วันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 3-5 มูลค่า (2)



ตอนที่ 3-5  มูลค่า (2)
เคาท์จูโนยังคงไม่ร่วมประมูล เขาวางแผนที่จะจัดการในวันที่ 30 มิถุนายน ขณะที่เวลาผ่านไป มูลค่าของรูปสลักทั้งสามเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  แต่เนื่องจากมูลค่าผลงานของช่างผู้ชำนาญนั้นอยู่ที่ประมาณหนึ่งพันเหรียญทอง ราคาของพวกมันจึงเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
 
500 เหรียญทอง 510 เหรียญทอง 515 เหรียญทอง
ราคาประมูลเพิ่มขึ้นช้าๆ ในวันที่ 29 มิถุนายน ราคาเพียงเพิ่มเป็น 625 เหรียญทอง
วันที่ 30 มิถุนายน
เช้าวันนี้เคาท์จูโนไม่ปรากฏตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่หาได้ยาก เขารอจนเวลาพลบค่ำ เพราะหอศิลป์พรูกซ์เปิดจนถึงเที่ยงคืน รูปสลักทั้งสามของลินลี่ย์จะถูกปลดออกจากห้องแสดงในเวลาเที่ยงคืน
 “ราคาเมื่อวานนี้คือ 625 เหรียญทอง ข้าจะลงราคาประมูลในตอนท้าย” เคาท์จูโนยิ้มออกมาเมื่อเขาเดินไปที่รูปสลักทั้งสาม
 “900 เหรียญทอง? เจ้างี่เง่าคนไหนเป็นคนตั้งราคานี้กัน?” หลังจากได้เห็นราคาล่าสุด ความโกรธพลุ่งขึ้นมาในใจของเคาท์จูโน
ราคาเมื่อวานนี้แค่ 625 เหรียญทอง แต่ภายในวันเดียว ราคากลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ถึงแม้เคาท์จูโนจะโกรธแต่เขากลับทำอะไรไม่ได้ เขาตัดสินใจรอคอยอย่างอดทน และหลังเวลาผ่านมานานพอสมควร เขาก็มองไปที่นาฬิกาที่อยู่ด้านบน
 “นี่ก็ห้าทุ่มแล้ว อีกชั่วโมงเดียวที่นี่ก็จะปิด” เคาท์จูโนเผยรอยยิ้มออกมา
ในเมืองเฟนไล เคาท์จูโนถูกจัดไว้ในหมู่ชนชั้นสูงระดับกลาง เมื่อเขายังเด็ก เคาท์จูโนนั้นยากจนมาก ภายหลัง เนื่องจากเขาลงทุนอย่างชาญฉลาดด้วยการสะสมงานสลักทำให้เขาเริ่มมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ทรัพย์สินของเขาในตอนนี้มีอยู่หลายแสนเหรียญทอง นับได้ว่าเขาเป็นชนชั้นสูงได้จริงๆ
 “เคาท์จูโน ท่านก็อยู่ที่นี่เหมือนกันหรือ?” บุรุษวัยกลางคนไว้เคราในชุดลายนกนางแอ่นเดินเข้ามาพร้อมยิ้มให้เขา
พอได้เห็นบุคคลผู้นี้ สีหน้าของเคาท์จูโนแปรเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังยิ้มออกมาอย่างใจเย็น “เคาท์เดมม์  นี่ก็ห้าทุ่มแล้ว ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” แต่ภายในใจของเขา เคาท์จูโนรู้สึกได้ว่าเรื่องราวเริ่มแย่ลง
เคาท์จูโนและเคาท์เดมม์ถูกจัดเป็นนักสะสมรูปแกะสลักที่มีชื่อเสียงภายในหมู่ชนชั้นสูงของเมืองเฟนไล
 “ข้าน่ะหรือ? ก็เพราะรูปสลักสามชิ้นนี้แน่นอน” เคาท์เดมม์ลูบเคราของเขาแล้วตอบอย่างสบายใจ “เคาท์จูโนดูนี่สิ พื้นผิวและกลิ่นอายของรูปสลักทั้งสามชิ้นนี้งดงามจับใจมาก  คนที่สามารถสร้างกลิ่นอายที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ได้ต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน”
หัวใจของเคาท์จูโนสั่นสะท้าน
แน่นอน.....
เคาท์เดมม์ผู้นี้ยังคงมองเห็นคุณค่าของรูปสลักทั้งสามนี้  สำหรับเขาที่มาที่นี่ในเวลาห้าทุ่มนั้นหมายความได้ว่าเขาก็มีความคิดเช่นเดียวกันกับเคาท์จูโน
 “คุณผู้หญิง กรุณามาตรงนี้หน่อย” เคาท์เดมม์บอกพนักงานสาวใกล้ๆอย่างสุภาพ เธอเดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมรอยยิ้ม เคาท์เดมม์ชี้ไปที่รูปสลักของลินลี่ย์ทั้งสามชิ้น “ข้ายินดีจ่ายหนึ่งพันเหรียญทองสำหรับรูปสลักแต่ละชิ้น”
พนักงานตอบกลับอย่างสุภาพ “กรุณารอสักครู่ค่ะ”
เธอนำสมุดบันทึกออกมาและเขียนเครื่องหมายบางอย่างก่อนนำไปวางไว้ข้างๆรูปสลัก
 “พันเหรียญทองเชียวหรือ?”  กล้ามเนื้อใบหน้าของเคาท์จูโนกระตุก
เคาท์เดมม์พูดกับเขาพร้อมกับรอยยิ้ม  “เคาท์จูโน  รูปสลักสามชิ้นนี้ยอดเยี่ยมมากจริงๆ จริงสิ แล้วอะไรทำให้ท่านออกมาที่นี่ในยามราตรีแทนที่จะพักผ่อนอยู่บ้าน หรือท่านก็มาเพราะรูปสลักสามชิ้นนี้เช่นกัน?”
เคาท์จูโนบ่นพึมพำเบาๆ
 “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าเคาท์เดมม์จะมาสนใจรูปสลักสามชิ้นนี้ได้ ความจริงแล้ว ข้าก็ไม่ได้ให้ความสนใจรูปสลักนี้เท่าใดนัก ขอให้ข้าได้ดูให้ดีๆก่อน” เคาท์จูโนยิ้มออกมา แล้วเริ่มหันไปสังเกตรูปสลักทั้งสามอย่างตั้งใจ โดยไม่ได้สนใจเคาท์เดมม์อีก
พอได้เห็นภาพตรงหน้า เคาท์เดมม์เยาะเย้ยอยู่ในใจ “ตาแก่เอ๋ย, คิดจริงๆหรือว่าเจ้าจะซ่อนความคิดของเจ้าจากข้าได้?”
ราวกับสายธารหลั่งไหล เพลงยังเล่นต่อไปภายในหอศิลป์พรูกซ์  เคาท์จูโนและเคาท์เดมม์ต่างเดินชมรูปสลักทั้งหลายอย่างสงบ ห้องแสดงยังคงเงียบสงัดเช่นเคย
 “ต๊อง, ต๊อง” นาฬิกาบนผนังบอกเวลา
ตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว
 “คุณผู้หญิง,  เชิญทางนี้หน่อย”  เคาท์จูโนพูดกับพนักงานสตรีผู้กำลังวิ่งมาทันที
 “รูปสลักเหล่านี้  ข้ายินดีซื้อในราคา 1010 เหรียญทอง” เคาท์จูโนลงราคาประมูลในท้ายที่สุด
พนักงานที่เห็นราคาปัจจุบันของรูปสลักก็คือ 1000 เหรียญทอง นางลอบมองเคาท์จูโนจากด้านข้างอย่างช่วยไม่ได้ มันน่าทึ่งที่เคาท์จูโนจะเพิ่มราคาเพียงสิบเหรียญทอง และไม่ใช่แค่ชิ้นเดียว
 “โปรดรอสักครู่นะคะ”  พนักงานหญิงหยิบสมุดบันทึกออกมา
 “เคาท์จูโน ท่านจะเพิ่มราคาเพียงสิบเหรียญทองจริงหรือ งั้นข้าขอเสนอที่ 1100 เหรียญทอง!” เสียงของเคาท์เดมม์ดังขึ้น  เคาท์จูโนขมวดคิ้วและหันกลับไปจ้องเคาท์เดมม์ ผู้สาวเท้าก้าวเข้ามาพร้อมกับบรรยากาศตลกขบขัน ดวงตาของเขาปรากฏแววหยิ่งยโส
ขณะเกิดเหตุผันแปร  เคาท์เดมม์ก็จับตามองเคาท์จูโนอยู่ตลอดเวลา และทันทีที่เคาท์จูโนเสนอราคา เขาก็เข้ามาหา
 “ข้าให้ 1200” เคาท์จูโนพูดเสียงต่ำ ความโกรธของเขานั้นเห็นได้ชัดเจน หลังจากได้เห็นการปะทะกันของชนชั้นสูงสองคน พนักงานสาวก็ปิดสมุดของเธอแล้วถอยไปด้านข้างแล้วมองการต่อสู้นี้อย่างมีความสุข พนักงานของหอศิลป์พรูกซ์นั้นชอบดูเหล่าลูกค้าเริ่มต่อสู้เสนอราคาอยู่แล้ว
เคาท์เดมม์มองไปที่เคาท์จูโนด้วยท่าทาง ‘ตื่นตกใจ’ “เคาท์จูโน แม้แต่รูปสลักในห้องของระดับผู้เชี่ยวชาญยังมีราคาแค่ราวๆหนึ่งพันเหรียญทองเท่านั้น  คนมัธยัสถ์อย่างท่านถึงกับจับจ่ายถึง 1200 ทองเชียวหรือ?”
มัธยัสถ์?
คำว่าตระหนี่ดูจะเหมาะสมกว่า! เคาท์จูโนนั้นลือชื่อในเรื่องความตระหนี่ของเขา
 “เคาท์จูโน แม้ว่าท่านจะเสนอราคามา 1200. ข้าคงจะตระหนี่ไม่ได้แล้ว. 1300 เหรียญทอง!”
สายตาของเคาท์จูโนเต็มไปด้วยความเย็นชา “เหตุผลเดียวที่ข้ายอมเสนอราคารูปสลักทั้งสามสูงขนาดนี้ก็เพราะว่าข้าชอบจริงๆ คุณค่าที่แท้จริงของมันก็แค่หนึ่งพันเหรียญทองโดยประมาณ แต่ข้าขอเสนอ 1500 เหรียญทอง! ถ้าท่านเคาท์เดมม์ จะเสนอราคาที่สูงกว่านี้ท่านก็นำมันไปได้เลย” เคาท์จูโนเสนอราคาออกไปเป็นครั้งสุดท้าย
ความจริงแล้ว เคาท์เดมม์ไม่ได้มีสายตาที่แหลมคมเทียบเท่ากับเคาท์จูโน เขาไม่ได้ค้นพบกลิ่นอายที่แปลกและไม่ธรรมดาของรูปสลักเหล่านี้
ในสายตาของเคาท์เดมม์  รูปสลักเหล่านี้ไม่ได้มีความลึกลับใดๆ ทั้งสามชิ้นเป็นเพียงงานศิลปะชั้นเยี่ยมเพียงเท่านั้น ซึ่งมีมูลค่าประมาณหนึ่งพันเหรียญทอง ถ้าเขาเพิ่มราคามากกว่านี้ ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก
 “ฮ่าฮ่า” เคาท์เดมม์หัวเราะลั่น “ช่างหาได้ยากที่เคาท์จูโนใจกว้างขนาดนี้ในการประมูล ด้วยเกียรติของข้า ข้าไม่มีทางขโมยของรักของผู้อื่นแน่ รูปสลักทั้งสามชิ้นเป็นของท่านแล้ว เคาท์จูโน”
ตอนนี้เองที่พนักงานหญิงก้าวเข้ามาอีกครั้งและเริ่มบันทึกการประมูลลงในสมุดของนาง
 “ท่านเคาท์คะ นี่ก็ถึงเที่ยงคืนแล้ว ห้องแสดงก็กำลังจะปิด เคาท์จูโนคะ พรุ่งนี้เราจะจัดคนส่งรูปสลักไปให้ท่านค่ะ” พนักงานยิ้ม จนถึงตอนนี้ที่เคาท์จูโนยิ้มออกมาได้
เคาท์จูโนชำเลืองไปมองเคาท์เดมม์ด้วยความรู้สึกดูถูก “อ่อนหัดนัก  กี่ปีมาแล้วที่ข้าใช้ไปกับการศึกษาการแกะสลัก? เจ้าไม่มีความเข้าใจเลยซักนิด แล้วยังต้องการประมูลแข่งกับข้างั้นหรือ?”

1 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น