วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 94 ห้อง 18 มนุษย์ทองแดง

ตอนที่  94  ห้อง 18 มนุษย์ทองแดง

เมื่อถังเทียนเห็นจิ่งหาวเดินเข้ามาหา  เขาหยุดฝึกทันที

จิ่งหาวมีท่าทางละอาย  “ข้าทำตัวโง่ไปหน่อย  น้องถังหนักแน่นจริงๆ  จิ่งหาวประทับใจยิ่งนัก”
ความจริงเขาหลับไปถึงสองวันสองคืนเต็มๆ  ในความทรงจำของเขา  เขาไม่เคยหลับยาวขนาดนั้นมาก่อน  เมื่อนึกถึงการซ้อมก่อนหน้านั้น  ทำให้หัวเขารู้สึกมึนชา  แต่หลังจากสำรวจตรวจดูตนเองแล้ว  เขาประหลาดใจเมื่อพบว่าพลังปราณเที่ยงแท้ของเขาก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด  และไม่ใช่เพียงเท่านั้น  เพลงกระบี่ของเขามีความรุดหน้าด้วยเช่นกัน
นี่ทำให้เขาทึ่งและมีความสุขอย่างมาก  สภาพของเขาในปัจจุบันนี้  จะให้ฝีมือก้าวหน้าได้แต่ละนิด ช่างยากเย็นแสนเข็ญ และจำเป็นต้องใช้การฝึกฝนอย่างหนักมากมายจึงจะเห็นความก้าวหน้าได้ชัด
เทียบกับความก้าวหน้าที่เกิดจากความทรมานต้องยอมอดทนซ้อมมือกับถังเทียน ดูเหมือนจะให้ผลที่ไม่เลวเลย  และเมื่อจิ่งหาวมาถึง ก็เห็นได้ว่าถังเทียนยังคงฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ตอนแรกเขารู้สึกละอาย  มิน่าเล่าถังเทียนถึงได้ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด แค่เพียงภาพการฝึกหนักตามลำพังนี้ก็นับว่าน่าปลาบปลื้มแล้ว
 “พี่จิ่งหาว, ท่านตื่นแล้ว”  ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย
ไม่ทราบว่าเป็นเหตุผลใด เมื่อเห็นสีหน้าถังเทียน จิ่งหาวรู้สึกตึงหน้าขึ้นมา  ความรู้สึกนี้ดูเหมือนมิอาจควบคุมได้  เขาปัดพื้นรอบๆ  “น้องถังมานั่งอยู่ที่นี่เอง หลังจากที่เราซ้อมมือชุดสุดท้าย เจ้าเพิ่งซื้อการ์ดทองมางั้นหรือ?”
 “ใช่! ข้าซื้อรวดเดียวสี่ใบ!  ถังเทียนพอใจ “ข้าใช้คะแนนแลกมาเพียงแปดร้อยคะแนน”
 “ใช้คะแนนไปเพียงแปดร้อยคะแนน...”  สีหน้าจิ่งหาวชะงักค้าง  เขาพึมพำ  “อะไรกัน? เจ้าใช้คะแนนไปถึงแปดร้อยคะแนนเชียวหรือนี่?”
 “ใช่แล้ว! สองร้อยคะแนนต่อการ์ดหนึ่งใบ”  ถังเทียนดีใจตื่นเต้น “ข้าก็แค่สั่ง และทางเจ้าของร้านก็จัดส่งมาให้ข้าทันที คิดๆ ดูแล้วมันส่งมาได้รวดเร็วจริงๆ”
 “แน่นอนว่าพวกมันถูกจัดส่งมาได้ไว”  จิ่งหาวมองดูถังเทียน ทำท่าจะเอ่ยปากอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะพูดว่า “เมื่อเจ้าซื้อการ์ดเหล่านั้น เจ้าน่าจะปรึกษาข้าสักหน่อย”
ถังเทียนยิ้มค้าง “เขาโกงข้าเหรอ?”
 “เขาไม่ได้โกงเจ้า  ราคาสมเหตุผลดีแล้ว  ก็แค่ว่าหลายๆ คนไม่นิยมซื้อของเหล่านี้”  จิ่งหาวอธิบาย  “ตามปกติ เมื่อทำการค้าสำเร็จ  จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสี่สัปดาห์เพื่อส่งของถึงเจ้า  ทางร้านต้องกลัวว่าเจ้าอาจเสียใจกับการตัดสินใจ ดังนั้นพวกเขาต้องใช้คะแนนเพื่อจัดส่งของมาให้ถึง  นอกจากเจ้าแล้ว คงไม่มีคนอื่นซื้อกัน”
 “ใช้คะแนนเพื่อจัดส่ง?”  ถังเทียนไม่เข้าใจ
 “ถูกแล้ว, เป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย  ความจริงข้าก็ไม่แน่ใจนักหรอก  สหายเก่าแก่ในสมาพันธ์ชาวยุทธนึกคิดวิธีส่งของที่ทำได้รวดเร็ว  แต่ราคาก็ต้องสูงหน่อย  เจ้าก็รู้ การ์ดวิญญาณใบละสองร้อยคะแนน เฉพาะค่าส่งอย่างเดียว การ์ดวิญญาณหนึ่งใบ คิดค่าส่งห้าสิบคะแนน”  จิ่งหาวกล่าว
ถังเทียนอุทาน  “อย่างนั้นเขาไม่ขาดทุนแย่หรือ?”
 “ทำไมจะต้องขาดทุนด้วยเล่า?”  จิ่งหาวทนอธิบาย  “การ์ดวิญญาณชั้นทองระดับสี่  ตามปกติจะไม่มีผู้ใดซื้อกัน  ทำไมน่ะหรือ?  ไม่ใช่ว่าของเหล่านั้นไม่มีค่า  แต่เจ้าจะไม่อยู่ในระดับที่สี่นานนักหรอก ก็เหมือนน้องถังนั่นแหละ  ด้วยความรุดหน้าของเจ้าระดับนี้  เจ้าจะขึ้นเป็นนักสู้ระดับห้าในไม่ช้านี้  จากนั้น เจ้าก็จำเป็นต้องเริ่มฝึกวิทยายุทธในระดับห้า  เจ้าอาจรู้สึกว่า วิทยายุทธระดับสี่น่ากลัวในตอนนี้  แต่เมื่อเจ้าเรียนรู้วิทยายุทธระดับห้า  เจ้าจะตระหนักว่าวิทยายุทธระดับห้าน่ากลัวยิ่งกว่า”
ถังเทียนตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ “ไม่สำคัญ, ไม่สำคัญเลย  ข้าคิดจะยกระดับไปเป็นขั้นๆ ฝึกฝนให้สมบูรณ์ในแต่ละระดับ จะเป็นประโยชน์มากกว่าในระยะยาว ฮืม.. ก็เหมือนกับวิธีที่ข้าฝึกวิทยายุทธขั้นพื้นฐาน  หลายคนบอกว่าการฝึกเหล่านั้นไร้ประโยชน์  แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง”
จิ่งหาวเห็นว่าถังเทียนไม่ติดใจเรื่องนี้ จึงหยุดโน้มน้าวเขา  เขาทราบดีว่าทุกคนมีวิธีการและแนวทางการฝึกฝนที่แตกต่างกัน  ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ในการโต้เถียงต่อไป  นอกจากนี้ คนที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นประเภทเด็กหัวแข็ง
 “จิตวิญญาณพลังยุทธของน้องถังเข้าสู่ระดับเงินแล้ว  ดังนั้นระบบการทำงานหลายอย่างในป้ายเกียรติยศจึงถูกเปิดออก  น้องถังอย่าดูแคลนป้ายเกียรติยศเชียว  มันสามารถทำให้พวกสหายเก่าแก่เหล่านั้นใช้เป็นฐานแสวงหาสมบัติได้  จิตวิญญาณพลังยุทธของผู้ใช้ที่แข็งแกร่งจะยิ่งทำให้มันทำงานได้ดีขึ้น  น่าเสียดายจิตวิญญาณพลังยุทธของข้าอยู่ในระดับบรอนซ์  ระบบในเครื่องหลายอย่างยังไม่เปิดทำงานให้ข้า  แต่น้องถังสามารถค้นหาดูได้ด้วยตนเอง”
 “มิน่าเล่า ข้าพบว่าป้ายเกียรติยศชักจะน่ากลัวมากกว่าแต่ก่อน” ถังเทียนแสดงความเห็น
จิ่งหาวหัวเราะอย่างร่าเริง “มาเถอะ, ดูเหมือนก่อนนั้นน้องถังจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่  มาซ้อมมือกันอีกครั้งเถอะ”
 “เอาจริงๆ เหรอ?”  ตาถังเทียนเบิกกว้าง  หน้าของเขาแสดงความประหลาดใจ  เขาถูมืออย่างตื่นเต้น  “สบายใจได้ อย่าห่วงไปเลย ข้าจะไม่ใช้แรงมากนัก”
มุมตาของจิ่งหาวกระตุก และเขาพึมพำเงียบๆ “เห็นได้ชัดว่าข้าต่างหากที่ต้องไม่ใช้พลังให้มากจนเกินไป, ได้โปรด..”
แต่เมื่อจำได้ว่า ดูเหมือนว่าจะเป็นเขาที่เป็นฝ่ายขอให้หยุดซ้อมมือเมื่อครั้งก่อน  จิ่งหาวปิดปากด้วยความเข้าใจดี
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้ปิดกั้นความรู้สึกที่ไม่สบายใจไว้ในใจส่วนลึก  เมื่อไม่มีอะไรกังวลต่อไป  เขาจึงชักกระบี่ออกมา
ทั้งสองฝ่ายคำรามพร้อมกัน และโรมรันพันตูกันอีกครั้ง
ศึกครั้งนี้ใช้เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนอีกครั้งหนึ่ง
แต่ครั้งนี้จิ่งหาวทนได้มากกว่าเดิมเล็กน้อย  นานเกือบสี่ชั่วโมงเมื่อเทียบกับครั้งก่อน  แต่ในไม่ช้าเขาก็หมดแรง และกองลงกับพื้นเหมือนดินเหลวอีกครั้ง โดยไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับนิ้วได้   ถังเทียนพยายามพูดถากถางอยู่ข้างๆ จิ่งหาวอยู่ถึงครึ่งค่อนวัน  แต่เมื่อตระหนักได้ว่าจิ่งหาวไม่เหลือพลังพอฝึกซ้อมแล้ว  เขาจึงได้แต่ไปฝึกฝนด้วยเองที่ด้านข้างอย่างไม่พอใจ
ครั้งนี้ ระยะเวลาที่จิ่งหาวหลับสนิทเพื่อฟื้นฟูร่างกายสั้นลงกว่าแต่ก่อน  เขาตื่นขึ้นหลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน
ตอนนี้ ความรู้สึกของจิ่งหาวชัดเจนมากขึ้น กระบี่ของเขาเคลื่อนไหวได้แหลมคมมากขึ้น ความรู้สึกเสียดแทงก่อนหน้านั้นแทบหายไปหมดแล้ว  แต่ละท่วงท่าที่เขาใช้ออกเหมือนกับว่าได้รับการขัดเกลา ชัดเจนไหลลื่นเหมือนสายน้ำไม่มีอะไรติดขัด
โดยไม่ทันรู้ตัว วิทยายุทธของเขายกระดับเข้าสู่ขอบเขตใหม่ทั้งหมด
จิ่งหาวสนับสนุนให้เริ่มการต่อสู้ทันที
แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน จิ่งหาวก็หมดแรงพับอีกครา
หลังจากนั่งโคจรปราณเสร็จแล้ว  ถังเทียนสดชื่นขึ้น แต่นี่อยู่ในช่วงรอบเวลาฝึกหนัก  ดังนั้นเขาจึงเข้าประตูดาวกางเขนเพื่อเริ่มต้นฝึก
สิ่งที่ตามมาหลังจากวิทยายุทธก้าวหน้า ก็คือการฝึกฝนเบื้องหลังประตูดาวกางเขนก็เริ่มเปลี่ยนไป  ถังเทียนใช้เวลามากกับการฝึกฝนในค่ายทหารใหม่ของลุงปิงและไม่เพียงแต่หลังประตูดาวกางเขนเท่านั้น   ยังตามลุงปิงไปยังที่ๆ คนที่ไม่มีคุณสมบัติเข้ากองทัพใช้ฝึก
ตอนนี้การฝึกหนักของถังเทียนย้ายมาที่ค่ายฝึกทหารใหม่แล้ว  และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น  สำหรับการฝึกหนักวิทยายุทธในตอนนี้ผ่านไปแล้ว
ความสามารถในวิชาการต่อสู้กลายเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด  ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ถังเทียนไม่คุ้นเคย  แต่เขาไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่าวิธีการฝึกใหม่ๆ เหล่านี้มีประสิทธิภาพ  ตัวอย่างเช่นการฝึกรับการทุบตี ทำให้ถังเทียนเรียนรู้วิธีดึงสัญชาตญาณออกมาใช้
 “วันนี้ยังต้องฝึกรับการทุบตีหรือไม่?”  ถังเทียนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณพร้อมต่อสู้
 “ไม่, ใช้วิธีฝึกรับการทุบตีก็ไม่ได้ยกระดับสัญชาตญาณของเจ้าอีกต่อไปแล้ว”  ปิงส่ายศีรษะ และเขาชี้ไปยังดาวอีกดวง
ถังเทียนรู้สึกว่ารอบๆ ตัวเขาเปลี่ยนไป และเขามาอยู่ในห้องฝึกวิทยายุทธที่สร้างจากกระเบื้องเขียว
ห้องฝึกวิทยายุทธนี้ไม่ใหญ่  ยาวราวๆ สิบห้าเมตร กว้างห้าถึงหกเมตร  แต่สายตาถังเทียนจับจ้องหุ่นบรอนซ์ที่อยู่ข้างหน้า  หุ่นบรอนซ์เหล่านี้สูงพอๆ กับถังเทียน  แต่ละตัวตั้งอยู่ในท่าทางที่แตกต่างกัน  บางรูปก็ดูดี  บางรูปก็ดุร้าย  บางรูปก็เงียบๆ  จัดเป็นแถวสามแถว
หนึ่ง สอง สาม สี่......
ถังเทียนนับได้ทั้งหมดสิบแปดตัว
 “นี่ลุง, เจ้าพวกนี้คืออะไร?” ถังเทียนถามด้วยความสงสัย
 “สิบแปดมนุษย์ทองแดง” ปิงถอนหายใจเบาๆ  “นี่คือจักรกลระดับชิ้นโบว์แดงหมายเลขสี่ของกองทัพดาวกางเขน”
 “ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง?” ถังเทียนกระตือรือร้น “พวกมันน่ากลัวนักเหรอ?”
 “ถ้าในสายตาของข้า มันก็ธรรมดามาก  แต่ถ้าเป็นพวกทหารใหม่เมื่อให้เลือกหลักสูตรที่น่ารังเกียจมากที่สุดสามหลักสูตร ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงจะต้องติดอยู่ในรายชื่อนั้น” เสียงของปิงฟังดูเศร้าใจพิกล
 “พวกเขาใช้ฝึกอะไร? ใช้ฝึกสัญชาตญาณด้วยเหรอ?”  ถังเทียนมองปิง  แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในค่ายฝึกทหารใหม่มานาน แต่เขาก็รู้รูปแบบการฝึกทหารของกองทัพดาวกางเขนใต้  ห้องฝึกแต่ละห้องในค่ายจะต้องมีวัตถุประสงค์เฉพาะตัว
 “ไม่, นี่เหมาะกับการฝึกวิชาภูษาหมอง”
คำอธิบายของปิงทำให้ถังเทียนประหลาดใจ เขาอดที่จะถามไม่ได้ “วิชาภูษาหมอง? ลุง, แน่ใจนะ?”
ในการ์ดทองสี่ใบ วิชาภูษาหมองบางทีอาจเป็นวิชาที่สำคัญที่สุดของถังเทียน  เพราะวิชาภูษาหมองต้องใช้ตอนที่ร่างกายประชิดศัตรู  แต่ในการฝึกซ้อมจริง ถังเทียนรู้ว่ายากขนาดไหน  ยกตัวอย่างเช่นการซ้อมกับจิ่งหาว ถังเทียนไม่อาจแตะต้องแม้แต่ชายผ้าของจิ่งหาวได้เลย  วิชากระบี่ของจิ่งหาวยอดเยี่ยมนัก ม่านกระบี่ที่เขาสร้างขึ้นมาทำให้ถังเทียนทำอะไรไม่ได้
ระหว่างซ้อมฝีมือกับจิ่งหาว วิชาที่ถังเทียนใช้ได้น้อยที่สุดก็คือวิชาภูษาหมอง
ดังนั้น เมื่อถังเทียนได้ยินว่าปิงหาที่ให้เขาฝึกวิชาภูษาหมองเป็นพิเศษ เขาจึงผงะตกใจ
 “อืม... วิชาภูษาหมองเป็นวิชาที่ค่อนข้างดี”
คำอธิบายของปิงยังไม่อาจทำให้ถังเทียนพอใจ เขาถามต่อ “วิชาภูษาหมองน่ากลัวตรงไหน?”
 “ยืมพลังคู่ต่อสู้ตอบโต้กลับ”  ปิงอธิบาย  “นี่คือส่วนที่น่ากลัวที่สุด  ความจริงมีส่วนหลักๆ อยู่สองส่วนก็คือ หนึ่งประเมินพลังของคู่ต่อสู้ และประการต่อมาคือใช้ประโยชน์จากพลังของฝ่ายตรงข้ามและทั้งสองส่วนต้องสำเร็จในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ระดับความยากสูงมาก”
ถังเทียนส่ายศีรษะ “แต่นี่มีผลเพียงทำให้ทำให้ท่านสามารถเข้าประชิดฝ่ายตรงข้าม ดูวิธีที่พี่จิ่งหาวและข้าซ้อมมือกันสิ ข้าไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้”
ปิงไม่ลดละ “ถ้าพูดถึงความสามารถปัจจุบันของเจ้าตอนนี้ ก็ใช่”
 “ท่าน..” ถังเทียนถลึงตาด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร
 “ใครบอกว่าวิชานี้สามารถใช้ได้เพียงเข้าประชิดตัว?”   น้ำเสียงของปิงเต็มไปด้วยแววเยาะเย้ย “กระบี่ของเขา มีพลังไม่ใช่หรือ? ก็แค่เพราะพลังของเจ้าแตกต่างอย่างมาก ระดับพลังของเจ้ายังไม่ดีเท่าเขา ตามธรรมดาเจ้ายังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้  แต่ไม่ใช่หมายความว่าวิชานี้ไม่ดี”
ถังเทียนคิดตาม ใช่แล้ว นั่นเป็นเรื่องจริง
กระบี่ของพี่จิ่งหาวเป็นของแข็งและพลังของเขาค่อนข้างกระจายตัว
 “เขาอยู่ระดับหก  เจ้าอยู่ระดับสี่  เขาจึงแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก มีเพียงส่วนเดียวที่เจ้าเหนือกว่าเขาก็คือจิตวิญญาณพลังยุทธ  จิตวิญญาณพลังยุทธเงินทำให้เจ้าได้สัญชาตญาณที่แข็งแกร่ง  นั่นเป็นวิธีที่เจ้ารอดอยู่ได้นานมาก ดังนั้น จิตวิญญาณพลังยุทธเงินคือจุดความสามารถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจ้าที่มีอยู่”  ปิงพูดอย่างขึงขัง “ในฐานะทหารคนหนึ่ง เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะใช้จุดแข็งของเจ้าให้เต็มรูปแบบ”
 “ข้าไม่ใช่ทหาร...” ถังเทียนตอบอย่างอ่อนใจ
ปิงหยุด  แต่ในไม่ช้า เขาทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินถังเทียน และพูดต่อ “จิตวิญญาณพลังยุทธเงินจะทำให้เจ้ามีความรู้สึกถึงสิ่งรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งพลังด้วย  นั่นคือเหตุที่เมื่อเจ้าฝึกฝนในตอนนี้ เจ้าถึงมีความก้าวหน้ารวดเร็ว และเพราะเหตุนี้เอง  เจ้าจึงมีความรู้สึกที่ไวต่อพลังปราณเที่ยงแท้”
 “และระหว่างที่ฝึกซ้อม เจ้าจะรู้ได้ถึงพลังของศัตรูมากขึ้น” ปิงเสริมต่อ “ตราบใดที่เจ้ารู้วิธีใช้มัน”
จู่ๆ เขาก็ฉีกยิ้มและพูดเหี้ยมเกรียม “เจ้าหนู, ยินดีต้อนรับสู่ห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดง”
 

6 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียนโดนลุงปิงหลอกอีกแล้ว ไม่เคยทันเขาเลย

Unknown กล่าวว่า...

นิยามของเรื่องนี้ ฝึก ฝึก ฝึก

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น