ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 96 ปืนใหญ่แห่งวิญญาณมืด

 

ตอนที่  96  ปืนใหญ่แห่งวิญญาณมืด

สตรีชุดดำสังเกตดูบริวารของนางด้วยความภูมิใจ นางขมวดคิ้วและหัวเราะเยาะ “พวกเจ้าทุกคนหุบปากดีกว่า!”

เสียงที่เยือกเย็นเหมือนกับดาบน้ำแข็งที่เย็นคมพอพูดออกมา เสียงอื่นก็พากันเงียบหายทันที ทุกคนยืนอยู่เงียบๆ ด้วยความกลัว

 “นี่เป็นเพียงค่ายทหารชั้นนอก มีอะไรต้องภูมิใจด้วย”  เสียงของสตรีชุดดำสงบ “ถ้าเจ้าไม่สามารถรับมือแม้กระทั่งค่ายทหารชั้นนอกของสมาพันธ์ชาวยุทธได้ ฮืมม..”

เสียงแค่นเยือกเย็นเหมือนกับค้อนกระหน่ำลงหัวใจของพวกเขาอย่างเหี้ยมเกรียมทำเอาพวกเขาใจสั่นสะท้าน

 “จิ่งหาวอยู่ข้างล่างนี่”  จากนั้นบุรุษชุดดำที่อยู่ข้างๆ สตรีชุดดำกล่าว “มีรายงานเร็วๆ นี้ว่ายังคงมีเด็กใหม่อีกคนเพิ่งมาถึง  แข็งแรงดีเสียด้วย  แต่ข้อมูลเกี่ยวกับเขามีอย่างจำกัด”

ทันทีที่นางพูดถึงจิ่งหาว สีหน้าทุกคนเคร่งเครียดยิ่งขึ้น

สมาพันธ์ชาวยุทธเป็นศัตรูใหญ่ขององค์การวิญญาณมืดและยอดฝีมือของสมาพันธ์ชาวยุทธทุกคน พวกเขารู้จักดีเหมือนลายเส้นบนฝ่ามือ

จิ่งหาวเป็นหนึ่งยอดฝีมือที่โดดเด่นที่ปรากฏตัวอยู่ในสมาพันธ์ชาวยุทธเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  เป็นยอดฝีมือเชิงกระบี่และอาจารย์ของเขาก็เป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียง จั่วอี้เทียนแห่งสมาพันธ์ชาวยุทธ จิ่งหาวไม่ได้ทำให้อาจารย์เสียหน้าเลย ในระดับอายุอย่างเขากลายเป็นยอดฝีมือระดับบรอนซ์ได้ เขาเป็นคนเก็บตัวไม่แสดงออก จิตใจมุ่งมั่นกับการฝึกวิทยายุทธ ทำให้ไม่มีผู้ใดรู้พลังที่แท้จริงของเขา

สตรีในชุดดำไม่คิดว่าจิ่งหาวจะอยู่ในค่ายสุสานใหญ่  หลังจากสอบสวนศิษย์สังกัดค่ายรอบนอกทำให้พวกเขาทราบว่าจิ่งหาวอยู่ที่นั่น

เมื่อได้ทราบข่าว หัวใจนางสั่นสะท้านด้วยความกลัว และนางเกือบตัดสินใจยกเลิกการจู่โจมค่ายทหารรอบนอก  แต่นางลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง  นางรู้สึกว่าพลังของนางเองมีเพียงพอ จึงตัดสินใจดำเนินการต่อไป

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ นางเตรียมการมานานแล้ว และใช้เวลาและความพยายามนับไม่ถ้วน จึงเป็นธรรมดาที่นางจะไม่ยกเลิก

※※※※※※※※※※

 “เป็นพวกองค์การวิญญาณมืด” จิ่งหาวพูดเบาๆ สีหน้าของเขาเยือกเย็น และเปล่งรังสีฆ่าฟัน

องค์การวิญญาณมืดเป็นเป็นศัตรูไม้เบื่อไม้เมาของสมาพันธ์ชาวยุทธ  และการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นมาตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายก่อตั้งกลุ่มแล้ว

หัวใจของถังเทียนเต้นเป็นจังหวะ  เขาคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมืองซิงฟง  ความจริงเขามีความรู้สึกแย่กับพวกวิญญาณมืดอยู่แล้ว  แต่ครั้งนี้ยิ่งแย่หนักกว่าเดิม

จิ่งหาวหรี่ตามองผ่านรอยแยกพลัง  เขามองดูอย่างระมัดระวังและพบว่าคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเข้ามาจากระยะไกล  เขามองไปทางสตรีสวมหน้ากากอย่างรวดเร็ว สีหน้าเขากลายเป็นเย็นชาทันที

ถังเทียนที่อยู่ด้านข้างเขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงสีหน้าเขาทันทีและรีบถาม “อะไรเหรอ?”

 “เราต้องระวังไว้ นั่นคือตำแหน่งม้าของวิญญาณมืด” จิ่งหาวเตือน หลังจากนั้นเขานึกออกว่าถังเทียนไม่รู้เรื่ององค์การวิญญาณมืดมากนักจึงรีบอธิบาย “การจัดลำดับชั้นขององค์การวิญญาณมืดแตกต่างจากกลุ่มอื่น พวกมันเอาชื่อของหมากรุกมาจัดกลุ่มคนของพวกมัน แบ่งเป็น เบี้ยหรือทหาร, ปีนใหญ่, ม้า, รถศึก, ช้าง, องครักษ์, ขุนทัพ จำนวนที่มากที่สุดและอ่อนแอที่สุดตามมาตรฐานก็คือเบื้ยทหารวิญญาณมืด มาตรฐานของพวกเขาไม่เท่ากัน  กลุ่มปืนใหญ่จะเป็นนักสู้ที่กล้าหาญและมีวิทยายุทธแข็งแกร่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก  ตำแหน่งม้าจะเป็นพวกสืบหาข่าวมากกว่า  พวกเขาจัดการข้อมูลได้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว  เป็นยอดฝีมือที่ถนัดในการไล่ตามระยะไกลและลอบทำร้าย  ตำแหน่งรถศึก มีจำนวนน้อย แต่พวกมันเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง  ถ้าเจ้าพบมันเข้าต้องระวังให้มากไว้  ตำแหน่งช้างเชี่ยวชาญในการค้นคว้าเรื่องสายเลือดและกลไก มีอยู่เป็นจำนวนน้อย  แต่พวกวิญญาณมืดตำแหน่งช้างศึกเวลารบจะเชี่ยวชาญในการวางกลศึกและมีอุบายวิธีการมากมาย  เมื่อได้พบศัตรูเช่นนั้น จำเอาไว้ให้ดี อย่าเสียเวลาคุยมากให้ฆ่าทันที  ส่วนองครักษ์จะเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร  พวกมันเคลื่อนไหวไปรอบๆ ไม่ทิ้งเงาและร่องรอย  พวกมันเป็นตัวยุ่งยากมากและมีฝีมือระดับสูง  ส่วนขุนทัพจะเป็นนักสู้ฝีมือสูงสุด  ก่อนที่จะกลายเป็นสุดยอดฝีมือ  ตราบใดที่เจ้าพบพวกเขา จงอย่าลังเลใจ จงก้มหน้าก้มตาหนีอย่างเดียว”

ทันใดนั้นถังเทียนระลึกถึงผู้อาวุโสอู่แห่งองค์การวิญญาณมืดที่เขาพบที่เมืองซิงฟง บางทีเขาอาจเป็นตำแหน่งช้างของวิญญาณมืดก็เป็นได้

แต่พลังของผู้อาวุโสอู่ทิ้งรอยลึกในตัวเขา

"นั่นแค่พูดถึงเรื่องการจัดระดับชั้นอาชีพของพวกเขา  แต่ถ้าพูดถึงระดับชั้นของพลังแต่ละคนจะแตกต่างกันไป นอกจากพวกวิญญาณมืดระดับทหารเลวแล้ว อย่าดูถูกพวกระดับอื่น การต่อสู้และการแข่งขันในองค์การวิญญาณมืดมีมากยิ่งกว่าองค์กรของเรา และพวกเขายังมีความชำนาญในการต่อสู้มากกว่า  เมื่อพบกับพวกวิญญาณมืด อย่าออมฝีมือ" สีหน้าของจิ่งหาวหนักแน่นและเร่งเร้ามาก

เขาไม่คาดเลยว่าเขาจะต้องมาพบกับสมาชิกของวิญญาณมืดเป็นขบวนซึ่งประกอบด้วยผู้นำตำแหน่งม้าเสียด้วย  เท่าที่ดู เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้วางแผนการเอาไว้  แต่ไม่มีเวลามากพอวางแผนให้รัดกุม  จิ่งหาวเองไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว  แต่เขาห่วงถังเทียน

"ข้าจะรับมือม้าของวิญญาณมืด" จิ่งหาวกล่าว  "เจ้าต้องระวังให้ดี  บุรุษชุดดำที่อยู่ข้างสตรีที่สวมหน้ากาก  เจ้านั่นแข็งแกร่ง มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะมีตำแหน่งเป็นปืนใหญ่  ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นเขาต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งในหมู่เบี้ยทหารของวิญญาณมืด"

"อืม.." ถังเทียนรับคำเบาๆ  ในสายตาเขา มีความกระหายจะต่อสู้เต็มที

สีหน้าของจิ่งหาวสง่างาม เขาชักกระบี่ยาวของตนออกมาจากนั้นปล่อยแล้วพูดว่า "มงกุฏเหนือ"

ฟุ่บ

จู่ๆ ด้ามกระบี่สว่างขึ้นเป็นรัศมีมีแนวเส้นบางๆ รัศมีฉายออกมาอย่างรวดเร็วสานทอกันคล้ายด้าย และในพริบตาเดียว ด้ามดาบแปรสภาพไปเป็นรูปมงกุฏ เปลวไฟเย็นไหลออกมาจากมงกุฏไหลไปตามคมกระบี่ จนกระทั่งเปลวไฟเย็นนั้นครอบคลุมกระบี่ทั้งเล่ม

กระบี่มงกุฏเหนือ สมบัติชั้นบรอนซ์แห่งหมู่ดาวมงกุฏเหนือ

ถังเทียนประหลาดใจเมื่อเห็นกระบี่ที่สวยงามต่อหน้าเขา  ตลอดหลายวันที่ผ่านมา พี่จิ่งหาวใช้กระบี่ฝึกซ้อมมือกับเขามานาน  แต่ถังเทียนคาดไม่ถึงเลยว่ากระบี่ที่ดูธรรมดานี้เป็นสมบัติชั้นบรอนซ์

ยิ่งกว่านั้น มันยังปล่อยรัศมีที่แข็งแกร่งมาก

มันแข็งแกร่งมากเสียจนถังเทียนเชื่อว่ามันไม่น่าจะใช่สมบัติระดับบรอนซ์

"นี่คือกระบี่มงกุฏเหนือเป็นสมบัติตกทอดจากอาจารย์ข้า ตลอดหลายปีมานี้ มันไม่เคยอยู่ห่างจากมือข้าเลย" จิ่งหาวพูดด้วยความภูมิใจ

เมื่อเห็นถังเทียนจ้องดูจนปากอ้าค้าง  เขาเดาตรงๆ ว่าถังเทียนสงสัย  "นกยูงครามของน้องถังก็มีชื่อเสียงมากในอดีต  ตลอดหลายปีมานี้ จิตวิญญาณพลังยุทธของสมบัติดวงดาวขาดการบำรุงดูแลจึงกลายสภาพเป็นอ่อนแอ  สมาพันธ์ชาวยุทธของเราค้นคว้าสมบัติดวงดาว  ไม่มีใครสามารถเข้าใจมันได้  ต่อไปน้องถัง  ครั้งต่อไปน้องถังจะมีโอกาสตอบโต้ได้ทั้งหมด  ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่สร้างเสื่อมเสียให้กับชื่อนกยูคราม"

"โอว" ถังเทียนจำไว้ขึ้นใจ

เขาไม่คิดว่า มือกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของสมาพันธ์ชาวยุทธจะใช้สมบัติดวงดาว ถังเทียนเข้าใจได้ทันที

เมื่อเห็นจิ่งหาวเตรียมพร้อมต่อสู้  ถังเทียนไม่พูดอะไรสักคำและเริ่มเรียกใช้งานสมบัติของตนเองบ้าง

ฟู่! ถุงมือดาวเตาหลอมปล่อยเพลิงแดงออกมา

ปั้บ! รองเท้าม้าบินยื่นกีบเท้าทั้งสี่ออกมา

เกราะนกยูงครามปรากฏบนร่างของเขาและ  ขนสีฟ้าที่งามสง่าปรากฎออกมา

เมื่อได้รับการกระตุ้น ปราณเที่ยงแท้ในร่างของเขาก็ได้รับการกระตุ้นและถังเทียนมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น

แต่น่าเสียดาย คงไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะใช้เสือเขี้ยวดาบต่อหน้าพี่ใหญ่จิ่งหาว...

ความตายของข่งโหย่วหลินสร้างผลกระทบมากกว่าที่เขาคิด ถังเทียนวางแผนจะไม่ใช้อาวุธจักรกลจนกว่าผลกระทบจากเหตุการณ์ที่มีคนเสียชีวิตจะสงบลง  ถ้าเขาเปิดเผยตนเองไป  ข่งอี้หวี่จะต้องหาเรื่องยุ่งยากให้เขาแน่นอน

แต่ความก้าวหน้าของเขาเร็วๆ นี้ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น  แม้ไม่ต้องมีอาวุธจักรกล  เขาก็ไม่กลัว

"เจ้าพร้อมหรือยัง?" จิ่งหาวถามโดยไม่หันกลับมา

"พร้อมแล้ว"

เกี่ยวกับการต่อสู้ที่กำลังมาถึง  ถังเทียนไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย   ความกระหายในการต่อสู้ของเขากำลังลุกโหมรุนแรง

"ฆ่า!"

สุ้มเสียงเขายังลอยอยู่ในอากาศ  แต่ร่างจิ่งหาวหายไปแล้ว

โดยไม่พูดอะไรสักคำ ถังเทียนวิ่งออกมาทันที!

ต้องกล่าวเลยว่า จิ่งหาวเลือกช่วงเวลาได้อย่างชาญฉลาด  เมื่อสองคนปรากฏตัวทันที ก็เป็นเหมือนมีดคมแทงใส่ศูนย์กลางขบวนศัตรู เป็นเหตุให้เกิดฉากภาพตื่นเต้น

กระบี่มงกุฏเหนือในมือจิ่งหาวกลายเป็นเหมือนแสง  รอยเลือดปรากฏทันทีในอากาศ และลำคอของหลายๆ คนมีรอยแผลปรากฏขึ้นทันที  ตาของพวกเขาเบิกกว้าง สองมือกำอยู่ที่ลำคอ ไม่สามารถพูดอะไรได้ พวกเขาล้มลงบนพื้น

ความเหี้ยมหาญของจิ่งหาวทำให้เกิดความปั่นป่วนทันที

ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นถังเทียน

เป้าหมายของถังเทียนคือบุรุษชุดดำผู้ที่เป็นไปได้ว่าคือตำแหน่งปืนใหญ่ของวิญญาณมืด ตามคำบอกเล่าของจิ่งหาว

ขณะที่ถังเทียนเข้าใกล้ระยะห้าเมตรห่างจากบุรุษชุดดำ  คนผู้นั้นก็รู้ตัวทันที  แต่เมื่อเขาตระหนักว่าเป็นถังเทียน ปากของเขาแสยะยิ้มทันที

เขายกฝ่ามือเหล็ก  เตรียมต้อนรับถังเทียนและตะปบออกมา

ฟู่

ฝ่ามือทั้งสองปล่อยรัศมีสีดำ มันเป็นเหมือนควันดำ เต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน เตรียมครอบคลุมถังเทียน

ตาถังเทียนเป็นประกาย  ฝ่ามือของคู่ต่อสู้แข็งแกร่งมาก

เขาไมมีความตั้งใจจะหลบจึงปล่อยหมัดขว้างออกไป

เมื่อเห็นว่าถังเทียนไม่หลบ  บุรุษชุดดำคำราม  โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นควันที่ล้อมหมัดของถังเทียนแตกกระจายและฉีกออก  เขาตระหนักได้ทันทีว่าถังเทียนใช้วิทยายุทธระดับสี่ หมัดสะท้านฟ้า

แววเยาะเย้ยของเขายิ่งชัดเจนขึ้น เขาประเมินความสามารถตนเองสูงเกินไป

กล้าเสียจริงที่เอาวิชาระดับสี่มาใช้กับเขา  เจ้านี่คงเบื่อหน่ายในการมีชีวิตแล้ว  ฝ่ามือของเขาเป็นวิชาระดับห้า ฝ่ามือขยี้หัวใจ  เขาฝึกวิชาฝ่ามือนี้มาหลายปีแล้ว และได้อาศัยวิชาฝ่ามือที่น่ากลัวนี้ เขาจึงสามารถเข้าร่วมในตำแหน่งปืนใหญ่ขององค์การวิญญาณมืด สถานะก่อนของเขาเป็นระดับเบี้ยทหาร

ทั้งสองฝ่ายไม่มีความคิดจะหลบ  หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือปะทะกัน

สีหน้าของบุรุษชุดดำชะงักค้าง

พลังของหมัดไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดไว้ และสิ่งที่ตามมาก็คือ พลังปราณเที่ยงแท้ที่จะระเบิดออกของคู่ต่อสู้ มีสัญญาณว่ากำลังจะระเบิดออกมา

ไม่ดีแน่!

พลังปราณมังกรฟ้า!

ไม่ทันได้รอให้เขาได้ตอบสนอง พลังแหลมคมเจาะผ่านปราณเที่ยงแท้ที่เขาเพิ่งตระหนักและเข้าไปในร่างของเขา

เขาเผลอคำรามออกมา และถอยออกมาสองสามก้าว ก่อนที่เขาจะสามารถข่มพลังนั้นได้

เขาตกตะลึง มีพลังถึงสามรูปแบบ  พลังปราณเที่ยงแท้ของเจ้าเด็กนี่มีถึงสามรูปแบบ!

มันเป็นพลังปราณเที่ยงแท้ระดับสี่อย่างมิต้องสงสัย  แต่มันแทบจะเป็นหมัดคร่าชีวิตได้

โดยไม่รอให้เขากลับคืนสู่สภาพปกติ  เสียงระเบิดที่ดังเหมือนฟ้าผ่าดังอยู่ข้างหูเขา  ประกายลำแสงสีฟ้าที่น่ากลัวนับไม่ถ้วนถูกปล่อยออกมา  หมัดที่มีระลอกสั่นสะเทือนนับไม่ถ้วนปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา

บุรุษชุดดำมีประสบการณ์ในการต่อสู้  และเขารู้ว่า เขาไม่ควรลังเลแม้แต่นิดเดียว  ร่างของเขาถอยไปอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน  เท้าขวาของเขาเป็นเหมือนงูพิษ ฉกใส่อยู่ในอากาศโดยไร้เสียง

รัศมีดำที่คลุมปลายเท้าเขาไว้คมเหมือนหอกสีดำพุ่งตรงใส่ถังเทียนโดยไม่มีเสียง

แต่ถังเทียนที่ผู้ต่อหน้าเขาไวเหมือนปีศาจ ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว  ขาขวาของบุรุษชุดดำเพิ่งจะเหยียดออก และด้วยสภาพขาทั้งสองอยู่ในอากาศ  ถังเทียนหมุนตัวเข้าหากลางร่างของบุรุษชุดดำ

ปฏิกิริยาโต้ตอบรวดเร็วมากจนบุรุษชุดดำคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ  ถังเทียนคาดการณ์ถึงรูปแบบการโจมตีของเขาไว้แล้ว

บุรุษชุดดำตกใจแทบสิ้นสติ

เป็นครั้งแรกที่เขาถูกควบคุมขอบเขตการต่อสู้ ฟู่.. ถังเทียนผู้ปั่นตัวเองหมุนเหมือนหินก้อนใหญ่ที่ถูกโยนออกจากรถมีเสียงหวีดหวิวต่ำขณะพุ่งเข้ากระแทกเขา

บุรุษชุดดำขบริมฝีปากผลักฝ่ามือทั้งสองออกเพื่อป้องกันพลังโจมตีของถังเทียน

ถ้าฝ่ามือทั้งสองประทับลงที่ร่างของศัตรู  แม้ว่าตัวเขาจะได้รับบาดเจ็บบ้างจากฝ่ายตรงข้า  แต่ฝ่ายตรงข้ามจะต้องถูกฟาดด้วยพลังรุนแรงกว่า

ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนใกล้เข้ามาทุกที  ขณะที่ฝ่ามือทั้งคู่ที่มีหมอกดำจะประทับเข้าที่ร่างถังเทียนซึ่งกำลังพุ่งเข้า

ร่างถังเทียนที่กำลังหมุนอยู่พลันเหยียดออก ปลายเท้าเขาสัมผัสพื้นเล็กน้อย เขาก็พุ่งขึ้นไปในอากาศและโจมตีลงมาจากเบื้องบน

บุรุษชุดดำประหลาดใจ  เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ถังเทียนพยายามทำ  ทันใดนั้น นัยน์ตามเขาเห็นพลังงานสามสายพุ่งตรงมาหาเขารวดเดียว  เขาถึงกับสั่นและหน้าถอดสีทันที

ไม่ดีแล้ว

ฝ่ามือมีดวงเดือน!

ท่าเคลื่อนไหวของเจ้าผู้นี้ เป็นการหลอกล่อทั้งนั้น...

ผัวะ ผัวะ ผัวะ!

รัศมีแสงรูปมีดโค้งสามสายเหมือนสายฟ้ามาจากแง่มุมที่ต่างกัน กรีดเข้าที่ฝ่ามือควันดำ