ตอนที่ 503 เซี่ยอีและไห่อิงอู่
หลังจากกรีดเลือดสาบาน เย่ว์หยาง,
ราชาฉลามและไห่อิงอู่ปรึกษากันต่อและเห็นด้วยที่จะให้ใช้ภาษาลับทุกอย่าง
จากนั้นราชาฉลามไปพบกับมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ต่อ
หลังจากต่อสู้กับพวกเขา ราชาฉลามออกจากป้อมสายฟ้า
เนื่องจากเขาไม่สามารถปกปิดสถานะของเขาได้ ราชินีสุยหมู่ (แมงกะพรุน)
คงจะสงสัยบางอย่างเป็นแน่ หากนางรู้เรื่องที่เขามาเยือนที่นี่
ดังนั้นเขาจึงแกล้งเหมือนว่ามาที่นี่เพื่อล้างแค้นและปล่อยให้หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกและมนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงทำร้ายเขาก่อนที่เขาจะจากไป
เพื่อให้ดูสมเหตุผลมากขึ้น ขณะที่ไห่อิงอู่
นางไม่ได้ติดตามพี่ชายนางกลับไปเกาะอัคคี และนางยังรั้งรออยู่
เมื่อเย่ว์หยางกลับมาที่ห้องเขา
เซี่ยอีวิ่งออกมาจากทางเดินและเรียกไห่อิงอู่ที่เดินตามหญิงรับใช้เพื่อกลับไปพัก
“เฮ้, เจ้าน่ะ, ทำไมเจ้าถึงอยากจะอยู่ที่นี่ด้วย?” เซี่ยอีถาม และเซี่ยอีเคยถามเย่ว์หยางเกี่ยวกับเรื่องของนางมาก่อนและก็เป็นไปตามที่นางเคยได้ยินได้เห็นเมื่อครู่ก่อนนั้น
นางรู้แล้วว่าไห่อิงอู่เป็นธิดาจักรพรรดิสมุทร
ดังนั้นนางจึงต้องตั้งป้อมใส่ไห่อิงอู่มากมากกว่าเดิม
เซี่ยอีไม่ได้เป็นอริกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์เลยแม้แต่น้อย
นางเป็นเพียงบ่าวรับใช้น้อยที่รอรับคำสั่งจากเย่ว์หยาง และนางนุ่มนวลว่าง่าย
ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไรกับนาง
แต่คนที่อยู่ต่อหน้านางเป็นธิดาของจักรพรรดิสมุทร
ไม่เพียงแต่มีพลังอำนาจมากเท่านั้น นางยังมีความทะเยอทะยานอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ จอมลามกเป็นศัตรูของนาง เพราะเขาฆ่าบิดาของนาง ตอนนี้นางกลับขอความร่วมมือกับเย่ว์หยาง
เป็นไปได้ไหมว่านางมีเจตนาแอบแฝง?
“ตั้งแต่บิดาข้าจากไป ก็ไม่มีที่ยืนหยัดในโลกนี้สำหรับเรา
พี่ชายและข้ารู้สึกว่าที่นี่คือสถานที่ปลอดภัยที่สุด ข้าจะอยู่ที่นี่ชั่วคราวสักปีหนึ่งและข้าจะจากไป วางใจได้
ข้ายังมีความเกลียดชังไตตันน้อยอยู่
ดังนั้นข้าไม่ขโมยเขาไปจากเจ้าแน่
มีเหตุผลสองประการที่ข้าต้องอยู่ที่นี่ ประการแรก
ข้าจำเป็นต้องปกป้องพันธมิตรของข้า
ประการที่สองข้าอยู่ที่นี่เป็นตัวประกัน
นี่คือการแสดงความจริงใจของพี่ชายข้าและตัวข้าเอง”
เนื่องจากหน้ากากปะการังของไห่อิงอู่ปิดหน้าได้เพียงครึ่งเดียวไม่ได้ครอบคลุมถึงปาก
จึงสามารถเห็นรอยยิ้มของนางเล็กน้อย
“เขาเป็นศัตรูที่ฆ่าบิดาของเจ้าไม่ใช่หรือ?”
นี่เป็นเรื่องที่สร้างความมึนงงให้กับเซี่ยอีที่สุด
เป็นไปได้อย่างไรว่าพวกเขาจะสามารถร่วมมือกับบุรุษที่สังหารบิดาของพวกเขา?
“พี่ชายข้าบอกข้าว่าบิดาฆ่าตนเอง
เขาถูกบุตรเลวทรามของราชินีแมงกะพรุนลอบทำร้าย นี่คือสาเหตุที่ทุกคนตีจากเขา
และควบคู่กับการต่อสู้กับอันซีก่อนหน้านั้น บิดาข้าบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว
ถ้าไตตันน้อยไม่ได้ช่วยเขาในเวลานั้น พี่ชายข้าคงไม่มีชีวิตรอด
แต่เป็นเพราะความช่วยเหลือของไตตันทำให้บิดาข้าตายอย่างสมศักดิ์ศรี ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่ศัตรูของข้าและพี่ชายข้า
เกี่ยวกับปัญหาของบิดาข้า เขาต่อสู้เพื่อสมบัติ!” ไห่อิงอู่ชะงักชั่วขณะ
เหมือนกับว่านางลังเลก่อนที่จะอธิบายต่อ
“อย่างนั้นเจ้าก็กำลังจะบอกว่าเจ้าไม่ได้เกลียดเขาแม้แต่น้อยหรือ?” เซี่ยอีรู้สึกว่าสตรีผู้นี้คือภัยคุกคามใหญ่
“ใช่แล้ว ข้าไม่ได้เกลียดเขา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับบิดาข้า
แต่เป็นสิ่งที่เขาทำให้ข้า” ไห่อิงอู่อธิบาย
“....เขาทำกับเจ้าด้วยเหรอ?” เซี่ยอีรู้สึกหึง เจ้าคนลามกนั่นชอบแต่สาวอกโตอวบอึ๋มมากขนาดนั้นเชียวหรือ?
อย่าว่าแต่สาวลูกครึ่งเอลฟ์ที่อกโตเท่านั้นเลย
แม้แต่ธิดาจักรพรรดิสมุทรก็ยังมีอกมหึมา มีแต่นางที่มักถูกเขาล้อว่าอกแบน
“ไม่ใช่อย่างนั้น” ไห่อิงอู่พึมพำกับตนเองก่อนอธิบายต่อ
“เป็นเรื่องส่วนตัวของข้า
ข้าไม่ต้องการจะพูดออกไป”
“ตอนนี้เจ้าเป็นนักสู้ระดับไหนแล้ว?” เซี่ยอีถามอีกครั้ง
“นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง....เรื่องนี้สำคัญด้วยเหรอ? โอว..ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากำลังสงสัยว่าเขาช่วยข้ายกระดับใช่ไหม? ไม่เลย ข้ารับมรดกพลังมาจากบิดาข้า”
ไห่อิงอู่ฉลาดมากเพราะนางรู้สิ่งที่เซี่ยอีกำลังคิด
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร,
ทั้งไม่ใส่ใจด้วย” เซี่ยอีมองดูไห่อิงอู่
“แต่ข้าจะจับตาดูเจ้าไว้”
“ข้าเข้าใจว่าเจ้าไม่ยินดีต้อนรับข้า” จู่ๆ ไห่อิงอู่ก็ยิ้มและเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ชุดของเจ้าแปลกตาไม่เหมือนใครดี
เขาออกแบบให้เจ้าใช่ไหม? ข้าไม่เคยเห็นเครื่องแต่งกายที่แปลกอย่างนั้นเลย
เต็มไปด้วยรสนิยม มีเสน่ห์แบบป่าเถื่อนน่าดึงดูดใจมาก”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับอาคันตุกะอย่างเจ้า” เซี่ยอีหมุนตัวเดินจากมา
ไห่อิงอู่ถอนหายใจขณะที่นางมองดูเซี่ยอีจากไป
นางคาดอาการสนองตอบของเซี่ยอีไว้แล้ว ดังนั้นนางจึงไม่ถือเป็นอารมณ์
มีเพียงแต่คำสุดท้ายที่ทำให้นางรู้สึกผิดขึ้นมาบ้าง..
อาคันตุกะ.. ถ้าเย่ว์หยางรับข้อตกลงนางที่เกาะอัคคี
อย่างนั้นบิดานางก็อาจจะไม่ตาย นางอาจโน้มน้าวให้บิดาของนางมอบอุทกแม่พระธรณีให้เขาและหลายๆ
อย่างคงไม่เปลี่ยนเป็นแบบนี้
ทุกอย่างจะจบลงโดยสมบูรณ์แบบโดยที่เขาสามารถร่วมทำงานกับบิดาของนางได้
นางสามารถช่วยเขา รับใช้เขา.. แต่น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธนาง
และทำให้นางเหมือนตกจากสวรรค์ชั้นฟ้าพบความจริงอันโหดร้าย
แน่นอนว่าไห่อิงอู่เข้าใจว่าแม้ว่าเขาจะเห็นด้วยก็ตาม แต่หลายๆ อย่างก็อาจไม่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีความหวังอยู่ดี
ตอนนี้ บิดาของนางตายแล้ว และเขากลายเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ได้อยู่กับนาง
นางบอกปัดความสุขในอดีตไปแล้ว
เฮ้อ!
ไห่อิงอู่ถอนหายใจเบาๆ นางรู้สึกสูญเสียจนยากจะอธิบาย
อนาคตที่รอนางอยู่ข้างหน้าจะเป็นยังไง?
นางไม่รู้ว่า
แม้แต่บิดาของนางก็ยังไม่สามารถปกครองมหาสมุทรได้อย่างแท้จริง
เป็นไปได้หรือที่นางจะกลายเป็นจักรพรรดินีสมุทรคนใหม่? ยิ่งกว่านั้น
การได้เป็นจักรพรรดินีสมุทรคือสิ่งที่นางต้องการจริงหรือ?
แทนที่จะได้กลายเป็นจักรพรรดินีสมุทรผู้ทรงอำนาจ
นางอยากเป็นเด็กสาวช่างฝันไร้เดียงสาที่เฝ้าอยู่หน้าห้องของเขาวันนั้นที่เกาะอัคคี จะดีแค่ไหนถ้านางสามารถย้อนเวลากลับไปได้ แต่คงเป็นไปไม่ได้..
ที่พักริมทะเลสาบ
ในห้องหนังสือ ด้านนอกห้องเจ้านาย
“ธุรกิจนี้ดำเนินไปได้ดีเกินไปหรือเปล่า”
เย่ว์หยางคงเป็นคนเดียวในโลกที่ไม่สบายใจกับธุรกิจที่รุ่งเรือง
เพราะเย่ว์หยางน่าประทับใจอย่างนี้
ตอนแรกที่เขาฆ่าเอ้อเมิ่งและเนียนหู่ก่อนจะฆ่าเยาถงและมารมังกรฟ้า แม้กระทั่งจักรพรรดิสมุทรในที่สุด
เรื่องนี้ดึงดูดพวกพ่อค้าให้ไหลบ่ามายังที่นี้เพื่อต่อสู้แย่งกันทำธุรกิจกับหอการค้าไตตัน พวกเขารู้เรื่องไตตันน้อยจากพวกเผ่าพันธุ์ทะเล แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะต่อให้คนตาบอดก็สามารถเห็นได้ว่าเผ่าพันธุ์ทะเลดีแต่วางท่าทางเท่านั้น
ถ้าเผ่าพันธุ์ทะเลมีความสามารถจริงๆ
ราชินีแมงกะพรุนคงจะฆ่าไตตันน้อยล้างแค้นให้จักรพรรดิสมุทรไปนานแล้ว ทำไมนางต้องแจกแจงอวดอ้างสิทธิ์ด้วยเล่า?
ตอนนี้หอการค้าไตตันเพิ่งเปิดดำเนินงาน
นี่จึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะทำงานร่วมกับพวกเขา
ยังคงมีเหล่านักสู้ผู้มีทักษะซึ่งไม่ได้รับการชื่นชอบจากคนอื่นก็ไปที่นั่นด้วยหวังว่าจะได้ร่วมงานกับหอการค้าไตตัน..
การประสบความสำเร็จจากการดำเนินงานของเจ้ากบอ้วนจั๊ดด์ยังเป็นตัวอย่างสร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดในหอทงเทียน
ไม่ว่าพวกเขาจะอ่อนแอขนาดไหน
แต่พวกเขาก็ยังแข็งแกร่งทรงพลังมากกว่าเจ้ากบอ้วนที่รู้ดีแต่การเลียแข้งประจบประแจงแน่นอน
แม้ว่าเจ้ากบอ้วนจะกลายเป็นผู้ช่วยพ่อบ้านและเป็นประธานหอการค้าไตตัน
แต่พวกที่แข็งแกร่งกว่าเขาเป็นร้อยๆ เท่าจะไม่ฉายประกายในหอการค้าไตตันได้อย่างไร?
ดังนั้นหอการค้าไตตันจึงมีชื่อเสียงโด่งดังชั่วเพียงข้ามคืน
มีพวกพ่อค้าผู้เข้ามาเพื่อหาโอกาสทางการค้า เจ้าปกครองที่เสนอเงินขอให้ช่วยปกป้อง
และนักรบผู้เสนอตัวขอรับใช้เย่ว์หยาง
พวกเขามีจำนวนนับไม่ถ้วนจริงๆ เมื่อเย่ว์หยางไม่อยู่แถวๆ นั้น
พ่อบ้านเหยียนเจิ้งและเจ้ากบอ้วนจั๊ดด์ก็ยังพอรับมืออยู่ไม่ถึงกับต้องรายงานเขา
แต่ตอนนี้เมื่อเย่ว์หยางกลับมา เหยียนเจิ้งจึงต้องรายงานทุกอย่างทันที
เรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้เย่ว์หยาง
เขากลับมาป้อมสายฟ้าเพื่อความสนุกเพลิดเพลินกับการปรนนิบัติที่อ่อนโยนของสาวลูกครึ่งเอลฟ์ เขาไม่ได้กลับมาเพื่อนั่งนับเงินเสียหน่อย...
ไม่ทำก็เหมือนกับผลักรายได้ออกไป
ดังนั้นเรื่องนี้ทำให้เย่ว์หยางผิดหวังมาก
เขาลอบถอนหายใจ
ทำไมไม่มีใครสามารถช่วยเขาจัดการปัญหาอื่นๆ นอกจากพ่อบ้านเหยียนเจิ้งบ้าง
เหยียนเจิ้งเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง
เขาเป็นคนละเอียดและรอบคอบ
แต่น่าเสียดายที่เขาหัวโบราณเกินไปและต้องมาคอยรับฟังความคิดเห็นเย่ว์หยางในทุกเรื่อง
ธุรกิจรอบๆ ตัวของเขาเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น แต่มันทำให้เขาเหนื่อย ยิ่งกว่านั้น
ยังเป็นความจริงที่ว่าเขาไม่สามารถจัดหลายๆ อย่างในคราวเดียวได้
เจ้ากบอ้วนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการประจบประแจง
ทักษะการทำงานของเขาก็ยังนับว่าไม่เลว
แต่การจัดการของเขายังไม่มีอะไรน่าสนใจ
มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์รู้แต่เรื่องกินกับต่อสู้
พวกเขาต้องการเพลิดเพลินกับชีวิตมากกว่าเขาเสียอีก
ดังนั้นพวกเขาคงจะไม่ออกมาช่วยเขาจัดการเรื่องงานแน่
เซี่ยอีเล่า?
นางไม่ได้มีพรสวรรค์ทางนี้
เย่ว์หยางเพิ่งจะทดสอบนางไปแล้วและตระหนักได้ว่านางรู้เรื่องแต่วิธีต่อสู้
สาวลูกครึ่งเอลฟ์นับว่าฉลาดมาก และมีทักษะในการจัดการระดับหนึ่งแน่นอน แต่นางไม่ชอบทำเรื่องแบบนี้
นางแค่ต้องการจะรับใช้เขา
และเขาไม่สามารถทนเห็นนางวิ่งวุ่นทำงานตลอดทั้งวันได้ ที่สำคัญนางเป็นสาวใช้ประจำตัวของเขา
ไม่ใช้เครื่องมือทำเงิน เย่ว์หยางไม่มีทางเลือกแต่อย่างใด แต่เพื่อจะยกภาระที่กองเป็นภูเขาออกด้วยตนเอง สาวลูกครึ่งเอลฟ์ยังช่วยนวดขาเขาและหาอาหารให้เขาเมื่อเวลาผ่านไป
นางจะกลับมาพร้อมกับชามขนมเป็นครั้งคราว
เย่ว์หยางไม่เคยขาดจากการได้รับปรนนิบัติที่อ่อนโยนจากนางแต่อย่างใด
“ถ้าเจ้าไม่ชอบทำเรื่องเหล่านี้ ก็แค่เผามันทิ้งให้หมดก็สิ้นเรื่อง”
เซี่ยอีรู้สึกว่าเย่ว์หยางกำลังหาเรื่องยุ่งยาก และแอบเคืองในใจว่านางไม่สามารถช่วยเขาได้
“อย่าโวยวายได้ไหม, ข้าแค่ขอให้เจ้ามาช่วยข้าจัดหมวดหมู่เรื่องเหล่านี้ แต่เจ้ามาบอกให้ข้าเผามันทิ้ง ข้าทำเองดีกว่า ไม่ต้องให้เจ้าช่วยก็ได้”
เย่ว์หยางโมโห
“ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเห็นเจ้าลำบาก ข้าคงไม่เสนอหน้าหรอก”
เซี่ยอียังโกรธและเถียงกลับ
“คิกๆ!” สาวลูกครึ่งเอลฟ์หัวเราะเบาๆ
นางเห็นการทะเลาะระหว่างเย่ว์หยางกับเซี่ยอีมานับครั้งไม่ถ้วนจนชินเสียแล้ว
เหมือนกับว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อเผชิญหน้ากัน
พวกเขาชอบทะเลากันเรื่อยเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นกัน
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทะเลาะกันมากเพียงไหน จิตใจพวกเขาก็ยังสนับสนุนกันจนถึงที่สุด
เซี่ยอีนั่งลงข้างหน้าโต๊ะทั้งคืน จ้องมองไห่อิงอู่เงียบๆ ไห่อิงอู่พูดขึ้นทันที ทำไมเจ้าไม่ให้ข้าลองดูบ้าง
ข้าคิดว่ามันไม่ยากเกินไป เพียงแต่ซับซ้อนนิดหน่อย
เซี่ยอีรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้ยินเช่นนี้
นางก็เป็นสตรีที่ฉลาดคนหนึ่ง
นางรู้ว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำงานให้สำเร็จ
แต่นางไม่สามารถควบคุมความโกรธของนางได้
นางอดโมโหไม่ได้เมื่อเห็นคำแนะนำตนเองของพวกนักรบหยิ่งยโสงี่เง่า
นางจะตบโต๊ะทุกครั้งที่นางเห็นค่าใช้จ่ายที่เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด พวกเขากล้าหลอกลวงหอการค้าไตตันได้อย่างไร?
พวกเขานึกหรือว่าหอการค้าไตตันจะมีแต่คนรวยโง่ๆ?
เป็นเพราะเรื่องเช่นนี้ที่ทำให้นางไม่ยินดีจะรับทำงานนี้ วิธีจัดการที่ดีที่สุด
ต้องใช้ความรุนแรงกับคนเหล่านี้
พอตอนนี้ไห่อิงอู่พูดถึงอีกครั้ง
เซี่ยอีตื่นตัวอีกครั้ง
เป็นไปได้ไหมว่าธิดาของจักรพรรดิสมุทรจะมีความสามารถด้านนี้? นางเก่งทางด้านเหล่านี้หรือเปล่า?
“ลองดูก็ได้”
เมื่อเย่ว์หยางได้ยินนางพูด
เขาจำได้เมื่อครั้งที่พวกเขาพบกันที่เกาะอัคคี
นางพูดว่าถ้าเขาจะอยู่ นางยินดีจะช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้เขา
เป็นไปได้ไหมว่าไห่อิงอู่มีความสามารถจัดการด้านนั้นจริงๆ หรือ?
“เจ้าเชื่อถือข้ามากขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ไห่อิงอู่มองดูเซี่ยอีและสาวลูกครึ่งเอลฟ์ก่อนที่นางจะถาม
“ข้ายกพื้นที่มหาสมุทรในหอทงเทียนให้เจ้าหมด
แล้วข้ายังจะต้องใส่ใจอะไรกับเงินจำนวนน้อยนิด?”
ความจริงเย่ว์หยางรู้ว่าเจตนาของไห่อิงอู่ก็คือระงับความเป็นปรปักษ์ต่อเซี่ยอีโดยใช้คำพูดของเขา เมื่อเขาพูดเช่นนี้
เซี่ยอีส่งสายตาเหยียดหยามไปทางไห่อิงอู่ นางมั่นใจทันที
เป็นไปไม่ได้ที่ไห่อิงอู่จะชิงสมบัติไปจากเขา
“ข้าจะลองดู” ไห่อิงอู่นั่งลงหลังจากได้ฟังแล้ว
ก็หยิบกองเอกสารที่จำเป็นซึ่งเย่ว์หยางเพิ่งมองผ่านไป
“.....”
เซี่ยอีแค่นเสียงและนั่งลงเช่นกันและรอให้ไห่อิงอู่ทำตัวเองให้ขายหน้าอย่างอดทน
คงเป็นเรื่องดีที่สุด
ถ้าไห่อิงอู่ก่อเรื่องผิดพลาดมากและทำให้เย่ว์หยางดุด่านางจนอับอาย ก็คงทำให้นางโอ้อวดตัวน้อยลงไปบ้าง
สิบนาทีต่อมา ไห่อิงอู่ก็ยืนขึ้น
นางยื่นส่งเอกสารในมือนางให้เย่ว์หยาง “นอกจากข้อตกลงด้านบนที่ท่านจำเป็นต้องลงชื่อ ข้าจัดคัดแยกเป็นส่วนๆ แล้ว”
เซี่ยอีตะลึง ไวมากขนาดนั้นเชียวหรือ?
เย่ว์หยางประหลาดใจมากเนื่องจากเขาเห็นเอกสารนั้น เขาเห็นว่าเอกสารเหล่านั้นถูกจัดการไว้อย่างดี
ถ้าเป็นเขา เขาก็คงต้องทำเช่นนั้น ภายใต้สายตาจับจ้องของเซี่ยอี
ไห่อิงอู่นำเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะของเย่ว์หยางและย้ายไปจัดการทันที...
เซี่ยอีงุนงงชั่วครู่ก่อนจะวิ่งไปหาเย่ว์หยาง นางคว้าคอเสื้อเขาและจ้องมองจนจมูกแทบชนกัน
“เจ้ายังมีอะไรจะทำเพิ่มอีกไหม?
เอาออกมาให้หมดเดี๋ยวนี้”
สาวลูกครึ่งเอลฟ์หัวเราะหนักจนตัวงอ
และยังหัวเราะต่อด้วยความเพลิดเพลินอยู่ในอ้อมกอดเย่ว์หยาง
10 ความคิดเห็น:
เอ่อ มีแววจะเหมาหมดรึเปล่าเอ่ย
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากคับ
ขอบคุณคะ
ค่อยๆ ละลายกำแพงในใจของเธอไปทีละนิด 1 ปี เวลาเหลือเฟือ
ขี้หึงแต่ปากแข็งไง 555
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
Tx
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น