วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 2-18 ช่วงเวลาเรียนรู้ (2)



ตอนที่  2-18  ช่วงเวลาเรียนรู้ (2)
ภายในห้องเรียนเวทลมระดับหนึ่ง
ลินลี่ย์จะเข้าชั้นเรียนเวทดินเดือนละครั้งราวๆ นั้น แต่เขาเข้าชั้นเรียนเวทลมทุกครั้ง  วันนี้ลินลี่ย์นั่งเรียนตามปกติ
 “ลินลี่ย์, เจ้ามาแล้ว”  ลินลี่ย์เพิ่งจะนั่งลง เด็กหญิงที่หน้าตาน่ารักนั่งอยู่ถัดจากที่นั่งเขา
พอเห็นเด็กผู้หญิง ลินลี่ย์ยิ้มให้ “ดีเลีย, เจ้าก็มาแต่เช้าเชียวนะ  ยังมีเวลาเหลืออีกมากกว่าชั่วโมงเรียนจะเริ่มขึ้น” นั่งอยู่กับเด็กสาวสวยเป็นเรื่องที่น่าเพลิดเพลินใจแน่นอน  เป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะไม่ผลักไสนางออกห่าง
 
ดีเลียไม่ใช่เด็กผู้หญิงธรรมดา
ดิ๊กซี่คือพี่ชายของเธอ เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสถาบันเอินส์และมีพรสวรรค์ที่ร้อยปีถึงจะพบมีครั้งหนึ่ง  เขายังเป็นจอมเวทสองสายธาตุเช่นกัน และความสัมพันธ์ธาตุของเขาอยู่ในระดับยอดเยี่ยม  แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือ เขามีพรสวรรค์สุดยอดด้วยความบริสุทธิ์ของพลังจิตสูงกว่าคนธรรมดาถึง 68 เท่า
ในฐานะน้องสาวของดิ๊กซี่ ดีเลียก็ต้องยอดเยี่ยมเป็นธรรมดา
 “เป็นเพราะข้ารู้ว่าเจ้ามักจะมาเช้าเสมอ” ดีเลียยิ้มสดใส จนนัยน์ตาเป็นรอยโค้ง
ทั้งสองคนนั่งคุยด้วยกัน เวลาผ่านไปเร็วมาก ก่อนที่พวกเขาจะทันรู้ตัว ชั้นเรียนก็เริ่มแล้ว ครูเทรย์อธิบายอยู่ข้างหน้าอย่างกระตือรือร้น และลินลี่ย์นั่งอยู่ระดับต่ำกว่า  เขาฟังอย่างตั้งใจ  แต่ดีเลียมักจะลอบชำเลืองมองลินลี่ย์บ่อยๆ
 “เอาล่ะ วันนี้จบลงเพียงเท่านี้  แต่ก่อนจะเลิกเรียน มีบางอย่างที่ข้าจะแจ้งให้พวกเจ้าทุกคนทราบ” ครูเทรย์ยิ้มขณะพูด
นักเรียนทุกคนเริ่มซุบซิบกัน
 “นักเรียนเก่าทุกคนจะรู้กันว่าสถาบันเอินส์ของพวกเรามีประเพณีอย่างหนึ่ง สองเดือนสุดท้ายของทุกๆ ปี จะมีการจัดแข่งขันประจำปี  การแข่งขันประจำปีมักจะเป็นเรื่องโด่งดังที่สุด เป็นช่วงเวลาที่สถาบันเอินส์มีชีวิตชีวา  นักเรียนที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขันประจำปี จะมีโอกาสสูงในการจัดอันดับเหนือกว่าเมื่อพวกเขาจบการศึกษา  เมื่อพวกเขาจบการศึกษาก็มีแนวโน้มว่า พวกเขาจะได้รับเชิญจากสี่จักรวรรดิใหญ่”  ครูเทรย์หัวเราะ
นักเรียนที่อยู่ข้างล่างเริ่มตื่นเต้นทันที
ที่สถาบันเอินส์ ผู้มีพรสวรรค์ก็ธรรมดาๆ เหมือนกับหมู่เมฆ  และปัญหาอันดับหนึ่งที่คนมีพรสวรรค์มักจะมีเหมือนกันก็คือพวกเขาไม่อยากยอมรับว่าด้อยกว่าคนอื่น
ดังนั้น การแข่งขันประจำปีจะกลายเป็นหนทางให้คนมีพรสวรรค์กลายเป็นผู้มีชื่อเสียง  นักเรียนเกือบ 90% จะให้ความสนใจการแข่งขัน  และทุกคนที่มีความสามารถบางอย่างก็อยากเข้าร่วมด้วย
 “ปกติ พวกเราผู้ฝึกเวทลมก็จะไปสู้ด้วย  ทุกคนที่สนใจสมัคร ให้มาคุยกับข้า”  ครูเทรย์ยิ้มพลางพูด  แต่สายตาของเขามองไปที่ลินลี่ย์
 “ครูเทรย์, ข้าอยากสมัครด้วย”  นักเรียนข้างล่างหลายคนเริ่มส่งเสียงขอสมัครเข้าร่วม
 “ดี” ครูเทรย์นำปากกาขนเป็ดออกมาและเริ่มบันทึกชื่อ  แต่หลังจากบันทึกลงไปราวๆ สิบรายชื่อ  เขาก็รู้ว่าลินลี่ย์มัวแต่คุยกับดีเลียไม่มีทีท่าว่าสนใจสมัครเลย
เทรย์เดินไปทางพวกเขา
ลินลี่ย์เงยหน้ามองอย่างไม่เต็มใจนักและทักทายด้วยความเคารพ “ครูเทรย์” ดีเลียที่อยู่ข้างๆ ก็แสดงความเคารพเช่นกัน
เทรย์ยิ้มและพยักหน้า “ลินลี่ย์ การแข่งขันประจำปีครั้งนี้เป็นโอกาสฝึกตนเองที่ยอดเยี่ยมนะ ข้าคาดว่านักเรียนระดับหนึ่งชั้นยอดจะเข้าร่วมกันทั้งนั้น  ทำไมเจ้าถึงไม่เข้าร่วมล่ะ? นี่คือโอกาสที่หาได้ยากนะ”
 “ข้าไม่สนใจเข้าแข่ง”  ลินลี่ย์พูดตามตรง
ครูเทรย์อดจะสะดุ้งไม่ได้
 “ลินลี่ย์ เจ้าไม่สงสัยไม่รู้หรือว่าผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับรางวัล”  ครูเทรย์ยังพูดจูงใจ
 “รางวัล?”  ลินลี่ย์กำลังต้องการเงิน
สถานะการเงินของตระกูลอยู่ในภาวะล่อแหลม  ถ้าเขาชนะได้เงินบ้าง  เขาคงเข้าร่วมการแข่งขันประจำปีอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก
 “ใช่แล้ว เจ้าควรจะรู้ว่านักเรียนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในหอพักทั่วไป จะเป็นหอพักชั้นเดียว   แต่ผู้ชนะสามอันดับแรกในการแข่งขันจะมีคุณสมบัติได้อยู่ในอาคารสูงสองชั้นเป็นเวลาหนึ่งปี  นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์สถานะ  ห้องหับต่างๆ จะสะดวกสบายมากกว่าเช่นกัน” ครูเทรย์พูดต่อไป
ลินลี่ย์เข้าใจ
มีหอพักสองชั้นไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเป็นของนักเวทที่ทรงพลังระดับเจ็ดหรือระดับแปด  จากสิ่งที่เขาเพิ่งได้ฟัง  นักเรียนสามคนแรกในแต่ละระดับชั้นก็ได้รับอนุญาตให้อยู่ในในหอพักสองชั้นด้วย
สภาพบ้านพักน่ะหรือ?
ลินลี่ย์ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
 “ข้าไม่ขอเข้าร่วม”  ลินลี่ย์ยังคงพูด
ครูเทรย์เริ่มหมดความอดทน  ในฐานะที่เป็นนักเรียนระดับหก  ถ้านักเรียนคนใดคนหนึ่งของเทรย์กลายเป็นสามสุดยอดในระดับชั้นนั้นๆ ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับรางวัลเท่านั้น  แต่เขาจะได้มีหน้ามีตามากด้วย  คนหนุ่มทุกคนใส่ใจกับเรื่องหน้าตา
ครูเทรย์โน้มตัวเข้าหาลินลี่ย์พูดลดเสียงว่า “ลินลี่ย์  เจ้ากังวลเรื่องปกปิดความสามารถของตนเองใช่ไหม? ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นจอมเวทระดับสองแล้ว”
พอได้ฟังคำเหล่านี้ ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะมองดูเทรย์อย่างประหลาดใจ
เทรย์รู้เรื่องระดับพลังของเขาได้ยังไง?  ที่สำคัญ เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินความสามารถของคนจากลักษณะภายนอก
พอเห็นสีหน้าของลินลี่ย์ ครูเทรย์คิดว่าเขาพูดได้ตรงจุด จึงหัวเราะกล่าวว่า “ลินลี่ย์ ถ้าเจ้ามีความสามารถ เจ้าไม่ควรซ่อนเอาไว้  แม้ว่าเจ้าจะตัดสินใจไม่เข้าร่วมแข่งขันเพราะกลัวจะเปิดเผยความสามารถของเจ้า  ข้าอาจตัดสินใจเปิดเผยความสามารถของเจ้าด้วยตัวข้าเองก็ได้”
 “ไม่ว่ายังไง ข้าก็จะไม่ไป”
ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืนอย่างไม่สบายใจ จากนั้นทำความเคารพอย่างสุภาพ “ข้าขอตัวก่อน, ครูเทรย์”
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจดูสีหน้ามึนงงของเทรย์และเดินจากมาทันที
 “เฮ้อ..เจ้าเด็กคนนี้”  หลังจากตั้งหลักได้ เทรย์อดหัวเราะไม่ได้  ดีเลียที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากหัวเราะคิกคักเช่นกัน
…..
เมื่อเวลาเรียนเวทลมจบลง ก็เป็นเวลาเกือบหกโมง  ท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว  ลินลี่ย์วิ่งกลับไปยังหอพักของเขา  พี่น้องชาวหอพัก 1987 ต่างพูดคุยกันด้วยสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและพวกเขามักร่วมทานอาหารค่ำด้วยกันเสมอ
 “ลินลี่ย์, เจ้ากลับมาแล้ว”  เด็กผมหยิกจากหอพัก 1986 ทักทายลินลี่ย์อย่างอบอุ่น
 “แฮรี่ เจ้าทานอาหารค่ำมาแล้วหรือยัง?” ลินลี่ย์ยิ้มและทักทายตอบ
ลินลี่ย์มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านเกือบทุกคน  แฮรี่หัวเราะและพยักหน้า “แน่นอน เรียบร้อยแล้ว พี่น้องสามคนของเจ้ากำลังรอเจ้าอยู่ข้างใน”
 “ลินลี่ย์กลับมาแล้ว ทุกคน ได้เวลากิน!  เสียงของเยลดังลั่นออกมา
เป็นที่ชัดเจนจากภายในหอพักของพวกเขา เยลได้ยินเสียงของลินลี่ย์  เยล, เรย์โนลด์และจอร์จเดินออกมาและโบกมือให้ลินลี่ย์  สี่พี่น้องเดินไปที่จุดทานอาหารค่ำ  สถาบันเอินส์มีร้านอาหารหรูอยู่บ้าง  แต่หลังจากถูกลินลี่ย์, เรย์โนลด์และจอร์จกดดัน  เยลจึงไม่พาพวกเขาไปที่นั่นอีก
อาหารจานในโรงอาหารเล็กเป็นอาหารสด เรียบง่ายดูน่ากินมาก
หลังจากสั่งอาหารแล้ว สี่พี่น้องก็เริ่มคุยกันเอง
ส่วนมากลินลี่ย์จะได้รู้ข่าวสารความเป็นไปเกี่ยวกับสถาบันจากสามพี่น้องของเขา  ขณะที่ลินลี่ย์ใช้เวลาทั้งหมดฝึกฝนอยู่ในภูเขา  บางทีเขาอาจไม่ค่อยรู้อะไรในความมืดมิดอย่างนั้น
 “โธ่เอ๊ย.. อีกราวๆ เดือนหนึ่ง ก็จะหมดปีการศึกษาแล้ว  สองเดือนสุดท้ายในแต่ละปีทั่วทั้งสถาบันจะมีการแข่งขันประจำปี  นักเรียนสุดยอดสามคนในแต่ละระดับชั้นจะได้รับสิทธิ์ให้อยู่ในหอพักมีสองชั้นได้เป็นเวลาหนึ่งปี” เยลพูด
 “แข่งขันประจำปีน่ะหรือ”  ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ  เขาได้ยินเรื่องนี้มาจากชั้นเรียนแล้ว
 “ฮ่าฮ่า, ข้าสมัครแน่นอนอยู่แล้ว”  เรย์โนลด์พูดด้วยความมั่นใจ
เยลเม้มปาก “เจ้าหนู  เจ้ากลายเป็นจอมเวทระดับหนึ่งตอนเดินทางมาจากจักรวรรดิโอเบรียนมาที่สถาบันเอินส์  ข้าว่าตอนนี้เจ้าคงอยู่ไม่ห่างไกลจากการเป็นจอมเวทระดับสองแน่  นั่นไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ”
เรย์โนลด์ใช้เวลาหนึ่งปีเต็มเดินทางจากบ้านของเขามาที่นี่
ตลอดการเดินทาง พ่อบ้านประจำตระกูลของเรย์โนลด์ได้สอนเวทให้เขาซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากลายเป็นจอมเวทระดับหนึ่ง แม้ก่อนการเดินทางจะจบลง
จอร์จยิ้มให้ลินลี่ย์  “หือ.. เจ้าลืมลินลี่ย์ไปแล้วหรือ  ลินลี่ย์ก็เป็นจอมเวทระดับหนึ่งตอนที่เข้าสถาบันเหมือนกัน  ยิ่งกว่านั้นเขายังฝึกเป็นบ้าเป็นหลัง และยังเป็นจอมเวทสองสายธาตุ  ข้าคิดว่าบางทีเขาอาจเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในหอพักของเรา
ลินลี่ย์เม้มปากน้อยๆ  “จอร์จ ไม่ต้องมายอข้า”
 “ลินลี่ย์ เจ้าเป็นจอมเวทระดับสองแล้วหรือยัง?  บอกมาตามตรง?”  จอร์จจ้องดูลินลี่ย์
 “เขาจะเป็นจอมเวทระดับสองได้เร็วขนาดนั้นได้ไง?  จากนักเรียนแนะนำไปเป็นจอมเวทระดับหนึ่ง ระดับพรสวรรค์อย่างพวกเราก็ใช้เวลาหนึ่งปี  แต่จะระดับหนึ่งไปเป็นจอมเวทระดับสอง อย่างน้อยก็ต้องสองปี” เรย์โนลด์ที่อยู่ใกล้ๆ ขมวดคิ้วขณะที่พูด
 “ไม่จำเป็นนี่  ข้ายังคงรู้สึกว่าลินลี่ย์ลับๆ ล่อๆ จริงๆ”  เยลยังคงมองดูลินลี่ย์  “ลินลี่ย์, เจ้ากลายเป็นจอมเวทระดับสองจริงๆ เหรอ?”
ลินลี่ย์พยักหน้าตามปกติ
มันเรื่องใหญ่นักหรือที่ได้เป็นจอมเวทระดับสอง?  แม้ก่อนจะทดสอบคัดเลือกจอมเวท เขาก็กลายเป็นจอมเวทระดับหนึ่งไปแล้ว  จากตอนนั้นก็ผ่านมาหนึ่งปีเต็มๆ  ถ้าเขายังไม่เป็นจอมเวทระดับสอง  อย่างนั้นทุกอย่างที่เขาพากเพียรมาก็คงไม่มีประโยชน์
 “เจ้าถึงระดับนั้นแล้วจริงๆ หรือ?”  นัยน์ตาของเยล, เรย์โนลด์และจอร์จแทบถลนออกนอกเบ้า  ไม่มีใครในพวกเขาคาดว่าจะเป็นเรื่องจริง
 “ไปลงชื่อแข่งขันประจำปีเถอะ, ลินลี่ย์  เจ้าต้องได้เป็นส่วนหนึ่งในนั้นแน่  ย่ำยีเจ้าพวกนั้นให้หมดและประกาศศักดิ์ศรีเพื่อหอพัก 1987”  เยลพูดทันที
ตอนนี้พนักงานได้เอาอาหารมาบริการตามสั่ง
 “กินกันเถอะ, ข้าไม่สนใจแข่งขันประจำปีหรอก”  ลินลี่ย์ไม่สนใจแข่งกับคนที่อ่อนแอกว่าเขา  การแข่งขันต่อสู้เหล่านั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าออกกำลังกายโอ้อวดกัน
เยลและสหายมองหน้ากันเอง
พวกเขาทุกคนรู้ว่าลินลี่ย์ฝึกหนักมากแค่ไหน  ถึงแม้ในปีของพวกเขา  จะมีอัจฉริยะผู้มีธาตุสัมพันธ์และความบริสุทธิ์ของพลังจิตที่ยอดเยี่ยม  แต่ในเรื่องการฝึกฝนอย่างหนัก  ไม่มีผู้ใดเทียบกับลินลี่ย์ได้  และยิ่งลินลี่ย์เป็นจอมเวทสองสายธาตุ  ในใจพวกเขา ทุกคนเชื่อว่าลินลี่ย์คือนักเรียนปีหนึ่งที่ทรงพลังที่สุด
 “มันคงเป็นเรื่องเสียเปล่า ถ้าเจ้าไม่เข้าแข่งขัน  คนอื่นจะชิงความโด่งดังไปได้อีกในการแข่งขันประจำปี” เยลพึมพำ  “แย่หน่อยที่ข้าแข็งแกร่งไม่พอ  ถ้าข้าแข็งแกร่งขนาดเจ้าได้นะ ลินลี่ย์   ข้าจะแสดงผลงานให้นานๆ จากนั้นก็จะได้จีบสาวงามบางคนได้”
ลินลี่ย์หัวเราะ “พอเถอะ  กินกันเถอะ เลิกเพ้อได้แล้ว”
ความจริงลินลี่ย์ไม่สนใจการแข่งขันประจำปีแม้แต่น้อย  แต่นักเรียนส่วนใหญ่ที่สถาบันเอินส์ตื่นเต้นกับเรื่องนี้  ไม่ใช่แค่เพียงนักเรียนเท่านั้น  แม้แต่นักเวทบางคนที่อาศัยอยู่ในสถาบันเอินส์ก็ใจจดใจจ่ออยู่กับผลการแข่งขันนี้
 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น