ตอนที่ 97
การฟื้นตัว
ฝ่ามือมีดวงเดือนที่แหลมคมตัดฝ่าเข้ามาในม่านควันดำ
ปราณเที่ยงแท้ระดับสี่
ไม่ว่าจะเป็นระดับความบริสุทธิ์ดั้งเดิมหรือระดับความรุนแรง
คงไม่สามารถเจาะผ่านปราณเที่ยงแท้ของบุรุษชุดดำได้
แต่ฝ่ามือมีดวงเดือนดั้งเดิมที่เพิ่มความแหลมคมของพลังร่างกระเรียน
ระดับคุกคามกลับเพิ่มขึ้นใหญ่หลวง
ถ้าเขาไม่มีพลังร่างกระเรียน
ปราณเที่ยงแท้ของถังเทียนคงไม่เพียงพอคุกคามได้อย่างแน่นอน
ร่างกระเรียนดั้งเดิมแห่งสำนักกระเรียนโบราณเผยพลังออกมาชั่วขณะ
บุรุษชุดดำรู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทรมาน
เหมือนกับว่าฝ่ามือทั้งสองของเขาถูกตัดเป็นชิ้นๆ
เขาร้องโหยหวนด้วยความตกใจ
เขามีประสบการณ์ต่อสู้มากมายและรู้ว่าเขาต้องไม่สูญเสียพลังงานในจุดสำคัญนี้
มิฉะนั้นศัตรูของเขาอาจฉวยโอกาสฆ่าเขาได้
เสียงครางของเขาเหมือนกับส่งสัญญาณให้เงาร่างหลายสายพุ่งเข้าหาถังเทียน
เขาโล่งใจ
แต่เมื่่อเขาสังเกตการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเขา ทำให้เขารู้สึกอายเล็กน้อย
เป็นไปได้อย่างไรที่เขาโดนนักสู้ระดับสี่ข่มจนอยู่ในสภาพย่ำแย่ ถ้าเขาไม่มีประสบการณ์เอาตัวเองรอดอย่างนี้
เขาคงมิอาจนึกภาพที่จะตามมาได้
ผัวะ ผัวะ ผัวะ!
เงาร่างหลายร่างโถมเข้ามา นักสู้ระดับเบี้ยทหารเหล่านั้นไม่ใช่คู่มือของบุรุษผู้ห้าวหาญคนนี้ แต่พวกเขาทำให้บุรุษชุดดำมีโอกาสพักหายใจ ทันทีที่เขาฟื้นคืนพลังลมปราณ
นัยน์ตาของเขากลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
ในสายตาของบุรุษชุดดำ ไม่มีวี่แววดูถูกแม้แต่น้อย หน้าของเขาตึงขึ้นขณะประเมินเด็กหนุ่มใหม่
ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ยินว่าลมปราณมังกรฟ้าสามารถสร้างแรงระเบิดได้และเป็นระดับสี่
พลังที่ยอดเยี่ยมและมีชื่อของลมปราณมังกรฟ้านั้นเป็นที่รู้จักกันดี แต่พลังมังกรฟ้านั้นยากจะฝึกฝนได้ และทุกคนรู้ว่า ในพลังระดับต่ำนั้น
ยากจะปลุกพลังมังกรฟ้าให้ตื่นได้
แต่เขาคาดไม่ถึงเลยว่าบุรุษหนุ่มที่อยู่ต่อหน้าเขา
ที่ดูธรรมดานี้สามารถปลุกพลังมังกรฟ้าด้วยลมปราณสี่มังกรฟ้าออกมาได้
ยังมีพลังงานแปลกๆ
ที่เขาไม่คุ้นเคยอยู่อีก!
สมาพันธ์ชาวยุทธสร้างบุคลากรใหม่ที่มีศักยภาพทรงพลังขนาดนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ความได้เปรียบเรื่องปราณเที่ยงแท้ของบุรุษชุดดำลดลงไปมาก จิตใจเขากำลังสั่นคลอน แต่ด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้ของเขา
เขารีบคิดหาวิธีโดยเร็ว บุรุษหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าเขามีพลังปราณเที่ยงแท้ที่ประหลาด
แต่ระดับของแอ่งตันเถียนระดับสี่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเมื่อเทียบกับแอ่งตันเถียนระดับห้า
ก็นับว่าเล็กกว่ามาก
ยิ่งให้การต่อสู้ยืดยาวและต่อเนื่องออกไป
จะทำให้ปราณเที่ยงแท้ลดลง
ในช่วงเวลาสั้นๆ
บุรุษชุดดำก็คงพบโอกาส
เนื่องจากเขาไม่เชื่อว่าบุรุษหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าจะยืนระยะได้นานกว่าเขา
"ต้าอวี๋, เอ้อจู้,
เสี่ยวหลู!"
เขาตะโกนลั่นและเงาร่างสามร่างมาปรากฏข้างตัวเขาทันที บุรุษชุดดำสงบใจได้แล้ว คนทั้งสามเป็นสหายเก่าของเขา
ทั้งสามคนยังอยู่ในระดับเบี้ยทหาร
แต่ไม่ใช่ทหารระดับนักสู้ชั้นเหล็กธรรมดา
พวกเขาเป็นทหารชั้นบรอนซ์ที่โดดเด่น ทั้งสามคนมีพลังนักสู้อยู่ในระดับสี่
เพียงต่ำกว่าเขาแค่หนึ่งระดับ
สำหรับเงื่อนไขนี้ เขาขอความช่วยเหลือพวกเขาเป็นพิเศษ มีสหายเก่าทั้งสามอยู่ด้วยความมั่นใจเขายิ่งเพิ่มขึ้น
"ค่อยๆ
เคี่ยวด้วยไฟอ่อนก่อน"
นี่เป็นรหัสลับคำสั่งของพวกเขา หมายถึงต้องพึ่งพาพวกเขาเพื่อทอนความแข็งแกร่งของศัตรู
อีกสามคนเข้าใจทันที
ถังเทียนมองดูคนทั้งสี่ต่อหน้าเขา
ใบหน้าเขาไม่แสดงอาการกลัวแม้แต่น้อย
เขาตระหนักว่าเริ่มคุ้นเคยกับรูปแบบ ท่าทาง จำนวนความแตกต่าง
ความชังและความรุนแรงเสียแล้ว ต่อหน้าเขา
ทหารระดับบรอนซ์ผู้ชั่วร้ายก็ดูเหมือนคนธรรมดา
พวกเขาไม่สามารถสร้างผลกระทบที่รุนแรงอะไรให้กับเขาได้
ถังเทียนกางแขนออกและสูดลมหายใจลึก
เจ้าโล้น...
ข้าจะล้างแค้นให้เจ้า... เจ้าจะได้ตายตาหลับ
ตาของถังเทียนดูสงบมากยิ่งขึ้น
เขาย่อเอวอยู่ในท่านั่งม้า
เขาตั้งท่าหมัดมวยปล่อยให้รังสีอำมหิตกระจายไปทั่วทุกตำแหน่ง
สีหน้าทั้งสี่คนเปลี่ยนไปทันที บุรุษหนุ่มข้างหน้าพวกเขาจู่ๆ
เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ด้วยสีหน้าสงบที่ดูไม่สมวัยของเขา เหมือนกับว่าเขาจงใจประมาทในการต่อสู้ เปลวไฟต่อสู้ลุกโชนอยู่เงียบๆ
คนทั้งสี่ประสานงานกันเป็นอย่างดีและเริ่มเคลื่อนตัวไปรอบๆ
ถังเทียนเพื่อหาช่องโจมตี
สีหน้าของพวกเขาจริงจังมาก
มีความผิดพลาดในรายงาน!
บุรุษข้างหน้าพวกเขาไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียงแน่นอน
และยิ่งไม่ใช่คนที่ไร้อนาคต เขาต้องเป็นคนที่สมาพันธ์ชาวยุทธแอบคัดเลือกไว้ สมาชิกใหม่ที่ทรงพลังอย่างแท้จริง
คนแรกที่ลงมือคือต้าอวี๋
เขาใช้พลองสั้นซึ่งกำลังสั่นสะเทือนด้วยเสียงความถี่ต่ำ
รัศมีพลองบรอนซ์สามสายเหมือนกับมังกรน้ำสามตัวฉกเข้าหาถังเทียน ต้าอวี๋ฝึกวิชาพลองมังกรเขียว
วิชาธาตุไม้ระดับสี่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง
เอ้อจู้ใช้พลั่วจันทร์เสี้ยวเป็นอาวุธ
เขามีกายล่ำสันสูงใหญ่เต็มไปพละกำลัง พลั่วจันทร์เสี้ยวที่หนักร้อยกิโลกรัมในมือเขาดูเหมือนไม่มีอะไร
มัดกล้ามเนื้อของเขาดูเหมือนแทบจะระเบิดออกมาได้
ทันใดนั้นเขาคำรามและใช้พลังปราณเที่ยงแท้ขุดรอบๆ
ตัว ตัวพลั่วมีพลังธาตุดินสีเหลืองห่อหุ้ม
ดูเหมือนพลังจะเพิ่มขึ้นจนดูหนักถึงห้าร้อยกิโลกรัม
ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ายากจะต้านรับได้ เอ้อจู้ฝึกวิชาพลั่วพระธรรมแปดกระบวนท่า
เป็นวิชาธาตุดินระดับสี่ที่มีแนวทางแกร่งกร้าว เป็นวิชาธรรมดา เรียบง่าย
เน้นที่การใช้พลังทำลายม่านพลังคุ้มครอง
เสี่ยวหลูฝึกวิชาอาวุธลับ
ด้วยการขยับมือทั้งสองข้าง มีดบินสามเล่มก็ปรากฏอยู่ในมือแต่ละข้าง ฝีเท้าของเขาเบาขณะที่เขาทะยานตัวอยู่ในอากาศ เมื่อแขนทั้งสองเหยียดออก
มีดบินหกเล่มเปล่งรัศมีสีทองประหลาด เหมือนกับต้องการจะสร้างอันตรายให้ถังเทียน
มีดใบหลิว วิทยายุทธธาตุทองระดับสี่
ทั้งสามคนประสานร่วมมือกันเป็นอย่างดีโดยใช้วิชาที่ถนัดของแต่ละคน มีทั้งความแน่นอนและนุ่มนวลในการร่วมมือโดยใช้ปราณเที่ยงแท้ที่มีลักษณะแตกต่างกันสามแบบ
ที่ด้านข้างมีบุรุษชุดดำคอยสังเกตการณ์รอโอกาสพริบตาที่ถังเทียนตกอยู่ในอันตราย
ใจของถังเทียนว่างเปล่าและสงบ พอนัยน์ตาเขาฉายประกายเยือกเย็น
เขาปลดปล่อยพลังที่ขาทันที
รองเท้าม้าบินมีกีบเท้าทั้งสี่ยืดออกมาก่อนที่มันจะปล่อยพลังออกมาเต็มที่ ในพริบตานั้นร่างถังเทียนก็หายไป
จากนั้นร่างของถังเทียนมาปรากฏอยู่ต่อหน้าพลั่วจันทร์เสี้ยวของเอ้อจู้
ทุกคนมองดูด้วยนัยน์ตาเบิกกว้าง
ไม่มีผู้ใดคิดว่าถังเทียนจะเลือกเป้าหมายเป็นเอ้อจู้ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ถ้าว่ากันตามความสามารถ ในบรรดาคนทั้งสามนี้ พวกเขามีความสามารถพอกัน
แต่ต่างกันที่รูปแบบ แต่ถ้าพูดถึงพลังดิบเฉพาะตัว
เอ้อจู้โดดเด่นในเรื่องใช้วิชาแปดพลั่วพระธรรม เขามีพละกำลังไม่สิ้นสุด
ไม่ว่าใครก็ไม่โดดเด่นเท่าเขา แม้แต่บุรุษชุดดำก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะพลั่วของเอ้อจู้ได้
เจ้าผู้นี้หาที่ตายชัดๆ
※※※※※※※※
จิ่งหาวขมวดคิ้ว
เขาไม่สนใจความสามารถของสตรีชุดดำเท่าไหร่นัก แต่วิชาตัวเบาของนางจัดว่าเลิศล้ำ วิชาตัวเบาของจิ่งหาวนับว่าไม่เลว แต่พอเทียบกับนาง เขายังด้อยกว่าเล็กน้อย จุดหลักก็คือสตรีชุดดำนั้นเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย
นางไม่ยอมปะทะกับเขาโดยตรง และจิ่งหาวก็ไม่อาจทำอะไรได้
แน่นอนว่านางอยู่ในตำแหน่งม้าระดับบรอนซ์
สตรีชุดดำอยู่ในตำแหน่งม้าแห่งองค์การวิญญาณมืด
วิชาตัวเบาของนางย่อมโดดเด่นและนางยังเป็นเลิศในวิชาธนู เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูอย่างนาง นางจะทำเพียงวนเวียนอยู่รอบตัวท่าน
และคอยยิงธนูใส่ท่านฆ่าเวลาเท่านั้น
ความจริงนางเป็นเหมือนแมลงวันน่ารำคาญมากกว่า สตรีชุดดำมีวิชาธนูยิงใบหลิวที่น่ากลัว นั่นเป็นวิทยายุทธธาตุไม้ระดับหก
มีความแม่นยำและเปลี่ยนแปลง
แต่สำหรับจิ่งหาวนั้น ถือว่าไม่คู่ควรแก่การเหลียวดู
จิ่งหาวสังเกตและวางเป้าหมายไปที่ตัวเบี้ยทหารของวิญญาณมืด
ระดับเบี้ยทหารของวิญญาณมืดเป็นนักสู้ระดับสี่
ตามปกติพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจิ่งหาว จิ่งหาวมองไปทางถังเทียนเห็นถังเทียนโถมตัวเข้าหาพลั่วจันทร์เสี้ยว
คนอื่นๆ มองดูด้วยความดีใจ จิ่งหาวยิ้ม
หลังจากซ้อมมือกับถังเทียนมาหลายวัน ไม่มีใครรู้ความบ้าของถังเทียนดีเท่าเขา
เขายกเลิกความคิดจะช่วยถังเทียน
ด้วยความสามารถของถังเทียน
เขาไม่จำเป็นต้องชนะ เขาแค่ทนถ่วงเวลาให้ได้ และนั่นคือสิ่งที่ควรทำ
จิ่งหาวมองกลับไปที่สตรีชุดดำ เมื่อเขามองไปที่สตรีชุดดำ เขาก็ต้องตื่นเต้น ตำแหน่งของนางอยู่ด้านภายใน ถ้าเขาขวางซอกเล็กๆนั้นไว้ได้....
จิ่งหาวรู้จักใต้ดินนี้เช่นเดียวกับนิ้วของเขา สตรีชุดดำกำลังโลดแล่นเข้าไปในอุโมงค์
ตราบใดที่เขาชิงตำแหน่งนี้ได้ เขาสามารถผนึกเส้นทางหลบหนีสตรีชุดดำได้
สตรีชุดดำได้แต่เดินลึกเข้าไป
เช่นเดียวกับเต่าที่ติดอยู่ในไห!
จิ่งหาวหยีตา
※※※※※※※※※※※※
เมื่อเผชิญหน้าพลั่วจันทร์เสี้ยวที่มีรัศมีเหลืองและเสียงหวีดหวิวที่เสียวถึงกระดูกสันหลัง
ถังเทียนไม่กลัวแม้แต่น้อย
ในดวงตาที่สงบมีเปลวเพลิงลุกโชน
ความแข็งแรงทั้งหมดของกล้ามเนื้อในตัวเขารวมตัวเหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปรวมในทะเล เพลิงเตาหลอมที่หุ้มหมัดของเขาลุกโชนมากยิ่งขึ้น
หมัดแดงเพลิงมีเปลวลุกพุ่งเป็นทางยาวเหมือนดาวตกกระแทกเข้าพลั่วเรืองแสงเหลือง
โครม!
ขณะที่พลังปราณเที่ยงแท้ปะทะกัน พลังงานในร่างของพวกเขาก็ปะทะกันด้วย
หน้าของเอ้อจู้เปลี่ยน
พลั่วเรืองแสงแตกหักพัง
เขารู้สึกว่ามีพลังหลั่งไหลผ่านเข้ามาที่มือทั้งสองที่ถือด้าม
จนแทบมิอาจถือด้ามพลั่วได้อีกต่อไป ร่างที่เหมือนเหล็กของเขาผงะถอยหลังขณะที่แขนของเขาชาด้าน
สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากยิ่งกว่าก็คือปราณเที่ยงแท้ที่ไหลเข้ามาในตัวของเขา
มันสร้างความอึดอัดจนเขากระอักโลหิต
เอ้อจู้ประหลาดใจ
คนอื่นๆ ที่เห็นผลออกมาเช่นนี้ถึงกับพูดไม่ออก พวกเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น
ความจริง... เอ้อจู้มีพลังความแข็งแกร่งที่โดดเด่น
บุรุษชุดดำหน้าเคร่งเครียด
แม้ว่าตำแหน่งปืนใหญ่ของวิญญาณมืด
จะเป็นตำแหน่งปืนใหญ่วิญญาณมืดระดับธรรมดา แต่เขาไม่เคยเห็นคนรอบๆ
ตัวเขาคนไหนมีพลังเพียงพอทนต่อเอ้อจู้ได้
เจ้าผู้นี้.. ผิดปกติไปแล้ว
ถังเทียนไม่ลังเลใจ
หมัดนั้นยิ่งทำให้กระตุ้นความตั้งใจต่อสู้ยิ่งขึ้น ขณะที่พลังดิบของฝ่ายตรงข้ามด้อยกว่าอาโมรี่เพียงเล็กน้อย ส่วนในเรื่องการระเบิดพลัง
เขายังห่างจากอาโมรี่มากนัก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับนักสู้ที่มีฐานพลังที่บริสุทธิ์ เป็นเรื่องง่ายที่จะตอบโต้ เนื่องจากวิธีง่ายที่สุดก็คือทะลวงเส้นชีพจร
ถังเทียนคำรามขณะที่ใช้พลังรองเท้าม้าบินทะยานขึ้น
เขาพุ่งเข้าหาเอ้อจู้ด้วยอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยว
เหมือนกับว่าตื่นขึ้นจากฝัน
บุรุษชุดดำใช้ฝ่ามือขยี้ใจลอบเข้ามาฟาดใส่ชายโครงของถังเทียน
คนอื่นๆ เรียกสติกลับคืนมา
ขณะที่พวกเขาใช้ทุกวิธีเพื่อยื้อเวลาให้เอ้อจู้
ตาถังเทียนเป็นประกาย เขาย่อตัวงอขาทั้งสองจมลึกลงไปถึงเข่า
เหมือนกับใบมีดคม
ปิงอยู่ในค่ายทหารใหม่กำลังสังเกตดูถังเทียน
เขาถึงกับตะลึงในสิ่งที่เขาเห็น
นี่มันท่ากระโจนระยะไกล
เป็นท่ามาตรฐานของอาวุธเครื่องกล .. ท่ากระโจนระยะไกล
แต่, แต่.. นั่นเห็นได้ชัดว่าเป็นท่าจากอาวุธเครื่องกล
ปิงตะลึง
ทั้งที่อยู่ต่อหน้าทุกคน ถังเทียนย่อตัวและกระแทกใส่ดินอ่อน
โดยไม่มีสัญญาณใดๆ เขาเร่งความเร็วราวกับลมพัด หลุดพ้นการโจมตีด้านหลังทั้งหมด
รังสีฆ่าฟันของเด็กหนุ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่มีขีดจำกัด
3 ความคิดเห็น:
ถังเทียนมันบ้า พวกแกหาเรื่องผิดคนแล้ว
วันนี้ 2ตอน บันไซ บันไซ!!!!
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น