วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 139 หลิงซิ่วผู้น่าสงสาร

ตอนที่  139  หลิงซิ่วผู้น่าสงสาร
หลิงซิ่วโอบหอกของเขาด้วยสีหน้าดำคล้ำ

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคนขอเวลาพักก่อนต่อสู้ และเป็นเพราะเขาเองก็ยังไม่ได้กินมื้อเช้ามาเช่นกัน
ห่างไกลออกไปกลิ่นหอมของเนื้อย่างกระทบจมูกพวกเขา เหลวไหล! มีคนกินเนื้อย่างในตอนเช้าด้วยเหรอ  ในดวงตาเขา เต็มไปด้วยความโกรธ ตอนกลางคืนเมื่อเหล่าผู้อาวุโสประชุมกัน เขายังไม่ได้กินอะไรจนบัดนี้ ท้องของเขาร้องโครกคราก และที่แย่ที่สุดก็คือ ต้องมามองดูเจ้าบัดซบนี่กินอยู่ต่อหน้าต่อตาเขา
มันช่างน่าโมโหเสียจริง
เขามั่นใจว่าจะทุบเจ้าบัดซบนี่จนสำรอกอาหารออกมาให้หมดแน่นอน
จ๊อกกกก...!
เสียงนั้นดังออกมาจากท้องของเขาเอง ความเงียบเต็มอยู่ในอากาศ และทันทีนั้นใบหน้าของหลิงซิ่วจากดำกลายเป็นสีแดง
ไอ้บัดซบนี่ต้องได้ยินแน่นอน.. บ้าจริงเว้ย..
"เฮ้, พ่อหนุ่ม..เจ้าต้องหิวแน่เลย" ถังเทียนหันหน้ามาและโบกเนื้อย่างมาทางหลิงซิ่วเหมือนจะเชิญชวนเขา
"เจ้าเรียกใครเป็นพ่อหนุ่ม?" หลิงซิ่วโกรธและชี้ปลายหอกมาที่ถังเทียน
"ถ้าเจ้าไม่หิวก็ไม่เป็นไร  งั้นข้ากินคนเดียวก็ได้" ถังเทียนเคี้ยวเนื้อย่างตุ้ยๆ และพูดพลาง
"บัดซบเอ๊ย!"
หลิงซิ่วสบถและวิ่งเข้ามา เขาพุ่งไปที่เนื้อโดยไม่นั่งลง
สองชั่วโมงต่อมา  ถังเทียนและหลิงซิ่วกินจนพอใจ  พวกเขาทอดตัวลงกับพื้น ทั้งคู่พุงกางราวกับยัดด้วยลูกแตงโม  กู้เสวี่ยและเมอเรย์มองดูพวกเขาด้วยสายตางงงวย  พวกเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็น
ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นที่ไม่เข้าใจ  แต่คนที่เฝ้าสังเกตดูการต่อสู้จากระยะไกลก็พลอยมึนงงไปด้วย
"อิ่มเป็นบ้า!" หลิงซิ่วอดล้มตัวนอนไม่ได้
"นี่แหละรสชาติของชีวิต" ถังเทียนรำพึงขณะที่ดวงอาทิตย์ส่องต้องหน้าเขา
"เฮ้, อย่านึกว่าเจ้าจะสามารถติดสินบนข้าด้วยเนื้อย่างมื้อเดียวนะ" หลิงซิ่วพยุงตัวด้านบนขึ้นและมองดูอย่างรำคาญ  จากนั้นเขาพูดอย่างเกียจคร้าน "อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลต้องการพาตัวคุณหนูเสวี่ยกลับไป  อย่ามาห้ามข้าเลย ข้าจะทำเป็นเหมือนไม่เห็นเจ้าก็แล้วกัน"
หน้าของเมอเรย์เปลี่ยน   ด้วยชื่อเสียงที่หลิงซิ่วสร้างมานั้น สำหรับเขาเมื่อพูดสิ่งใดออกไปแล้ว  เขาเชื่อว่าไม่มีผู้ใดกล้าปฏิเสธได้
ตรงกันข้าม  กู้เสวี่ยยังสงบนิ่ง
"ฝันไปเถอะ"  ถังเทียนตอบอย่างเกียจคร้านเช่นกัน  "นี่มันถิ่นของข้า  เจ้าข้ามเข้ามาในถิ่นของข้า แล้วข้าจะเป็นพี่ใหญ่ในอนาคตได้ยังไง?"
หลิงซิ่วไม่เคยคิดว่าความตั้งใจดีของเขาจะถูกปฏิเสธ  เขาลุกขึ้นนั่งตัวตรงและมองจริงจัง "เจ้าเอาจริงหรือเปล่า?"
"ทำไมจะไม่เล่า?" ตาของถังเทียนยังคงหลับ สำเนียงที่แฝงความเกียจคร้านของเขาทำให้หลิงซิ่วสงสัยว่าเขาหลับไปแล้ว"
"อย่างนั้น ข้าว่าคงไม่มีทางอื่น!"  หลิงซิ่วยืนสีหน้าเคร่งเครียด  "ข้าก็จะไม่ขัดขืนคำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเหมือนกัน"
การต่อสู้ของเขาจะต้องเกิดขึ้น  เขาชี้หอกเงินมาที่ถังเทียน  เสียงของเขาตอนนี้เย็นชา  "เข้ามา!  เราจะประลองฝีมือกัน"
"เฮ่ย.. เจ้าไม่ได้เมาอาหารอยู่ใช่ไหม?"  ถังเทียนหาว ดวงตาสะลึมสะลือ  เขามึนงง "เหนื่อย.. ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ของีบก่อน..."
หลิงซิ่วอยากจะเอาหัวชนกำแพง  "ถ้าเจ้าไม่ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ อย่าโทษว่าข้าร้ายไม่ได้นะ"
"ครึ่งชั่วโมง  ข้าของีบแค่ครึ่งชั่วโมง..."  ถังเทียนหาวอีกครั้ง
"เลิกโยกโย้ได้แล้ว! ลุกขึ้นมาสู้กัน!  ผู้ชนะเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์.." หลิงซิ่วต้องการจะแทงถังเทียนให้พรุน  แต่ในฐานะยอดฝีมือ เขายับยั้งใจไว้
"อย่างนั้น ยี่สิบนาที.. ถ้าไม่ได้..งั้นขอสิบนาทีก็ได้." ตาของถังเทียนมีน้ำตาคลอเบ้า  เขาง่วงจนไม่อยากลืมตา
หลิงซิ่วโกรธ!
เขาไม่เคยพบคนขี้เกียจอย่างนั้นมาก่อน แต่ถังเทียนกลับหลับเฉย  แม้ขณะที่ปลายหอกของเขาจี้เข้ามาใกล้  ถังเทียนก็ยังไม่รู้สึก
ขี้เซานัก..
ถังเทียนสามารถลืมตาได้  เขาไม่เคยรู้สึกถึงอันตรายเมื่อหลิงซิ่วทำท่าจะแทงเขา
มีคนแบบนี้อยู่ในโลกได้อย่างไร  หลิงซิ่วโกรธจัด  แต่ด้วยศักดิ์ศรีความเป็นยอดฝีมือ  ทำให้เขาไม่ลอบทำร้ายถังเทียน
ทันใดนั้น  เขาเหลือบไปเห็นบ่อน้ำ  นัยน์ตาเขาเป็นประกาย
ถังตักน้ำยังคงอยู่ตรงนั้น  หลิงซิ่วไม่พูดอะไร วางหอกเงินแล้วเดินไปที่ถังน้ำที่มีน้ำเต็ม
เมื่อเขาถือถังน้ำเดินเข้ามาหาถังเทียน  ถังเทียนกรนเรียบร้อยแล้ว
เขาหลับได้ไวนัก... แต่ หึ หึ!
หลิงซิ่วยกถังน้ำในมือแล้วสาดน้ำใส่ถังเทียนทันที
น้ำจากในบ่อเย็นเสียดกระดูกถูกราดใส่ถังเทียน  ถังเทียนเหมือนกับฝันว่าตกลงไปในหลุมน้ำแข็งกระทันหัน  เขาร้องจ๊ากและโดดขึ้นมายืนบนพื้น
เมื่อเขาเห็นใบหน้าที่สะใจและถังน้ำในมือของหลิงซิ่ว  ถังเทียนก็เข้าใจ
ถังเทียนผมลุกชันด้วยความโกรธและด่าทอใส่หลิงซิ่ว  "ข้าเลี้ยงเนื้อเจ้ามื้อหนึ่ง  แต่ตอนนี้เจ้ากลับเอาน้ำมาสาดใส่ข้า!  บัดซบเอ๊ย!"
หลิงซิ่วเพิ่งนึกออกว่าเขาล้ำเส้นเกินไปแล้ว
ขณะที่เขาเตรียมจะอธิบาย  ถังเทียนก็พุ่งเข้ามาหาเขาเสียแล้ว  หลิงซิ่วที่ตั้งใจจะมาสู้ เพิ่งรู้ตัวว่าหอกเงินของเขาไม่ได้อยู่ในมือ แต่กลับเป็นถังตักน้ำแทน  "เดี๋ยวก่อน..."
ถังเทียนระเบิดความโกรธ  และใช้วังวนเหยี่ยวเหินทันที
วังวนลูกแล้วลูกเล่าลอยเข้าหาหลิงซิ่วเมือนกับฝูงนกพิราบขาว ถังเทียนก้มหน้าก้มตาดึงเอารังสีดาบถานถุ่ยออกมาแล้วซัดใส่หลิงซิ่ว
หลิงซิ่วหลบได้ทั้งหมด  แต่ถังเทียนโกรธหนัก ระดมโจมตีจนแทบหายใจไม่ทัน
วังวนเหยี่ยวเหินทำให้เขายืนได้ไม่มั่นคง และรังสีดาบถานถุ่ยที่หนาแน่นก็บดบังการมองของเขา  ในช่วงเวลาที่ตื่นเต้นตึงเครียดนี้  เขายกถังไม้ในมือขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ถังไม้ถูกกระแทกทันที
รังสีดาบที่คมเฉียดผ่านปลายจมูกและฟันเข้าใส่เขา เลือดพุ่งออกมา  เขาถึงกับหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
"เฮ้ เฮ้ เฮ้..." หลิงซิ่วตะโกน
ถังเทียนไม่มีความคิดจะหยุด  เขาระดมโจมตีใส่หลิงซิ่วเป็นพายุบุแคม เขาก้มหน้าก้มตาโจมตีอย่างต่อเนื่อง  ขณะเดียวกันก็สบถด่าทอไปด้วย
"เจ้ายึดเอาความตั้งดีของข้าเหมือนกับเป็นเจตนาร้าย!  ข้าอุตส่าห์เลี้ยงเนื้อย่างเจ้า แต่เจ้ากลับเอาน้ำมาสาดใส่ข้า"
"เจ้าเบื่อหน่ายชีวิตแล้วใช่หรือเปล่า!"
"เจ้าหนู!  ข้าจะบอกเจ้าให้  ใครก็ตามที่บังอาจสาดน้ำใส่ข้า มันต้องถูกทุบให้เละ"
"เจ้าก็คือเนื้อบนเขียง!  เจ้าเคราะห์ร้ายเสียแล้ว  เจ้าจะต้องเสียใจกับการกระทำโง่ๆ ของเจ้า!"
"ตายเสียเถอะ เจ้าบัดซบ!"
……
หลิงซิ่วผู้น่าสงสาร วิทยายุทธทั้งหมดของเขาฝึกฝนมากับหอกเงินพู่แดง  เขาไม่มีอาวุธ ไม่มีเครื่องมือป้องกัน ได้แต่เพียงพยายามดิ้นรนอยู่ในท่ามกลางการโจมตีของถังเทียน
เป็นการต่อสู้แบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคยทั้งนั้น
เมื่อหลิงซิ่วถูกฟาดลงกับพื้นด้วยพลังประทับหัตถ์ใหญ่ จากนั้นถังเทียนระดมหมัดต่อยใส่เขาที่ล้มอยู่บนพื้นอีกเป็นชุด
ในช่วงเวลาสั้นๆ สิบวินาที หน้าของหลิงซิ่วก็บวมปูดเบี้ยวผิดรูป
นี่... นี่มัน...
ทุกคนที่กำลังดูการต่อสู้เหมือนถูกสาปเป็นรูปปั้น พวกเขาทุกคนตะลึงกับภาพที่พวกเขาเห็นประจักษ์ตา
นั่นคือหลิงซิ่ว  หลิงซิ่วหอกเงิน
คนที่กำลังถูกทุบจนหน้าปูดบวมเหมือนหมู
คนที่เป็นฝ่ายนอนอยู่บนพื้น
คนที่ต้องการตอบโต้  แต่ทำได้แค่ร้อง...
โอว..พระเจ้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ถังเทียนต่อยหมัดอย่างบ้าคลั่งและในที่สุด ความโกรธของเขาก็หายไป  หลิงซิ่วที่น่าสงสาร สภาพของเขาดูไม่ได้เลยจากโดนพลังหมัด เป็นเหมือนกับว่าถูกช้างเหยียบมา
ถังเทียนหยุดและหันหน้าไปหาหลิงซิ่ว  เขาถาม "เจ้าพอใจหรือยัง?"
"ไม่?  ถ้าเจ้ามีความสามารถพอ.." หลิงซิ่วโกรธ
ไม่ทันได้มีคำพูดตามมา ถังเทียนก้มหน้าลงและระดมหมัดใส่เขาอีก  คำพูดของหลิงซิ่วหยุดชะงัก เขารับหมัดไปอีกสามสิบวินาทีก่อนที่จะหยุด
"พอใจหรือยัง?"
"ไม่!" หลิงซิ่วยังยืนกราน  "เจ้าไม่มีศักดิ์ศรีของนักสู้เลย.."
ถังเทียนเถียง "เฮอะ.. เจ้ากินเนื้อย่างของข้า จากนั้นตักน้ำมาสาดใส่ข้า แล้วเจ้ายังต้องการพูดถึงเรื่องศักดิ์ศรีนักสู้อีกหรือ?"
ไม่รอให้หลิงซิ่วได้ตอบโต้  ถังเทียนระดมต่อยต่ออีกสองนาที
ถังเทียนไม่ได้ใช้ปราณเที่ยงแท้  แต่เป็นพลังร่างกายล้วนๆ  แต่ความโหดของถังเทียน พลังหมัดเหล่านี้ก็เจ็บถึงกระดูกดำได้เช่นกัน
"พอใจหรือยัง?"
หลิงซิ่วยังคงเงียบ
"อ่าฮะ, ตอนนี้ไม่มีเสียงแล้วหรือ?"
ถังเทียนเริ่มต่อยอีกครั้ง แต่ละหมัดก่อให้เกิดเสียงดังชัด หน้าของหลิงซิ่วบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ
"ไม่พอใจหรือ?  อย่างนั้นข้าจะถลกหนังและมัดเจ้าซะ" ถังเทียนรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ยังมีแนวความคิด
หลิงซิ่วโวยวายลั่น "วิญญูชนฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้"
"วิญญูชนบ้าอะไรกัน?" ถังเทียนทำหน้าเยาะเย้ยจากนั้นเริ่มถอดกางเกงหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วตื่นเต้น  "เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย, เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ  อย่าทำแบบนี้"
ถังเทียนกลายเป็นหูหนวกไม่ได้ยินคำพูดของเขา
หลิงซิ่วตื่นตระหนก เรื่องที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าทุกคนทำให้เขาถึงกับตัวสั่น ในที่สุดเขาก็ตะโกนออกมา "เออ..ข้าพอใจแล้ว, ยอมแล้ว"
ถึงตอนนี้ ถังเทียนค่อยพูดอย่างภูมิใจ "ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าน่าจะรีบพูดให้เร็วกว่านี้ ทุกอย่างก็จะดีขึ้นไม่ใช่หรือ? มาเถอะ เรียกข้าว่า "พี่ใหญ่" ซะดีๆ"
มันน่าขายหน้าเกินไป!
มีคนชั่วร้ายอย่างนี้เกิดขึ้นในโลกได้ยังไง?
ข้าไม่น่าเสนอตัวรับภารกิจนี้เลย...
แต่คนฉลาดไม่ถือสาเมื่อพลาดท่าตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ..
หลิงซิ่วพูดอย่างโกรธเกรี้ยว "พี่ใหญ่..."
"ฮ่าฮ่าฮ่า!" สีหน้าถังเทียนเปลี่ยนทันที  เขากระโดดลงมาจากตัวหลิงซิ่วและฉุดหลิงซิ่วที่ฟกช้ำบวมปูดขึ้นมาทันทีแล้วช่วยปัดฝุ่นให้เขาเป็นอย่างดี "จากวันนี้ไป เราเป็นครอบครัวเดียวกัน (มาเฟียชัดๆ) มาเถอะๆ มากินเนื้อย่างต่อ"
เนื้อย่างอีกแล้ว...
หลิงซิ่วน้ำตาแทบร่วงเมื่อได้ยินคำนี้
ชีวิตของเขาพังทลายก็เพราะเนื้อย่าง  หลิงซิ่วสาบานว่าจะไม่ยอมกินเนื้อย่างอีกเด็ดขาด
เขาคลำใบหน้าและถอนหอกเงินออกมาจากข้างบ่อ  เมื่อเขาเห็นเงาสะท้อนจากน้ำในบ่อว่าหน้าของเขาฟกช้ำบวมปูดแค่ไหน หลิงซิ่วถึงกับหน้าดำคร่ำเครียด
บัดซบเอ๊ย...
 “ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนว่าไม่มีความบาดหมาง แต่ก็ยังไม่มีความสามัคคี!
ถังเทียนดักคอ แต่หลิงซิ่วทำเป็นหูหนวก เขานั่งลงข้างกู้เสวี่ยและโอบหอกเงินไว้ในอ้อมแขน
กู้เสวี่ยยังสงบและมองดูหลิงซิ่วซึ่งรู้สึกประหม่าลนลานและรู้สึกกดดันทันที ทันใดนั้น มีร่างหนึ่งเข้ามาขวางอยู่ข้างหน้า  ถังเทียนนั่งลงและหัวเราะกล่าว “เจ้าราดน้ำเย็นใส่ข้าถังหนึ่ง และข้าก็ทุบเจ้าคืนครั้งหนึ่ง ถือว่าเราเจ๊ากัน”
เจ้าทุบข้าครั้งเดียวเหรอ?
หลิงซิ่วหนังตากระตุก  ความร้อนในตัวลดฮวบฮาบ  กู้เสวี่ยรู้สึกกดดันมากขึ้น
หลังจากผ่านไปครึ่งวัน คนของตระกูลกู้ก็ตระหนักได้ว่าหลิงซิ่วนั่งอย่างไร้ความรู้สึก เหมือนกับว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะเคลื่อนไหวต่อไป
นี่..... นี่....
คนของตระกูลกู้ทุกคนที่มาพร้อมกับหลิงซิ่วถึงกับเหงื่อกาฬหลั่งไหล  ทันใดนั้น พวกเขารีบกลับไปรายงานผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูล  จากนั้นไม่นาน เขาก็วิ่งกลับมา
 “จอมยุทธหลิงซิ่ว  ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลกำลังเร่งรัดท่าน..”
หลิงซิ่วไม่พูดอะไรสักคำ  เขาลืมตากล่าว “รายงานผู้อาวุโสสูงสุดไปว่า หลิงซิ่วไม่อาจติดตามข้างกายเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โปรดเรียนผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลให้หายอดฝีมือคนใหม่เถอะ”
ทุกคนแตกฮือ
แม้แต่ถังเทียนก็ยังตะลึง
 

5 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขำอ่ะ

Unknown กล่าวว่า...

...... -_-"

Unknown กล่าวว่า...

55555+

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ ง่ายไปไหม55

Mr.K กล่าวว่า...

อย่างกาว 55555

แสดงความคิดเห็น