกรณีที่ของที่สร้างด้วยทองอาจจะไม่ใช่สมบัติชั้นทองก็ได้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่ทำให้จ้าวปฐพีกลายเป็นอสูรระดับเพชรได้นั้นจบลงแล้ว  ถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดๆ  เขาคงทำได้แต่เพียงพัฒนาพลังต่อสู้เท่านั้น  แต่ระดับกับชั้นของเขานั้นคงที่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น จ้าวปฐพีกับกายเพชรก็นับว่าเป็นลักษณะที่ยอดเยี่ยมแล้วแม้จะอยู่นอกตำหนักดินก็ตาม  อารมณ์ของจ้าวปฐพีค่อยชุ่มชื่นขึ้นบ้างหลังจากเห็นสิ่งที่เย่ว์หยางมอบให้เขา
แสงทองเริ่มฉายส่องประกายขึ้นมา  ร่างของจ้าวปฐพีเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลังจากเย่ว์หยางใช้ปราณก่อกำเนิดเชื่อมอักษรรูนสวรรค์เข้าด้วยกัน
ร่างศิลาของเขาเดิมแต่ก่อนนั้นเริ่มมีเม็ดเพชรผุดขึ้น
แม้ว่าจะมีเพชรผุดขึ้นมาไม่กี่เม็ด  แต่จะไม่มีปัญหาสำหรับจ้าวปฐพีในการได้รับกายเพชรเมื่อเวลาผ่านไป
พอคิดว่าจ้าวปฐพีสูงห้าสิบเมตรหนัก 2-3 ร้อยตันมีร่างกายเป็นเพชรทำให้หลายๆ คนสั่นสะท้าน  ยังดีที่เขามักอยู่ในตำหนักดินอยู่เสมอ  ถ้าเขาออกไปนอกตำหนักดินได้ แมมมอธทอง, อสูรโคโดศึก, ปีศาจเบเฮมอธโบราณและแม้แต่มังกรดำนรกก็คงต้องเผ่นหนีเมื่อเห็นเขา
เมื่อเจ้าอ้วนไห่และคนที่เหลือตามมาทันเย่ว์หยาง  เขาก็ทำให้บริวารทั้งหมดของจ้าวปฐพีทั้งหมดมีร่างทอง, เงินและทองแดงเสร็จสิ้นแล้ว
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น  เย่ว์หยางยังคงให้คำแนะนำบางอย่างกับจ้าวปฐพีอีกด้วย “ฟังให้ดีนะ, สหายข้า! เจ้าสามารถเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมที่นี่ได้  เก็บรวบรวมค่าธรรมเนียม เจ้าเข้าใจไหม?  ก็หมายถึงว่าเก็บเงินจากนักผจญภัยที่ผ่านมาเที่ยวที่นี่ทุกคน  มั่นใจได้เลยว่านี่เป็นกฎแน่นอน  ลองคิดดูนะ เจ้าเป็นเจ้าของที่นี่  มันจะไม่น่าอายไปหน่อยเหรอ หากเจ้าปล่อยให้พวกเขามาและไปเมื่อใดก็ได้ที่พวกเขาพอใจ?  และเจ้าไม่เบื่อหรือไง?  ด้วยเงินขนาดนั้น  เจ้าสามารถเล่นพนันกับพวกเขาก็ได้ แต่จงจดจำไว้ด้วยว่าเจ้าไม่ควรเอาของบางอย่างมาเดิมพัน  อย่าทำอย่างที่เคยทำเช่นเดิมพันด้วยหมาป่าดินและแมงมุมทรายทั้งหมด เอาแค่พนันด้วยเงินของเจ้ากับพวกเขาก็พอ  พวกเขาก็สามารถสูญเสียสมบัติให้เจ้าได้  แต่เจ้าต้องเก็บบริวารและสมบัติไว้กับตัวเจ้า.. ใช่แล้ว เจ้าฉลาดมาก  ดูเหมือนว่าเจ้าจะเข้าใจคำพูดของข้า  หลังจากเจ้ามีสมบัติแล้ว ข้าจะมาเยี่ยมและแลกเปลี่ยนกับเจ้าอีก  ตอนนี้ข้ากำลังศึกษาอักษรรูนสวรรค์ ขอให้เชื่อใจข้า, เนื่องจากเจ้าก็เป็นสหายที่ดีที่สุด  ข้าไม่หลอกเจ้าแน่นอน!
โอวเกินและองครักษ์เลือดเหล็กมองดูพลางเหงื่อตกไปพลาง  เจ้าอ้วนไห่และคนที่เหลือพยักหน้ารับรองว่าเย่ว์หยางเป็นเด็กดี บางวันยังช่วยจูงมือคนแก่ข้ามถนน  และบางคราก็ฆ่าคนชิงสมบัติในบางโอกาส
ทุกคนมองดูโดยไม่กล้าส่งเสียงสักแอะ
เหตุผลนั้นง่ายดาย  แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่า การขัดใจเย่ว์หยางส่งผลให้ตายอย่างอเนจอนาถยิ่งกว่าโดนจ้าวปฐพีทุบบี้แบนจนกลายเป็นเนื้อเละ
ฮุยไท่หลางรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นที่ตำหนักไฟกับเย่ว์หยาง  แล้วส่งหินตาไฟจากนัยน์ตาของจ้าวเพลิงนรกให้เย่ว์หยาง  หวังจะให้เย่ว์หยางยกย่องและรับรองมัน  สำหรับภูตเพลิงปฐพี  นางทำตัวเหมือนเด็กที่แอบกินขนมหวาน ลอบดูดพลังจากแก่นเวทเพลิงปฐพีและหันไปดูปฏิกิริยาของเย่ว์หยาง  พอเห็นว่าเขาไม่ได้คัดค้านไม่ให้นางทำเช่นนั้น  นางจึงดูดพลังงานอีกจำนวนหนึ่ง.. ดูคล้ายๆ กับเวลาเมื่อเย่ว์ซวงแอบกินขนมหวานทั้งที่มารดายังปรามอยู่
ในที่สุด นางเห็นว่าฮุยไท่หลางได้รับคำชมเชยหลังจากส่งมอบศิลาไฟ  นางจึงต้องการส่งมอบสมบัติให้เย่ว์หยางเพื่อรับคำชมเช่นกัน
แต่นอกจากแก่นเวทเพลิงปฐพีแล้ว นางไม่มีสมบัติอะไรอย่างอื่น
เย่ว์หยางทำเป็นไม่เห็นความขัดแย้งและความลังเลใจของนาง  หลังจากผ่านไปชั่วขณะ  ในที่สุดภูตเพลิงปฐพีก็ยอมส่งมอบให้เย่ว์หยางอย่างไม่เต็มใจนัก  มองดูน่าเวทนา  เย่ว์หยางพยักหน้า
เขายกแก่นเวทเพลิงปฐพีขึ้นดู และจากนั้นก็วางไว้ในมือนางอีกครั้ง
พอเห็นว่าเย่ว์หยางพยักหน้าและคืนสมบัติกลับมาให้นาง  ภูตเพลิงปฐพีมีการพัฒนาทางอารมณ์  รู้สึกตื่นเต้น
นางกอดสมบัติเหาะขึ้นไปสูงเป็นพันเมตรบินไปทั่วๆ บริเวณ
ดูเหมือนว่านางต้องการใช้การกระทำแสดงให้รู้ว่านางตื่นเต้นแค่ไหน นางไม่ได้รู้ตัวเลยว่าการกระทำของนางนั้น คล้ายการกระทำของมนุษย์เพียงไหน
แม้ว่านางยังห่างจากการเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์และยังต้องได้ความรู้สึกซับซ้อนของมนุษย์  ด้วยการฝึกฝนของเย่ว์หยาง  นางได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่แล้ว
 “เกิดอะไรขึ้นกับนกของเจ้า?”  เย่คงชี้ไปที่นกนางนวลสายลมที่อยู่บนหัวเจ้าอ้วนไห่
 “อย่ามาถามข้าเลย” เจ้าอ้วนไห่อยากร้องไห้เมื่อนึกถึงนกตัวนี้
 “มันดูฉลาดมากเลยนะ”  องค์ชายเทียนหลัวและเสวี่ยทันหลางพยักหน้ายอมรับตรงจุดนี้
 “พระเจ้า, ทายกันแม่นมาก  เพราะมันฉลาดเกินไปจนข้าดูโง่ไปเลยน่ะสิ...” ก่อนที่เจ้าอ้วนไห่จะพูดจบประโยค นกนางนวลพ่นแส้สายลมใส่ศีรษะเจ้าอ้วนไห่  ตอนนี้มันรู้วิธีควบคุมพลังของมันแล้ว  ไม่เพียงแต่ไม่ทำร้ายผิวของเขาเท่านั้น  แต่มันทำให้ผมของเขายุ่งเหยิงเหมือนรังนก  เจ้าอ้วนไห่นั่งเศร้าหลบมุม ได้แต่เล่าเรื่องของเขาหลังจากที่โดนเหล่าสหายรบเร้ากดดันให้เล่าถึงเรื่องของมัน
ผลก็คือ ทุกคนหัวเราะกันถ้วนหน้า
นกนางนวลตัวนี้ได้ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว  แต่มันก่อกบถได้เร็วยิ่งนัก
ตอนแรกมันมีความภักดีมากเหมือนกับอสูรที่ทำสัญญาตัวอื่น  แต่พอเจ้าอ้วนไห่บ่นมากเข้า  ความภักดีของมันก็เลยลดฮวบฮาบกลายเป็นขบถทันที  การกระทำเช่นนี้ทำให้ความตั้งใจเยาะเย้ยมันของเจ้าอ้วนไห่ล้มเหลว และความทุกข์ทรมานเข้ามาแทนที่  นางนวลสายลมยังคงติดตามอยู่ใกล้ๆ เจ้าอ้วนไห่ แม้ว่าเจ้าอ้วนไห่จะทำสัญญาไม่สำเร็จก็ตาม
สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยเกลียดความคิดที่เจ้าอ้วนไห่จะจับนกย่างกินในตอนแรก  แต่ตอนนี้นางได้แต่พูดสมน้ำหน้าเขา
หลังจากผ่านไปชั่วโมงหนึ่งพี่น้องตระกูลหลี่ก็มาถึง
เนื่องจากกลุ่มสมาชิกมาพร้อมกันหมดแล้ว  พวกเขาตัดสินใจไม่รอโอวเกินและคนของเขา
ตำหนักใต้ดินมีจุดเทเลพอร์ตสองจุด  จุดหนึ่งตรงเข้าตำหนักทอง  และอีกจุดหนึ่งนำเข้าใจกลางของวังเบญจธาตุและจากนั้นก็ออกไปป่าหยกคราม
 “พวกเจ้าทุกคนออกไปก่อน  เราจะรอต่อเกินกว่าสามชั่วโมง  ถ้าพวกเรายังไม่พบสหายของพวกเรา  เราจะกลับไปสมาคมนักรบและส่งผู้อาวุโสมาพาพวกเขาออกจากวังเบญจธาตุ  แน่นอนว่า ข้าคิดว่าพวกเขามีโอกาสเสียสละตนเองสูงมาก”  มีแววหม่นหมองแฝงอยู่ในคำพูดของโอวเกิน  แต่เขารู้ว่าไม่มีอะไรสำหรับเย่ว์หยาง  ยอดผู้เสียชีวิตอาจจะสูง  พวกเขาทั้งหมดอาจเสียชีวิตโดยไม่มีผู้ใดรู้ก็ได้
 “ไตตันน้อย, เจ้าต้องพานักผจญภัยมาเที่ยวที่นี่เยอะๆ นะ  ข้าเหงามาก และข้าหวังว่าเมื่อเจ้ามีเวลาว่าง ขอให้พาสหายของเจ้ามาเยี่ยมข้าบ้าง”  จ้าวปฐพีรู้สึกปลื้มเย่ว์หยาง  เพราะที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่ว่าทุกคนจะใจกว้างเหมือนเย่ว์หยางที่ยอมคืนสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาพนันชนะกลับมาให้เขา
 “แน่นอน, เจ้าแค่รอรับนับเงินในกระเป๋าอยู่ที่นี่แหละ”  เย่ว์หยางตัดสินใจจะส่งเสริมวังเบญจธาตุและทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม เมื่อเขาออกไปจากที่นี่  เพราะเขากวาดสมบัติไปจากที่นี่หมดแล้ว
 “.....” นักผจญภัยลอบสาบานว่าจะไม่ยอมมาที่วังเบญจธาตุบ้าๆ แห่งนี้อีก
แต่โอวเกินรู้สึกว่าเป็นที่ๆ ดีมากสำหรับฝึกฝน
ถ้าพวกเขาสามารถผ่านวังเบญจธาตุได้  เขาเชื่อว่า เขาสามารถเที่ยวไปได้ทั่วหอทงเทียนชั้นหกได้อย่างอิสระ แม้กระทั่งไปต่อยังหอทงเทียนชั้นที่เจ็ดก็ยังได้  ในวังเบญจธาตุ จะบอกความจริงนักผจญภัยทุกคนว่าหากปราศจากสัตว์อสูร นักรบก็ไม่มีอะไร  ต่อให้นักรบมีอสูรเพียงตัวเดียว  เขาก็ยังไม่มีอะไร
ถ้าเขาต้องการเป็นผู้ทรงพลังจริงๆ  อย่างนั้นเขาจะต้องทรงพลังให้รอบด้าน
กลุ่มนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งจะต้องอดทนต่อความยากลำบาก เพื่อรับการฝึกฝนเป็นอย่างดี
สมบัติน่ะหรือ?
อย่าไปคิดถึงมัน ถือว่าเป็นรางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิตแล้วถ้าผู้ฝึกสามารถออกมาได้จากวังเบญจธาตุทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้  ในโลกนี้จะหาสมบัติได้ก็คงมีแต่คนที่ผิดปกติอย่างเย่ว์หยางเท่านั้น
เมื่อพวกเขาออกมาที่ป่าหยกคราม  เจ้าอ้วนไห่โม้เกี่ยวกับฝีมือที่สูงส่งของเขาจนได้สมบัติสุดท้ายมา  รากไม้ปีศาจจากปีศาจไม้หมื่นปี  แต่มันดึงดูดความสนใจเย่ว์หยาง “อย่าพูดอย่างนั้น บางทีรากไม้ปีศาจอาจมีประโยชน์อย่างอื่น
 “เจ้าว่ามันจะมีประโยชน์กับปิงเอ๋อไหม?”  เจ้าอ้วนไห่ตื่นเต้นจนหน้าแดงเมื่อได้ยินเย่ว์หยางพูด
 “ไม่, คงไม่เป็นประโยชน์สำหรับนาง  แต่อาจเป็นประโยชน์สำหรับพวกเจ้าทุกคน” เย่ว์หยางโบกมือ จากนั้นตะโกนมาทางเจ้าอ้วนไห่ที่กำลังผิดหวังว่า “สะสมทองให้มากเข้าไว้  เจ้าต้องซื้อไม้พิษยางน่องและไม้เนื้อแข็งทอง และในเวลาสั้นๆ ซึ้อไม้อย่างไหนก็ได้ที่เนื้อดีๆ ข้าจะทดสอบให้ดูว่ารากไม้ปีศาจสามารถใช้สร้างมนุษย์พฤกษาที่แข็งแกร่งทีหลัง  แม้ว่าพวกมันจะยังไม่สามารถกำจัดปีศาจได้  แต่พวกมันก็สามารถป้องกันเมืองได้  เอาอย่างนี้เป็นไง เราไปถามสมาคมนักรบว่าพวกเขาจะยอมขายป่าหยกครามหรือไม่  เราจะซื้อพื้นที่รอบๆ วังเบญจธาตุเพื่อสร้างเมืองสักเมือง อย่างนี้ดีไหม?  และจากนั้นพวกเจ้าจะได้มีที่สำหรับตั้งหลัก  ถ้าคนจากทวีปมังกรทะยานและคนที่รู้จักกันมาเยี่ยม พวกเจ้าก็มีที่เอาไว้ต้อนรับพวกเขา  แน่นอนว่าเจ้าคงไม่ต้องการให้จุนอู๋โหย่วฮ่องเต้และผู้อาวุโสอื่นๆ ต้องมาคอยยืนคุยอยู่ที่ลานหงทงเทียนชั้นหกหรอกนะ?”
 “สร้างเมืองๆ หนึ่ง  เราจะเอาเงินมาจากไหน”  องค์ชายเทียนหลัวถึงกับพูดไม่ออก  สร้างเมืองไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
 “เงินไม่เป็นปัญหาหรอกน่ะ”  เย่ว์หยางไม่เคยกังวลเรื่องมีเงินไม่พอ  ถ้าเขาขาดแคลนเงิน  เขาก็แค่ไปชิงมาจากคนอื่นๆ ... เขาโบกมือ “ทุกคนก็รับภารกิจมูลค่าแสนเหรียญทองสิ, ที่เหลือข้าจัดการให้”
 “เราจะไปเลือกภารกิจนั้นจากใครได้?”  สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยไม่เข้าใจ ทำไมจะต้องมีคนมาบริจาคเงินสร้างเมืองให้คนอื่น?
 “ปล้นเอาจากคนแปลกหน้า!  ทันทีที่พูดออกมาจากปากเย่ว์หยาง ทุกคนทรุดลงกับพื้น  แน่นอนว่าเจ้าหมอนี่ เลวบริสุทธิ์
 

16 ความคิดเห็น:

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ 555

Lucky กล่าวว่า...

แข่งฉี่ไกล 5555ปืนใหญ่เฮียหยางทรงพลังยิ่งนัก

ปารมี กล่าวว่า...

ปล้นเอา ร้ายอ่ะ ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ. 55. ชอบตรงปล้นเอานี้และ

Anantaya กล่าวว่า...

เลวบริสุทธิ์ อืมมมม ชอบคำนี้จัง 5555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

M1XERZ กล่าวว่า...

เย่ว์หยาง นายยยยชัาวมากกก ถึงมากที่สุดด

Jenokira กล่าวว่า...

แข่งฉี่ไกล คิดถึงเรื่องไอ้หนุ่มพลังไวอาก้าเลย

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ รู้สึกไอ้ที่อยู่ในวังเบญจธาตุนี่นิสัยีไปเลยครับ

Unknown กล่าวว่า...

จะตาม eng ทันล่ะ

Unknown กล่าวว่า...

ขอด่าหน่อยนะไอเลวเอ้ยพี่หยางเลวจริงๆ

เปา กล่าวว่า...

เลวยันเงา

Nopanser Kung กล่าวว่า...

ในที่สุดเย่ว์หยางเราก็เริ่มที่จะสร้างอาณาจักรของตนแล้ว!
โอ้ ~ อยากรู้จริงๆ ว่าเมืองจะผิดมนุษย์มนามากแค่ไหนกัน 555+

ป.ล. ทีนี้ล่ะพวกนักล่ามังกรเอ๊ยยยยย ได้กลายเป็นยาจกแน่พวกเอ็ง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เงินพี่ไม่เคยขาดมือ เรื่องเงินไม่ใช้ปัญหา ปล้นเอาสิ อิเยว่หยาง 55555555555555555

8lek8 กล่าวว่า...

^^ ขอบคุณค่ะ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น