วันพุธที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 4-19 ความชั่วร้าย



ตอนที่  4-19  ความชั่วร้าย
“ช่างเสียของยิ่ง! นั่นมันเลือดจากมังกรที่อยู่จุดสูงสุดของระดับ 9” ลินลี่ย์อดไม่ได้ที่จะบ่นกับตัวเองหลังจากเห็นเลือดมากมายกระจายอยู่บนพื้น จากตำราเลือดมังกร เลือดจากมังกรระดับเซียนที่ยังมีชีวิตย่อมสามารถปลุกสายเลือดมังกรในร่างของเขาได้อย่างแน่นอน ในขณะที่เลือดจากมังกรระดับ 9 จะมีโอกาสประสบความสำเร็จต่ำลงมา

มังกรเกราะหนามนี้มีพลังอยู่ ณ จุดสูงสุดของระดับ 9 เพียงก้าวเดียวก็จะบรรลุระดับเซียน นอกจากนั้นยังเป็นมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสายพันธุ์มังกรด้วยกันอีก เมื่อเผชิญหน้ากับมังกรระดับเดียวกัน มังกรเกราะหนามจะแข็งแกร่งกว่ามาก
 มังกรนี่อยู่จุดสูงสุดของระดับ 9 ซ้ำเป็นสายพันธุ์ที่ทรงพลังยิ่ง เลือดของมันย่อมเปี่ยมไปด้วยพลังไม่ด้อยไปกว่ามังกรระดับเซียน ช่างโชคร้ายที่ข้าไม่สามารถครอบครองได้” ลินลี่ย์ไม่กล้าแม้แต่จะย่างกรายออกไปจากอุโมงค์นี้ เพราะไม่เช่นนั้น หากเขาถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของอสูรเวททั้งสอง แม้เพียงครั้งเดียวร่างกายคงแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีอย่างแน่นอน
 “เจ้านาย มังกรเกราะหนามนี่จะตายหรือไม่? ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่คู่มือของเจ้าหมีโง่นั่นเลย” บีบีสื่อสารกับลินลี่ย์ผ่านทางจิต
ลินลี่ย์ไม่กล้าส่งเสียงใดๆทั้งสิ้น เขาแนบร่างชิดติดกับผนังถ้ำ และเฝ้ามองการต่อสู้ของอสูรขนาดยักษ์
 “ฮ่าฮ่า...” เซียนหมีลายม่วงหัวเราะอย่างตื่นเต้น ในขณะเดียวกันอุ้งเท้าสีดำของมันก็กำหมัดแน่น กำปั้นขนาด 1 เมตรนี้สามารถส่งแรงได้ถึง 15,000 กิโลกรัม ซึ่งจะฝังร่างของมังกรเกราะหนามลึกลงไปในพื้นดิน
และทำให้มันบาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิต!
 “ปัง!
กำปั้นยักษ์ฟาดลงกับพื้น ทำให้ทั้งถ้ำสั่นสะเทือนจนมีบางส่วนถึงกับถล่มลงมา
 “หืม?” ประกายในตาของเซียนหมีลายม่วงพลันเปล่งแสงสีแดง
บัดนี้ มังกรเกราะหนามที่เคยถูกเจ้าหมีฟาดลงกับพื้น กลับมุดพื้นดินเหมือนกับหนอน เผ่นหนีด้วยความเร็วแสง เมื่อมังกรเกราะหนามมุดผ่านไป พื้นหินก็พลันแตกแยกออกจากกัน
เซียนหมีลายม่วงโจมตีพลาด การโจมตีของมันสัมผัสได้เพียงหางมังกรเท่านั้น ในขณะที่ตัวมังกรได้มุดหนีลงไปในดินเรียบร้อยแล้ว
 “ฮ่าฮ่า ซาร์เทียส เจ้าวางแผนจะหลบอยู่ใต้พื้นดินตลอดไม่กลับขึ้นมาเลยหรือ?” เซียนหมีลายม่วงปรายตามองพื้นแล้วหัวเราะลั่น
หมีลายม่วงรู้ดีว่าในสนามรบใต้พื้นดิน แม้มันจะบรรลุระดับเซียนแล้วก็ไม่ใช่คู่มือของมังกรเกราะหนาม ด้วยข้อได้เปรียบทางกายภาพแล้ว ร่างกายที่ปราดเปรียวและกรงเล็บที่แหลมคมทำให้มังกรเกราะหนามชำนาญการต่อสู้ใต้ดินมากกว่าหมีลายม่วง หากมังกรเกราะหนามวางแผนจะหลบอยู่ใต้ดินแล้ว หมีลายม่วงย่อมไม่อาจทำสิ่งใดได้
อย่างไรก็ตาม เซียนหมีลายม่วงไม่เชื่อว่าซาร์เทียสจะกลัวจนหดหัวอยู่ใต้ดินและไม่กล้ากลับขึ้นมาต่อสู้กับมัน
 “ใครๆก็กล่าวว่ามังกรเกราะหนามเช่นเจ้าช่างหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีนัก ไม่ยอมให้ผู้ใดมาดูถูกเหยียดหยาม ต่อให้เผชิญหน้ากับความตาย เจ้าก็ไม่ลังเลที่จะทุ่มเทชีวิตฟาดฟันศัตรู แต่ได้มาเห็นกับตาเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น ซาร์เทียส เจ้ามันขี้ขลาด!” เสียงของเซียนหมีลายม่วงดังก้อง บัดนี้ มันใช้ถ้อยคำของมันยั่วยุศัตรู
ภายในอุโมงค์ ลินลี่ย์จับตามองผลของอุบายมันอยู่เงียบๆ
 “มังกรเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทะนงในศักดิ์ศรีมาก และมังกรเกราะหนามก็นับเป็นสายพันธุ์ที่ทะนงตนที่สุด” เสียงของเดลิน โคเวิร์ทดังขึ้นในหัวของลินลี่ย์
 “ปู่เดลิน เหตุใดท่านจึงไม่ปรากฏกายออกมาเล่า?” ระหว่างถามคำถาม ลินลี่ย์ก็ลอบหัวเราะตนเอง
เขาพลันนึกออกว่า กลิ่นอายของเดลิน โคเวิร์ทนั้นง่ายที่จะถูกนักสู้ระดับเซียนสัมผัสได้ และเซียนหมีลายม่วงเป็นหนึ่งในจำพวกนั้น
 “ข้าไม่ออกไปจะประเสริฐกว่า ตอนนี้ในสายตาของพวกมันเจ้าก็ไม่ต่างอันใดกับมดปลวก แม้ว่าพวกมันทั้งสองจะรู้สึกถึงเจ้าแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจนัก แต่เมื่อข้าปรากฏตัวออกไป แล้วพวกมันสัมผัสถึงข้าได้เมื่อไหร่เจ้าจะเดือดร้อนเป็นแน่” เดลิน โคเวิร์ทเตือนออกมาจากแหวนมังกรขนด
ลินลี่ย์พยักหน้าเบาๆ ในขณะที่สายตายังจับจ้องไปยังการต่อสู้
เซียนหมีลายม่วงยังคงพูดจายั่วยุต่อไป แต่มังกรเกราะหนามดูเหมือนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีท่าทีจะปรากฏตัวออกมาสักนิด
 “เหมือนมันกำลังหัวเราะ?” จากการเฝ้ามอง ลินลี่ย์สังเกตเห็นรอยยิ้มยินดีบนใบหน้าของเซียนหมีลายม่วง แต่เขาไม่อาจรู้ถึงสาเหตุ
ทันใดนั้น หางมังกรที่ควงบิดไม่ต่างอะไรกับสว่านก็แทงทะลุออกจากพื้นด้วยความเร็วสูง เสียงแหวกอากาศดังขึ้นอย่างน่ากลัวเมื่อมันพุ่งตรงไปที่บริเวณอกของเซียนหมีลายม่วง
ความเร็วที่เหลือเชื่อทำให้ไม่มีเวลาแม้แต่จะตั้งตัว
 “ตูม”
เซียนหมีลายม่วงคาดการณ์การโจมตีนี้ล่วงหน้า เพียงแค่หางมังกรทะลุออกมาจากพื้น หมียักษ์ก็เบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่ของมันคว้าหางนั่นไว้
 “ฮ่าฮ่า...”
เซียนหมีลายม่วงเริ่มหัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง  มือของมันรวบหางไว้อย่างรวดเร็วแล้วลากมังกรเกราะหนามออกมาจากใต้ดิน หลังจากเหวี่ยงอยู่ในอากาศก็เริ่มฟาดมังกรกับพื้นหินอย่างโหดร้าย
 “บึ้ม”
เหมือนนักเต้นที่แสดงพร้อมกับแส้หรือริบบิ้น เซียนหมีลายม่วงเหวี่ยงมังกรขึ้นในอากาศแล้วฟาดลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง
 “ตูม!” “ตูม!” “ตูม!” “ตูม!” “ตูม!”
เซียนหมีลายม่วงเหวี่ยงมังกรเกราะหนามฟาดกับพื้นอย่างรุนแรงไม่หยุด จนร่างของมังกรเกราะหนามเห็นเพียงเงาเลือนราง แค่เพียงอึดใจ เซียนหมีลายม่วงก็ฟาดมันกับพื้นนับร้อยครั้งแล้ว
ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำเอาหัวใจของลินลี่ย์สั่นไหว
 “มันยังไม่ตายใช่หรือไม่?” ลินลี่ย์อดรู้สึกหวั่นใจไม่ได้
 “ฮ่าฮ่า ซาร์เทียส นี่สำหรับความโอหังของเจ้า นี่สำหรับที่เจ้ากล้าปรากฏตัวต่อหน้าข้า ฮ่าฮ่า...” เซียนหมีลายม่วงหัวเราะร่วนในขณะที่ใช้ฝ่ามือขนาดยักษ์เหวี่ยงมังกรเกราะหนามฟาดกับพื้นรอบๆ
รอยแตกนับไม่ถ้วนเพิ่มขึ้นบนพื้น แต่ละรอยมีความลึกไม่ต่ำกว่า 3 เมตร
เพดานถ้ำเริ่มสั่นและทลายลงมา แต่หินเหล่านั้นไม่สามารถทำอันตรายใดๆต่อร่างกายของเซียนหมีลายม่วงได้เลย
 “ข้าหวังว่าอุโมงค์นี้จะไม่ถล่มลงมาหรอกนะ” ก้อนกรวดจำนวนมากหล่นลงบนศีรษะของลินลี่ย์ ทำให้เขาต้องลอบสาปแช่งเซียนหมีลายม่วงในใจ ทางเลือกเดียวของเขาคือร่ายเวทธาตุดินสร้างเกราะหยกขึ้นมาปกป้องร่างกาย
 “กรรร...” “กรร...”
เสียงคำรามอย่างเจ็บปวดหลุดออกมาจากปากของมังกรเกราะหนามในที่สุด หากพิจารณาจากพลังป้องกันอันสูงลิบของมันแล้ว พื้นหินไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บได้เลย แต่ถูกฟาดกับพื้นด้วยความเร็วสูงเช่นนี้นับเป็นอีกเรื่อง!
ลำพังก้อนหินเองไม่ได้มีพลังโจมตีมากเท่าไร แต่ก้อนหินที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงนั้นสามารถทำลายแผ่นโลหะได้
ความเร็วก่อให้เกิดพลังโจมตีอันร้ายกาจ!
อสูรเวทจำพวกหมีกำเนิดมาพร้อมกับพละกำลังมหาศาล เป็นธรรมดาที่เซียนหมีลายม่วงนี้จะมีพละกำลังอันน่าตื่นตระหนก เพียงแค่กำลังของมันเพียงอย่างเดียวก็ฟาดมังกรเกราะหนามลงกับพื้นมาแล้ว ประกอบกับความเร็วสูงที่ใช้เหวี่ยงร่างของมังกรเกราะหนามฟาดกับพื้น
พลังโจมตีนั้นย่อมมหาศาล
มังกรเกราะหนามขดร่างของมันเหมือนงู เพื่อเพิ่มพลังป้องกันให้แก่ร่างกายของมัน
 “เลือดมังกร มีเลือดมังกรอยู่เต็มไปหมด” ลินลี่ย์เห็นเลือดมังกรอยู่ทั่วบริเวณบนพื้นนั่น
สำหรับมังกรเกราะหนามแล้ว อาการบาดเจ็บทางกายภาพนับเป็นเรื่องเล็ก ปัญหาสำคัญคือตอนนี้มันเริ่มจะมึนหัวเสียแล้ว!
ถูกเหวี่ยงไปรอบๆด้วยความเร็วสูงทำให้สติของมังกรเกราะหนามเริ่มมืดดับ หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้ร่างกายจะทนไหว แต่คงมิอาจคงสติไว้ได้แน่
 “ซาร์เทียส เจ้าโง่! เจ้าคิดว่าหากลอบโจมตีข้าจากใต้ดินจะทำให้ข้าไม่สามารถรับมือได้หรืออย่างไร? ฮ่าฮ่า เจ้าลืมไปแล้วหรือ? นักสู้ระดับเซียนมีความสามารถที่ใช้พลังวิญญาณสัมผัสภายนอกร่างกายได้ ข้าเห็นทุกการเคลื่อนไหวของเจ้าเบื้องล่างนั่น และเจ้ายังจะวางแผนลอบกัดข้า? ฮ่าฮ่า...”
เซียนหมีลายม่วงไม่รู้จะหาถ้อยคำใดมาบรรยายความรู้สึกยินดีของมัน
ตลอด 300 ปีที่ผ่านมา มันต้องกล้ำกลืนความเกลียดชัง ทุกครั้งที่มันจ้องมองยังผืนน้ำและเห็นภาพดวงตาที่มืดบอดสะท้อนกลับมา ความเกลียดชังก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น มันได้แต่เก็บความเกลียดชังนี้ไว้กว่า 300 ปี จนกระทั่งบรรลุกระดับเซียน
 “แครก!”
เสียงประหลาดดังขึ้น และทันใดนั้น ร่างของมังกรเกราะหนามก็ลอยขึ้นไปในอากาศ ปะทะกับผนังงที่ห่างออกไปหลายเมตร ก่อให้เกิดร่องขนาดใหญ่ก่อนจะร่วงลงมาบนพื้น
เซียนหมีลายม่วงได้แต่จ้องมองหางมังกรในมือของมันอย่างประหลาดใจ
 “เจ้า...เจ้าตัดหางของตัวเอง?” เซียนหมีลายม่วงรู้สึกประหลาดใจยิ่ง แต่หลังจากระลึกได้ก็หัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่า ซาร์เทียส เจ้ารู้สึกจนมุมถึงขั้นยอมเสียงหางของตนเอง ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!” เซียนหมีลายม่วงรู้สึกพอใจที่สามารถต้อนมังกรเกราะหนามมาถึงขั้นนี้ได้
ลินลี่ย์เองก็จ้องมองมังกรเกราะหนามอย่างประหลาดใจเช่นกัน ที่มันใจแข็งและเยือกเย็นพอจะตัดหางของตนเอง ความสำคัญของหางมังกรนั้นมากมายมหาศาลอย่างเปรียบไม่ได้ การตัดหางตนเองนั้นต้องอาศัยความกล้าและเยือกเย็นดังเช่นมนุษย์ตัดมือของตนเอง
แผ่นหลังของมังกรเกราะหนามไม่มีสิ่งใดนอกจากรอยแผลวงกลมที่กว้างราว 1 เมตร  เป็นจุดที่เคยมีหางยาวเชื่อมต่ออยู่ แผลฉกรรจ์นี้มีเลือดไหลออกมาในปริมาณมาก แต่ดวงตาสีทองของมังกรเกราะหนามยังคงเยือกเย็นดุจดังเดิม จ้องมองไปที่เซียนหมีลายม่วงอย่างอาฆาต
 “ช่างเยือกเย็นนัก แต่อย่างไรเจ้าก็ต้องตายอยู่ดี” เซียนหมีลายม่วงขว้างหางนั้นออกไปโดยการสะบัดมือใหญ่นั่นครั้งหนึ่ง ใบหน้าของมันเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
เมื่อไม่มีหาง และทรมานจากการเสียเลือด
มังกรเกราะหนามย่อมสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างมาก ในสถานการณ์เช่นนี้ หากเซียนหมีลายม่วงยังไม่สามารถสังหารมังกรเกราะหนามได้ก็นับว่าเป็นเรื่องตลกแล้ว
 “กรรร!” คำรามต่ำครั้งหนึ่ง ก่อนร่างของมังกรเกราะหนามจะกลายเป็นเงาลางเลือน พุ่งเข้าใส่เซียนหมีลายม่วง อุ้งมือขนาดใหญ่ทั้ง 2 ข้างของเซียนหมีลายม่วงก็พลันปรากฏไอสีดำและโจมตีใส่มังกรเกราะหนามพร้อมกัน
ด้วยพละกำลังหมัดของเซียนหมีลายม่วงย่อมสามารถส่งร่างของมังกรเกราะหนามลอยออกไปได้อย่างง่ายดาย
แต่อย่างไรก็ตาม...
เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดของเซียนหมีลายม่วง มังกรเกราะหนามกลับเปิดปากกว้างและฝังเขี้ยวลงบนแขนข้างหนึ่งของหมีลายม่วง แต่แขนของเซียนหมีลายม่วงนี้แข็งแกร่งนัก แม้ว่ามังกรเกราะหนามจะกัดเข้าเต็มปาก แต่ก็ไม่อาจกัดทะลุเข้าไปได้
 “อ๊ากกกก!” เซียนหมีลายม่วงคำรามอย่างเจ็บปวด เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ว่ามังกรเกราะหนามจะทำเช่นนี้ เพราะไม่ต่างอันใดกับการมอบศีรษะตนเองให้เซียนหมีลายม่วงสักนิด “เจ้าอยากตายมากสินะ!” เซียนหมีลายม่วงคำรามลั่นและทุบกำปั้นใส่บริเวณดวงตาของมังกรเกราะหนาม
เมื่อนิ้วยาวเกือบ 1 เมตรของมันทะลุเบ้าตาของมังกรเกราะหนาม และทำลายสมองจะส่งผลให้มังกรเกราะหนามเสียชีวิตในทันที
แต่ในเวลาเดียวกัน...
 “แควก!” “แควก!” “แควก!”
ร่างของมังกรเกราะหนามพลันขาดออกจากกัน จากนั้น ดั่งของเหลวไหลออกมาจากตะแกรง หนามทุกเล่มบนแผ่นหลังก็พุ่งออกมา ปักเข้าที่ร่างของเซียนหมีลายม่วงด้วยความเร็วสูงดังสายฟ้าแลบ
บัดนี้ทั่วร่างของเซียนหมีลายม่วงปกคลุมไปด้วยหนามแหลมคล้ายกับเกราะของมังกรเกราะหนาม การสะท้อนของพลังป้องกันอันมหาศาลมาอยู่ในรูปของการโจมตี ทำให้ยากจะคาดเดาถึงผลของมัน
 “อ๊า! ซาเทียส, เจ้า...” นัยน์ตาของเซียนหมีลายม่วงเต็มไปด้วยแววเหลือเชื่อ
อาวุธที่น่ากลัวที่สุดของมังกรเกราะหนามมีสองอย่างคือ เกราะ และ มีดที่หลังของมัน    คำว่าเกราะแสดงให้เห็นถึงพลังป้องกันที่น่าอัศจรรย์  ขณะที่หนามมีดที่หลัง คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ายังใช้งานได้
หากใช้มันในการป้องกันก็นับว่าทรงอำนาจยิ่ง มันหนามากใช้ป้องกันได้เหลือเฟือ
แต่หากใช้เพื่อการโจมตีเล่า?
หนามแหลมบนแผ่นหลังจะใช้ในการโจมตีได้อย่างไร? หากต้องการเช่นนั้นมีแต่ต้องใช้มันในทางตรงกันข้ามกับการป้องกัน
มีอสูรเวทน้อยนักที่จะรับรู้ถึงไม้ตายยิงหนามแหลมออกจากแผ่นหลังของมังกรเกราะหนาม โดยไม้ตายนี้มังกรเกราะหนามจะใช้ในการโจมตีคู่ต่อสู้ในระยะไกลเท่านั้น ซึ่งหนามเหล่านี้จะยิงออกไปด้วยความเร็วสูง ผลของมันร้ายแรงยิ่งกว่าการโจมตีจากกรงเล็บอันแหลมคมเสียอีก
เซียนหมีลายม่วงไม่เคยทราบถึงการโจมตีนี้ของมังกรเกราะหนาม และไม่เคยคาดคิดว่าการที่มันเข้าใกล้ศัตรูจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด หนามแหลมที่ยิงออกมาด้วยความเร็วสูงทำให้มันไม่มีโอกาสให้หลบเลยแม้แต่น้อย
 ซวบ....” เมื่อทั่วทั้งร่างถูกแทงทะลุ เซียนหมีลายม่วงสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่เริ่มไหลออกจากร่าง ด้วยความรู้สึกไม่อยากตายเช่นนี้ มันเงยหน้าขึ้นแล้วร้องโหยหวน

1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ได้เวลา อัพเลเวลแล้ว ดื่มๆ หญ้ามีพร้อใ

แสดงความคิดเห็น