วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 3-23 นางชื่ออลิซ (1)



ตอนที่  3-23  นางชื่ออลิซ (1)
ช่วงเดินทางกลับ อสูรเวทที่ลินลี่ย์เผชิญเจอเริ่มอ่อนแอลงเรื่อยๆ เมื่อลินลี่ย์ย่างเท้าถึงชายป่าก็พบแต่เพียงอสูรเวทระดับ 3 และ 4 เท่านั้น พวกมันไม่มีท่าทีคุกคามเขา ถึงอย่างนั้นลินลี่ย์ก็ยังคงระมัดระวังตัวอยู่ตลอด
 
เดลิน โคเวิร์ทเดินทางเคียงข้างไปกับลินลี่ย์ แต่ในใจลอบกังวล ตอนนี้แม้ว่าลินลี่ย์จะมีท่าทีสงบและสุภาพ แต่เมื่อเริ่มกระทำการใด  เขาจะไม่มีความปราณี ดวงตาของเด็กหนุ่มช่างเยือกเย็น น่ากลัว
เดลิน โคเวิร์ททราบถึงสาเหตุดี เมื่อคราวแรกที่เขาย่างเข้ามาในเทือกเขาอสูรเวท ดวงตาของลินลี่ย์นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยไมตรี เขาเป็นเพียงคนที่ไว้วางใจผู้อื่นได้ง่าย
หลังจากลังเลอยู่สักครู่ เดลิน โคเวิร์ทก็เอ่ยปาก “ลินลี่ย์”
ขณะกำลังมุ่งหน้าออกจากเทือกเขา ลินลี่ย์ก็หันกลับมามองเดลิน โคเวิร์ทอย่างสงสัย “มีอะไรหรือ? ปู่เดลิน”
เดลิน โคเวิร์ทพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ลินลี่ย์ เมื่อแรกเข้ามาในเทือกเขาอสูรเวท ข้าได้เตือนเจ้าว่าผู้คนไม่อาจเชื่อใจได้โดยง่าย และจุดมุ่งหมายของคนเหล่านั้นก็ยากที่เจ้าจะเข้าใจ ข้าบอกให้เจ้าสงสัยและระแวดระวังผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา”
ลินลี่ย์พยักหน้า “ปู่เดลิน! คำพูดของท่านเป็นจริงอย่างยิ่ง ไม่มีใครที่ข้าจะเชื่อใจได้โดยง่าย ถ้าก่อนหน้านั้นข้าฟังคำของท่านบ้าง หน้าอกข้าคงไม่มีรอยแผลเป็นนี่”
เดลิน โคเวิร์ทส่ายหน้าช้าๆ “แม้ว่าเจ้าจะไม่อาจเชื่อใจใครได้โดยง่าย  แต่ก็ไม่ควรจะตั้งข้อรังเกียจมากเกินไป หากเจ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป จะสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนได้อย่างไร? จงจำไว้ แม้ว่าเจ้าจะไม่ไว้ใจก็อย่าทำตัวเย็นชาหรือตั้งข้อเกียดกันผู้อื่น ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน”
ลินลี่ย์เป็นคนเฉลียวฉลาด เมื่อตอนอยู่ที่บ้านหรือในสถาบันเอินส์ก็ได้อ่านหนังสือมามากมาย เมื่อได้ยินคำพูดของเดลิน โคเวิร์ทก็พอเข้าใจอยู่บางส่วน แต่ประสบการณ์ที่ถูกหลอกลวงหักหลังในช่วง 2 เดือนมานี้สอนให้รู้ว่าจิตใจคนนั้นอำมหิตเพียงไหน เขาได้ประสบพบเจอมาแล้วทั้งสิ้น สำหรับเขา การเชื่อใจใครอีกครั้งเป็นเรื่องยากยิ่ง
 “ปู่เดลิน ข้าเข้าใจแล้ว” ลินลี่ย์พยักหน้า
เดลิน โคเวิร์ทถอนหายใจเบาๆ แต่แฝงไปด้วยความยินดีอยู่บางส่วน “โชคดีที่ลินลี่ย์ยังมีหนูเงาน้อยอยู่เคียงข้าง รวมถึงเพื่อนสนิททั้งสามในสถาบันเอินส์ อย่างน้อยเขาคงไม่รู้สึกผิดหวังในมิตรภาพมากจนเกินไป”
ตอนนี้เดลิน โคเวิร์ทก็พลันนึกถึงเมื่อหนึ่งพันปีก่อน สมัยอาณาจักรพูเอนท์ยังคงรุ่งเรือง มีนักสู้ระดับเซียนของอาณาจักรพูเอนท์ผู้หนึ่งมักแต่งกายด้วยชุดขาวอยู่เสมอ เขามีชื่อเสียงโด่งดังอย่างยิ่งในหมู่เซียนดาบ แต่กลับมีนิสัยหยิ่งทะนงและรักสันโดษ
 “ปู่เดลิน เมื่อท่านพ่อข้าเห็นแก่นเวทเหล่านี้ท่านว่าเขาจะทำเช่นไร?” ลินลี่ย์มองเดลิน โคเวิร์ท ขณะยิ้มแย้มถาม ในยามนี้ดวงตาของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเมื่อคิดถึงคำชมของบิดา
เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่รอรับคำชมจากบิดาเมื่อทำคะแนนสอบได้ดี
 “ลินลี่ย์ เจ้าตั้งใจจะมอบเงินทั้งหมดให้บิดาเจ้าอย่างนั้นหรือ?” เดลิน โคเวิร์ทเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
ลินลี่ย์พยักหน้า “แน่นอน แก่นเวทเหล่านี้มีค่า 70,000 เหรียญทอง เงินไม่กี่เหรียญทองต่อปีก็เพียงพอให้ข้ากินอิ่มแล้ว แต่ท่านพ่อจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการบริหารงานของตระกูลและเก็บไว้ให้วอร์ตันเล่าเรียน แน่นอนว่าข้าย่อมต้องมอบแก่นเวทเหล่านี้ให้แก่เขา”
ลินลี่ย์ไม่คิดจะขายแก่นเวทนี้ด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์หรือความรู้เรื่องซื้อขายนัก แม้ว่าจะกำลังถูกโกงอยู่เขาก็คงไม่รู้ตัว
 “ฮ่าฮ่า ข้าเชื่อว่าบิดาเจ้าคงตื่นเต้นจนกระโดดตัวลอย” เดลิน โคเวิร์ทพูดพลางหัวเราะลั่น
ลินลี่ย์รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง เขาเพิ่มความเร็วในการเดินทางทันที
ตอนนี้ลินลี่ย์ไม่สนใจสังหารอสูรเวทระดับ 3 และ 4   เขาเดินทางตัดผ่านป่าอย่างรวดเร็ว เมื่อขึ้นมายืนบนเนินเตี้ยๆ เขาก็หยุดเดินเนื่องจากได้ยินเสียงคำรามอย่างกราดเกรี้ยวของอสูรเวทและเสียงตะโกนของมนุษย์จำนวนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับมัน
 “หืม? หากพวกเขากล้าเข้ามาในเทือกเขาอสูรเวทอย่างน้อยก็ต้องเป็นนักสู้ระดับ 5 ดูจากรอบๆแล้วเจ้าถิ่นแถวนี้คงเป็นเพียงอสูรเวทระดับ 3 หรือ 4 เป็นแน่ แต่ทำไมเสียงการต่อสู้จึงดูยืดเยื้อและกลับเป็นฝ่ายมนุษย์ที่กำลังเสียเปรียบ” ลินลี่ย์รู้สึกสงสัย
ในพื้นที่ชั้นในของเทือกเขาอสูรเวทซึ่งเป็นที่อยู่ของอสูรเวทระดับ 5, 6 และบางครั้งอาจพบอสูรเวทระดับ 7 การต่อสู้แบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ แต่พื้นที่ชั้นนอกนั้นเกิดขึ้นได้ยาก การต่อสู้ส่วนมากมักจบลงอย่างรวดเร็ว
ลินลี่ย์กระโดดขึ้นสูง 7 – 8 เมตรขึ้นไปยืนบนกิ่งไม้ใหญ่ และกระโจนไปบนกิ่งไม้เข้าหาทิศทางการต่อสู้
เมื่อมาถึง ลินลี่ย์ก็ลอบสังเกตการต่อสู้จากบนต้นไม้
เขาเห็นกลุ่มคนที่ประกอบได้ด้วยเด็กหนุ่ม 2 คนและเด็กสาว 2 คนเผชิญหน้าอย่างยากลำบากกับหมูศึกกระหายเลือด  เด็กหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดเกราะสีขาวกำลังตะโกนสั่งการ “น้องรอง อย่าวิ่งพล่านไปทั่ว! ไปปกป้องอลิซ! ข้าจะล่อเจ้าหมูโง่นี่ออกไป นีย่าอย่ามัวแต่ลนลาน รีบใช้ธนูของเจ้ายิงให้ถูกจุดสำคัญ!”
กลุ่มคนทั้งสี่ ดูอ่อนประสบการณ์อย่างเห็นได้ชัด เมื่อเผชิญกับอันตรายพวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูก มีเพียงหัวหน้ากลุ่มในเกราะสีขาวที่พอมีความสามารถอยู่บ้าง
 “สี่คนนี้กล้าจริงๆ  มีเพียงเด็กหนุ่มเกราะขาวเท่านั้นที่เป็นนักรบระดับ 5 ส่วนคนที่เหลืออย่างมากก็เป็นนักสู้ระดับ 4” อีก 3 คนไม่รู้ว่ากล้าหรือโง่ที่เข้ามาทั้งๆที่ยังไม่บรรลุระดับ 5
หญิงสาวผมแดงเริ่มยิงธนูอย่างรวดเร็ว “พี่ใหญ่คาลัน ไหนท่านบอกว่ารอบๆมีเพียงอสูรเวทระดับ 3 หรือ 4 เท่านั้น? นี่มันอสูรเวทระดับ 5 ไม่ใช่หรือ!”
คาลันนักรบระดับ 5 หัวหน้ากลุ่มทำอะไรไม่ถูก เมื่อเป็นนักรบระดับ 5 การพาเพื่อนเข้ามาบริเวณรอบนอกของเทือกเขาอสูรเวทก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไร แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะได้พบกับอสูรเวทระดับ 5
 วูชชชช!” ทันใดก็มีหอกศิลามากกว่า 10 เล่มผุดขึ้นมาจากพื้นและแทงร่างหมูศึก หอก 3 เล่มถูกตัวมัน  แต่ก็แตกหักจากพลังป้องกันที่แข็งแกร่งของหมูศึก
 “กรรร”
ทันใดนั้นหมูศึกกระหายเลือดหันมาวิ่งเข้าใส่จอมเวทเพียงคนเดียวของกลุ่ม ท่าทีของมันดุร้ายน่ากลัว นอกจากนั้นยังมีเปลวไฟปะทุออกมาจากจมูกของ หญิงสาวที่เป็นเป้าหมายของมันได้แต่ตื่นกลัว
 “วิ่ง! อลิซ หลบเร็วเข้า!” คาลันตะโกนลั่น
อลิซเป็นหญิงสาวผมทองยาวและมีดวงตาสีหมอก เมื่อเห็นอันตรายอยู่เบื้องหน้า อลิซพยายามวิ่งหนีอย่างหวาดกลัว แต่หมูศึกกระหายเลือดเป็นอสูรเวทระดับ 5 แม้ว่ามันจะไม่ได้ฉลาดมากนักแต่ก็ถือว่าฉลาดกว่าสัตว์ทั่วไป
หมูศึกกระหายเลือดไล่ตามอลิซ
เมื่อเห็นว่าหมูศึกกระหายเลือดวิ่งไล่นาง  อลิซเตรียมจะวิ่งหนี แต่กลับสะดุดรากไม้ล้มลงหน้ากระแทกพื้น เมื่อหันกลับมาก็เห็นดวงตาดุร้ายของหมูศึกกำลังเข้ามาใกล้ขึ้น ยิ่งพื้นฐานของอลิซเป็นจอมเวทที่มีร่างกายอ่อนแอ แค่ถูกหมูศึกเหยียบเพียงครั้งเดียวก็สามารถฆ่านางได้
อลิซตกตะลึงหวาดกลัว
เด็กหนุ่มทั้งสองและเด็กสาวอีกคนรู้สึกมึนงงจนทำอะไรไม่ถูก พวกเข้าไม่มีทางช่วยเหลือนางได้เลย
 “อลิซ!” เด็กหนุ่มนามคาลันตะโกนอย่างปวดร้าว แม้จะเป็นนักรบระดับ 5 แต่เขาก็ยังไม่มีประสบการณ์มากพอในการเผชิญกับสถานการณ์ตรงหน้า
 “โครม!”
หอกศิลา 7 – 8 เล่มผุดขึ้นมาจากพื้น แม้ว่าหมูศึกกระหายเลือดจะเป็นอสูรเวทระดับ 5 ที่มีหนังหนา แต่หอก 2 เล่มก็สามารถแทงเข้าไปในร่างมันได้ เลือดสดจำนวนมากไหลออกมาจากบาดแผล
อย่างไรก็ตาม
หอกศิลาเหล่านี้ก็เพียงสามารถแทงทะลุหนังหน้าของมันได้ ไม่ได้ทำอันตรายใดๆกับอวัยวะภายในของมัน
 “กรรรร!” หมูศึกกระหายเลือดเชิดหน้าขึ้นและคำรามอย่างเจ็บปวด
 “ฉึก!” มีดสั้นดำพุ่งลงมาจากเบื้องบนรวดเร็วดังสายฟ้าฟาดปักเข้ากลางเบ้าตาของหมูศึก ลูกตาของมันทะลักออกมา และมีดสั้นยังปักเข้าไปทะลุสมองของมัน ไม่นานร่างใหญ่โตของหมูก็ล้มลงและไม่ไหวติงอีกต่อไป
คาลัน, นีย่าและอลิซพากันหวาดกลัวกันหมด หัวใจของพวกเขาแทบกระดอนออกมาจากตัว
พวกเขามองไปยังนักรบหนุ่มผู้แข็งแกร่งในชุดสีฟ้า ที่กำลังใช้มีดสั้นควักแก่นเวทออกมาจากร่างของหมูศึกอย่างรวดเร็วและกำลังจะจากไป คาลันเป็นผู้เดียวที่รู้สึกตัวและตะโกนขึ้น “สหาย! โปรดรอเดี๋ยว!

1 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น