ตอนที่ 462 กำเนิดใหม่ ร่างใหม่
เจี้ยงอิงไม่เคยคิดเลยว่านางจะกอดบุรุษหลับได้ ยิ่งกว่านั้น กลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก
นางจึงไม่รู้สึกอาย
แม้แต่กายและจิตใจของนางก็ผ่อนคลาย
ภายหลังค่ำคืนของการหลับไหล
นางไม่เข้าใจเหตุผลอยู่ดี แต่นางรู้แค่ว่าการกอดเขาและปล่อยให้เขากอดนาง
ทำให้ร่างของนางต้องการพึ่งพาเขา
นางจึงมิอาจทนปล่อยไปได้
นางค่อยๆ รู้สึกสบายกายสบายใจอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งนางไม่เคยรู้สึกมาก่อน
โอว..ใช่, นางรู้สึกมีความสุข!
หัวใจของนางไม่ว้าเหว่อีกต่อไป
เพราะเขาอยู่เคียงข้างนาง
ความรู้สึกพึงพอใจที่นางไม่เคยรู้สึกมาก่อนมีอยู่เต็มหัวใจนาง
“ฮืม....”
เจี้ยงอิงหาวและเตรียมจะหลับต่อ
แต่ทันใดนั้นนางก็ตระหนักว่ามือข้างหนึ่งเล็ดรอดเข้ามาในเสื้อผ้านางและคลึงเคล้าหน้าอกนางโดยไม่สนใจอะไรในโลก มือข้างนี้มีความช่ำชองมาก
และไม่คำนึงถึงปฏิกิริยาของเจี้ยงอิงเลย
ตอนนี้สาวมังกรไร้เขาตระหนักได้ว่า
การหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นแตกต่างจากหลับในอ้อมกอดของพ่อแม่และหรือปู่กับยายของนางตอนที่นางเป็นเด็ก
ตอนแรกนางต้องการจะดึงตัวออกมาไม่ให้เขาจับหน้าอกนาง แต่สัมผัสนี้ให้ความรู้สึกที่แปลกอยู่บ้าง นี่ไม่ใช่สัมผัสที่เลวร้าย แต่เป็นการเชยชมตามธรรมชาติ เมื่อเจี้ยงอิงเหลือบมองขึ้น นางเห็นว่าเย่ว์หยางยังหลับลึกอยู่ นางบ่นพึมพำ “แม้จะหลับสนิท แต่เจ้าผู้นี้ยังเป็นจอมลามกอยู่ดี”
เจี้ยงอิงแทบจะละลายจากสัมผัสนี้ และรีบดึงมือซุกซนออกโดยเร็ว
ถ้าเขาสัมผัสนางมากกว่านี้
นางคงจะยั้งใจไม่ได้อีกต่อไป
ก็มันทนไม่ได้นี่นา....
ลมหายใจนาง ยังคงไม่สม่ำเสมอ
จากนั้นนางตระหนักว่า มืออีกข้างหนึ่งเลื้อยไปที่บั้นท้ายนางและเริ่มสำรวจลงต่ำทุกที
สาวมังกรไร้เขาไม่อาจทนการรุกเร้าอย่างนั้นได้ นางรีบจับมือเขาไว้ตั้งใจจะผลักกลับไปวางข้างตัวเขา
ส่วนอีกใจหนึ่งก็คิดว่า
นางรู้สึกว่าร่างนางไม่ได้รู้สึกอ่อนปวกเปียกอีกต่อไปแล้ว และรู้สึกว่างเปล่าแปลกๆ นางกลับปล่อยมือที่โอบบั้นท้ายนางไว้ตามเดิม นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาเป็นความรู้สึกที่ดีกว่า
สำหรับที่เขาจับอกของนางทั้งที่ยังหลับ
เจี้ยงอิงรู้สึกว่าแม้เย่ว์หยางจะไม่รู้ตัว แต่ก็เป็นสัญชาตญาณทางธรรมชาติของเขา
ใครจะรู้กันว่าเขาทำเรื่องอย่างนี้มามากมายกี่ครั้งแล้ว
กว่าจะพัฒนาการขึ้นเป็นสัญชาตญาณเช่นนั้นได้
เจี้ยงอิงอยากจะกัดหน้าหล่อๆ ที่ยังหลับของเย่ว์หยางนัก
เพื่อระบายความโกรธในใจของนาง
“โล่วฮัวจ๋า! ให้ข้าจับหน่อยนะ”
เย่ว์หยางใช้เวลาเชยชิดกับเจ้าเมืองโล่วฮัวในความฝันของเขา
เขากดตัวสาวมังกรไร้เขาไว้ข้างล่างขณะที่ตัวของเขาพลิกมาอยู่ข้างบน สาวมังกรไร้เขาตกใจ นางรู้สึกมีสิ่งแปลกประหลาดกระทบอยู่ที่ตัวนาง
มันร้อน นางรู้สึกทรมาน
ที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือ แม้บุรุษคนนี้จะตรึงนางไว้ด้านล่าง แต่เขาก็ยังเรียกชื่อสตรีของเขาอยู่นั่นเอง
“เจ้าตัวหนักมากเลยนะ หลบไปข้างๆ หน่อยสิ”
เจี้ยงอิงแทบจะอ่อนปวกเปียกจากการที่เขาใช้แรงกับนาง
และนางทำได้เพียงยันตัวเย่ว์หยางไว้ด้วยเรี่ยวแรงนางทั้งหมด
“ฮืมมม....”
ลมหายใจของเย่ว์หยางกลับมาสงบ
แต่เขาก็ดูเหมือนยังหลับสนิทอยู่
“นอนกับบุรุษผู้นี้ไม่ปลอดภัยเลยแม้แต่น้อย
เหลือทนจริงๆ”
แม้ว่าเจี้ยงอิงจะบ่น
แต่นางก็ไม่ยินดีจะปล่อยเขาไป
นางยื่นมือไปหยิกเขาเบาๆ
แต่เพราะนางกลัวจะปลุกเขาตื่น
นางจึงไม่กล้าใช้แรง หลังจากนั้น
แม้แต่เจี้ยงอิงก็ยังรู้สึกว่านางโอนอ่อนให้อภัยเขามากเกินไป
ลมหายใจนางไม่สม่ำเสมอ
เจี้ยงอิงข่มใจที่เต้นรัว และเลื่อนมือนางลงไปสำรวจ
นางแอบเลื่อนมือล้วงเข้าไปในกางเกงเขา
นางหลับตาด้วยความอายและเริ่มคลำสำรวจด้วยความสงสัย... ตลอดร่างของนางสั่น ต้นขาของนางบีบชิด กล้ามเนื้อน่องของนางกระชับ
เท้าของนางเกร็งจนตะคริวแทบจับ
หลังจากผ่านไปสักครู่นางก็ชักมือกลับ
จากนั้นนางหมุนตัวและซุกตัวอยู่ในผ้าห่มด้วยความรู้สึกอายอย่างหนัก แม้ว่านางจะไม่แน่ใจเต็มร้อย
และไม่เห็นกับตาตัวนางเอง แต่นางก็เรียนรู้ความลับได้มากมาย
ในช่วงเวลานั้น แม้จะไม่มีใครบอกนาง
นางก็เข้าใจอะไรได้หลายอย่างซึ่งนางยังไม่เข้าใจมาก่อน สิ่งที่ป้าของนางบอกนางเมื่อครั้งล่าสุดว่าสิ่งนั้นของบุรุษมีไว้เพื่อให้สตรีได้มีลูก
อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นของเขาอาจจะใหญ่เกินไปจริงๆ มันจะเข้าได้เหรอ? ถ้าพวกเขามีอะไรกันจริงๆ บางทีเขาอาจจะรู้ว่าต้องทำยังไง เจี้ยงอิงจินตนาการเตลิดเปิดเปิง
นางเอามือที่ได้สัมผัสเขามาสัมผัสจมูกนางเพื่อจดจำกลิ่นไว้ มีกลิ่นแปลกๆ ตกค้างอยู่ในมือนาง มันเลือนลางมาก แต่มีลักษณะเฉพาะตัวเหมือนกับว่าให้ความรู้สึกของลูกผู้ชายและเสน่ห์ที่ดึงดูดใจ
นั่นเป็นกลิ่นของสิ่งนั้นของเขาหรือ?
เจี้ยงอิงอายมากและซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม
ในหัวของนางว้าวุ่นไปหมด
ความรู้สึกที่เผาลนนั้น
นางรู้สึกเมื่อสัมผัสเขาและประกายความคิดบางอย่างก็วาบเข้ามาในใจนางครั้งแล้วครั้งเล่า
ขนาดใหญ่ เร่าร้อน เป็นลูกผู้ชาย มีพลังกระตือรือร้น ความรู้สึกแบบนั้นช่างแปลกจริงๆ
พอคิดย้อนกลับไปอีกทียิ่งทำให้นางเขินอาย
การฝึกผสานร่างที่เขาบอก พอถึงขั้นสุดท้าย
เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาต้องทำอย่างว่าหรือเปล่า?
ไม่ดีแน่!
ทันใดนั้นสาวมังกรไร้เขาจำอะไรบางอย่างได้และตลอดทั้งร่างนางสั่นทันที
มีเวลาอยู่เพียงไม่กี่สิบชั่วโมงที่อุทกแม่พระธรณีจะถือกำเนิด
แต่นางกับเย่ว์หยางยังไม่ได้เริ่มฝึกกันเลย ในวันเดียว
พวกเขาใช้เวลาเล่นสนุกมากเกินไป
ขณะที่กลางคืนพวกเขาก็ใช้เวลานอนหลับตลอด
พวกเขาเสียเวลามากเกินไป
ถ้าพวกเขารอจนกระทั่งตื่นขึ้นในตอนเช้าวันใหม่ พวกเขาก็เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง แล้วพวกเขาจะฝึกกันได้อย่างไร?
เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะสามารถเพิ่มระดับพลังได้เร็วพอจะเผชิญหน้ากับจักรพรรดิสมุทร?
พอคิดได้เช่นนี้ เจี้ยงอิงลุกขึ้นนั่งทันที
เย่ว์หยางตื่นจากหลับใหลและถามนาง “มีอะไรเหรอ?”
“ข้าไม่ได้แตะต้องเจ้า, อ๊า ไม่ ไม่... ข้ากำลังจะบอกว่า
เราต้องเริ่มฝึกกันทันที มิฉะนั้นเราจะไม่เหลือเวลาอีก” เจี้ยงอิงฉุดดึงเย่ว์หยางอย่างเร่งด่วน “รีบลุกขึ้นได้แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลานอน”
“เหรอ?” เย่ว์หยางไม่เข้าใจ
พวกเขาเสียเวลาไปถึง 12 ชั่วโมงในวันนี้แล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆ นางถึงคิดจะฝึกกันเล่า?
นางเป็นเหมือนแค่เด็กชั้นประถมที่เอาแต่เล่นตลอดช่วงปิดภาคฤดูร้อน
จนสุดท้ายพอใกล้จะหมดวันหยุดก็ค่อยมาเร่งทำการบ้านในช่วงท้ายไม่กี่วัน
พอเห็นเจี้ยงอิงมีท่าทางเร่งรีบ
เย่ว์หยางอยากหัวเราะ
แน่นอนว่า
เขาค่อนข้างยินดีที่เห็นความเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นในตัวเจี้ยงอิง
สาวมังกรไร้เขา
เนื่องจากนางเป็นฝ่ายขอร้องเอง
ก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เขาคิดหาวิธีกระตุ้นให้นางฝึก ตอนนี้ที่นางได้ปลดปล่อยภาระในใจนาง ย่อมเห็นแววประสบผลสำเร็จ
เย่ว์หยางช้อนตัวเจี้ยงอิงขึ้นมาพร้อมทั้งผ้าห่มและอุ้มนางไป “เราควรจะไปในโลกคัมภีร์ของข้า ถ้าเจ้ายกระดับขึ้น จะมีภาพแปลกประหลาดที่ไม่เหมาะให้คนอื่นได้เห็น” คำพูดของเขาใช้ได้อย่างเหมาะสม
สามารถคลายความทุกข์กังวลในใจนางได้
อยู่ห่างจากสายตาคนอื่นดีกว่าสร้างความตื่นกลัวให้กับพวกคนใช้ แม้ว่าเหล่าคนใช้ได้เห็นนางเติบโตขึ้น
ก็ยังดีกว่าเก็บเรื่องดังกล่าวไว้เป็นความลับและไม่แจ้งให้พวกเขาทราบ
ในโลกคัมภีร์
ไม่มีใครอยู่ เนื่องจากเจ้าเมืองโล่วฮัว,
หญิงงามอู๋เหินและนางเซียนหงส์ฟ้าทุกคนอยู่ในมิติลวงของวังเทียนหลัวกับแม่สี่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไม่มีผู้ใด แต่เหล่าอสูรของเขายังคงอยู่ที่นี่
นางพญากระหายเลือดและโคเงายังคงอยู่ที่นี่
เจี้ยงอิงที่ยังคงมึนงงจากอาการตื่นเต้นไม่ได้ใส่ใจรู้สึกถึงพวกนาง และไม่ได้ตระหนักว่าเหล่าอสูรของเขามีอยู่ ความจริงนางไม่ได้คิดถึงพวกเขาเลย
หัวใจของนางกำลังเต้นรัว
เพราะนางคิดว่าพวกเขาจะต้องถอดเสื้อผ้าเพื่อฝึกผสานร่าง
จากนั้นเย่ว์หยางอธิบายวิธีฝึกให้กับนางและวิธีที่นางจะให้ความร่วมมือ
จากนั้นเจี้ยงอิงจึงรู้ว่าไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้ในตอนแรก เท่านั้นเองอาการเครียดส่วนใหญ่ก็ลดลงทันที นางพยักหน้าให้เขารู้ว่านางเข้าใจ ความจริงวิธีที่นางร่วมมือนั้นง่ายมาก หลักๆ ก็คือเจี้ยงอิงแค่ต้องผ่อนคลายและปล่อยให้เย่ว์หยางคอยนำตลอดกระบวนการฝึกฝน นางไม่อาจกลัวและถอนถอยแต่กลางครันเพื่อหลบเลี่ยงหนีผลกระทบจากกระบวนการฝึกฝนได้
นอกจากนี้ นางต้องใช้พลังงานเพื่อควบคุมประตูพลังวิญญาณของนาง
ซึ่งเป็นเรื่องง่าย
นั่นถือว่าเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากสำหรับสาวมังกรไร้เขาผู้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ด ยิ่งกว่านั้น
คนอื่นยังเป็นคนนำกระบวนการฝึกฝนด้วย
“เข้าใจแล้ว!”
เจี้ยงอิงรู้สึกว่าตนเองเขลาจริงๆ
ถ้านางรู้ว่าทำได้ง่ายอย่างนี้แล้ว นางคงเริ่มฝึกทันทีที่กลับมาแล้ว ความอึดอัดทำให้นางเสียเวลาไปเช่นนั้น
เริ่มต้นด้วยการประกบฝ่ามือและเย่ว์หยางถ่ายพลังเข้าไปในตัวนาง
จากนั้นพลังก็ไหลกลับมาที่เขา
ในการโคจรครั้งนี้
ปราณก่อกำเนิดยังคงช่วยขยายเส้นชีพจรนางได้อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากเส้นชีพจรนางได้เชื่อมไปเรียบร้อยแล้ว
กระบวนการผสานร่างนี้นำไปสู่ผลลับที่น่าประทับใจได้อย่างรวดเร็ว และเข้าสู่การฝึกขั้นที่สองในเวลาไม่นาน ตอนนี้เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น ร่างกายของพวกเขาอยู่ในอ้อมกอดของกัน สำหรับขั้นนี้
เจี้ยงอิงไม่รู้สึกกดดันแต่อย่างใด
เนื่องจากนางนอนหลับในอ้อมกอดของเขามาแล้ว
แม้เมื่อปราณก่อกำเนิดโคจรเข้าไปในร่างของนาง
นางรู้สึกว่าพลังของนางเปลี่ยนไปและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางมีความยินดี
และในที่สุดของการฝึกขั้นที่สอง
นางให้ความร่วมมือตามท่วงท่าพร้อมไปกับเขา
เมื่อเขาจูบนาง
นางไม่ลังเลแม้แต่น้อย
นางกลับเขย่งเท้ารอรับจุมพิตจากเขา... จนกระทั่งเขาประทับจูบที่ริมฝีปากนาง
ทำให้นางตระหนักว่าพวกเขากำลังจูบกัน
และนั้นคือจูบแรกของนาง อย่างไรก็ตาม
ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมและปราณก่อกำเนิดที่ถูกส่งมาจากปากเขาทำให้นางไม่สามารถต่อต้านได้ เจี้ยงอิงกลับกอดเขาและใช้แรงดูดด้วยกำลังนาง
และจูบเขาตามสัญชาตญาณ
นอกจากปราณก่อกำเนิดแล้ว, เพลิงอำมฤตลุกโหมอยู่ในฝ่ามือของเย่ว์หยาง
คอยชำระพลังงานของนางและชำระร่างของนางให้บริสุทธิ์
ความเจ็บปวดมหาศาลทำให้เจี้ยงอิงแทบร้องออกมา
อย่างไรก็ตาม นางรู้ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ให้ร่างนางเกิดใหม่ นางต้องชำระร่างอย่างเข้มข้น ความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฝึก
เสื้อผ้าพวกเขาหายไปแล้ว ร่างทั้งสองนั้นผิวกระทบกับผิว
ร่างของเย่ว์หยางยังคงปรับพลังในร่างของเจี้ยงอิงอย่างต่อเนื่องขณะที่เพลิงอมฤตก็ยังช่วยชำระร่างนาง
เจี้ยงอิงรู้สึกทรมานอย่างหนักเหมือนกับว่าอยู่ในห้วงระหว่างความเป็นกับความตาย ร่างของนางไม่สามารถทนต่อไปได้
และเริ่มกลับคืนสู่ร่างดั้งเดิมของนาง
ขณะที่ร่างท่อนบนยังคงเหมือนเดิม
แต่ร่างตั้งแต่ท้องลงไปเปลี่ยนเป็นร่างมังกรไร้เขา
หลังของนางมีปีกสีทองงอกออกมาคู่หนึ่ง
บั้นท้ายนาง ขาทั้งสองกลายเป็นลีบเล็กลงเปลี่ยนเป็นหางมังกรเงิน มันค่อยๆ ขยายออกจนยาวหลายเมตร ครีบดำอยู่บนหางของนาง
ปีกของนางสีทองและเกล็ดเงินทั้งหมดถูกหลอมด้วยเพลิงอมฤตและเกิดใหม่ทันที
ความเจ็บปวดมากมายมหาศาลทำให้เจี้ยงองขนดหางรวบร่างเย่ว์หยางไว้แน่น
ปีกมังกรของนางยังคงสั่นและไร้พลัง
ถ้าเย่ว์หยางไม่เสริมปราณก่อกำเนิดให้นาง นางอาจตายได้ภายในไม่กี่นาที ภายใต้การกลั่นของเพลิงอมฤต นางอาจลดพลังวิญญาณและผลึกมังกรไว้ในตัวของนาง
อย่างไรก็ตาม ปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางก็เสริมพลังงานให้นางทันที
เพื่อที่ว่าศักยภาพในตัวนางจะได้ถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งที่เจี้ยงอิงมาถึงส่วนที่ลำบากที่สุด เย่ว์หยางจะหยดน้ำค้างศักดิ์สิทธิ์ลงในปากนาง
เพื่อที่ว่านางจะสามารถฟื้นตัวได้ทันที
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าใด
เจี้ยงอิงก็ตระหนักว่าความเจ็บปวดค่อยทุเลาลงเรื่อยๆ ในที่สุด ก็ไม่มีความเจ็บปวดเหลืออยู่เลย นางกลับรู้สึกกระจ่างสดชื่นจากการเกิดใหม่
เมื่อนางลืมตาขึ้น
นางตระหนักได้ว่าผิวของนางขาวขึ้น นุ่มเนียนขึ้นเป็นสิบเท่าเหมือนกับหยก
หางมังกรทั้งหมดของนางเหมือนกับว่าสลักมาจากหยกขาว ดูงดงามมาก
ปีกของนางดูเหมือนกับแก้วผลึก นอกจากเงาสีเทาเป็นลายเส้นกระดูกปีก
ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากเมื่อก่อนสิ้นเชิง
เป็นร่างที่สมบูรณ์เต็มไปด้วยพลังงาน
เจี้ยงอิงตระหนักได้ทันทีว่า นางเกิดใหม่แล้ว
แม้ว่านางจะยังไม่ยกระดับเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปด แต่นางอยู่ในเส้นทางที่ดีที่จะยกระดับได้ ถ้านางฝึกฝน
นางจะมีความก้าวหน้าอย่างมากที่สุดทันที
“นี่คือข้าจริงๆ หรือนี่?
หางใหม่ของข้าสวยงามยิ่งนัก
เหมือนกับหยกเลย”
เจี้ยงอิงไม่อาจข่มความตื่นเต้นไว้ได้และนางจูบเย่ว์หยางซ้ำๆ
ขอบคุณเขาที่ให้ร่างใหม่ที่สมบูรณ์แก่นาง
หางมังกรของนางแกว่งอย่างมีความสุข
เหมือนกับเด็กที่ได้รับของเล่นที่โปรดปราน
“เราจะฝึกกันต่อ เพื่อบรรลุเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปดรวดเดียวเลย” ความจริงเมื่อเจี้ยงอิงตกอยู่ในความเจ็บปวด
เย่ว์หยางสามารถใช้เงาปีศาจของเขาครอบงำร่างของนาง และมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง แต่เมื่อเขาคิดดูแล้ว เขาตระหนักว่าเรื่องแบบนั้นไม่ควรเร่งร้อน ในอนาคตถ้านางไม่ต้องการไปจากข้างกายเขาจริงๆ นางจะเป็นฝ่ายขอเสนอทำสัญญาเอง
ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้เงาปีศาจครอบงำหัวใจนาง
“ตกลง” เจี้ยงอิงพยักหน้าเห็นด้วยทันที จากนั้นนางเข้าใจทันที ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
ก็หมายถึงต้องใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น
บางที, พวกเขาอาจต้องทำอย่างนั้น
แม้ว่านางจะรู้สึกอาย
แต่นางไม่มีความเสียใจแต่อย่างใด
นางแปลงร่างคืนเป็นมนุษย์อย่างกล้าหาญ หางมังกรของนางกลับคืนเป็นขาเรียวงาม
14 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับ
ถึงกับเคลิ้มเลยนะสาวมังกร
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ทำมังกรซะเคลิ้มเลย. 555
ขอบคุณครับ
ว่าที่เมียมังกรสาวและอสูรพิทักษ์จัดไป
โอ้ววว!! *0* แหม่ๆๆ ไม่เบาจริงๆ แฮะเธอคนนี้ >< เรียกได้ว่ามาแรงแซงทางโค้งจริงๆ
ถือได้ว่าเป็นมอนสเตอร์เกิร์ลตนแรกที่ได้ทำกับเย่ว์หยางแบบนี้เลยมั้งนิ
ป.ล. มังกรน้อยสยบมังกรสาว คงอีกไม่ไกลแล้วสินะ ฮิฮิฮิ
อีกตอนได้ไหม.....แม้ว่าทางฝั่งอิ้งยังไม่แปลก็เถอะ
โอ้ววได้เสีย
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
Thx
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น