วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 83 สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ



ตอนที่  83  สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ
เมื่อกลับมายังรอยแยกพลังงาน จิ่งหาวยังไม่กลับมา  ดังนั้นถังเทียนพบมุมระยะไกลสำหรับให้ตัวเองฝึกฝน หยาหยาออกมาจากกระเป๋าของถังเทียน มันหันหัวน้อยๆ ตรวจตราไปรอบๆ มันสงสัยบอลพลังงานรอบๆ ตัวมัน แต่หลังจากนั้นชั่วขณะมันก็ชอบบอลพลังงานทันที

ถังเทียนนั่งลงและเริ่มตรวจดูกล่องที่ปิงมอบให้เขา  ภายในมีแต่กองขยะและแทบไม่มีของมีค่าอย่างอื่น  มีการ์ดเงินระดับสี่ที่ใช้ได้อยู่สองสามใบ ขณะที่วิชาต่อสู้ของถังเทียนเป็นระดับสี่ จึงนับว่าพอมีค่าสำหรับถังเทียน  แต่ของโปรดที่สุดของถังเทียนก็คือตู้เก็บอาวุธอควาเรียสระดับบรอนซ์
เมื่อเทียบกับตู้เก็บอาวุธควาเรียสชั้นเหล็กที่เขามีแล้ว ตู้อควาเรียสชั้นบรอนซ์ใหญ่กว่ามากนัก  สามารถเก็บชุดเสือเขี้ยวดาบได้พลอ พอเห็นดังนั้น ถังเทียนเสียดายจนน้ำตาไหลนองหน้าทันที  ทำไมเขาไม่พบตู้เก็บอาวุธอควาเรียสให้เร็วกว่านั้น...
แม้ว่าเครื่องกลบรอนซ์จะดูใหญ่โต แต่มันใช้กลไกพับจนกลายเป็นนกกระจอกเทศตัวน้อยได้ ทั้งนี้เพราะนกกระจอกเทศกลบรอนซ์มีโครงสร้างอย่างง่าย  จากตรงนี้ สามารถสรุปได้ว่า สำหรับตาของเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้  ของง่ายๆ เหล่านี้เรียกว่าเครื่องจักรง่ายๆเท่านั้น  ยังไม่มีคุณสมบัติพอใช้เป็นจักรกลได้
เกี่ยวกับโครงสร้างกลไกง่ายๆ  สำหรับเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ ได้มีการวิจัยค้นคว้าอยู่ก่อนแล้ว และมันมาถึงจุดที่พวกเขาสูญเสียความสนใจ เครื่องกลระดับต่ำนี้ ไม่ได้ช่วยเหลือในการเพิ่มพลังมากนัก
ยิ่งอาวุธกลไกระดับสูงขึ้นไป ก็ยังมีโครงสร้างภายในที่ซับซ้อนเพื่อขยายพลังปราณเที่ยงแท้และเพิ่มพลังยุทธ ดังนั้นภายในจึงเป็นอีกระดับหนึ่ง
หลังจากนั้นสามวัน จิ่งหาวก็กลับมา  ทั้งสองสนทนากันไม่มี่คำและจากนั้นก็เริ่มต่างคนต่างฝึก  เพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดพลังของกันและไม่ให้เกิดความผันผวนของพลัง ทั้งสองฝ่ายจึงฝึกอยู่ห่างกันมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ว่างกว้าง  จึงทำให้ทั้งสองคนฝึกฝนพร้อมกันโดยไม่มีการรบกวนกัน
ในวันที่ห้า  ถังเทียนเข้าไปเมืองสามวิญญาณตรงเวลา
ร้านขายการ์ดเซรีน
เมื่อเซรีนเห็นถังเทียน ตาของเธอเป็นประกายทันที  “ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว  ถ้าเจ้ามาฉุดให้ข้ายืนอีก เจ้าตายแน่”
ชุดที่เซรีนใส่แตกต่างจากปกติทุกวัน  เธอสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเป็นพิเศษอวดขาขาวเรียวยาวเหมือนหิมะ เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผมของเธอรวบมัดเป็นหางม้า มีท่าทีสดชื่นผ่อนคลายอย่างไม่อาจอธิบายได้ ดูอ่อนเยาว์เป็นพิเศษ
โจรแพนด้าทั้งสามยืนเฝ้าหน้าประตูอย่างว่าง่าย  เหมือนกับว่าเป็นพนักงานต้อนรับหน้าประตูมืออาชีพ คอยยิ้มต้อนรับอย่างจริงใจ
สุภาพสตรีผู้นี้ทำอะไรกับโจรผู้น่าหวาดหวั่นและชั่วร้ายเหล่านี้กันแน่....
ถังเทียนรำพึงในใจ แต่ก็ออกปากถาม “อุปกรณ์ฝึกพลังจิตวิญญาณเสร็จแล้วหรือ?”
 “เฮ้, มีสาวน้อยอัจฉริยะทำงานให้ จะมีปัญหาได้ยังไง?” หน้าเซรีนเต็มไปด้วยความภูมิใจ และพูดต่อ “ก็แค่เครื่องฝึกพลังจิตวิญญาณ  ถ้าเจ้านำพิมพ์เขียวอาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้มาให้ข้า  ข้าก็สามารถผลิตมันออกมาได้”
พอได้ยินเช่นนั้น ถังเทียนหัวใจเต้นแรง และถามต่อ “อย่างนั้นเจ้าก็สามารถปรับปรุงพัฒนาอาวุธจักรกลได้หรือเปล่า?”
เซรีนอึ้งไปชั่วขณะ เธอคาดไม่ถึงว่าถังเทียนจะถามคำถามแบบนั้นจริงๆ จึงตอบว่า “ข้าต้องเห็นมันก่อน จึงจะบอกได้  อาวุธเครื่องกลเป็นเครื่องจักรของกองทัพดาวกางเขนใต้ โอว..ยุคนั้นถูกยกย่องว่าเป็นยุคของช่างเครื่องกล  ข้าชอบชื่อนั้นมากจริงๆ   อาวุธเครื่องกลของกองทัพดาวกางเขนใต้ถูกสร้างมาด้วยกรรมวิธีทางวิศวกรรมที่สุดยอด  ด้วยระบบที่มากมายและซับซ้อน  ความจริงแม้แต่กรรมวิธีของวิศวกรรมยุคปัจจุบันก็ยังห่างไกลจากนั้น  ข้ายังไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลจริงๆ และความก้าวหน้าของมันมาก่อน”
 “ถ้าข้าให้อาวุธเครื่องกลท่านดูชุดหนึ่ง  เจ้าจะพัฒนามันได้ไหม?”  ถังเทียนกดดันต่อไป
เซรีนค่อนข้างงงและเดาใจถังเทียนพลางล้อเล่นว่า “เจ้า.. อย่าบอกนะว่าเจ้ามีอาวุธจักรกลอยู่จริงๆ”   แต่ไม่นานจากนั้น เธอก็ตระหนักว่าการล้อเลียนของเธอเป็นแค่เรื่องตลก จะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีอาวุธจักรกลเก็บรักษามาถึงในยุคปัจจุบัน?  เป็นไปไม่ได้!  เธอส่ายศีรษะ แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของถังเทียน เธอกล่าวว่า “แม้ว่าข้าไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลมาก่อน  แต่ข้าก็รู้จักคนที่กำลังทดสอบมันในเรื่องนี้”
ปิงที่ไม่ได้ตั้งใจฟังแต่แรก  จู่ๆ ก็แสดงความสนใจรับฟังทันที
ถังเทียนยิ่งหมกมุ่นมากกว่าเก่า
หน้าและดวงตาของเซรีนเป็นประกายผุดผ่องด้วยความภูมิใจ  ใบหน้าที่เปี่ยมเสน่ห์ยิ้มเล็กน้อยและทำให้เธอดูงดงามมากขึ้น  และแน่นอนเธอดูไม่เหมือนคนในท้องที่นั้น  “อาวุธจักรกลของกองทัพดาวกางเขนใต้เดิมที่ถูกสร้างมาจากประวัติศาสตร์ที่รุ่งเรือง  มีการขุดอาวุธจักรกลได้สองสามชิ้น  แม้ว่าอาวุธเหล่านั้นจะไม่สามารถซ่อมแซมได้  แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นอาวุธจักรกลนั้นกลับมาทำงานได้ในสภาพสมบูรณ์  มีช่างเครื่องกลมากมายผู้ทำการค้นคว้า  ปัจจุบันนี้มีมุมมองหลักเพิ่มเติมขึ้นมาก็คือ อาวุธจักรกลนั้นพัฒนามาจนถึงจุดสุดยอดของคุณลักษณะของอสูรร้าย และนั่นเป็นจุดแข็งที่สุด แต่มันก็ยังมีจุดอ่อน นั่นคือมันไม่มีจิตวิญญาณพลังยุทธ”
ร่างของปิงสั่น ขณะที่เขาพึมพำกับตัวเอง “ไม่มีจิตวิญญาณพลังยุทธ...”
 “ถูกแล้ว” เมื่อสัมผัสได้ถึงเรื่องนั้นโดยเฉพาะ เซรีนมีสีหน้าจริงจังยิ่งขึ้น  “ไม่ว่ามันจะทรงพลังมากขนาดไหนก็ตาม  มันก็ยังเป็นวัตถุที่ไม่มีชีวิต และนั่นคือเหตุผลเดียวที่มันล้มเหลว  ทำไมมันถึงถูกสมบัติดวงดาวแย่งตำแหน่งไปได้  ก็คงเป็นเพราะเรื่องนี้  สมบัติดวงดาวมีจิตวิญญาณพลังยุทธ มีพื้นที่ให้เติบโต  มีระยะของการเสริมพลัง พวกมันฉลาดกว่าและสามารถร่วมกับนักสู้ได้ ทุกคนรู้ ยิ่งเป็นนักสู้ที่มีระดับสูง จิตวิญญาณพลังยุทธก็ยิ่งมีความสำคัญยิ่งกว่าปราณเที่ยงแท้ และนั่นก็คือเหตุผล  อาวุธจักรกลสามารถขยายพลังปราณเที่ยงแท้ได้  แต่พวกมันไม่มีวิญญาณพลังยุทธ  บางทีสมบัติดวงดาวอาจจะไม่ทรงพลังมากนักในตอนแรกเริ่ม  แต่ตราบใดที่เจ้ายังค้นพบศักยภาพพวกมันเรื่อยไป  พวกมันอาจเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นก็ได้”
 “จิตวิญญาณพลังยุทธ.. นั่นสินะ  ทำไมข้าไม่คิดถึงเรื่องนั้น...” ปิงงงและพูดกับตนเอง
ถังเทียนไม่เหมือนปิงที่มีความรู้สึกที่หลากหลายเกิดขึ้นมากมายในใจเขา เขาห่วงปัญหาอื่นมากกว่า “อย่างนั้นเราจะพัฒนาตรงนี้ได้ยังไง?”
 “ก็ให้จิตวิญญาณพลังยุทธอื่นกับมันสิ”  เซรีนพูดสื่อความทำนองว่า เจ้าช่างโง่เง่า
 “เพิ่มจิตวิญญาณพลังยุทธลงไป...” ถังเทียนมองเหม่อ
 “หน้าโง่” เซรีนลูบคางของเธอ มองดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญ  “มีหมู่ดาวมากมายในสวรรค์วิถีที่ตอนนี้เทียบกับอดีตที่ผ่านแล้ว สมบัติดวงดาวของพวกเขามีมากกว่าในอดีต พอเสริมจิตวิญญาณพลังยุทธลงไป มันจึงสมบูรณ์แบบ  อาวุธเครื่องกลถือว่ามีพื้นฐานรูปร่างที่ดี  ขณะที่สมบัติดวงดาวถูกมองว่าเป็นมันสมองที่ดี  ถ้าประกอบทั้งสองเข้าด้วยกัน จะทำให้ทรงพลังมาก”
ถังเทียนทุบหมัดลงกับพื้น และขณะตรองดูก็รู้ตามได้  เขามีความสุข “นั่นสินะ, เป็นความคิดที่ดี  ความคิดเยี่ยม”
ยิ่งคุย เซรีนก็ยิ่งเชิดหน้าขึ้นฟ้าทุกที
ถังเทียนเห็นด้วยและรู้สึกว่าไม่ว่าเซรีนจะพูดอะไรก็ตาม ล้วนแต่มีเหตุผลทั้งนั้น
ปิงเพิ่งรู้สึกตัวจากอาการตะลึงและพูดว่า “เป็นความคิดที่ดีจริงๆ  แต่จะบรรลุผลหรือไม่  นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
เซรีนประหลาดใจกับท่าทีจริงจังของปิง  เธอเล่นบิดมือไปมาและพูดเบาๆ ต่อ “ก็อย่างที่พูด บอกตามตรงข้าไม่เคยเห็นอาวุธจักรกลมาก่อน”  ทันใดนั้นตาของเธอเป็นประกาย วิ่งเข้ามาหาถังเทียนย่อเอวลงและพร้อมกับใบหน้าที่ร้อนผ่าว “หนุ่มน้อยชาวฟ้า บอกมา..เจ้าสนใจเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?  นั่นเยี่ยมเลย! ตราบใดที่เจ้าเป็นผู้สนับสนุนข้า และตราบที่มีเงินสนับสนุนเพียงพอ  ข้ามั่นใจว่าจะสร้างมันได้สำเร็จ  เอาไงดี?  ข้ามีนิสัยสนใจเรื่องเครื่องกลมากอยู่แล้ว  และผลงานก็สามารถให้เจ้าเอาไปใช้ได้ด้วย โอว, ข้าสามารถสร้างอาวุธจักรกลให้เจ้าชิ้นหนึ่งได้ด้วยนะ”
เธอประสานกำมือทั้งสองแนบอก สูดหายใจเพื่อให้อกดูขยาย ทำท่าหน้าตาให้น่าเอ็นดู พร้อมกับชม้ายตา และขายความสามารถตนเองต่อ “ข้ารู้วิชาเครื่องกล สามารถเป็นเพื่อนนอนได้นะ มาตรฐานกุลสตรีขนาดนี้ เจ้าจะไปหาได้จากไหน?  แค่เจ้าสามารถออกทุนแค่ 200,000 เหรียญดาวเป็นทุนสนับสนุน  เจ้าก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้ข้าเยอะแล้ว..”
ภายใต้แรงกดดันของเซรีนที่โน้มตัวเข้าหา  ถังเทียนถอยกรูดอย่างรวดเร็ว หน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว  กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งเต็มที่ ขาของเขาพร้อมถอยหนีได้ตลอดเวลา
 “เราตัดสินใจสนับสนุนเจ้า”
ปิงพูดทันที
เซรีนและถังเทียนทั้งคู่เหม่อมองเขา
 “ลุง, เราไม่มีเงินมากนักนะ”  ถังเทียนเตือนเขา  แม้ว่าพวกเขาจะหนีจากสภาพยากจนแต่ก่อนมาได้  แต่ 200,000 เหรียญดาวเป็นจำนวนมหาศาลเกินไป  เซรีนพูดถึงเหรียญดาว ไม่ใช่สกุลเงินอย่างอื่น  เหรียญดาวคือสกุลเงินที่ใช้ในสวรรค์วิถี มันมีค่าเท่ากับหินดวงดาว  แน่นอนนั่นเป็นสกุลเงินที่แข็งมาก
ทรัพย์สินที่มีค่าทั้งหมดบนตัวถังเทียน ก็มีการ์ดชั้นเงินทั้งหมด บวกกับสมบัติดวงดาว   ทั้งหมดรวมกันเป็นไปได้ที่จะเพิ่มสูงถึง 200,000 เหรียญดาว
เซรีนมองดูปิงอย่างสงสัย เนื่องจากเธอเพิ่งตระหนักว่าปิงแตกต่างจากขุนพลวิญญาณคนอื่น
 “เราสามารถขายอาวุธจักรกลได้”  ปิงพูดเย็นชา
 “นั่นก็เป็นแนวคิดยอย่างหนึ่ง”  ถังเทียนผงกศีรษะ
 “อะไรนะ” เซรีนตะลึง  ทันใดนั้น เธอเขามามองถังเทียนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “เจ้ามีอาวุธจักรกลด้วยเหรอ?”
 “ถูกแล้ว”  ถังเทียนพยักหน้า
เมื่อเขาพูดจบ เซรีนปราดเข้าหาเขาเหมือนลูกธนู จับถังเทียนทำให้เขาตกใจ  ปฏิกิริยาเขารวดเร็ว ขณะที่เขาสับขารวดเร็วราวฟ้าแล่บก็ถอยออกไปสองสามก้าว และเพิ่มระยะห่างระหว่างพวกเขาอีกครั้ง
เธอวางแผนอะไรบางอย่างหรือ?
ถังเทียนมองดูเซรีนด้วยความรู้สึกกลัว
เซรีนดูเหมือนจะตื่นจากภวังค์ เธอขยี้เท้า แต่กล่าวอย่างกังวลว่า “อย่าขาย, อย่าขายพวกมัน ตราบใดที่พวกเจ้าให้อาวุธเครื่องกลแก่ข้าไว้ค้นคว้า  ข้าจะคิดว่านั่นคือการสนับสนุน  ข้าจะนึกหาวิธีหาทุนของข้าเอง”
ความสนใจครอบครองอาวุธจักรกล ทำให้เซรีนยอมตายเพื่อมันได้
เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของเซรีน และใบหน้าของเธอที่ไม่สงบเหมือนอย่างปกติ และสูญเสียความเยือกเย็น ถังเทียนอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้  แม้ว่าเซรีนจะร้ายในบางเรื่อง แต่ความรักในเรื่องเครื่องกลไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น ความรักชนิดนี้ฝังอยู่ในหัวใจ กระดูกและวิญญาณทำให้ถังเทียนตื่นเต้น  เขาต้องการพูด แต่ปิงชิงพูดก่อน
 “เราค่อยพูดเรื่องปัญหาเกี่ยวกับเงินเวลาอื่นก็แล้วกัน” ปิงพูดอย่างใจเย็น “เราจะให้อาวุธจักรกลเจ้าไว้ศึกษา  แต่เจ้าต้องลงนามสัญญาวิญญาณพลังยุทธกับเรา”
 “สัญญาวิญญาณพลังยุทธ?”  เซรีนสงบลงได้ชั่วขณะ  ทันทีที่สัญญาวิญญาณพลังยุทธได้รับการลงนาม  ก็จะทิ้งรอยประทับของจิตวิญญาณพลังยุทธไว้ ทำให้ผู้นั้นไม่สามารถละเมิดข้อตกลงได้ พอพูดมาเพียงเท่านี้ เซรีนรู้ทันทีว่าพวกเขามีเบื้องหลังที่พิเศษ เนื่องจากคนธรรมดาไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน
หน้าของเซรีนเปลี่ยนไปอีกครั้ง ขณะที่เธอลังเล  แม้ว่าเธอต้องการจะศึกษาอาวุธจักรกลเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อลงนามสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ มันก็คือการขายตัวเธอนั่นเอง
หน้าของปิงสงบ และรอการตัดสินใจของเซรีน
 “ข้าจะลงนามกับใคร?” เซรีนถามทันที
ปิงชี้มาที่ถังเทียน “กับเขา”
ความกังวลในดวงตาของเซรีนหายไป  เธอผ่อนลมหายใจ  ปิงผู้ที่เธอมองไม่เห็นความคิด เนื่องจากความลึกซึ้งและลึกลับของเขาทำให้เธอกังวล  แต่ถ้าเป็นเด็กดื้อถังเทียน นั่นทำให้เธอสบายใจกว่ามากนัก
 “ดี! ข้าจะลงชื่อก็ได้” เซรีนตัดสินใจในชั่วขณะ  เธอตรงไปตรงมาไม่เฉไฉนอกทาง
สัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธคืออะไร?  ถังเทียนไม่เคยได้ยินมาก่อน  เขาทำตามคำขอร้องของปิงอย่างง่ายดาย  ขณะที่เซรีนกำลังฉลองยินดีในใจ  เพราะเจ้าเด็กนี่จะชำนาญในสัญญาจิตวิญญาณพลังยุทธ  เขามีประวัติแบบไหนกัน? มีแต่พวกประเภทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีตระกูลซึ่งมีอิทธิพลหนุนหลังเท่านั้น
หลังจากความยากลำบากเปลี่ยนไปพลิกมาจนสำเร็จได้ เซรีนถามอย่างร้อนรน  “รีบๆ เอาอาวุธกลมาให้ข้าดูได้แล้ว  พวกเจ้าทั้งสองคนไปพบชุดเครื่องกลที่ไหนเหรอ?”
 “ชุดเครื่องกลเหรอ?”  ถังเทียนส่ายศีรษะ “เรามีมากกว่าชุดหนึ่งเสียอีก”
 “อย่าบอกข้านะว่ามีสองชุด?”  นัยน์ตาของเซรีนเป็นประกายและสะดุ้งทันที
 “ไม่” ถังเทียนส่ายศีรษะ
 “โอว, พระเจ้า! เจ้าไปพบมาสามชุดแล้ว..” เซรีนขึ้นเสียงสูง เธอตื่นเต้นจนแทบเป็นลม
ถังเทียนยังคงส่ายหน้าต่อไป เขายิ้มจนเห็นฟัน “ก็ราวๆ คลังอาวุธกาองทัพหนึ่ง”
สีหน้าของเซรีนชะงักค้าง....
 

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ตอนนี้มันทำให้คืนนี้ผมนอนไม่หลับ....T_T

JetKonG กล่าวว่า...

ค้างเลย5555

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ติดตามมานาน แปลสนุก แปลเร็ว ขอบคุณมาก...ก ๆ ครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น