วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 2-20 ใครคืออันดับหนึ่ง? (2)



ตอนที่  2-20  ใครคืออันดับหนึ่ง? (2)
ตอนนี้  ลินลี่ย์เกือบอยู่ในระดับสุดยอดของนักรบระดับสองแล้ว  แค่ใช้พลังของนักรบระดับหนึ่งธรรมดาก็ยกน้ำหนักร้อยปอนด์ได้  นักรบระดับสองสามารถยกของหนักร้อยปอนด์โยนเล่นได้สบายๆ
 “เจ้า...แค่ก...แค่ก...”  แรนด์จับคอของตนเองไออยู่สองสามครา จากนั้นจ้องมองลินลี่ย์อย่างโกรธเคือง “เจ้า..เจ้า...”
 
 “ใช่แล้ว!  ทันใดนั้นเยลตะโกนลั่น  หน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น  “ความรู้สึกแบบนั้นดีมาก  น้องสาม ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดนั้น!
 “เด็กคนนั้นตัวเล็กมาก  แต่ก็แข็งแรงมาก...”
นักเวทระดับห้าและระดับหกเหล่านั้นประหลาดใจกันทั้งหมด  มีบางคนเป็นครูจอมเวทที่อยู่ในโรงแรมนั่นด้วยเช่นกัน  และพวกเขาทุกคนจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
เด็กที่ดูเหมือนอายุสิบสองหรือสิบสามปีสามารถเหวี่ยงคนหนักเก้าสิบปอนด์ด้วยมือข้างเดียวได้
และเด็กคนนี้ก็เป็นจอมเวทคนหนึ่ง
 “เฮ้แรนด์  เจ้าคุยนักคุยหนาว่าเจ้าเป็นอันดับหนึ่งในหมู่นักเรียนระดับหนึ่งไม่ใช่เหรอ?” เยลเยาะเย้ย
แรนด์หน้าแดงขณะที่จิตใจเขาเต็มได้วยความโกรธและอาย  เขาจ้องดูลินลี่ย์แล้วตะโกนอย่างดุร้าย “เจ้า.. เป็นจอมเวทหรือเปล่า?  ถ้าเจ้ามีฝีมือจริง  มาประลองใช้เวทกับข้า  ทำอย่างนั้นจะได้อะไร?  จอมเวทผู้สูงส่งใช้ฝีมือของนักรบชั้นต่ำ”  แรนด์ทั้งโกรธและอับอาย  เขาเพิ่งชนะการแข่งขันประจำปีของนักเรียนระดับหนึ่ง  แต่ตอนนี้ เมื่อลินลี่ย์จับคอเขาและยกขึ้น  เขากลับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นรู้สึกว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในเงื้อมมือคนอื่น
 “ว่าไง, ถ้าเจ้ามีฝีมือพอ  งั้นมาประลองใช้เวทกัน!  เจ้าเป็นนักเรียนของสถาบันเอินส์หรือเปล่า?”  เพื่อนๆ ของแรนด์ร่ำร้องสนับสนุนทันที
แต่ต่อหน้าลินลี่ย์  พวกเขาสี่คนรู้สึกหวาดกลัวในใจอยู่บ้าง  พละกำลังที่แข็งแรงน่าทึ่งของลินลี่ย์ทำให้พวกเขาตกใจ
 “เวท?”
ทันใดนั้นเรย์โนลด์เริ่มหัวเราะลั่นพลางพูดอย่างทะนง “แรนด์ เจ้าเชื่อจริงๆ หรือว่าแค่เพราะเจ้าชนะเลิศการแข่งขันนักเรียนระดับหนึ่ง  แล้วเจ้าจะเป็นนักเรียนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่นักเรียนระดับหนึ่งจริงๆ?  ฝันไปเถอะ  อันดับหนึ่งของนักเรียนระดับหนึ่งก็คือพี่สามแห่งหอพักของเรา  เจ้าน่ะหรือ? หลบไปข้างๆ เลย”
 “น้องสาม แสดงพลังของเจ้าสักเล็กน้อยก็พอ”  เยลยุยงเช่นกัน
จอร์จเพิ่งถูกแรนด์ตวาดใส่ ดังนั้นตอนนี้ เขาจึงไม่มีอารมณ์เห็นแก่หน้าแรนด์แต่อย่างใด  “แรนด์ ให้ข้าบอกอะไรเจ้าสักอย่างนะ  เจ้าควรรู้ขีดจำกัดของตัวเอง  ยอดฝีมือหลายคนในสถาบันเราไม่ลดตัวเข้าแข่งขันประจำปี  เจ้าเชื่อจริงๆ หรือว่าเจ้าจะมีอะไรพิเศษ”
หน้าของแรนด์ยิ่งบูดเบี้ยวกว่าเดิม
 “เจ้าจะรู้ความจริงต่อเมื่อประลองกัน, แรนด์ แข่งขันกับพวกเขา”  พวกนักเรียนระดับห้าและหกเหล่านั้นตะโกนอย่างสนุกสนาน  พวกเขามองเห็นการต่อสู้ของนักเรียนระดับหนึ่งว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าความบันเทิง
แรนด์เป็นเด็กอายุสิบขวบ  ที่สำคัญคือเขาถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่ยังเล็ก
แม้แต่ที่สถาบันเอินส์  เขาก็ยังอยู่ในระดับกลุ่มนักเรียนสุดยอด  มีครั้งไหนบ้างที่เขาได้รับความอับอายขายหน้าอย่างนี้?
 “อันดับหนึ่งน่ะหรือ?”  แรนด์พูดเกรี้ยวกราด “อันดับหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะพูดกันได้ง่ายๆ มันมาจากการแข่งขัน  ถ้าเจ้ามีฝีมือพอ  อย่างนั้นมาประลองกับข้า”  แรนด์มั่นใจในทักษะวิชาเวทของเขามาก  ที่สำคัญ  เขาชนะการแข่งขันประจำปีสำหรับเด็กนักเรียนเวทระดับหนึ่ง
 “เฮ้, ทำไมผู้จัดการโรงแรมไม่เข้ามาระงับเหตุการณ์เล่า?”  คนดูบางคนรู้สึกประหลาดใจและสงสัยในเรื่องนี้
ความจริงผู้จัดการโรงแรมหัวเดลียืนดูอยู่ห่างๆ  แต่เขาไม่ต้องการเข้ามายุ่ง
เพราะเขาจำนักเรียนเหล่านี้ได้
นอกจากความจริงที่ว่าเด็กพวกนี้เป็นนักเรียนจากสถาบันเอินส์แล้ว  สถานะของเด็กเหล่านี้  เขาไม่ต้องการจะยั่วโมโหพวกเขา  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เยล
 “คุณชายเยลอยู่ที่นี่เหรอ? อึก.. ช่างมันเถอะ  เขาจะทำอะไรก็ตามใจเขา  ต่อให้เขาพังโรงแรมทั้งหลังก็ไม่ใช่กงการอะไรของเขา”  ผู้จัดการโรงแรมลูบและสั่นหัวอย่างช่วยไม่ได้  เขาไม่กล้าต่อต้านแข็งขืนคุณชายเยล
และพอได้เข้าศึกษาในสถาบันเอินส์  สถานะของเยลในตระกูลก็เพิ่มขึ้นมากมาย
 “พูดได้ดี, อันดับหนึ่ง  ไม่ใช่ได้มาด้วยการยกยอตัวเอง  แต่เป็นคว้าชัยชนะได้มา”  ลินลี่ย์ยืนขึ้นเช่นกัน  หน้าของเขาเย็นชาขณะจ้องมองแรนด์  “แรนด์!  ถ้าเจ้าต้องการประลองเวท   มาทำให้มันตื่นเต้นเถอะ  ถ้าเจ้าชนะ เมื่อข้าเห็นเจ้าในอนาคต  ข้าจะต้องหลบหน้าเจ้าไปห่างๆ  แต่ถ้าข้าชนะ เจ้าก็ต้องทำอย่างเดียวกันด้วย”
แรนด์อดแค่นเสียงไม่ได้  “แค่นั้นเจ้าเรียกว่าตื่นเต้นหรือ?  เมื่อผู้แพ้พบผู้ชนะไม่เพียงแต่ต้องหลีกไปให้ไกลเท่านั้น  แต่จะต้องจ่ายทองร้อยเหรียญด้วย  เอาอย่างนั้นดีไหม?”
ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
ร้อยเหรียญทอง?
เขาได้เพียงร้อยเหรียญทองเป็นค่าดำรงชีพในแต่ละปี  เขาไม่ได้ร่ำรวยเหมือนใครบางคน
 “ฮ่าฮ่า! แรนด์  แค่ร้อยเหรียญทองเองหรือ?  เจ้าไม่อายบ้างหรือไง ที่บอกว่าเป็นอันดับหนึ่ง? เอาอย่างนี้ดีไหม  คนแพ้จ่ายหมื่นเหรียญทอง ตกลงไหม?”  เยลที่อยู่ใกล้ๆ ตะโกนลั่น
 “หมื่นเหรียญทอง?”
พอได้ยินคำพูดเหล่านี้  นักเรียนหลายคนในโรงแรมสูดลมหายใจหนาวเหน็บ  หมื่นเหรียญทองเป็นจำนวนเงินไม่ใช่เล็กน้อย  บางทีอาจมีนักเรียนเพียงไม่กี่คนในโรงแรมนี้ที่สามารถนำเงินจำนวนมากขนาดนั้นออกมาได้
 “หมื่นเหรียญทอง”  แรนด์อดสะท้านใจไม่ได้
แม้ว่าตระกูลของเขาจะเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง  แต่เขาก็ได้รับเงินยังชีพเพียงปีละสามพันเหรียญทอง  เขาไม่ได้มาใช้เงินที่โรงแรมหัวเดลีทุกวัน  วันดี เขาแค่มาเพื่อฉลองให้เขากับริกสันที่กลายเป็นผู้ชนะอันดับหนึ่งและอันดับสามในการแข่งขันประจำปี
 “ฮ่าฮ่า, ไม่มีน้ำยาหรือไง?”  เยลหยิบบัตรเครดิตเวทออกมาโบกไปมาขณะที่เขาพูด
 “แรนด์ รับปากเขาเลย”  ริกสันพูด  “เราสี่พี่น้องสามารถรวบรวมทองหมื่นเหรียญได้  ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้”
แรนด์และพี่น้องร่วมหอพักอีกสามคนของเขามองกันและกัน
 “ก็ได้! หมื่นเหรียญทองตามนั้น!
แรนด์พูดดังๆ และจากนั้นแค่นเสียงใส่ลินลี่ย์  “ไปกันเลย  ที่นี่เล็กเกินไป  เราจะที่สนามที่ใช้แข่งขันต่อสู้  ถ้าเจ้ามีความกล้าพอ ก็ตามข้ามา!  หลังจากพูดแล้ว แรนด์ออกไปจากโรงแรมด้วยอาการเย่อหยิ่งและพี่น้องร่วมหอพักอีกสามคนก็ตามเขาไป
 “ไปกันเถอะ”  นัยน์ตาของเยลเป็นประกาย
เรย์และจอร์จก็ตื่นเต้นเช่นกัน  ลินลี่ย์พยักหน้าและหัวเราะเบาๆ “มีคนต้องการจะให้ทองข้าหมื่นเหรียญเหรอ? เราจะปฏิเสธได้ยังไง?”
ลินลี่ย์, เยล, เรย์โนลด์และจอร์จทุกคนเดินออกมาจากโรงแรมมุ่งหน้าไปยังเวทีต่อสู้
ทั่วทั้งโรงแรมตอนนี้มีเสียงเอิกเกริกวุ่นวาย  การประลองมีเดิมพันหมื่นเหรียญทองเป็นเรื่องหาดูได้ยาก  แม้แต่นักเรียนระดับหก  และยิ่งกว่านั้นผู้เข้าประลอง  คนหนึ่งเป็นผู้ที่เพิ่งชนะการแข่งขันประจำปีของเด็กนักเรียนระดับหนึ่ง  แรนด์ และอีกคนหนึ่งเป็นเด็กลึกลับที่ไม่มีใครรู้จัก
ในทันใดนั้น ผู้คนหลายคนต่างชำระบิลและมุ่งหน้าไปทางนั้นทันที
….
พื้นเวทีต่อสู้ทำจากหินปูนที่มีความแข็งมาก
ตอนนี้แรนด์และลินลี่ย์ยืนอยู่คนละด้านของเวทีต่อสู้
ข้างล่างเวทีต่อสู้มีผู้คนกลุ่มใหญ่  ที่สำคัญนี่เป็นเวลาอาหารต่ำ  ดังนั้นหนทางจากโรงแรงหัวเดลีมาถึงที่นี่  จึงเพิ่มจำนวนคนจากหนึ่งเป็นสิบและจากสิบเป็นร้อย  ในช่วงเวลาสั้นๆ คนกลุ่มใหญ่ก็มารวมตัวกัน  การประลองที่น่าตื่นเต้นนี้มีเงินหมื่นเหรียญทองเป็นเดิมพันมีคุณค่ามากพอจะดึงดูดความสนใจของคนเป็นจำนวนมาก
พอเห็นจำนวนคนที่มากมายมาสมทบและเอะอะโวยวาย  ท่าทีมั่นใจก็ปรากฏบนใบหน้าของแรนด์
 “วันนี้ ข้าจะประลองเวทกับเด็กที่ชื่อลินลี่ย์คนนี้  ผู้แพ้จะต้องจ่ายหมื่นเหรียญทองและหลบลี้หนีหน้าอีกฝ่ายหนึ่งในอนาคต  ทุกคน โปรดเป็นพยานให้ข้าด้วย”  แรนด์พูด  เขามีความรู้สึกยินดีที่มีคนดูมากมาย  เขาไม่เคยเจ็บตัวจากการต่อสู้แม้แต่น้อย
ทันใดนั้น เสียงเชียร์โห่ร้องจำนวนมากดังมาจากข้างล่าง  ระหว่างการแข่งขันประจำปี  แรนด์มีผู้สนับสนุนมากมาย ตรงกันข้ากับลินลี่ย์ มีคนเชียร์เขาน้อยมาก
แต่ลินลี่ย์ยังคงยืนอย่างสงบอยู่บนเวทีประลอง
 “พูดพอหรือยัง?” ลินลี่ย์พูดใจเย็น
แรนด์ยิ้มอย่างยโส “เริ่มได้”
แรนด์และลินลี่ย์แทบจะร่ายเวทพร้อมกัน  ขณะที่ทั้งสองคนเป็นนักเวทระดับสอง  เวทที่พวกเขาใช้เป็นเวทระดับหนึ่งและระดับสองทั้งหมดและเวทที่ร่ายได้ง่าย มีแค่คำสองคำเท่านั้น
 “วืดดดด!
ดาบสายลมเจ็ดเล่มปรากฏขึ้นทันทีและฟันตรงเข้าหาแรนด์
 “จอมเวทระดับสองหรือนี่?”  คนดูที่มีประสบการณ์สามารถบอกได้ทันที
แต่แรนด์ก็ปล่อยเวทในขณะเดียวกัน บอลไฟสีแดงเข้มห้าลูกยิงเข้าหาลินลี่ย์เช่นกัน  ดาบสายลมไวกว่าบอลไฟมาก  อย่างไรก็ตาม แรนด์บังคับตัวให้หลบอย่างเก้งก้าง  แต่ลินลี่ย์กลับก้าวฉากหลบบอลไฟด้านข้างได้อย่างสบาย  และขณะที่ทำเช่นนั้น ปากของลินลี่ย์ยังคงร่ายคาถาต่อเนื่องพลางปล่อยเวทที่สอง
เวทธาตุดิน – แผ่นดินไหว
 “ครืนนนน...”
แรนด์รู้สึกว่าพื้นหินใต้เท้าเขาเริ่มสั่นรุนแรง  ภายใต้สถานการณ์นี้  แรนด์ไม่สามารถสงบจิตใจร่ายเวทได้  ทันใดนั้นลินลี่ย์ปล่อยเวทที่สาม ก้อนหินสีน้ำตาลขนาดเท่ากำปั้นห้าก้อนพุ่งเข้าใส่เขาอย่างรวดเร็ว
แรนด์ไม่สามารถยืนหยัดมั่นคงบนพื้นที่สั่นไหวได้  เขาหลบหินได้แค่สองก้อน
 “ตุ้บ”
หินก้อนหนึ่งกระแทกเข้าที่ท้องของแรนด์  ทำให้เขากระอักเลือดทันที  แรนด์รีบใช้แขนเขากุมหน้าอก หินอีกสองก้อนกระแทกจนได้ยิน  และแรนด์กระเด็นลอยลงมาจากเวที ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยฝุ่น
ผลประลองเวท ลินลี่ย์เป็นฝ่ายชนะ
ลินลี่ย์จ้องมองแรนด์อย่างสงบ  ลินลี่ย์มั่นใจว่าพลังโจมตีของเขาจะได้ผล  คงต้องใช้เวลาพักฟื้นเดือนหนึ่งเป็นอย่างมาก  แรนด์จึงจะหายดี  ถ้าลินลี่ย์ตัดสินใจสู้อย่างไม่ปราณี เขาคงยิงหินไปที่ศีรษะของแรนด์และมีแนวโน้มว่าจะกำจัดแรนด์ได้
 “จอมเวทสองสายธาตุระดับสอง    เรามีคนเก่งขนาดนั้นในหมู่นักเรียนระดับหนึ่งด้วยหรือ?”
นักเรียนเวทระดับหนึ่งที่ชมดูร้องออกมาอย่างประหลาดใจ  สำหรับจอมเวทระดับสองที่ปรากฏตัวอยู่ในนักเรียนเวทระดับหนึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยาก  ไม่ต้องพูดถึงจอมเวทสองสายธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา
 “เด็กคนนี้ควบคุมพลังเวทของเขาได้แม่นยำมาก  และการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาคล่องแคล่วว่องไวมาก”
นักเรียนระดับห้าและหกบางคนประหลาดใจเล็กน้อย  เมื่อครู่นี้ เมื่อเผชิญกับบอลไฟ  ลินลี่ย์สามารถหลบได้ขณะที่ยังร่ายเวทต่อเนื่อง  จากตรงนี้เองสามารถบอกได้ว่าลินลี่ย์นั้นคล่องแคล่วขนาดไหน
 “ฮ่าฮ่า, แรนด์, เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเจ้าจะเป็นอันดับหนึ่ง?  น้องสามของหอพักเราสามารถใช้เวทย่ำยีเจ้าได้อย่างง่ายดาย” เยลหัวเราะลั่น
 “แค่ก, แค่ก” แรนด์ลุกขึ้นยืน กุมหน้าอกเขา
แรนด์รู้อยู่แก่ใจในตอนนั้นว่าลินลี่ย์ยั้งมือไว้
 “เยล, พรุ่งนี้พาลินลี่ย์มาด้วย  ข้าจะไปสาขาธนาคารทองสี่จักรวรรดิกับพวกเจ้าเพื่อแลกเงิน  หมื่นเหรียญทอง ข้าจะรักษาคำพูด”  แรนด์มองไปทางลินลี่ย์ที่อยู่ในระยะไกล ความพ่ายแพ้จากเงื้อมมือลินลี่ย์ครั้งนี้ปลุกแรนด์ให้ตื่นจากความทนงตนว่าเป็นอัจฉริยะ
แม้ว่าคนผู้มีพรสวรรค์  ถ้าเขาแข็งแกร่งไม่พอ  เขาก็ยังจะพ่ายแพ้ต่อคนอื่น
 “ลินลี่ย์, ขอบใจเจ้า”  แรนด์พูดพร้อมกับโค้งให้ ทำให้เยลและคนอื่นสะดุ้ง  จากนั้นแรนด์จ้องดูลินลี่ย์และพูดอย่างห้าวหาญว่า “แต่คงมีสักวันที่ข้าจะเอาชนะเจ้าให้ได้”
และจากนั้น แรนด์ยังคงคลำหน้าอกตน เดินจากไปด้วยความช่วยเหลือจากพี่น้องในหอพัก กลับไปยังที่พักของตนเอง
 “ลินลี่ย์, เจ้ายอดเยี่ยมมาก  เจ้าชนะกู้หน้าให้เราพี่น้องได้มากเลย”  เรย์โนลด์วิ่งเข้ามากอดลินลี่ย์ทันทีที่เขาก้าวลงมา
ลินลี่ย์มองไปรอบๆ
ตอนนี้คนเป็นจำนวนมากกำลังมองมาทางเขาและคุยเรื่องเขา  ส่วนใหญ่คนผู้มีพรสวรรค์ที่สถาบันเอินส์จะกลายเป็นที่รู้จักกันดี  ไม่มีใครคาดว่าจะมีใครจากไหนก็ไม่รู้ปรากฏตัวอยู่ในท่ามกลางเด็กนักเรียนระดับหนึ่ง และเอาชนะแรนด์ผู้ชนะเลิศการแข่งขันได้อย่างง่ายดาย
 “เฮ้, ลินลี่ย์ ข้าชื่อแดนนี่ เป็นจอมเวทน้ำระดับหนึ่ง ยินดีที่ได้รู้จักเจ้านะ”  ทันใดนั้น เด็กผู้หญิงผมทองร่างสูงเพรียวบางเดินมาคุยและยิ้มให้ลินลี่ย์
 “หวัดดี ข้าชื่อลินลี่ย์”  ลินลี่ย์มีนิสัยไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้ามากนัก “ขอโทษด้วยนะ ข้าต้องไปฝึกและทำสมาธิต่อ”
หลังจากพูดจบ ลินลี่ย์จ้องไปที่สามพี่น้องของเขาด้วยอารมณ์ความรู้สึก  เยลและคนอื่นๆ รู้ว่าลินลี่ย์กำลังคิดอะไร และทันใดนั้น สี่พี่น้องก็ไม่สนใจคนรอบๆ ตัวเขาทุกคนและเดินจากไป ปล่อยสาวน้อยแดนนี่ที่ขมวดคิ้วไม่สบายใจไว้ด้านหลัง

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น