วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 97 การฟื้นตัว

ตอนที่  97  การฟื้นตัว
ฝ่ามือมีดวงเดือนที่แหลมคมตัดฝ่าเข้ามาในม่านควันดำ

ปราณเที่ยงแท้ระดับสี่ ไม่ว่าจะเป็นระดับความบริสุทธิ์ดั้งเดิมหรือระดับความรุนแรง คงไม่สามารถเจาะผ่านปราณเที่ยงแท้ของบุรุษชุดดำได้  แต่ฝ่ามือมีดวงเดือนดั้งเดิมที่เพิ่มความแหลมคมของพลังร่างกระเรียน ระดับคุกคามกลับเพิ่มขึ้นใหญ่หลวง
ถ้าเขาไม่มีพลังร่างกระเรียน ปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนคงไม่เพียงพอคุกคามได้อย่างแน่นอน
ร่างกระเรียนดั้งเดิมแห่งสำนักกระเรียนโบราณเผยพลังออกมาชั่วขณะ
บุรุษชุดดำรู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทรมาน เหมือนกับว่าฝ่ามือทั้งสองของเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆ  เขาร้องโหยหวนด้วยความตกใจ  เขามีประสบการณ์ต่อสู้มากมายและรู้ว่าเขาต้องไม่สูญเสียพลังงานในจุดสำคัญนี้ มิฉะนั้นศัตรูของเขาอาจฉวยโอกาสฆ่าเขาได้
เสียงครางของเขาเหมือนกับส่งสัญญาณให้เงาร่างหลายสายพุ่งเข้าหาถังเทียน
เขาโล่งใจ  แต่เมื่่อเขาสังเกตการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเขา ทำให้เขารู้สึกอายเล็กน้อย เป็นไปได้อย่างไรที่เขาโดนนักสู้ระดับสี่ข่มจนอยู่ในสภาพย่ำแย่  ถ้าเขาไม่มีประสบการณ์เอาตัวเองรอดอย่างนี้ เขาคงมิอาจนึกภาพที่จะตามมาได้
ผัวะ ผัวะ ผัวะ!
เงาร่างหลายร่างโถมเข้ามา  นักสู้ระดับเบี้ยทหารเหล่านั้นไม่ใช่คู่มือของบุรุษผู้ห้าวหาญคนนี้  แต่พวกเขาทำให้บุรุษชุดดำมีโอกาสพักหายใจ  ทันทีที่เขาฟื้นคืนพลังลมปราณ นัยน์ตาของเขากลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
ในสายตาของบุรุษชุดดำ  ไม่มีวี่แววดูถูกแม้แต่น้อย หน้าของเขาตึงขึ้นขณะประเมินเด็กหนุ่มใหม่
ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินว่าลมปราณมังกรฟ้าสามารถสร้างแรงระเบิดได้และเป็นระดับสี่   พลังที่ยอดเยี่ยมและมีชื่อของลมปราณมังกรฟ้านั้นเป็นที่รู้จักกันดี  แต่พลังมังกรฟ้านั้นยากจะฝึกฝนได้  และทุกคนรู้ว่า ในพลังระดับต่ำนั้น ยากจะปลุกพลังมังกรฟ้าให้ตื่นได้  แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าบุรุษหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าเขา ที่ดูธรรมดานี้สามารถปลุกพลังมังกรฟ้าด้วยลมปราณสี่มังกรฟ้าออกมาได้
ยังมีพลังงานแปลกๆ ที่เขาไม่คุ้นเคยอยู่อีก!
สมาพันธ์ชาวยุทธสร้างบุคลากรใหม่ที่มีศักยภาพทรงพลังขนาดนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ความได้เปรียบเรื่องปราณเที่ยงแท้ของบุรุษชุดดำลดลงไปมาก  จิตใจเขากำลังสั่นคลอน  แต่ด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขา เขารีบคิดหาวิธีโดยเร็ว  บุรุษหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขามีพลังปราณเที่ยงแท้ที่ประหลาด  แต่ระดับของแอ่งตันเถียนระดับสี่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้  และเมื่อเทียบกับแอ่งตันเถียนระดับห้า ก็นับว่าเล็กกว่ามาก
ยิ่งให้การต่อสู้ยืดยาวและต่อเนื่องออกไป จะทำให้ปราณเที่ยงแท้ลดลง
ในช่วงเวลาสั้นๆ บุรุษชุดดำก็คงพบโอกาส  เนื่องจากเขาไม่เชื่อว่าบุรุษหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าจะยืนระยะได้นานกว่าเขา
"ต้าอวี๋, เอ้อจู้, เสี่ยวหลู!"
เขาตะโกนลั่นและเงาร่างสามร่างมาปรากฏข้างตัวเขาทันที  บุรุษชุดดำสงบใจได้แล้ว  คนทั้งสามเป็นสหายเก่าของเขา ทั้งสามคนยังอยู่ในระดับเบี้ยทหาร  แต่ไม่ใช่ทหารระดับนักสู้ชั้นเหล็กธรรมดา  พวกเขาเป็นทหารชั้นบรอนซ์ที่โดดเด่น ทั้งสามคนมีพลังนักสู้อยู่ในระดับสี่ เพียงต่ำกว่าเขาแค่หนึ่งระดับ  สำหรับเงื่อนไขนี้ เขาขอความช่วยเหลือพวกเขาเป็นพิเศษ  มีสหายเก่าทั้งสามอยู่ด้วยความมั่นใจเขายิ่งเพิ่มขึ้น
"ค่อยๆ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนก่อน"
นี่เป็นรหัสลับคำสั่งของพวกเขา  หมายถึงต้องพึ่งพาพวกเขาเพื่อทอนความแข็งแกร่งของศัตรู
อีกสามคนเข้าใจทันที
ถังเทียนมองดูคนทั้งสี่ต่อหน้าเขา ใบหน้าเขาไม่แสดงอาการกลัวแม้แต่น้อย  เขาตระหนักว่าเริ่มคุ้นเคยกับรูปแบบ ท่าทาง จำนวนความแตกต่าง ความชังและความรุนแรงเสียแล้ว  ต่อหน้าเขา ทหารระดับบรอนซ์ผู้ชั่วร้ายก็ดูเหมือนคนธรรมดา  พวกเขาไม่สามารถสร้างผลกระทบที่รุนแรงอะไรให้กับเขาได้
ถังเทียนกางแขนออกและสูดลมหายใจลึก
เจ้าโล้น... ข้าจะล้างแค้นให้เจ้า... เจ้าจะได้ตายตาหลับ
ตาของถังเทียนดูสงบมากยิ่งขึ้น เขาย่อเอวอยู่ในท่านั่งม้า  เขาตั้งท่าหมัดมวยปล่อยให้รังสีอำมหิตกระจายไปทั่วทุกตำแหน่ง
สีหน้าทั้งสี่คนเปลี่ยนไปทันที  บุรุษหนุ่มข้างหน้าพวกเขาจู่ๆ เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน  ด้วยสีหน้าสงบที่ดูไม่สมวัยของเขา เหมือนกับว่าเขาจงใจประมาทในการต่อสู้  เปลวไฟต่อสู้ลุกโชนอยู่เงียบๆ
คนทั้งสี่ประสานงานกันเป็นอย่างดีและเริ่มเคลื่อนตัวไปรอบๆ ถังเทียนเพื่อหาช่องโจมตี  สีหน้าของพวกเขาจริงจังมาก
มีความผิดพลาดในรายงาน!
บุรุษข้างหน้าพวกเขาไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียงแน่นอน และยิ่งไม่ใช่คนที่ไร้อนาคต เขาต้องเป็นคนที่สมาพันธ์ชาวยุทธแอบคัดเลือกไว้  สมาชิกใหม่ที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
คนแรกที่ลงมือคือต้าอวี๋  เขาใช้พลองสั้นซึ่งกำลังสั่นสะเทือนด้วยเสียงความถี่ต่ำ  รัศมีพลองบรอนซ์สามสายเหมือนกับมังกรน้ำสามตัวฉกเข้าหาถังเทียน  ต้าอวี๋ฝึกวิชาพลองมังกรเขียว วิชาธาตุไม้ระดับสี่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง
เอ้อจู้ใช้พลั่วจันทร์เสี้ยวเป็นอาวุธ เขามีกายล่ำสันสูงใหญ่เต็มไปพละกำลัง  พลั่วจันทร์เสี้ยวที่หนักร้อยกิโลกรัมในมือเขาดูเหมือนไม่มีอะไร  มัดกล้ามเนื้อของเขาดูเหมือนแทบจะระเบิดออกมาได้  ทันใดนั้นเขาคำรามและใช้พลังปราณเที่ยงแท้ขุดรอบๆ ตัว  ตัวพลั่วมีพลังธาตุดินสีเหลืองห่อหุ้ม ดูเหมือนพลังจะเพิ่มขึ้นจนดูหนักถึงห้าร้อยกิโลกรัม ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ายากจะต้านรับได้  เอ้อจู้ฝึกวิชาพลั่วพระธรรมแปดกระบวนท่า เป็นวิชาธาตุดินระดับสี่ที่มีแนวทางแกร่งกร้าว เป็นวิชาธรรมดา เรียบง่าย เน้นที่การใช้พลังทำลายม่านพลังคุ้มครอง
เสี่ยวหลูฝึกวิชาอาวุธลับ ด้วยการขยับมือทั้งสองข้าง มีดบินสามเล่มก็ปรากฏอยู่ในมือแต่ละข้าง  ฝีเท้าของเขาเบาขณะที่เขาทะยานตัวอยู่ในอากาศ  เมื่อแขนทั้งสองเหยียดออก มีดบินหกเล่มเปล่งรัศมีสีทองประหลาด เหมือนกับต้องการจะสร้างอันตรายให้ถังเทียน มีดใบหลิว วิทยายุทธธาตุทองระดับสี่
ทั้งสามคนประสานร่วมมือกันเป็นอย่างดีโดยใช้วิชาที่ถนัดของแต่ละคน   มีทั้งความแน่นอนและนุ่มนวลในการร่วมมือโดยใช้ปราณเที่ยงแท้ที่มีลักษณะแตกต่างกันสามแบบ  ที่ด้านข้างมีบุรุษชุดดำคอยสังเกตการณ์รอโอกาสพริบตาที่ถังเทียนตกอยู่ในอันตราย
ใจของถังเทียนว่างเปล่าและสงบ  พอนัยน์ตาเขาฉายประกายเยือกเย็น เขาปลดปล่อยพลังที่ขาทันที
รองเท้าม้าบินมีกีบเท้าทั้งสี่ยืดออกมาก่อนที่มันจะปล่อยพลังออกมาเต็มที่  ในพริบตานั้นร่างถังเทียนก็หายไป
จากนั้นร่างของถังเทียนมาปรากฏอยู่ต่อหน้าพลั่วจันทร์เสี้ยวของเอ้อจู้
ทุกคนมองดูด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง
ไม่มีผู้ใดคิดว่าถังเทียนจะเลือกเป้าหมายเป็นเอ้อจู้ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง  ถ้าว่ากันตามความสามารถ ในบรรดาคนทั้งสามนี้ พวกเขามีความสามารถพอกัน แต่ต่างกันที่รูปแบบ  แต่ถ้าพูดถึงพลังดิบเฉพาะตัว  เอ้อจู้โดดเด่นในเรื่องใช้วิชาแปดพลั่วพระธรรม  เขามีพละกำลังไม่สิ้นสุด ไม่ว่าใครก็ไม่โดดเด่นเท่าเขา แม้แต่บุรุษชุดดำก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะพลั่วของเอ้อจู้ได้
เจ้าผู้นี้หาที่ตายชัดๆ
※※※※※※※※

จิ่งหาวขมวดคิ้ว  เขาไม่สนใจความสามารถของสตรีชุดดำเท่าไหร่นัก  แต่วิชาตัวเบาของนางจัดว่าเลิศล้ำ  วิชาตัวเบาของจิ่งหาวนับว่าไม่เลว  แต่พอเทียบกับนาง  เขายังด้อยกว่าเล็กน้อย  จุดหลักก็คือสตรีชุดดำนั้นเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย นางไม่ยอมปะทะกับเขาโดยตรง และจิ่งหาวก็ไม่อาจทำอะไรได้
แน่นอนว่านางอยู่ในตำแหน่งม้าระดับบรอนซ์
สตรีชุดดำอยู่ในตำแหน่งม้าแห่งองค์การวิญญาณมืด วิชาตัวเบาของนางย่อมโดดเด่นและนางยังเป็นเลิศในวิชาธนู  เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างนาง  นางจะทำเพียงวนเวียนอยู่รอบตัวท่าน และคอยยิงธนูใส่ท่านฆ่าเวลาเท่านั้น  ความจริงนางเป็นเหมือนแมลงวันน่ารำคาญมากกว่า  สตรีชุดดำมีวิชาธนูยิงใบหลิวที่น่ากลัว  นั่นเป็นวิทยายุทธธาตุไม้ระดับหก มีความแม่นยำและเปลี่ยนแปลง  แต่สำหรับจิ่งหาวนั้น ถือว่าไม่คู่ควรแก่การเหลียวดู
จิ่งหาวสังเกตและวางเป้าหมายไปที่ตัวเบี้ยทหารของวิญญาณมืด
ระดับเบี้ยทหารของวิญญาณมืดเป็นนักสู้ระดับสี่ ตามปกติพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ่งหาว จิ่งหาวมองไปทางถังเทียนเห็นถังเทียนโถมตัวเข้าหาพลั่วจันทร์เสี้ยว คนอื่นๆ มองดูด้วยความดีใจ จิ่งหาวยิ้ม
หลังจากซ้อมมือกับถังเทียนมาหลายวัน  ไม่มีใครรู้ความบ้าของถังเทียนดีเท่าเขา
เขายกเลิกความคิดจะช่วยถังเทียน ด้วยความสามารถของถังเทียน  เขาไม่จำเป็นต้องชนะ เขาแค่ทนถ่วงเวลาให้ได้  และนั่นคือสิ่งที่ควรทำ
จิ่งหาวมองกลับไปที่สตรีชุดดำ  เมื่อเขามองไปที่สตรีชุดดำ เขาก็ต้องตื่นเต้น ตำแหน่งของนางอยู่ด้านภายใน  ถ้าเขาขวางซอกเล็กๆนั้นไว้ได้....
จิ่งหาวรู้จักใต้ดินนี้เช่นเดียวกับนิ้วของเขา  สตรีชุดดำกำลังโลดแล่นเข้าไปในอุโมงค์
ตราบใดที่เขาชิงตำแหน่งนี้ได้  เขาสามารถผนึกเส้นทางหลบหนีสตรีชุดดำได้
สตรีชุดดำได้แต่เดินลึกเข้าไป
เช่นเดียวกับเต่าที่ติดอยู่ในไห!
จิ่งหาวหยีตา
※※※※※※※※※※※※

เมื่อเผชิญหน้าพลั่วจันทร์เสี้ยวที่มีรัศมีเหลืองและเสียงหวีดหวิวที่เสียวถึงกระดูกสันหลัง ถังเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อย  ในดวงตาที่สงบมีเปลวเพลิงลุกโชน  ความแข็งแรงทั้งหมดของกล้ามเนื้อในตัวเขารวมตัวเหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปรวมในทะเล  เพลิงเตาหลอมที่หุ้มหมัดของเขาลุกโชนมากยิ่งขึ้น
หมัดแดงเพลิงมีเปลวลุกพุ่งเป็นทางยาวเหมือนดาวตกกระแทกเข้าพลั่วเรืองแสงเหลือง
โครม!
ขณะที่พลังปราณเที่ยงแท้ปะทะกัน  พลังงานในร่างของพวกเขาก็ปะทะกันด้วย
หน้าของเอ้อจู้เปลี่ยน  พลั่วเรืองแสงแตกหักพัง  เขารู้สึกว่ามีพลังหลั่งไหลผ่านเข้ามาที่มือทั้งสองที่ถือด้าม จนแทบมิอาจถือด้ามพลั่วได้อีกต่อไป ร่างที่เหมือนเหล็กของเขาผงะถอยหลังขณะที่แขนของเขาชาด้าน
สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากยิ่งกว่าก็คือปราณเที่ยงแท้ที่ไหลเข้ามาในตัวของเขา มันสร้างความอึดอัดจนเขากระอักโลหิต
เอ้อจู้ประหลาดใจ
คนอื่นๆ ที่เห็นผลออกมาเช่นนี้ถึงกับพูดไม่ออก พวกเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น
ความจริง... เอ้อจู้มีพลังความแข็งแกร่งที่โดดเด่น
บุรุษชุดดำหน้าเคร่งเครียด  แม้ว่าตำแหน่งปืนใหญ่ของวิญญาณมืด จะเป็นตำแหน่งปืนใหญ่วิญญาณมืดระดับธรรมดา แต่เขาไม่เคยเห็นคนรอบๆ ตัวเขาคนไหนมีพลังเพียงพอทนต่อเอ้อจู้ได้
เจ้าผู้นี้.. ผิดปกติไปแล้ว
ถังเทียนไม่ลังเลใจ หมัดนั้นยิ่งทำให้กระตุ้นความตั้งใจต่อสู้ยิ่งขึ้น   ขณะที่พลังดิบของฝ่ายตรงข้ามด้อยกว่าอาโมรี่เพียงเล็กน้อย  ส่วนในเรื่องการระเบิดพลัง เขายังห่างจากอาโมรี่มากนัก  แต่เมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้ที่มีฐานพลังที่บริสุทธิ์  เป็นเรื่องง่ายที่จะตอบโต้  เนื่องจากวิธีง่ายที่สุดก็คือทะลวงเส้นชีพจร
ถังเทียนคำรามขณะที่ใช้พลังรองเท้าม้าบินทะยานขึ้น
เขาพุ่งเข้าหาเอ้อจู้ด้วยอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยว
เหมือนกับว่าตื่นขึ้นจากฝัน  บุรุษชุดดำใช้ฝ่ามือขยี้ใจลอบเข้ามาฟาดใส่ชายโครงของถังเทียน
คนอื่นๆ เรียกสติกลับคืนมา ขณะที่พวกเขาใช้ทุกวิธีเพื่อยื้อเวลาให้เอ้อจู้
ตาถังเทียนเป็นประกาย เขาย่อตัวงอขาทั้งสองจมลึกลงไปถึงเข่า เหมือนกับใบมีดคม
ปิงอยู่ในค่ายทหารใหม่กำลังสังเกตดูถังเทียน เขาถึงกับตะลึงในสิ่งที่เขาเห็น  นี่มันท่ากระโจนระยะไกล
เป็นท่ามาตรฐานของอาวุธเครื่องกล .. ท่ากระโจนระยะไกล
แต่, แต่.. นั่นเห็นได้ชัดว่าเป็นท่าจากอาวุธเครื่องกล
ปิงตะลึง
ทั้งที่อยู่ต่อหน้าทุกคน ถังเทียนย่อตัวและกระแทกใส่ดินอ่อน โดยไม่มีสัญญาณใดๆ เขาเร่งความเร็วราวกับลมพัด หลุดพ้นการโจมตีด้านหลังทั้งหมด
รังสีฆ่าฟันของเด็กหนุ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่มีขีดจำกัด
 

3 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียนมันบ้า พวกแกหาเรื่องผิดคนแล้ว

dimmilkung กล่าวว่า...

วันนี้ 2ตอน บันไซ บันไซ!!!!

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น