ตอนที่ 4-19
ความชั่วร้าย
“ช่างเสียของยิ่ง!
นั่นมันเลือดจากมังกรที่อยู่จุดสูงสุดของระดับ 9” ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะบ่นกับตัวเองหลังจากเห็นเลือดมากมายกระจายอยู่บนพื้น
จากตำราเลือดมังกร เลือดจากมังกรระดับเซียนที่ยังมีชีวิตย่อมสามารถปลุกสายเลือดมังกรในร่างของเขาได้อย่างแน่นอน
ในขณะที่เลือดจากมังกรระดับ 9 จะมีโอกาสประสบความสำเร็จต่ำลงมา
มังกรเกราะหนามนี้มีพลังอยู่
ณ จุดสูงสุดของระดับ 9 เพียงก้าวเดียวก็จะบรรลุระดับเซียน
นอกจากนั้นยังเป็นมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสายพันธุ์มังกรด้วยกันอีก
เมื่อเผชิญหน้ากับมังกรระดับเดียวกัน มังกรเกราะหนามจะแข็งแกร่งกว่ามาก
“มังกรนี่อยู่จุดสูงสุดของระดับ 9
ซ้ำเป็นสายพันธุ์ที่ทรงพลังยิ่ง เลือดของมันย่อมเปี่ยมไปด้วยพลังไม่ด้อยไปกว่ามังกรระดับเซียน
ช่างโชคร้ายที่ข้าไม่สามารถครอบครองได้” ลินลี่ย์ไม่กล้าแม้แต่จะย่างกรายออกไปจากอุโมงค์นี้
เพราะไม่เช่นนั้น หากเขาถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของอสูรเวททั้งสอง
แม้เพียงครั้งเดียวร่างกายคงแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีอย่างแน่นอน
“เจ้านาย มังกรเกราะหนามนี่จะตายหรือไม่? ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่คู่มือของเจ้าหมีโง่นั่นเลย”
บีบีสื่อสารกับลินลี่ย์ผ่านทางจิต
ลินลี่ย์ไม่กล้าส่งเสียงใดๆทั้งสิ้น
เขาแนบร่างชิดติดกับผนังถ้ำ และเฝ้ามองการต่อสู้ของอสูรขนาดยักษ์
“ฮ่าฮ่า...”
เซียนหมีลายม่วงหัวเราะอย่างตื่นเต้น ในขณะเดียวกันอุ้งเท้าสีดำของมันก็กำหมัดแน่น
กำปั้นขนาด 1 เมตรนี้สามารถส่งแรงได้ถึง 15,000 กิโลกรัม
ซึ่งจะฝังร่างของมังกรเกราะหนามลึกลงไปในพื้นดิน
และทำให้มันบาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิต!
“ปัง!
กำปั้นยักษ์ฟาดลงกับพื้น
ทำให้ทั้งถ้ำสั่นสะเทือนจนมีบางส่วนถึงกับถล่มลงมา
“หืม?” ประกายในตาของเซียนหมีลายม่วงพลันเปล่งแสงสีแดง
บัดนี้
มังกรเกราะหนามที่เคยถูกเจ้าหมีฟาดลงกับพื้น กลับมุดพื้นดินเหมือนกับหนอน
เผ่นหนีด้วยความเร็วแสง เมื่อมังกรเกราะหนามมุดผ่านไป พื้นหินก็พลันแตกแยกออกจากกัน
เซียนหมีลายม่วงโจมตีพลาด
การโจมตีของมันสัมผัสได้เพียงหางมังกรเท่านั้น ในขณะที่ตัวมังกรได้มุดหนีลงไปในดินเรียบร้อยแล้ว
“ฮ่าฮ่า ซาร์เทียส
เจ้าวางแผนจะหลบอยู่ใต้พื้นดินตลอดไม่กลับขึ้นมาเลยหรือ?” เซียนหมีลายม่วงปรายตามองพื้นแล้วหัวเราะลั่น
หมีลายม่วงรู้ดีว่าในสนามรบใต้พื้นดิน
แม้มันจะบรรลุระดับเซียนแล้วก็ไม่ใช่คู่มือของมังกรเกราะหนาม
ด้วยข้อได้เปรียบทางกายภาพแล้ว ร่างกายที่ปราดเปรียวและกรงเล็บที่แหลมคมทำให้มังกรเกราะหนามชำนาญการต่อสู้ใต้ดินมากกว่าหมีลายม่วง
หากมังกรเกราะหนามวางแผนจะหลบอยู่ใต้ดินแล้ว หมีลายม่วงย่อมไม่อาจทำสิ่งใดได้
อย่างไรก็ตาม
เซียนหมีลายม่วงไม่เชื่อว่าซาร์เทียสจะกลัวจนหดหัวอยู่ใต้ดินและไม่กล้ากลับขึ้นมาต่อสู้กับมัน
“ใครๆก็กล่าวว่ามังกรเกราะหนามเช่นเจ้าช่างหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีนัก
ไม่ยอมให้ผู้ใดมาดูถูกเหยียดหยาม ต่อให้เผชิญหน้ากับความตาย เจ้าก็ไม่ลังเลที่จะทุ่มเทชีวิตฟาดฟันศัตรู
แต่ได้มาเห็นกับตาเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น ซาร์เทียส เจ้ามันขี้ขลาด!”
เสียงของเซียนหมีลายม่วงดังก้อง บัดนี้ มันใช้ถ้อยคำของมันยั่วยุศัตรู
ภายในอุโมงค์ ลินลี่ย์จับตามองผลของอุบายมันอยู่เงียบๆ
“มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทะนงในศักดิ์ศรีมาก
และมังกรเกราะหนามก็นับเป็นสายพันธุ์ที่ทะนงตนที่สุด” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังขึ้นในหัวของลินลี่ย์
“ปู่เดลิน เหตุใดท่านจึงไม่ปรากฏกายออกมาเล่า?” ระหว่างถามคำถาม
ลินลี่ย์ก็ลอบหัวเราะตนเอง
เขาพลันนึกออกว่า กลิ่นอายของเดลิน
โคเวิร์ทนั้นง่ายที่จะถูกนักสู้ระดับเซียนสัมผัสได้
และเซียนหมีลายม่วงเป็นหนึ่งในจำพวกนั้น
“ข้าไม่ออกไปจะประเสริฐกว่า
ตอนนี้ในสายตาของพวกมันเจ้าก็ไม่ต่างอันใดกับมดปลวก
แม้ว่าพวกมันทั้งสองจะรู้สึกถึงเจ้าแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจนัก
แต่เมื่อข้าปรากฏตัวออกไป แล้วพวกมันสัมผัสถึงข้าได้เมื่อไหร่เจ้าจะเดือดร้อนเป็นแน่”
เดลิน โคเวิร์ทเตือนออกมาจากแหวนมังกรขนด
ลินลี่ย์พยักหน้าเบาๆ
ในขณะที่สายตายังจับจ้องไปยังการต่อสู้
เซียนหมีลายม่วงยังคงพูดจายั่วยุต่อไป
แต่มังกรเกราะหนามดูเหมือนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีท่าทีจะปรากฏตัวออกมาสักนิด
“เหมือนมันกำลังหัวเราะ?” จากการเฝ้ามอง
ลินลี่ย์สังเกตเห็นรอยยิ้มยินดีบนใบหน้าของเซียนหมีลายม่วง
แต่เขาไม่อาจรู้ถึงสาเหตุ
ทันใดนั้น
หางมังกรที่ควงบิดไม่ต่างอะไรกับสว่านก็แทงทะลุออกจากพื้นด้วยความเร็วสูง
เสียงแหวกอากาศดังขึ้นอย่างน่ากลัวเมื่อมันพุ่งตรงไปที่บริเวณอกของเซียนหมีลายม่วง
ความเร็วที่เหลือเชื่อทำให้ไม่มีเวลาแม้แต่จะตั้งตัว
“ตูม”
เซียนหมีลายม่วงคาดการณ์การโจมตีนี้ล่วงหน้า
เพียงแค่หางมังกรทะลุออกมาจากพื้น หมียักษ์ก็เบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกันก็ใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่ของมันคว้าหางนั่นไว้
“ฮ่าฮ่า...”
เซียนหมีลายม่วงเริ่มหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง มือของมันรวบหางไว้อย่างรวดเร็วแล้วลากมังกรเกราะหนามออกมาจากใต้ดิน
หลังจากเหวี่ยงอยู่ในอากาศก็เริ่มฟาดมังกรกับพื้นหินอย่างโหดร้าย
“บึ้ม”
เหมือนนักเต้นที่แสดงพร้อมกับแส้หรือริบบิ้น
เซียนหมีลายม่วงเหวี่ยงมังกรขึ้นในอากาศแล้วฟาดลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง
“ตูม!” “ตูม!” “ตูม!” “ตูม!” “ตูม!”
เซียนหมีลายม่วงเหวี่ยงมังกรเกราะหนามฟาดกับพื้นอย่างรุนแรงไม่หยุด
จนร่างของมังกรเกราะหนามเห็นเพียงเงาเลือนราง แค่เพียงอึดใจ
เซียนหมีลายม่วงก็ฟาดมันกับพื้นนับร้อยครั้งแล้ว
ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำเอาหัวใจของลินลี่ย์สั่นไหว
“มันยังไม่ตายใช่หรือไม่?” ลินลี่ย์อดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้
“ฮ่าฮ่า ซาร์เทียส นี่สำหรับความโอหังของเจ้า
นี่สำหรับที่เจ้ากล้าปรากฏตัวต่อหน้าข้า ฮ่าฮ่า...”
เซียนหมีลายม่วงหัวเราะร่วนในขณะที่ใช้ฝ่ามือขนาดยักษ์เหวี่ยงมังกรเกราะหนามฟาดกับพื้นรอบๆ
รอยแตกนับไม่ถ้วนเพิ่มขึ้นบนพื้น
แต่ละรอยมีความลึกไม่ต่ำกว่า 3 เมตร
เพดานถ้ำเริ่มสั่นและทลายลงมา
แต่หินเหล่านั้นไม่สามารถทำอันตรายใดๆต่อร่างกายของเซียนหมีลายม่วงได้เลย
“ข้าหวังว่าอุโมงค์นี้จะไม่ถล่มลงมาหรอกนะ”
ก้อนกรวดจำนวนมากหล่นลงบนศีรษะของลินลี่ย์
ทำให้เขาต้องลอบสาปแช่งเซียนหมีลายม่วงในใจ
ทางเลือกเดียวของเขาคือร่ายเวทธาตุดินสร้างเกราะหยกขึ้นมาปกป้องร่างกาย
“กรรร...” “กรร...”
เสียงคำรามอย่างเจ็บปวดหลุดออกมาจากปากของมังกรเกราะหนามในที่สุด
หากพิจารณาจากพลังป้องกันอันสูงลิบของมันแล้ว
พื้นหินไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้เลย
แต่ถูกฟาดกับพื้นด้วยความเร็วสูงเช่นนี้นับเป็นอีกเรื่อง!
ลำพังก้อนหินเองไม่ได้มีพลังโจมตีมากเท่าไร
แต่ก้อนหินที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงนั้นสามารถทำลายแผ่นโลหะได้
ความเร็วก่อให้เกิดพลังโจมตีอันร้ายกาจ!
อสูรเวทจำพวกหมีกำเนิดมาพร้อมกับพละกำลังมหาศาล
เป็นธรรมดาที่เซียนหมีลายม่วงนี้จะมีพละกำลังอันน่าตื่นตระหนก เพียงแค่กำลังของมันเพียงอย่างเดียวก็ฟาดมังกรเกราะหนามลงกับพื้นมาแล้ว
ประกอบกับความเร็วสูงที่ใช้เหวี่ยงร่างของมังกรเกราะหนามฟาดกับพื้น
พลังโจมตีนั้นย่อมมหาศาล
มังกรเกราะหนามขดร่างของมันเหมือนงู
เพื่อเพิ่มพลังป้องกันให้แก่ร่างกายของมัน
“เลือดมังกร มีเลือดมังกรอยู่เต็มไปหมด” ลินลี่ย์เห็นเลือดมังกรอยู่ทั่วบริเวณบนพื้นนั่น
สำหรับมังกรเกราะหนามแล้ว
อาการบาดเจ็บทางกายภาพนับเป็นเรื่องเล็ก
ปัญหาสำคัญคือตอนนี้มันเริ่มจะมึนหัวเสียแล้ว!
ถูกเหวี่ยงไปรอบๆด้วยความเร็วสูงทำให้สติของมังกรเกราะหนามเริ่มมืดดับ
หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้ร่างกายจะทนไหว แต่คงมิอาจคงสติไว้ได้แน่
“ซาร์เทียส เจ้าโง่!
เจ้าคิดว่าหากลอบโจมตีข้าจากใต้ดินจะทำให้ข้าไม่สามารถรับมือได้หรืออย่างไร? ฮ่าฮ่า
เจ้าลืมไปแล้วหรือ? นักสู้ระดับเซียนมีความสามารถที่ใช้พลังวิญญาณสัมผัสภายนอกร่างกายได้
ข้าเห็นทุกการเคลื่อนไหวของเจ้าเบื้องล่างนั่น และเจ้ายังจะวางแผนลอบกัดข้า?
ฮ่าฮ่า...”
เซียนหมีลายม่วงไม่รู้จะหาถ้อยคำใดมาบรรยายความรู้สึกยินดีของมัน
ตลอด 300 ปีที่ผ่านมา
มันต้องกล้ำกลืนความเกลียดชัง ทุกครั้งที่มันจ้องมองยังผืนน้ำและเห็นภาพดวงตาที่มืดบอดสะท้อนกลับมา
ความเกลียดชังก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น มันได้แต่เก็บความเกลียดชังนี้ไว้กว่า 300 ปี
จนกระทั่งบรรลุกระดับเซียน
“แครก!”
เสียงประหลาดดังขึ้น
และทันใดนั้น ร่างของมังกรเกราะหนามก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ปะทะกับผนังงที่ห่างออกไปหลายเมตร
ก่อให้เกิดร่องขนาดใหญ่ก่อนจะร่วงลงมาบนพื้น
เซียนหมีลายม่วงได้แต่จ้องมองหางมังกรในมือของมันอย่างประหลาดใจ
“เจ้า...เจ้าตัดหางของตัวเอง?” เซียนหมีลายม่วงรู้สึกประหลาดใจยิ่ง
แต่หลังจากระลึกได้ก็หัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า ซาร์เทียส
เจ้ารู้สึกจนมุมถึงขั้นยอมเสียงหางของตนเอง ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!”
เซียนหมีลายม่วงรู้สึกพอใจที่สามารถต้อนมังกรเกราะหนามมาถึงขั้นนี้ได้
ลินลี่ย์เองก็จ้องมองมังกรเกราะหนามอย่างประหลาดใจเช่นกัน
ที่มันใจแข็งและเยือกเย็นพอจะตัดหางของตนเอง ความสำคัญของหางมังกรนั้นมากมายมหาศาลอย่างเปรียบไม่ได้
การตัดหางตนเองนั้นต้องอาศัยความกล้าและเยือกเย็นดังเช่นมนุษย์ตัดมือของตนเอง
แผ่นหลังของมังกรเกราะหนามไม่มีสิ่งใดนอกจากรอยแผลวงกลมที่กว้างราว
1 เมตร เป็นจุดที่เคยมีหางยาวเชื่อมต่ออยู่
แผลฉกรรจ์นี้มีเลือดไหลออกมาในปริมาณมาก
แต่ดวงตาสีทองของมังกรเกราะหนามยังคงเยือกเย็นดุจดังเดิม
จ้องมองไปที่เซียนหมีลายม่วงอย่างอาฆาต
“ช่างเยือกเย็นนัก
แต่อย่างไรเจ้าก็ต้องตายอยู่ดี” เซียนหมีลายม่วงขว้างหางนั้นออกไปโดยการสะบัดมือใหญ่นั่นครั้งหนึ่ง
ใบหน้าของมันเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
เมื่อไม่มีหาง
และทรมานจากการเสียเลือด
มังกรเกราะหนามย่อมสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างมาก
ในสถานการณ์เช่นนี้
หากเซียนหมีลายม่วงยังไม่สามารถสังหารมังกรเกราะหนามได้ก็นับว่าเป็นเรื่องตลกแล้ว
“กรรร!” คำรามต่ำครั้งหนึ่ง
ก่อนร่างของมังกรเกราะหนามจะกลายเป็นเงาลางเลือน พุ่งเข้าใส่เซียนหมีลายม่วง
อุ้งมือขนาดใหญ่ทั้ง 2 ข้างของเซียนหมีลายม่วงก็พลันปรากฏไอสีดำและโจมตีใส่มังกรเกราะหนามพร้อมกัน
ด้วยพละกำลังหมัดของเซียนหมีลายม่วงย่อมสามารถส่งร่างของมังกรเกราะหนามลอยออกไปได้อย่างง่ายดาย
แต่อย่างไรก็ตาม...
เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดของเซียนหมีลายม่วง
มังกรเกราะหนามกลับเปิดปากกว้างและฝังเขี้ยวลงบนแขนข้างหนึ่งของหมีลายม่วง แต่แขนของเซียนหมีลายม่วงนี้แข็งแกร่งนัก
แม้ว่ามังกรเกราะหนามจะกัดเข้าเต็มปาก แต่ก็ไม่อาจกัดทะลุเข้าไปได้
“อ๊ากกกก!” เซียนหมีลายม่วงคำรามอย่างเจ็บปวด
เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ว่ามังกรเกราะหนามจะทำเช่นนี้
เพราะไม่ต่างอันใดกับการมอบศีรษะตนเองให้เซียนหมีลายม่วงสักนิด
“เจ้าอยากตายมากสินะ!”
เซียนหมีลายม่วงคำรามลั่นและทุบกำปั้นใส่บริเวณดวงตาของมังกรเกราะหนาม
เมื่อนิ้วยาวเกือบ 1
เมตรของมันทะลุเบ้าตาของมังกรเกราะหนาม และทำลายสมองจะส่งผลให้มังกรเกราะหนามเสียชีวิตในทันที
แต่ในเวลาเดียวกัน...
“แควก!” “แควก!” “แควก!”
ร่างของมังกรเกราะหนามพลันขาดออกจากกัน
จากนั้น ดั่งของเหลวไหลออกมาจากตะแกรง หนามทุกเล่มบนแผ่นหลังก็พุ่งออกมา
ปักเข้าที่ร่างของเซียนหมีลายม่วงด้วยความเร็วสูงดังสายฟ้าแลบ
บัดนี้ทั่วร่างของเซียนหมีลายม่วงปกคลุมไปด้วยหนามแหลมคล้ายกับเกราะของมังกรเกราะหนาม
การสะท้อนของพลังป้องกันอันมหาศาลมาอยู่ในรูปของการโจมตี
ทำให้ยากจะคาดเดาถึงผลของมัน
“อ๊า! ซาเทียส, เจ้า...”
นัยน์ตาของเซียนหมีลายม่วงเต็มไปด้วยแววเหลือเชื่อ
อาวุธที่น่ากลัวที่สุดของมังกรเกราะหนามมีสองอย่างคือ
เกราะ และ มีดที่หลังของมัน คำว่าเกราะแสดงให้เห็นถึงพลังป้องกันที่น่าอัศจรรย์ ขณะที่หนามมีดที่หลัง
คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ายังใช้งานได้
หากใช้มันในการป้องกันก็นับว่าทรงอำนาจยิ่ง
มันหนามากใช้ป้องกันได้เหลือเฟือ
แต่หากใช้เพื่อการโจมตีเล่า?
หนามแหลมบนแผ่นหลังจะใช้ในการโจมตีได้อย่างไร? หากต้องการเช่นนั้นมีแต่ต้องใช้มันในทางตรงกันข้ามกับการป้องกัน
มีอสูรเวทน้อยนักที่จะรับรู้ถึงไม้ตายยิงหนามแหลมออกจากแผ่นหลังของมังกรเกราะหนาม
โดยไม้ตายนี้มังกรเกราะหนามจะใช้ในการโจมตีคู่ต่อสู้ในระยะไกลเท่านั้น
ซึ่งหนามเหล่านี้จะยิงออกไปด้วยความเร็วสูง ผลของมันร้ายแรงยิ่งกว่าการโจมตีจากกรงเล็บอันแหลมคมเสียอีก
เซียนหมีลายม่วงไม่เคยทราบถึงการโจมตีนี้ของมังกรเกราะหนาม
และไม่เคยคาดคิดว่าการที่มันเข้าใกล้ศัตรูจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
หนามแหลมที่ยิงออกมาด้วยความเร็วสูงทำให้มันไม่มีโอกาสให้หลบเลยแม้แต่น้อย
“ซวบ....”
เมื่อทั่วทั้งร่างถูกแทงทะลุ
เซียนหมีลายม่วงสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่เริ่มไหลออกจากร่าง
ด้วยความรู้สึกไม่อยากตายเช่นนี้ มันเงยหน้าขึ้นแล้วร้องโหยหวน
1 ความคิดเห็น:
ได้เวลา อัพเลเวลแล้ว ดื่มๆ หญ้ามีพร้อใ
แสดงความคิดเห็น