วันจันทร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 6-18 เยี่ยมเยือน



ตอนที่  6-18  เยี่ยมเยือน
อลิซรู้สึกว่าหัวใจนางสั่นสะท้านทันที  ความรู้สึกอบอุ่นแล่นเข้ามาในใจนาง เป็นความรู้สึกสำนึกบุญคุณระคนเสียใจไม่มีสิ้นสุด

 “พี่ลินลี่ย์! ขอบคุณ, ขอบคุณท่านจริงๆ” อลิซได้แต่พูดย้ำอย่างช่วยไม่ได้ น้ำตานางเริ่มคลอเบ้า เป็นน้ำตาแห่งความตื่นเต้นดีใจ
ลินลี่ย์ยิ้ม  “กลับไปเถอะ  บ่ายนี้ ข้าจะเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าฝ่าบาท”
ลินลี่ย์รู้สึกได้ในตอนนี้ว่าหัวใจเขาสงบมาก ยามเขามองอลิซ  เมื่อเห็นอลิซ ในสายตาเขาก็เหมือนมองดูสหายสตรีที่มีไมตรีที่ดีต่อกัน  ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
 “ค่ะ, ขอบคุณ” อลิซชายตามองลินลี่ย์อีกครั้ง จากนั้นก็หันศีรษะแล้วเดินจากไป  ความคิดของนางซับซ้อนยิ่งขึ้น
แต่แรกทีเดียวอลิซเกรงว่าเพราะในอดีต นางทำร้ายจิตใจลินลี่ย์ ลินลี่ย์คงรู้สึกเกลียดคาลัน และน่าจะเป็นเหตุให้ลินลี่ย์ไม่ยอมช่วยคาลัน  แต่ท่าทีของลินลี่ย์ผิดจากที่นางคาดสิ้นเชิง  ลินลี่ย์ไม่มีอาการตื่นเต้นแม้แต่น้อย  เขาสงบนิ่งมาก
เมื่อเห็นอลิซกลับไปแล้ว ลินลี่ย์นั่งลง  คว้าผลไม้มากินตามปกติ  ตอนนี้บีบีโผล่ออกมาเช่นกัน
 “เจ้านาย, ท่านจะช่วยอลิซนั่นจริงๆ เหรอ? ถ้าเป็นข้านะ ข้าคงตะเพิดนางออกไปนานแล้ว ฮึ, ดีแค่ไหนแล้วที่ท่านไม่ตบนางจนตายในฝ่ามือเดียว” บีบีบ่นอย่างไม่พอใจ
ลินลี่ย์ชำเลืองมองบีบี  “บีบี!  มนุษย์ไม่เหมือนอสูรเวทหรอกนะ”
ขณะนั้นเดลิน โคเวิร์ทลอยออกมาจากแหวนมังกรขนด  มองลินลี่ย์ด้วยสายที่เห็นชอบด้วย  เขาพูด “ลินลี่ย์! เจ้าทำได้ดีมาก, ข้ายังกังวลใจอยู่บ้างว่า เจ้าจะใช้อารมณ์แบบเด็กๆ ไล่นางออกไปแล้วขว้างก้อนหินไล่ตามเสียอีก”
 “อารมณ์แบบเด็กๆ ?” ลินลี่ย์สะดุ้ง
ในสายตาของเดลิน โคเวิร์ท พฤติกรรมอย่างนั้นเป็นการกระทำของเด็กแน่นอน
 “ถูกแล้ว  พวกผู้หญิงมีอยู่ทั่วทุกที่นั่นแหละ” เดลิน โคเวิร์ทหัวเราะหึหึ
ลินลี่ย์พูดไม่ออกทันที  เขาไม่ค่อยเห็นด้วยต่อมุมมองเรื่องสตรีของเดลิน โคเวิร์ทซึ่งค่อนข้างจะคล้ายกับมุมมองของเยลและเรย์โนลด์
 “เอาล่ะ, คุยกันพอแล้ว ข้าต้องฝึกต่อไป”  ลินลี่ย์ลุกขึ้นทันทีและกลับเข้าไปที่สวนน้ำพุร้อน
เท่าที่ลินลี่ย์ใคร่ครวญดู   อลิซไม่มีอะไรมากไปกว่าฉากชีวิตฉากหนึ่งที่ไม่ส่งผลต่ออารมณ์ของเขา  ในตอนนี้ สิ่งเดียวที่อยู่ในใจลินลี่ย์ก็คือล้างแค้นให้บิดาของเขา
…..
 “ฝ่าบาทอยู่ในห้องทรงอักษรกำลังตรวจข้อราชการอยู่  ใต้เท้าลินลี่ย์โปรดตามข้ามาห้องทรงอักษร”  มหาดเล็กพูดด้วยความเคารพ
ลินลี่ย์พยักหน้า
บีบียืนอยู่บนไหล่ของเขา  ลินลี่ย์เดินตามมหาดเล็กตรงเข้าไปห้องหนังสือ  ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็มาถึง
 “ฝ่าบาท! ใต้เท้าลินลี่ย์มาถึงแล้ว”  มหาดเล็กส่งเสียงทูลบอกจากนอกห้องหนังสือ
เคลย์ที่หมกมุ่นกับการอ่านหนังสือบางเล่มก็เงยหน้าขึ้น เมื่อสายตาที่คล้ายพยัคฆ์มองเห็นลินลี่ย์ นัยน์ตาเขาเป็นประกายตื่นเต้น  เขากล่าว “ลินลี่ย์, รีบเข้ามา  ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรองอะไรมาก”
 “พะย่ะค่ะ, ฝ่าบาท” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ พลางเดินเข้าห้องหนังสือ  เคลย์ในสายตาลินลี่ย์เป็นคนกล้าหาญ, ตรงไปตรงมาและสุภาพเหลือเชื่อเมื่อแสดงออกต่อลินลี่ย์ ไม่เคยใช้สถานะราชาเพื่อข่มเหงเขา
 “ถ้าไม่ใช่เพราะความตายของบิดาเรา” ลินลี่ย์นึกในใจ “บางทีท่านกับข้าคงกลายเป็นสหายกันได้ แต่ไม่วันใดวันหนึ่ง ข้าต้องฆ่าท่าน  เพียงแต่ตอนนี้ข้ายังไม่มีโอกาส” ลินลี่ย์ไม่เคยลังเลใจเลยในการตัดสินใจฆ่าเคลย์
ทันทีที่เขามีโอกาส เขาจะฆ่าเคลย์แน่นอน
เคลย์ชนแก้วไวน์อวยพรกับลินลี่ย์ พอจิบเสร็จจึงกล่าวว่า “ลินลี่ย์,  ยากนักนะที่เจ้าเป็นฝ่ายมาเยี่ยมข้าถึงในวัง มีธุระอะไรหรือเปล่า, อธิบดีศาลจอมเวทของข้าถึงมีเรื่องมาปรึกษาข้าในวันนี้?”
ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ
ความจริงตำแหน่งอธิบดีศาลจอมเวทมีหน้าที่รับผิดชอบไม่กี่อย่าง  แต่ลินลี่ย์ไม่เคยมาดำเนินการหน้าที่เหล่านั้น เขาจะปล่อยให้นักเวทประจำศาลคนอื่นๆ รับผิดชอบแทน  และเคลย์ก็ไม่เคยกดดันอะไรเขา  ที่สำคัญลินลี่ย์รับราชการในอาณาจักรแต่เพียงในนาม  ทั้งหมดที่เขาทำก็คือ แสดงตัวว่าเขาเองอยู่ฝ่ายเดียวกับเคลย์
 “เป็นความจริงที่ข้ามาวันนี้เพื่อปรึกษาบางอย่าง”  ลินลี่ย์ยิ้มขณะมองดูเคลย์  “เกี่ยวกับเรื่องที่ตระกูลเด็บส์ต้องสงสัยลักลอบค้าหยกวารี  ฝ่าบาทรับสั่งให้คร่ากุมคาลันและเบอร์นาร์ดใช่ไหม?”
 “เป็นเช่นนั้นจริง”  เคลย์ขมวดคิ้วขณะมองดูลินลี่ย์  “อะไรกัน, เจ้ามาคุยเรื่องพฤติกรรมของพวกเขาหรอกหรือ?”
ช่วงเวลาเช่นนี้มีขุนนางน้อยมากที่จะมาช่วยพูดแก้ต่างให้ตระกูลเด็บส์  เหตุผลที่พวกเขาทำเช่นนี้เพราะตระกูลเด็บส์กระทำการมิชอบ
 “ถ้าเจ้าต้องการช่วยตระกูลพวกเขาจริงๆ  ข้าย่อมเห็นแก่หน้าเจ้าแน่นอน” เคลย์พูดอย่างตรงไปตรงมา
สิ่งเดียวที่เคลย์ต้องการก็คือทำลายโครงสร้างอำนาจที่แพตเตอร์สันน้องชายเขาได้สร้างไว้  สำหรับตระกูลเด็บส์  เขาจะกำจัดพวกเขานั้นเป็นเรื่องปกติ  เขายินดีจะอภัยให้ตระกูลเด็บส์เพื่อแลกกับความพอใจของลินลี่ย์  ที่สำคัญแม้ว่าเขาจะนิรโทษให้ตระกูลเด็บส์  เขายังสามารถบีบพวกเขาได้โดยปรับมูลค่าให้หนักตามกระบวนการ
 “ไม่ใช่” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ข้าไม่ได้มาพูดแก้ต่างแทนพวกเขา”
 “ว่าไงนะ?” เคลย์มองลินลี่ย์ด้วยความฉงน
ลินลี่ย์พูดแบบสบายๆว่า "ฝ่าบาท ข้อกล่าวหาเรื่องตระกูลเด็บส์ มีเอี่ยวกับการลักลอบขนหยกวารีหนีภาษีนั้น เป็นเรื่องปกติที่ต้องจัดการอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมา"
"โฮ่?" เคลย์มองลินลี่ย์ด้วยความสงสัย "ถ้ายังงั้น ลินลี่ย์ เหตุที่เจ้ามาวันนี้เป็นเพราะ ... "
ลินลี่ย์หัวเราะออกมา "ตามความเห็นของข้านั้น พระองค์เพียงคุมขังเบอร์นาร์ด ประมุขของตระกูลไว้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เนื่องจากท่านสงสัยว่าตระกูลเด็บส์มีเอี่ยวกับการลักลอบขนหยกวารีหนีภาษี ส่วนลูกชายของเขาไม่มีความจำเป็นต้องคุมขังไว้ จริง ๆ แล้ว มีความจำเป็นอะไรต้องคุมขังทายาทเอาไว้กันเล่า? หากท่านคุมขังคนที่หนึ่งไว้ พวกเขาก็ยังมีคนที่สอง ตราบเท่าที่ตระกูลของพวกเขาไม่ได้ถูกทำลายจนหมดสิ้น ก็จะมีคนสืบทอดสายเลือดต่อไป"
"ลินลี่ย์ ที่เจ้าพูดหมายความว่า ... " เคลย์มองลินลี่ย์
ลินลี่ย์มองเคลย์กลับ "ฝ่าบาท ข้าหวังว่าท่านสามารถปล่อยคาลันได้"
"โฮ่ ปล่อยคาลันงั้นรึ ข้าได้ยินข่าวลือมาว่าเจ้ากับคาลันนั้น...?" เคลย์นั้นได้ทำการตรวจสอบเรื่องของลินลี่ย์อย่างละเอียด เป็นเรื่องธรรมดา ที่เขาจะรู้เรื่องราวอันซับซ้อนในอดีตระหว่าง ลินลี่ย์,คาลัน และ อลิซ
ลินลี่ย์ได้แต่หัวเราะอย่างจนปัญญาออกมา "ฝ่าบาท, เรื่องนั้นมันผ่านไปนานแล้ว"
เคลย์กล่าวเตือนว่า "ลินลี่ย์ ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ก่อนว่า จากการสืบสวนของข้า สหายคาลันของเจ้าคนนี้เป็นคนโหดเหี้ยม และจิตใจคับแคบ เจ้าคิดเจ้าแค้น"
"ข้าทราบดี" ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ด้วยการเจอกันกับคาลันเพียงไม่กี่ครั้ง ลินลี่ย์ก็สัมผัสได้แล้วว่ามุมมองของคาลันที่มีต่อเขานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง และ ... ลินลี่ย์ยังรู้อีกด้วยว่าในระหว่างการจัดแสดงรูปแกะสลัก "ตื่นจากฝัน" เป็นเวลาเจ็ดวันนั้น เขาคือใครบางคนที่ปรารถนาจะทำลายมัน
การทำลายรูปแกะสลักทิ้งไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใด
นอกจากคาลันแล้ว ลินลี่ย์คิดไม่ออกว่าจะยังมีใครที่ต้องการจะทำลาย 'ตื่นจากฝัน' อีก
"แล้ว เจ้าช่วยเขาด้วยเหตุอันใดเล่า?" เคลย์ถามต่อ
"ฝ่าบาท ท่านคิดว่าข้าต้องเป็นกังวลกับคนจิตใจคับแคบและไร้ซึ่งวิสัยทัศน์เช่นเขาจริง ๆ หรือ?" ลินลี่ย์ยิ้มพลางมองเคลย์ เคลย์กระพริบตาและหัวเราะออกมาเช่นกัน
"ใช่แล้ว. เมื่อก่อน อาจกล่าวได้ว่าเจ้าและคาลันเป็นคนคุ้นเคย แต่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่เขาไม่ต้องการที่จะเป็นเพื่อนกับเจ้า เขากลับจงเกลียดจงชังเจ้าแทน มีเพียงบิดาของเขาที่ยังคงพยายามผูกมิตรกับเจ้าต่อไป เมื่อเปรียบเทียบกับบิดาของเขาแล้ว ตัวคาลันนั้นก็นับได้ว่าไร้วิสัยทัศน์จริง ๆ " เคลย์หัวเราะเสียงดัง
เคลย์ตบไหล่ลินลี่ย์เบา ๆ "ไม่ต้องห่วง ข้าจะสั่งให้เมอร์ริทจัดการคดีนี้อย่างยุติธรรมและตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียด ตระกูลเด็บส์จะได้รับความยุติธรรมแน่นอน แต่หากตระกูลเด็บส์มีความผิดฐานลักลอบขนหยกวารีหนีภาษีจริง ข้าจะลงโทษพวกเขาไม่ให้หนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียวเช่นกัน" "ใช่แล้ว ตัดสินคดีอย่างยุติธรรม" ลินลี่ย์พยักหน้า
ในรถม้าระหว่างทางกลับบ้าน บีบีนอนอยู่บนต้นขาของลินลี่ย์
"ว้าว เจ้านาย ท่านช่างร้ายกาจนัก ประมุขของตระกูลเด็บส์มีเอี่ยวในการลักลอบขนของหนีภาษีแน่นอน อีกไม่นาน ตระกูลของเขาย่อมจบสิ้นลง แม้ว่าคาลันจะสามารถหลบหนีไปได้ในตอนนี้ แต่ในอนาคต เขาจะยังจมอยู่ในฝันร้ายจากความคับแค้น!" บีบีกล่าวอย่างตื่นเต้น
บีบีปรารถนาจะทำลายคาลันมาตั้งนานแล้ว ลินลี่ย์ส่ายหน้าพร้อมกับเสียงหัวเราะ "ยังยากที่จะพูดว่าตระกูลเด็บส์จะจบสิ้นหรือไม่ ตัวอย่างเช่น พวกเขาสามารถมอบทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตระกูลให้กับราชาเคลย์โดยตรง และบางทีเคลย์อาจมอบโอกาสให้แก่พวกเขา แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญเท่าตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในกำมือของเคลย์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ตาย พวกเขาจะต้องถูกขย้ำทะลุผิวหนังไปถึงเนื้อจนได้"
ลินลี่ย์เข้าใจด้านมืดในโลกของขุนนางดีว่าเป็นอย่างไร แม้ว่าบนเบื้องหน้า พวกเขาจะพูดคุยการตัดสินคดีอย่างยุติธรรม นั่นล้วนเป็นการโป้ปดหลอกลวงทั้งสิ้น "เทียบกับเคลย์แล้ว ตระกูลเด็บส์ช่างอ่อนแอนัก" ลินลี่ย์ส่ายหน้า
คาลันผู้อ่อนแอและต่ำต้อยนั่นไม่ใช่คนที่ลินลี่ย์เป็นห่วง คาลันไม่ใกล้เคียงแม้กระทั่งอยู่ในระดับเดียวกับลินลี่ย์ด้วยซ้ำ หนึ่งเดียวที่ลินลี่ย์ปรารถนาจะต่อกรด้วยนั้นคือเคลย์!
"นายท่าน, ถึงแล้วขอรับ" คนขับรถพูดอย่างนอบน้อม
ลินลี่ย์เปิดประตูรถและเดินออกไป บีบีกระโดดลงบนไหล่ของลินลี่ย์เช่นเคย ขณะที่ลินลี่ย์กำลังจะเข้าไปในคฤหาสน์ของเขายามเฝ้าประตูกล่าวอย่างนอบน้อมว่า "ใต้เท้ามีอาคันตุกะมาขอพบท่าน เขากำลังรอท่านอยู่ในห้องโถงขอรับ"
"อาคันตุกะ? ในห้องโถงงั้นเหรอ?" ลินลี่ย์รู้สึกแปลกใจ
เหล่าขุนนางมักจะมาเยี่ยมลินลี่ย์บ่อย ๆ แต่หากไม่ได้รับอนุญาตจากเขาให้เข้ามา พวกเขาทั้งหมดจะรออยู่ข้างนอกเงียบ ๆ มีเพียงบุคคลที่มีสถานะสูงมากเช่น ดยุคแพตเตอร์สัน, ราชาเคลย์ หรือ คาร์ดินัลกิลเยโม เท่านั้น ที่จะมุ่งตรงไปที่ห้องโถงแทนการรออยู่ด้านนอก
"ผู้ใดกัน?" ลินลี่ย์อดถามออกมาไม่ได้
"ไม่ทราบขอรับ แต่เขาถือครองเหรียญตราของคาร์ดินัลอยู่ในมือขอรับ" ยามกล่าวอย่างนอบน้อม ในฐานะที่เป็นอัศวินแห่งวิหารเจิดจรัส เขาย่อมคุ้นเคยกับเหรียญตราประจำตำแหน่งของคาร์ดินัลเป็นอย่างดี
คาร์ดินัลแต่ละคนจะได้รับเหรียญตราเพียงหนึ่งเหรียญเท่านั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา โยคีบางคนที่ทรงพลังก็มีเหรียญตราเช่นกัน การมีเหรียญอยู่ในความครอบครองย่อมแสดงว่าบุคคลผู้นั้นมีฐานะไม่ด้อยไปกว่าคาร์ดินัล
"ตราประจำตำแหน่ง?" ลินลี่ย์สะดุ้ง
ลินลี่ย์รีบเดินตรงไปยังห้องโถงโดยไม่ลังเลทันที ขณะที่ลินลี่ย์กำลังผ่านทางเดินก่อนถึงห้องโถง เขาก็ตกใจเพราะคนที่เขาเห็นนั้น
ในห้องโถงมีชายวัยกลางคน ผมดำ สวมเสื้อคลุมหลวมยาว มองเผิน ๆ เขาดูเหมือนชายวัยสามสิบหรือสี่สิบ เขาปล่อยกลิ่นอายเฉื่อยชาเกียจคร้านออกมา
ขณะที่ลินลี่ย์มองชายวัยกลาง คนผู้นี้ดูราวกับว่าจะรู้สึกถึงเขาเช่นเดียวกัน เขาหันกลับมามองลินลี่ย์เช่นกัน ตาของเขาเปล่งประกายตื่นเต้นออกมา "อาจารย์ลินลี่ย์ ท่านกลับมาแล้ว"
"อาจารย์ลินลี่ย์?" จิตใจของลินลี่ย์เต็มไปด้วยสงสัย แต่เขายังรีบเดินเข้าไปในห้องโถง
"ท่านคือ ... โฮ่ ข้านึกออกแล้ว ท่านคือคนที่เสนอราคาประมูล 10 ล้านเหรียญทองคนนั้น" ตอนนี้ลินลี่ย์จำได้แล้ว ในระหว่างการประมูลรูปแกะสลัก 'ตื่นจากฝัน' ชายวัยกลางคนผู้นี้เป็นผู้เสนอราคาประมูล 10 ล้านเหรียญ
ชายวัยกลางคนพยักหน้ารัวๆอย่างตื่นเต้น "ข้าคาดไม่ถึงมาก่อนเลยว่า อาจารย์ลินลี่ย์จะจดจำข้าได้ มันทำให้ข้าตื่นเต้นยิ่งนัก โอ้ ใช่แล้ว ข้าลืมแนะนำตัวเองไป เรียกข้าว่า ...ซีซาร์”
"ซีซาร์?" ลินลี่ย์ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
"ซีซาร์งั้นเรอะ?!" เสียงของ เดลิน โคเวิร์ท จู่ ๆ ก็ดังขึ้นมาในใจของลินลี่ย์ "ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เจ้าตัวประหลาดน้อยซีซาร์ จะยังคงอยู่ในดินแดนของทวีปยูลานนี่"
ลินลี่ย์สะดุ้งตกใจ
ปู่เดลิน รู้จักซีซาร์คนนี้งั้นเหรอ? ปู่เดลินมาจากยุคอดีตเมื่อนานมาแล้ว! หากเขารู้จักชายคนนี้ แล้วซีซาร์คนนี้อายุเท่าไรล่ะ?
"ลินลี่ย์ เจ้าซีซาร์คนนี้เป็นตัวประหลาดอย่างแท้จริง ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาเร็วมากและเขาฆ่าโดยไม่กระพริบตา ตอนที่ข้ายังมีชีวิตอยู่เขาเลื่อนเป็นระดับเซียนแล้ว แม้ว่าหลังจากนั้น เขาจะเป็นเพียงเซียนขั้นต้นเท่านั้น หลังจากผ่านไปห้าพันปี ด้วยความเร็วในการพัฒนาของเขาแล้ว เป็นไปได้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งกว่าเดิมมากนัก"
หัวใจของลินลี่ย์บีบรัดจนอึดอัด
ชายที่อยู่เบื้องหน้าเขาดูเหมือนจะเพิ่งอายุสามสิบหรือสี่สิบเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นนักสู้ระดับเซียนในยุคของเดลิน โคเวิร์ท เดลิน โคเวิร์ทมีชีวิตอยู่แค่พันกว่าปีก่อนจะตายไป แต่ซีซาร์คนนี้ หากนับดูจริง ๆ แล้ว เขามีชีวิตมาจนถึงบัดนี้ยาวนานถึงเกือบหกพันปีแล้ว
เฒ่าประหลาดอายุหกพันปี!
"อาจารย์ลินลี่ย์ มันเกิดอะไรขึ้น?" ซีซาร์กล่าวด้วยความกังวล "หน้าของท่านดูค่อนข้างจะไม่พอใจ"
"ไม่มีอะไรหรอก ท่านซีซาร์ เชิญนั่ง" ลินลี่ย์บังคับตัวเองให้ใจเย็นลง แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคนนี้เป็นใคร เขาก็อดที่จะตื่นตระหนกไม่ได้
เฒ่าประหลาดอายุหกพันปีเป็นสุดยอดนักสู้ที่รอดชีวิตมาได้จากยุคสมัยของจักรวรรดิพูเอนท์จนถึงยุคสมัยใหม่ ตอนนั้นเขาก็เป็นนักสู้ระดับเซียนแล้ว แล้วตอนนี้ล่ะ?
"อาจารย์ลินลี่ย์ ข้ารู้สึกว่าทักษะในการแกะสลักของท่านน่าทึ่งมาก ถ้าไม่ได้เป็นเพราะแม่หนูดีเลียคนนั้นขอร้องข้าละก็ วันนั้นข้าจะต้องประมูลรูปแกะสลักของท่านมาครอบครองได้แน่นอน" ซีซาร์จีบปากจีบคอพูดออกมา แต่แล้วตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา "แล้วอาจารย์ลินลี่ย์ ท่านกับแม่หนูดีเลียจะแต่งงานกันเมื่อไหร่หรือ?"
"แต่งงานงั้นหรือ?"
ไม่ว่าลินลี่ย์จะตกตะลึงกับซีซาร์อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ออกมา ตาของลินลี่ย์เบิกกว้างจนแทบจะหลุดออกจากเบ้า เขาได้แต่เหม่อมองซีซาร์โดยไม่ปริปาก

3 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

555 ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

สงสัยกระดาษแผ่นนั้นยุนานเปิดสักที555 แผนเด็ดลิเดีย

l3ell_Zaa กล่าวว่า...

อาจารย์ในอนาคตหรือเปล่า

แสดงความคิดเห็น