ตอนที่ 492
เขยเราเก่งขนาดไหน
เย่ว์หยางรู้สึกว่าพลังงานลึกลับจะระเบิดออกมาจากในใจของเขา เหมือนกับว่าเขากำลังจะรู้แจ้ง
ความรู้ของมารดาสหายผู้น่าสงสารเหมือนกับถูกปลดผนึกอีกชั้น
ได้หลั่งไหลถ่ายทอดมาที่เขา
เสี่ยวเหวินหลีกลายร่างเป็นแสงลอยกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หยาง
ทันใดนั้น
ระดับความรู้แจ้งของเขาเพิ่มมากขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้น
สิ่งที่เย่ว์หยางรู้สึกไม่ใช่แค่เฉพาะความรู้ของมารดาสหายผู้น่าสงสารเท่านั้น เขายังรู้ความรู้ของเสี่ยวเหวินหลี
รับตกทอดเศษเสี้ยวความทรงจำและความรู้ของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี
ขณะเดียวกันระหว่างที่อยู่ในสภาวะรู้แจ้งนี้...
เมื่อเขาดื่มด่ำกับการรู้แจ้งครั้งใหม่นี้ หอลงทัณฑ์บ่อโลหิตก็เริ่มสั่นสะเทือน
ส่วนพื้นผิวเริ่มถล่มยุบลง ผนังกำแพงเต็มไปด้วยรอยร้าว
หอลงทัณฑ์บ่อโลหิตสามารถพังทลายได้ทุกเมื่อ แม้แต่มิติทั้งหมดก็จะพังทลายไปด้วย
โคเงาอาหมันเป็นรายแรกที่รู้สึกตัวได้สติจากการยกระดับและวิ่งเข้าหาเย่ว์หยาง
นางคว้าตัวเย่ว์หยางด้วยพลังของนางทั้งหมด
หงนางพญากระหายเลือดตามหลังมาติดๆ ขณะที่นางบินขึ้นฟ้า นางจะคอยปัดกันหินที่ตกลงมาใส่เย่ว์หยางและอาหมันต่อเนื่อง นางทำเช่นนี้เพื่อให้เจ้านายของนางที่ยังอยู่ในภวังค์สมาธิไม่ได้รับผลกระทบ ตั๊กแตนมัจจุราชกางปีกและบินขึ้นไป เมื่อมันมองลงมา
มันรู้สึกว่ายังคงมีโซ่ล่ามเทพที่เย่ว์หยางไม่สามารถเก็บได้ทันเวลา
ขณะที่มันคิดได้ ตั๊กแตนมัจจุราชก็บินโฉบลงมา
แม้ว่าหอลงทัณฑ์บ่อโลหิตสามารถพังถล่มได้ทุกเมื่อ แต่มันไม่ลืมเก็บสมบัติที่เจ้านายของมันได้มาด้วยความยากลำบาก อีกด้านหนึ่ง
ภูตเพลิงปฐพีที่ได้ดูดซับสำนึกเทพไปส่วนหนึ่งไม่ได้รู้สึกตัวเช่นนั้น
ภูตเพลิงขยายขนาดใหญ่มากขึ้นและใกล้จะเป็นร่างมนุษย์หลังจากดูดซับสำนึกเทพ
ที่สำคัญที่สุด นางกำลังผสานเข้ากับสำนึกเทพ และยิ่งได้พลังสนับสนุนเช่นนี้ทำให้นางสามารถใช้พลังเพื่อยกระดับได้สมบูรณ์แบบ ...
นางบินอยู่ในหอลงทัณฑ์บ่อโลหิตอย่างตื่นเต้น
ขณะที่นางชนหินที่ร่วงลงมาจนกระเด็นและใช้ส่วนพลังควบคุมของสำนึกเทพรวบรวมก้อนหินที่ร่วงลงมาไว้ด้วยกันจากนั้นยิงออกไปอีกครั้ง
นางมัวแต่เพลิดเพลินกับการเล่นสนุกจนลืมเลือนอันตรายโดยรอบ
สำหรับนาง
ไม่มีอันตรายจากการพังทลายของหอลงทัณฑ์บ่อโลหิต
แน่นอนว่านางไม่รับรู้ไม่ทราบว่าเจ้านายของนางเป็นมนุษย์
เมดูซ่าศิลา,
นางเงือกวายุ, นาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็งตามหลังเย่ว์หยางมาอย่างกระชั้นชิด
พวกนางคอยคุ้มครองทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเขา
หนึ่งในผู้เบิกเส้นทางข้างหน้าคือเมดูซ่าศิลา นางหยุดโบกหางของนางเนื่องจากมีเสียงๆ หนึ่งอยู่ข้างหน้า
เป็นพญางูเหลือมโลหิต
อสูรทองระดับแปด
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดพญางูเหลือมโลหิตถึงได้มีพลังชีวิตที่ทนทานนัก
มันยังไม่ตาย มันร้องด้วยความเจ็บปวดขณะเลื้อยเข้าหาเย่ว์หยางและพวกที่เหลือ
ในตอนแรกเมดูซ่าศิลาคิดว่ามันกำลังพยายามโจมตีทำร้ายพวกนาง
ขณะที่นางง้างธนูเตรียมจะยิง
พญางูเหลือมโลหิตรู้ตัวว่ามันกำลังจะตาย
ขณะที่น้ำตาไหลออกจากตามัน
เมื่อเห็นมันร้องไห้
เมดูซ่าศิลาลดธนูลง... ปีศาจอสรพิษน้ำแข็งตะโกนบอกอย่างไม่พอใจ นางเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มของพวกนาง จะไม่ยอมให้น้องๆ
ของนางหวั่นไหวฟุ้งซ่านขณะปกป้องเจ้านายของพวกนาง
ไม่เพียงแต่สูญเสียสมาธิเท่านั้น
แต่การอยู่ในมิติที่กำลังล่มสลายพังทลายในไม่ช้าจะมัวแต่เห็นแก่พญางูเหลือมโลหิตเล็กน้อยเช่นนี้ได้ยังไง
“กี๊ซ กี๊ซ” พญางูเหลือมโลหิตดูเหมือนจะวิงวอนขอความช่วยเหลือจากเมดูซ่าศิลา
เนื่องจากมันไม่สามารถออกจากหอลงทัณฑ์บ่อโลหิตได้ด้วยอาการที่บาดเจ็บหนัก
ยิ่งกว่านั้น
มันยังถูกจำกัดโดยรหัสคำสาปโบราณในหอลงทัณฑ์บ่อโลหิต ดังนั้นมันจึงไม่สามารถไปจากที่นี้ได้จริงๆ
เมื่อมันเห็นว่าเมดูซ่าศิลาจะทิ้งมันไว้เบื้องหลัง
มันกู่ร้องใส่ท้องฟ้าอย่างเจ็บปวดเศร้าเสียใจ
เมดูซ่าศิลาหยุดและหันมามอง
พญางูเหลือมโลหิตพยายามเข้ามาหานาง แต่ก่อนที่มันจะเข้ามาถึง ปีศาจอสรพิษน้ำแข็งตะโกนสั่งเข้มงวด เมดูซ่าศิลาง้างธนูทันทีที่ได้ยิน
เนื่องจากมันไม่สามารถมาได้ทัน นางจะช่วยจบชีวิตให้มันแทน
แต่ก่อนที่
เมดูซ่าศิลาจะได้ยิงลูกศรทองออกไป พญางูเหลือมโลหิตกลิ้งไปรอบๆ
ด้วยความเจ็บปวด
มีเลือดจำนวนมากไหลออกมาจากปลายหางของมัน
ขณะที่มีหัวน้อยๆ โผล่ออกมาจากช่องคลอดของมัน
ชีวิตน้อยๆ ยังดิ้นรนอยู่ในถุงโปร่งใสเหมือนกับต้องการจะออกมาดูโลก
เป็นเพราะเด็กที่คลอดก่อนกำหนดนี้เองทำให้เมดูซ่าศิลาเปลี่ยนใจไม่ฆ่าพญางูเหลือมโลหิต
นางล้วงหินผลึกเขียวและหันมาหน้ามาทางพญางูเหลือมโลหิต..
ก่อนที่เมดูซ่าศิลาจะสามารถร่ายเวททำสัญญา
พญางูเหลือมโลหิตก็รีบเปลี่ยนเป็นรัศมีสีทองและพุ่งเข้าหาหินผลึกเขียวพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขของมัน
เย่ว์หยางยังอยู่ในภวังค์สมาธิจึงไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้
แน่นอน แม้ว่าเขาเห็น
เขาก็คงจะไม่ห้าม
มีแต่จะดีใจที่เมดูซ่าศิลาไม่ใช่เครื่องจักรสังหารที่โหดอำมหิตอีกต่อไป เนื่องจากนางเริ่มมีสติปัญญาและอารมณ์แบบมนุษย์
นี่ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่
ยังไม่ทันถึงเจดีย์โบราณที่ทางเข้าหอลงทัณฑ์บ่อโลหิต
เย่ว์หยางสะดุ้งตื่นเสียก่อน
เมื่อเขาเห็นว่าหอลงทัณฑ์บ่อโลหิตทั้งหมดกำลังจะล่มสลายและมิติทั้งหมดเริ่มทำลาย
เขารีบล้วงศิลาเทเลพอร์ตที่ดีที่สุดออกมา นางพญากระหายเลือด, โคเงาอาหมัน,
ตั๊กแตนมรณะ, เมดูซ่าศิลา, นางเงือกวายุ,
นาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็งกลับเข้าไปในคัมภีร์โลกทั้งหมด
มีแต่ภูตเพลิงที่ยังมัวชักช้าทำให้เย่ว์หยางโมโหและเอ็ดตะโรใส่
ภูตเพลิงกลัวแต่นางก็ยังไม่เข้าใจเหตุผล
นางจำได้แต่เพียงว่านางจะโดนดุด่าทุกครั้งที่เอาแต่เล่นเป็นเวลานานเกินไป
ในที่สุดนางจะจำครั้งนี้ไว้
หลังจากเย่ว์หยางเรียกเก็บภูตเพลิงแล้ว
ก็เก็บโซ่ล่ามเทพไว้ด้วย เขาทุบผลึกเทเลพอร์ตทันที ทั่วทั้งหอลงทัณฑ์บ่อโลหิตก็พังทลายในที่สุด
โลกสั่นสะเทือน
ทันทีที่เย่ว์หยางเทเลพอร์ตจากไป
มิติทั้งหมดก็เริ่มทำลายตัวเองและบิดเบี้ยว
เกิดแรงระเบิดรุนแรงทั่วทั้งหอลงทัณฑ์บ่อโลหิต
บึ้ม!
แม้ว่าจะเทเลพอร์ตได้สำเร็จ
แต่คลื่นอัดกระแทกจากแรงระเบิดยังส่งผลให้เย่ว์หยางปลิวกระเด็น เมื่อเขามาถึงที่ลานฝึกฝีมือ จึงทำให้เสียหลักตอนลงกับพื้น พลังบิดเบือนของมิติส่งผลให้เย่ว์หยางปลิวเหมือนลูกกระสุนและกระแทกเข้ากับหอธงที่อยู่สนามฝึกฝีมือ
หอพังทลายไปบางส่วน โชคดีที่ธงตระกูลเย่ว์และธงอาณาจักรต้าเซี่ยไม่เสียหาย
ไม่เช่นนั้นอาจถูกมองว่าเป็นลางร้ายในสงครามก็ได้
ถ้าเป็นเช่นนั้นกำลังใจของทุกคนอาจถูกบั่นทอนก็เป็นได้
ฮุยไท่หลางไวที่สุด
เนื่องจากมันมาถึงข้างตัวเย่ว์หยางก่อนที่ทุกคนจะทันรู้ตัวเสียอีก
มันกระดิกหางไปมาเพราะดีใจมาก
“เจ้าหาทางกลับมาทั้งที จะไม่เอิกเกริกไปหน่อยหรือเจ้าหนู?” จุนอู๋โหย่วเดินออกมาเมื่อเขาได้ยินเสียงเอะอะและพบว่าเป็นเย่ว์หยางที่มีฝุ่นเต็มตัวไปหมดกำลังลุกขึ้นยืนจากกองซากหักพัง เขามีความสุขมากและไม่ได้ตำหนิที่เขาทำหอคอยเสียหาย
พวกเขาเริ่มหัวเราะอย่างยินดี
“เป็นหนุ่มเป็นแน่นควรรับงานหลายอย่างก็จริง แต่เจ้าจะรับผิดชอบต่อความประมาทของเจ้ายังไง?”
แม้ว่าผู้เฒ่าเย่ว์ไห่จะตำหนิเย่ว์หยาง
แต่ความจริงท่านกำลังขอบคุณบรรพบุรุษอยู่ในใจ
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับหลานชายผู้เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากผู้นี้
อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถทนมีชีวิตต่อไปได้อีกแน่นอน
ความหวังของทั่วทั้งตระกูลเย่ว์
เย่ว์หยางล้วนแบกไว้คนเดียว
ถ้าเขาไม่อาจกลับมาได้
ตระกูลเย่ว์คงถึงคราวล่มสลาย
โชคดีที่เจ้าเด็กน้อยที่ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงไม่สบายใจ
ยังกลับมาได้ เขายังดูปลอดภัยดี ไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างที่คาดกันไว้
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ารีบเข้ามาไกล่เกลี่ยทันที
เขาเหินตรงไปที่เย่ว์หยางที่ยังคงมึนงงเล็กน้อย
และดึงเขาเข้ามาช่วยปัดเศษหินและฝุ่นบนร่างกายให้เขา “นับว่าดีแล้วที่เจ้ากลับมาถึงนี่ได้ อย่าพูดอะไรเลย พวกเราทุกคนเข้าใจ...
เจ้าอ้วนไห่! เจ้าเป็นลูกพี่ประสาอะไร? รีบไปตักน้ำมาให้คุณชายสามล้างหน้าล้างตาเร็วเข้า,
ลูกน้องของเจ้าเป็นอย่างนี้
เจ้ายังจะภูมิใจว่าเป็นลูกพี่อยู่อีกหรือ?”
เจ้าอ้วนไห่ที่ก่อนนี้หน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
ปาดน้ำตาจากหน้าและเริ่มโม้อย่างภาคภูมิ “มั่นใจได้เลยว่าเจ้าไม่ต้องการข้า เพราะมีหลายคนกำลังทะเลาะแย่งทำหน้าที่นี้กัน
หลิวเย่
แม้ว่าข้าจะเด่นในเรื่องจัดหาน้ำล้างหน้า แต่ในฐานะเป็นลูกพี่ของเจ้า
ข้าตัดสินใจมอบโอกาสนี้ให้เจ้าทำ”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค
เย่คงก็ถีบเขาพ้นไปจากทางเสียแล้ว
เทียบกับเป่าเอ๋อที่วิ่งเข้ามากอดและร้องไห้ไม่มียั้ง
หลิวเย่ได้แต่สงวนท่าทีไว้เหลือให้เห็นแต่เพียงหยาดน้ำตาเล็กๆ บนใบหน้านาง
อย่าว่าแต่นางเลย
แม้แต่เสวี่ยทันหลางที่ปกติจะอยู่ห่างๆ
ก็ยังหันศีรษะไปทางอื่นเหมือนกับจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่กับพวกที่เหลือวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น
เนื่องจากพวกเขาคลายความเจ็บปวดและความวิตกกังวลจากการรอคอยเย่ว์หยางเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน
พวกสตรีอาจร้องไห้ตามที่ใจต้องการ แต่ในฐานะบุรุษพวกเขาอายที่จะทำอย่างนั้น
ดังนั้นพวกเขาได้แต่โห่ร้องและจับเย่ว์หยางโยนขึ้นอากาศ
“ชู่ว, ชู่ว ไปอยู่ตรงนั้น ศิษย์ของข้ากับข้าไม่ได้เห็นกันมานานแล้ว
ให้เราได้สนทนากัน” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ารอจนพวกเขาเสร็จแล้ว
ก่อนที่จะวางมือลงบนไหล่ของเย่ว์หยางและถามเขาด้วยความตื่นเต้น “เด็กน้อย,
เจ้าได้สมบัติอะไรมาบ้าง เอาออกมาให้ข้าชมดู”
“ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ขยะกองหนึ่ง ครั้งนี้
ข้าได้โซ่ล่ามเทพสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์ แต่มันพังแล้ว” เย่ว์หยางจงใจทำเป็นถ่อมตัว
“พรวด, พรวด, พรวด...”
จุนอู๋โหย่วและผู้เฒ่าเย่ว์ไห่ตระหนักว่าพวกเขาไม่น่าซดชาตอนที่เย่ว์หยางอยู่ใกล้ๆ
เลย
ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงสำลักน้ำตาย
ตอนแรกพวกเขาต้องการทำตัวเหมือนผู้อาวุโสและต้องการจะหยุดความอายของตนเองไว้ พวกเขาไม่ต้องการจะแยแสอะไรเหมือนกับเป็นผู้อาวุโสทั่วไป แต่พวกเขาไม่สามารถทนได้จนถึงที่สุด
ในหมู่พวกเขาใครบ้างที่มีสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์? อย่าว่าแต่นับรบธรรมดาเลย แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดและองครักษ์พิทักษ์ฟ้าก็ยังไม่มีเป็นของตนเอง พวกเขาภูมิใจพอแล้ว
หากพวกเขาได้เป็นเจ้าของสมบัติระดับแพลตตินัมได้สักชิ้น ตอนนี้
แค่การเดินทางเข้าไปในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพสบายๆก็ทำให้เย่ว์หยางได้โซ่ล่ามเทพสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์มาด้วย
แล้วท่านจะทนวางมาดต่อไปได้ยังไง? แต่พอคิดดูอีกที
เย่ว์หยางก็มีอาวุธวิเศษมากมายอยู่แล้ว
ดาบวิเศษฮุยจินที่เขาสร้างเองก็ใกล้จะเป็นสมบัติชั้นศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว
ดังนั้นโซ่ล่ามเทพสำหรับเขาแล้ว ถือว่าไม่มีอะไรเลย
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ารู้ว่าเขาคงไม่แบ่งโซ่ล่ามเทพให้แน่ ดังนั้นจึงไม่แสดงความเห็นเพิ่มเติม
คงจะเปลืองพลังงานเปล่า
มันเคยใช้ล่ามไตตันโบราณมาแล้ว
ดังนั้นแม้ว่าต่อให้ยกให้เขา เขาก็คงไม่มีปัญญาใช้มันได้
เขายังคงตบไหล่เย่ว์หยางแสดงความยินดีกับเขา
“เจ้ายังมีอะไรพอจะแบ่งให้เราได้บ้างไหม?
เจ้าเก็บโซ่ล่ามเทพเอาไว้รับมือกับราชาเฮยอวี้ได้
แต่สมบัติชั้นแพลตตินัมหรือชั้นทองแบ่งให้เราได้ไหม? ข้าเป็นคนมักน้อยพอเพียงอยู่แล้ว
ถ้าได้สักชิ้นสองชิ้นก็คงจะดี”
เฟิงเสี่ยวหวิน,
เสวี่ยเวิ่นเต้า, เหยียนเชียนจ้งและผู้อาวุโสอื่นๆ
แทบร่วงกับพื้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
แล้วนี่คุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้รับการสอนสั่งให้กลายเป็นคนหน้าด้านจากตาแก่นี่หรือเปล่า?
ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่อยากจะทุบจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์นัก
ในที่สุดมีผู้เยาว์อัจฉริยะในตระกูลเย่ว์อยู่คนเดียว และเจ้ากลับคาดหวังเสียมากมาย
นี่เจ้ากำลังจะสอนวีรบุรุษให้กลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายเสียแล้ว
แม้ว่าความหน้าด้านจะป้องกันเย่ว์หยางจากการถูกเอารัดเอาเปรียบ
แต่มันก็ทำให้เขาเสียชื่อเสียงและเขาก็ไม่สามารถหาข้ออ้างชมเชยหลานชายของเขาได้
“ไม่มีสมบัติอย่างอื่น” เย่ว์หยางปฏิเสธเขา เนื่องจากสมบัตินั้นเขารวบรวมมาเอง แล้วทำไมจะต้องให้สมบัติกับคนอื่นง่ายๆ
นักเล่า?
“ยักษ์ไตตันตายหรือยัง? ข้าไม่ถือสานะหากข้าจะได้รับเนื้อสักส่วนหนึ่ง
เพราะข้าเพิ่งทำสัญญากับลูกมังกรเมื่อเร็วๆ นี้เอง
ถ้าได้เนื้อไตตันสักหน่อย...เอ๋? ว่าไงนะ เจ้ามีจริงๆ เหรอ? โอว..พระเจ้าช่วย”
อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าเห็นว่ามีวัตถุขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นในท้องฟ้า
แขนขนาดยาวมากกว่าร้อยเมตรหล่นลงมาบนพื้น
ทำให้ปราสาทตระกูลเย่ว์สั่นสะเทือนเล็กน้อย
สนามฝึกฝีมือพังยับอิฐแตกลอยกระจุยขึ้นมาเป็นล้านชิ้น
อย่าว่าแต่อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าผู้ยืนอยู่ระหว่างร่องนิ้วของยักษ์ไตตันเลย
แม้แต่จุนอู๋โหย่ว, ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่,
ราชันย์ฟ้าบูรพาและเฟิงขวงที่ยืนอยู่ห่างๆ
ยังตกตะลึงกลัวจนแก้วชาหลุดจากมือโดยไม่รู้ตัว
ทุกคนแสดงท่าทางมึนงง
ขณะที่พวกเขายังไม่สามารถฟื้นคืนจากอาการตกใจอยู่ชั่วขณะ
แค่เพียงนิ้วของไตตันนิ้วหนึ่งก็น่าจะมีขนาดยาวยี่สิบเมตรแล้ว
ถ้ารวมกับแขนด้วยจะมีขนาดยาวมากกว่าร้อยเมตร
เหตุผลที่เย่ว์หยางทิ้งแขนไตตันให้ทุกคนก็เพื่อส่งเสริมให้กับทุกคน
ประการแรก เขาต้องการเพิ่มกำลังใจให้พวกเขา ประการที่สอง
จะเป็นการยกระดับให้อสูรของพวกเขาด้วย
ด้วยเลือดและเนื้อของไตตันโบราณ
เขาเชื่อว่าระดับของอสูรทั้งหลายจะเพิ่มขึ้นได้อีกหลายระดับ
กระบี่แสงยาวถูกยิงออกมาจากกริชสังหารเทพ
ขณะที่เย่ว์หยางตัดเนื้อจากแขนไตตันชิ้นแล้วชิ้นเล่า
และใช้เป็นของขวัญให้อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าและคนที่เหลือ.. เย่ว์หยางไม่ลืมเย่คง,
เจ้าอ้วนไห่และพวกที่เหลือด้วยแน่นอน ส่วนฮุยไท่หลาง มันเริ่มแทะกินแล้ว มันไม่ต้องเกรงใจแม้แต่น้อย
เนื่องจากมันรู้ว่าเย่ว์หยางเตรียมแขนทั้งหมดให้มัน ดังนั้นมันเริ่มกินโดยไม่สนใจอะไร
“เอาล่ะ เอาล่ะ, ข้าไม่ต้องการมากนักหรอก เจ้าควรเก็บแขนที่มีค่านี้ไว้ พวกเขาแก่กันหมดแล้ว จะเสียของซะเปล่าเพราะให้พวกเขาใช้
ให้กันคนละเล็กน้อยก็พอ” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ารีบห้ามเย่ว์หยางไม่ให้แบ่งเนื้อต่อ
เนื่องจากไม่มีประโยชน์ที่ให้อสูรของพวกเขายกระดับกันต่อไป
จะเป็นเรื่องดีกว่าที่เก็บไว้ใช้ยกระดับให้อสูรของเย่ว์หยาง
“นั่นก็สมเหตุผลแล้ว”
เซียนนักพรตเห็นด้วยแข็งขัน
“เขยคนดีของข้า เจ้าฆ่าไตตันด้วยตัวเองหรือนี่?
ฮ่าฮ่าฮ่า น่าทึ่งมาก ข้าดีใจจริงๆ” ราชันย์ฟ้าบูรพาปลาบปลื้มดีใจมาก เขาคิดว่า “มีลูกชายจะมีประโยชน์อะไร ข้าไม่มีเลยสักคน? ยังดีนะที่ข้ามีลูกสาว
ดูสิเขยข้าน่าประทับใจแค่ไหน? เฟิงเสี่ยวหวินและเหยียนเชียนจ้ง พวกเจ้ามีบุตรชายก็คงได้แต่แอบร้องไห้ในมุมลับตาแน่”
แม้ว่าเขาจะไม่พูดออกมาดังๆ
แต่ท่าทีภาคภูมิใจของเขาก็ทำให้เหยียนเชียนจ้งและผู้อาวุโสที่เหลือแทบคลั่ง
“อย่าโม้ต่อหน้าข้าเลย ใครกันไม่มีลูกสาว?”
เพียงคนเดียวที่สามารถโต้ตอบราชันย์ฟ้าบูรพาได้ก็คงเป็นจุนอู๋โหย่วผู้ให้กำเนิดแม่เสือสาว
“ชิวเอ๋อ, ซานเอ๋อพยายามจนได้ผลสำเร็จแล้ว เจ้า
เจ้าพักผ่อนอย่างสงบเถอะ..” ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่หันไปลอบปาดน้ำตา
12 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ แปลมาลงต่อไปเรื่อยๆน่ะครับ
เหล่าสาวๆคนอื่นอยู่ไหนกันนนน >< มาแสดงความยินดีกับเย่ว์หยางหน่อยเร็ว! เราคิดถึง ;w;
ขอบคุณคับ
อ่านอยู่ดีๆ ก็ทำเสียง หึหึหึหึ ลูกพี่แม่งลุกหนีเลย 555
พี่หยางกับอาจารย์จิ้งจอกผก็ยังหน้าด้านต่อไป
ขอบคุณค่ะ
Thx
แสดงความคิดเห็น