วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 84 คู่แค้นหนทางแคบ



ตอนที่  84  คู่แค้นหนทางแคบ
เมื่อเซรีนรู้ว่าเป็นอาวุธเครื่องกลของคลังอาวุธทั้งหมด ถึงกับหมดความรู้สึกไปชั่วขณะ  แต่เมื่อเธอรู้สึกตัวในที่สุด อารมณ์ความรู้สึกดูเหมือนจะถูกอาวุธเครื่องกลดึงดูดไปหมดแล้ว  และไม่ว่าถังเทียนจะพูดอะไร เหมือนกับว่าเธอไม่ได้ยินสักอย่าง ปากของเธอพึมพำๆ เหมือนกับคนไร้สติ

 “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า แม้แต่ผู้หญิงคนนี้ที่ปกติจะใจเย็นสงบ มีความรู้เรื่องจักรกล  เธอจะหมกมุ่นจริงๆ ขนาดนี้”  ถังเทียนเหลือบมองมาทางปิง “นึกไม่ถึงเลยว่า ลุงก็เจ้าเล่ห์ไม่เบา”
 “เออ, ข้าเรียนรู้มาจากคนอื่น” ปิงนึกถึงเมื่อครั้งที่เขาเพิ่งเข้าร่วมกับกองทัพ  หัวใจของเขามีประกายอบอุ่นวูบหนึ่ง  เพราะเป็นวิธีที่เขาเคยถูกโกงเมื่อตอนเข้ากองทัพครั้งแรกนานมาแล้ว
 “ดูเหมือนคนรอบๆ ลุงในอดีตจะไม่ใช่คนดีเลยนะ” ถังเทียนแสยะยิ้ม
 “ถูกต้องที่สุด” ปิงทำท่าขบกราม “ตัวบัดซบทั้งกลุ่มรู้จักแต่วิธีกินและดื่มและเล่นสนุก  ใครจะสนเรื่องงานที่เหมาะสมเล่า เจ้าพวกตัวแสบเจ้าเล่ห์นั้นอาจขายเจ้าได้ทุกเวลา เจ้าพวกงี่เง่าพวกนั้นใช้เวลาทั้งคืนปิ้งเนื้อจนกระทั่งควันฟุ้งไปทั้งกองทัพ”
ถังเทียนฟังนัยน์ตาเบิกกว้าง และด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ “ลุง! ที่ลุงเอาตัวรอดผ่านสภาพที่เลวร้ายและน่ารังเกียจเช่นนั้นมาได้ นับว่าไม่ง่ายเลย”
 “ฮึ่ม..” ปิงคำราม  “เอาของทิ้งไว้ให้เธอ และเราไปกันได้แล้ว”
 “ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ถ้าปล่อยของไว้ที่นี่ตามลำพัง?”  ถังเทียนลังเล
 “สบายใจได้  สถานที่นี้ปลอดภัย”  เมื่อเห็นว่าเซรีนมีแนวโน้มรักชอบอาวุธเครื่องกลมากแค่ไหน ปิงกล่าวว่า “อาการโรคทางจิตชนิดนี้ ทันทีที่พวกเขาได้สัมผัสของที่พวกเขาชอบ  ตาของพวกเขาจะไม่มองอะไรอย่างอื่น”
 “โอว” ถังเทียนเห็นด้วย หลังจากนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นเต้น  “ลุง!  การปรับปรุงที่เธอพูดถึงนั้น จะทำได้สำเร็จหรือเปล่า?”
 “ข้าเองไม่มั่นใจนัก” ปิงส่ายหน้าอย่างตรงไปตรงมา  “ของอย่างนี้ ใครจะรับประกันความสำเร็จได้?  แต่เธอมีพรสวรรค์และความทุ่มเทมากมาย และเราต้องการช่างเครื่องกลผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง นั่นก็น่าลองดู”
 “อย่างนั้นเราจะเห็นในอีกไม่กี่วัน” ถังเทียนกล่าว “เราจะกลับไปทดสอบผลของอุปกรณ์ทดสอบพลังวิญญาณว่าเป็นเช่นไรด้วย”
ถังเทียนมีสีหน้าพึงพอใจตามปกติ  นอกจากอุปกรณ์ฝึกพลังวิญญาณแล้ว เขานำอาวุธจักรกลมาด้วยห้าชุด
พวกท่านมีขุนพลวิญญาณที่ทรงพลัง  ข้ามีอาวุธจักรกลที่ทรงพลังเหมือนกัน
พวกเจ้ามีสมบัติดวงดาวที่ทรงพลัง  ข้าก็มีอาวุธจักรกลที่ทรงพลัง
ถังเทียนปรารถนาว่าเขาสามารถหยุดใครสักคน และท้าสู้อย่างมีความสุขสักครา
ปิงไม่ได้ห้ามเขา  ในสายตาเขา ถังเทียนตอนนี้ มีทัศนคติอย่างทหารใหม่  เพื่อรับมือกับทหารใหม่อย่างนี้เขามีประสบการณ์มากมาย  และเมื่อถึงช่วงเวลากดดันหรือตำหนิว่ากล่าว  ไม่เพียงแต่ทหารใหม่จะไม่เข้าใจ แต่จะก่อให้เกิดสภาพจิตคัดค้านกระด้างกระเดื่องในพวกทหารใหม่ได้  วิธีที่ดีที่สุดก็คือปล่อยถังเทียนเจอของแข็งในช่วงสู้จริงด้วยตนเอง
บุรุษหนุ่มมักจะห้าวเสมอ
ปิงเริ่มเตรียมตัวในใจแล้ว ที่จะหาคู่ต่อสู้ที่โดดเด่นและเหมาะสมให้ถังเทียน  เป็นที่น่าเสียดายที่เขาเหลือเพียงผู้เดียวอยู่ในกองทัพ  ถ้าไม่อย่างนั้นพวกบ้าทุกคนที่อยู่ในกองทัพ  เขาสามารถดึงพวกเขาออกมาสู้ ทีละคนๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถสั่งสอนให้บทเรียนถังเทียนด้วยตัวพวกเขาเอง
แต่ปิงเป็นผู้แปลกหน้ามากในโลกยุคปัจจุบัน
แต่ปิงมีไหวพริบและไม่ห้าวไม่มีแม้แต่จะกระพริบตา
ฐานทัพกลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยการทำงานที่แข็งขันหลายอย่าง ทำให้ถังเทียนประหลาดใจ  ภายใต้การควบคุมของถังเทียน  ฐานใต้ดินก็ทำงานได้สมบูรณ์ และทางเข้าได้หายไป  เพื่อป้องกันไม่ให้คนขุดทางเข้าออกมา ฐานทัพที่อยู่ใต้ดินได้เคลื่อนย้ายไปอีกห้าร้อยเมตร เพียงชั่วข้ามคืน ซากปรักพังก็หายไปทันที ปล่อยให้ผู้คนหลายคนประหลาดใจ  ในที่สุดก็ไม่มีใครใส่ใจอย่างรวดเร็ว  แม้ว่าจะมีของหลายอย่างที่ขุดออกมาได้จากซากหักพังก็ตาม แต่ก็เป็นของที่ไม่มีค่ามาก  เมืองสามวิญญาณเป็นเมืองค่อนข้างอ้างว้างในภูมิภาควิญญาณ  มียอดฝีมืออยู่น้อยมากและก็ถูกลืมไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาที่เมืองสามวิญญาณ ทั้งสองเตรียมจะกลับไปฝึกที่ค่ายฝึกทหารใหม่  แม้ว่าจะเป็นส่วนของภูมิภาควิญญาณ  แต่กระแสเวลาก็สัมพันธ์กับโลกด้านนอก  ดังนั้นเวลาในค่ายทหารใหม่จึงมีค่ามาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังเทียนผู้รู้สึกว่า เขามีเวลาไม่พอ และไม่อาจเสียเวลาได้อีกต่อไป
ทันใดนั้น ตาของถังเทียนเป็นประกาย เพราะเหลือบไปเห็นร่างๆ หนึ่ง ฝีเท้าของเขาชะงักทันที
เมื่อสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนสีหน้าของถังเทียน  ปิงมองตามสายตาเขาและหัวเราะ
ข่งโหย่วหลิน
เป็นข่งโหย่วหลินจริงๆ
ถังเทียนหัวเราะที่เขาเที่ยวไปทั่วโดยไม่ดูปลายทาง แต่กลับมีคู่อริหนทางคับแคบจนได้  ถังเทียนไม่มีความประทับใจที่ดีกับข่งโหย่วหลิน  แต่เขาไม่คาดว่า จะเป็นข่งโหย่วหลินจริงๆ ที่ส่งเขาไปสุสานใหญ่ของค่ายทหารชั้นนอก  ข่งโหย่วหลินทะนงตัวและไม่จริงใจ  แต่ถังเทียนก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย  คนอย่างเขามาทำอะไรในที่นั้น?  แม้ว่าจะมีการติดต่ออะไรที่ละเอียดอ่อน  แต่ความจริงก็คือเขาเตะโด่งเรามาที่แห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นความบาดหมางหรือความซาบซึ้งก็ตาม  จะต้องคลี่คลายได้ด้วยหมัดของเขาเท่านั้น
 “เราจะตามไป”  ถังเทียนลดเสียง  จากนั้นเขาย่อตัวลงและสะกดรอยตามข่งโหย่วหลินแต่ไกล
ปิงตามถังเทียนโดยไม่พูดสักคำ ใจของเขากำลังคิดว่า ข่งโหย่วหลินนับได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ดี พลังของเขานับว่าไม่เลว และปล่อยให้ถังเทียนได้วิ่งชนของแข็งสักครา  ยิ่งเขาเดินไกลออกไปก็ยิ่งเป็นเส้นทางผิดผลาด ทำไมไม่ปล่อยให้ถังเทียนได้คลุกฝุ่นสักครา
ด้วยความคิดเช่นนั้น ปิงไม่ขัดขวางเขา แต่จะคอยแนะนำเขาอยู่ด้านนอก
 “สายตาของเจ้าไม่ควรจะไปจับจ้องฝ่ายตรงข้าม  ถ้าไม่อย่างนั้นจะดึงดูดความสนใจของคนอื่นได้ง่าย เคล็ดในการสะกดรอยตามคนก็คือต้องเชี่ยวชาญจากการมองด้วยหางตาเจ้าให้ได้  สายตาเจ้าก็ไม่ควรจับจ้องอยู่ที่ศัตรูอย่างเดียว  แต่ก็ไม่ควรมองห่างเกินไปด้วย
ถังเทียนเรียนรู้อย่างรวดเร็ว เขาตามดูจากระยะไกล  ข่งโหย่วหลินคาดไม่ถึงว่าในเมืองสามวิญญาณ จะมีคนติดตามเขา
ในพริบตา ข่งโหย่วหลินก็เข้าไปในบ้านที่มีลานบ้านหลังหนึ่ง
บ้านตรกูลหลิน
ถังเทียนเดินวนอยู่รอบนอกกำแพงอยู่หนึ่งรอบ  บ้านหลินไม่คิดว่าจะมีคนกล้าพอบุกเข้ามา เนื่องจากไม่มียามเฝ้ามองอยู่ข้างนอกแม้แต่คนเดียว
ไม่มียามดูจากที่สูง, ไม่มียามเดินตรวจ ไม่มียามซุ่มดูและไม่มีเครื่องกลไก ไม่มีการวางมาตรการป้องกันอะไรเลย...
สายตามของปิงมองขึ้นและลงชั่วขณะ ถ้าเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของคนพวกนั้น  ถังเทียนคงถูกจับเข้าคุกมืดและปล่อยให้อดตายแน่
เอาละ, ใจเย็นไว้... เราเป็นครูฝึกเลือดเหล็กมาหลายปีแล้ว  เราไม่เคยพลาดท่าจากวิชาชีพเลย....
 “สถานที่ดีๆ อย่างนี้เข้ามาจากไหนกันนี่?” ถังเทียนหันหน้าไปถามปิงเบาๆ
ที่นี้...มีความแตกต่างยังไง...
ปิงข่มใจตนเองไม่ให้หงุดหงิด จนจิตใจสงบ “จากที่เห็นตรงนี้ก็ดูดี”
ถังเทียนได้ยินและไม่พูดอะไรต่อ  เขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้เหมือนเสือดาว  ใบไม้บนต้นไม้นี้หนาแน่นเป็นพิเศษ ถังเทียนพรางตัวเองอยู่ภายในใบไม้ เป็นเรื่องยากที่จะระบุหาตัวเขาได้  แม้แต่ถังเทียนก็รู้สึกว่าการป้องกันในบ้านตระกูลหลินนั้นอ่อนมาก  ทำไมไม่มีใครตัดต้นไม้ที่ล้อมรอบรั้วตระกูลออกไป? หรือว่าพวกเขาพยายามจะให้โอกาสคนได้เข้าไป?
ภายในรั้วมีชั้นกระเบื้องกองพะเนินและอาคารสูงกินพื้นที่หลายไร่  ถังเทียนไม่เคยคิดว่าภายในรั้วจะมีอาคารมากมายเหมือนกับเป็นเมืองน้อยเมืองหนึ่ง
ถังเทียนตะลึง ตระกูลหลินมีประวัติความเป็นมาเช่นไร?
ขณะที่ถังเทียนเตรียมจะโดดลงจากต้นไม้  ปิงตะโกนห้ามเขาโดยเร็ว “ระวัง!  นี่คือกับดัก”
 “กับดัก?” ถังเทียนสั่น
ปิงกระซิบ “ฮืม.. แผนดูเหมือนโง่มาก  ข้าเกลียดการวางแผนมากที่สุด  การป้องกันทั้งหมดน่าจะเป็นการให้เกียรติ เพื่อที่ว่าศัตรูจะได้พบว่ายากที่จะเดินหน้าผ่านไปได้  นับด้วยจำนวนฝีเท้าของเจ้า  ก้าวไปทางซ้ายสิบเก้าก้าวและเข้าไปจากตรงนั้น”
ถังเทียนไม่ชักช้า  เขากระโดดและทำตามคำแนะนำของปิงอย่างไม่ลังเลและพอพลิกตัวได้เขาก็พบว่าอยู่ในสถานที่ๆ ก่อด้วยอิฐเขียว
 “เฮ้, ลุง, ลุงมองออกได้ยังไงนี่?” ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
 “มีความเคลื่อนไหวจากพลังวิญญาณตรงนั้น  แม้ว่าจะอ่อน แต่ถ้าเจ้าวิเคราะห์อย่างระมัดระวัง เจ้าจะสามารถรู้สึกได้” ปิงอธิบาย “ความจริงข้าไม่ถนัดเรื่องติดตั้งกับดัก  ปกติ ช่างกลไกจะถนัดเรื่องนี้ ก็อย่างที่บอกไว้   ความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดมากมายไม่พ้นไปจากจุดเริ่มต้นได้ มีกับดักอยู่เพียงไม่กี่รูปแบบ  วิธีหลักตามปกติก็คือใช้แก่นพลังวิญญาณและการ์ดวิญญาณช่วย”
ถังเทียนหน้าแดงด้วยความอาย “แต่ข้าไม่รู้สึกอะไรเลย”
 “ก็เจ้ายังเป็นมือใหม่”  ปิงพูดตรงๆ
ถังเทียนไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด เขารู้ว่าเขายังเป็นมือใหม่
ขณะที่เขาพลิกตัวข้ามรั้ว  ถังเทียนลอบมาอยู่บนพื้นโดยไม่มีเสียง  เขาก้าวไปข้างหน้าและแฝงตัวอยู่ในความมืด ทันใดนั้น เขาวิ่งไปข้างหน้าโดยขายังแนบกับกำแพง
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น
เทียบกับประสบการณ์ของเขาทั้งหมด  ภารกิจนี้ไกลเกินกว่าที่เขาคาดไว้เสียอีก
ปิงจะแจ้งเขาให้ทราบว่าควรจะเคลื่อนไหวอย่างไร  มาตรฐานของศัตรูคนนี้สูงมาก ภายใต้คำแนะนำของปิง  ถังเทียนยังสามารถสังเกตเห็นความคงอยู่ของยามและหวีดเตือนภัยในความมืด
ถังเทียนไม่กังวล  ตรงกันข้าม อันตรายที่รายล้อมอยู่รอบๆ ยิ่งทำให้เขามีสมาธิมากขึ้น
การกระทำและมาตรฐานของเขาฝืนขีดจำกัดตน
ปิงนั้นร่ำรวยประสบการณ์และประสาทแหลมคม อีกครั้งที่ถังเทียนเห็นข่งโหย่วหลิน   เขารวบรวมพลังทั้งหมดขณะที่เตรียมเคลื่อนเข้าหาเขา  จู่ๆ ปิงก็พูดว่า “เจ้าตั้งใจจะใช้ชุดเสือเขี้ยวดาบไม่ใช่เหรอ?”
 “มันใหญ่มาก  คนจะเห็นได้ไม่ใช่หรือ?”  ถังเทียนสับสน
ปิงดุใส่ “อย่าใช้สายตาเจ้ามาประเมิน ตอนนี้เจ้าจะถูกพบตัวได้ง่ายกว่า วิชาตัวเบาของเจ้ายังห่วยอยู่มาก และแต่ละก้าวๆ เจ้าก็ทำให้เกิดเสียง ขณะที่ชุดเสือเขี้ยวดาบถึงแม้จะใหญ่ก็ตาม แต่มันสามารถเสริมวิชาตัวเบาของเจ้า  ฉะนั้นเจ้าจะไม่ถูกตรวจพบได้ง่าย  ยิ่งกว่านั้นชุดเสือเขี้ยวดาบได้รับการแก้ไขจากช่างกลมืออาชีพไปแล้ว  จึงเหมาะใช้โจมตีที่สุด และด้วยการจู่โจมฉับพลันทันที ก็หมายความว่ามันสามารถปรากฏตัวอยู่รอบๆ ศัตรูของเจ้าก็ได้”
ถังเทียนดีใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ปิงพูด  จากนั้นเขารีบไปที่มุมลับตาและเรียกชุดเสือเขี้ยวดาบออกมา
เกราะเสือเขี้ยวดาบสวมใส่ง่าย ถังเทียนมีประสบการณ์อยู่แล้วจึงสวมได้อย่างรวดเร็ว
ใบหน้าที่เหมือนภาพจากไพ่ของปิงบิดเบี้ยว เขายังพูดไม่ทันจบ  ชุดเสือเขี้ยวดาบเคยใช้จู่โจมสายฟ้าแล่บมาหลายครั้งแล้ว  แต่ยากจะเคลื่อนไหวตามลำพังได้  นอกจากนี้คนที่สามารถควบคุมมันได้ตามลำพังและใช้จู่โจมฉับพลันต้องเป็นยอดฝีมือจริงๆ
เจ้าหนูถัง, เจ้าจะพลาดท่าเพราะความคิดดันทุรังจนก่อให้เกิดความผิดพลาดกับตัวเองนี่แหละ
ถังเทียนไม่รู้ความตั้งใจของปิง  เขาสวมเกราะเสือเขี้ยวดาบ ขณะที่ร่างของเขาสัมผัสผิวโลหะบรอนซ์ที่เยือกเย็น  เขารู้สึกถึงบางอย่างไหลเวียนลึกในหัวใจ มันเป็นเหมือนลาวาร้อนลุกโชนที่ไหลผ่านหัวใจของเขา
ความรู้สึกนี้ดีเหลือเกิน
ถังเทียนตื่นเต้นเล็กน้อย มันน่าทึ่งที่ได้ควบคุมเจ้าสิ่งใหญ่นี้เข้าต่อสู้
แกรก แครก
เสือเขี้ยวดาบที่ดูอำมหิตเคลื่อนไหวแขนและหน้าผากก่อนจะหยุดอย่างฉับพลัน ภาพลักษณ์ของเสือที่ดูเคร่งขรึมจริงจังทำให้มันเต็มไปด้วยรังสีสังหาร
ก็เป็นเหมือนกับยุคโบราณ เมื่อมันตื่นขึ้น มันจะเข้าสู่มุมมืดเร้นลับและเป็นพื้นที่ล่าเหยื่อของมัน
  *** ข่งโหย่วหลิน กับ ข่งต้าเริ่น (ท่านข่ง) คนเดียวกันนะครับ ****

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

aloha777 กล่าวว่า...

ท่านข่ง เดี๋ยวจะโดน แต่ว่า เจ้าตัวรู้มั้งมั้ยนั่น ว่าพี่ถังเราโดนจับมาอยุ่ที่เลวร้ายสุด ฮ่าๆ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น