วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 501 เครื่องแบบ



ตอนที่  501  เครื่องแบบ
แม้ว่าทุกคนจะสนับสนุนเย่ว์หยางก็ตาม  แต่เขายังตัดสินใจชลอหลายๆ อย่างไว้ก่อน

เขาตัดสินใจเลือกเลือดของหลิวเย่, เซี่ยอีและสาวลูกครึ่งเอลฟ์  เพื่อที่ว่าเขาจะได้กลั่นเลือดให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น  เขาควรเตรียมตัวให้มากขึ้นจะดีกว่า แต่น่าเสียดายที่เสวี่ยอู๋เสีย, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, นางเซียนหงส์ฟ้า, จักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนไม่อยู่ใกล้ๆ ไม่อย่างนั้นเย่ว์หยางเชื่อว่าผลที่ออกมาคงจะดีขึ้น
เย่ว์หยางกลับไปที่ปราสาทตระกูลเย่ว์และตามหาตัวหลิวเย่
ขณะที่เขากำลังรวบรวมเลือดของนาง เป่าเอ๋อก็เดินเข้ามา  “เจ้าต้องการเลือดข้าด้วยหรือเปล่า?”
 “เอ่อ..” เย่ว์หยางไม่แน่ใจว่าเลือดของเอลฟ์ทองจะสามารถรวมตัวได้กับเลือดของมนุษย์  แต่จะปล่อยของดีให้เสียไปก็ยังกระไรอยู่ เขาจึงผงกศีรษะ
 “แต่ข้ากลัวเจ็บ, งั้นเอาไปแค่นิดเดียวนะ” ปกติเป่าเอ๋อกลัวเจ็บอยู่แล้ว  แต่เมื่อนางเห็นว่าหลิวเย่ยอมรับคำขอร้องของเย่ว์หยางโดยไม่ลังเลใจ นางก็ยืนยันทันที ในชีวิตนาง  นางสนับสนุนการค้นคว้าของเขา  ขณะที่สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ย นางลังเลใจเล็กน้อยเมื่อนางเห็นว่าเย่ว์หยางรวบรวมเลือดของเป่าเอ๋อ  นางคาดว่าเขาคงรวบรวมเลือดจากสาวสวยน่ารัก นางจึงตัดสินใจเอาเองว่าเลือดของนางคงจะไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นนางจึงไม่เสนอตัว ได้แต่แค่นเสียงและเดินออกไป
หลังจากกินเนื้อยักษ์ไตตัน สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยมีส่วนสูงเพิ่มขึ้นจนสูงถึงสี่เมตร
พลังของนางเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า
ระดับของนางเพิ่มขึ้นจากนักสู้ระดับเจ็ดเป็นนักสู้ระดับแปด
ถ้านางดื่มเลือดไตตันที่เย่ว์หยางกลั่น บางทีนางอาจจะเพิ่มขึ้นได้อีกระดับหนึ่ง
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น  แม้แต่ทอเรนเลโอและสี่สาวเผ่าคิวบัวร์ก็มีระดับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเนื้อของไตตันจะส่งผลต่อการยกระดับของชนเผ่าทอเรนและเผ่าคิวบัวร์  กล่าวอีกนัยหนึ่งมันจำกัดเฉพาะมนุษย์โดยตรงเท่านั้น
เย่คงและเจ้าอ้วนไห่พูดเหน็บแนมว่าความสามารถของชนเผ่าทอเรนและเผ่าคิวบัวร์ในการย่อยคล้ายกับพวกอสูร
มันเป็นอย่างนั้นแน่นอน  นอกจากนี้ เย่ว์หยางคาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะยกระดับได้เร็วหลังจากกินเนื้อยักษ์ไตตัน  เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และพี่น้องตระกูลหลี่ยังพอทำเนา เนื่องจากพวกเขายินดีกินเนื้อไตตัน  ยังไงก็ได้เพื่อให้มีพลังเพิ่มขึ้น  แต่องค์ชายเทียนหลัวและเสวี่ยทันหลางคัดค้านต่อต้านอย่างหนัก  พวกเขายอมเสียโอกาสยกระดับจากการกินเนื้อไตตันดีกว่า  แน่นอนว่า ถ้าเป็นเย่ว์หยาง เขาก็ไม่ต้องการกินเช่นกัน  แม้ว่ายักษ์ไตตันโบราณจะใหญ่โตมหึมา แต่เขาก็อยู่ในร่างแบบมนุษย์  คงเป็นเรื่องรู้สึกผิดปกติอยู่บ้างถ้าจะกินเนื้อของเขา  องค์ชายเทียนหลัวและเสวี่ยทันหลางยังโชคดีที่ไม่มีใครบังคับให้พวกเขากินได้  แต่เหยียนพั่วจวินและเฟิงชิซาพบกับพบความโชคร้าย
พวกเขาไม่ต้องการจะกิน  แต่ผู้อาวุโสในตระกูลของพวกเขาบังคับให้พวกเขาต้องกิน  พวกเขาแทบจะอาเจียนออกมา  โชคดีที่พวกเขายังได้รับพลังงานบางอย่างจากการกินเนื้อไตตัน  ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงได้ร้องไห้จนตาย
ลีน, แอนนาและเป่าเอ๋อไม่ยอมกินอย่างแน่นอน  เอลฟ์ทองไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์  อาหารตามปกติของพวกเขาประกอบไปด้วยผักและผลไม้
เมื่อรวบรวมเลือดของหญิงสาวทั้งสองคนแล้ว  เย่ว์หยางก็มุ่งหน้าไปยังหอทงเทียนชั้นหก
จากนั้นเขากลับไปที่ป้อมสายฟ้า
สิ่งที่ทำให้เขางุนงงก็คือดูเหมือนมีร่องรอยการต่อสู้รุนแรงในป้อมสายฟ้า และดูเหมือนว่าเผ่าพันธุ์ทะเลจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กระมัง?
ถ้าพวกเผ่าทะเลเริ่มบุกโจมตี  ทำไมเจ้ากบอ้วนถึงไม่แจ้งเรื่องนี้กับเขา?
เย่ว์หยางเก็บความสงสัยเหล่านี้เดินเข้าประตู
 “นายท่าน  ในที่สุดนายท่านก็กลับมา ท่านคงไม่รู้หรอกว่ามีการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นมากขนาดไหน  ตื่นเต้นขนาดสะเทือนไปทั้งโลก...”  เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์เดินขึ้นมาและแจ้งข่าวดีก่อนหน้าที่เย่ว์หยางจะเดินเข้ามาเสียอีก
 “โดยสรุปก็คือ, สมาชิกเผ่าทะเลสองสามคนมาเยือนและยั่วยุเรา”  คำพูดของพ่อบ้านเหยียนเจิ้งพูดง่าย ฟังเข้าใจง่าย
เจ้ากบอ้วนบ่นเสียงดัง แสดงให้เห็นว่าการสรุปแบบนั้นยังไม่น่าประทับใจเพียงพอ
จากนั้นเขาลำดับเรื่องราวให้ดูเกินจริงยิ่งขึ้นไปอีก
แต่ในที่สุดก็ทำให้เย่ว์หยางเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  พวกเผ่าทะเลพบที่อยู่น้อยของไตตันน้อยในป้อมสายฟ้าแล้ว  พวกเขาต้องการให้ราชาฉงนี่ขับไล่คนเฝ้าบ้านของไตตันน้อยออกไป แต่ถูกเขาปฏิเสธ  ดังนั้นทูตที่ราชินีแมงกระพรุนส่งมาจึงออกคำสั่งให้สมาชิกในหอการค้าไตตัน, ข้าทาสและคนที่เกี่ยวข้องกับไตตันน้อยจำนนทันที  พวกเขายังต้องการจะยึดทรัพย์สินทั้งหมดของไตตันน้อยในป้อมสายฟ้า
อย่าว่าแต่ได้รับการสนับสนุนจากมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์เลย ต่อให้พวกเขาไม่อยู่แต่ในภาพ เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์และพวกที่เหลือก็ไม่มีทางยอมแพ้
ดังนั้นทั้งสองฝ่ายใช้การประลองตัดสินหาผู้ชนะ
รูปแบบการประลองใช้การสู้สามต่อสามแบบที่ใช้ในหอทงเทียน
ราชาฉงนี่เป็นผู้ตัดสิน ขณะที่เซวี่ยเหอ, ซานเซียว, หม่าหลง, ท่านเฉินและนักสู้ปราณก่อกำเนิดอื่นๆ ลอบช่วยบริวารของไตตันน้อยทางลับ เนื่องจากพวกเขาต้องสู้กับฝ่ายทูตที่ราชินีแมงกระพรุนส่งมา
ทุกคนคิดว่าทูตที่ได้รับแต่งตั้งมาเป็นยอดฝีมือจะเอาชนะบริวารของไตตันน้อยได้อย่างแน่นอน  แต่พวกเขาก็ต้องกลัวแทบบ้าเมื่อหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกผานฉาน, มนุษย์ปลาดาบจี้ฟง, ปลาวาฬจางและมนุษย์ปูยักษ์อ้าวปรากฏตัวขึ้น  ไม่เพียงแต่พวกเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปดเท่านั้น แม้แต่มนุษย์ปลาตีนซุ่ยจุ่ยผู้อ่อนแอที่สุดก็สามารถเล่นงานพวกเขาอย่างเจ็บปวดได้สบาย...
แม้ว่าพวกเขาจะกลายเป็นมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ก็ตาม  แต่พวกเขาคือสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดในยุคหลายพันปีก่อน
ราชาฉงนี่ถึงกับตกตะลึง
การต่อสู้หยุดชะงักทันทีและกลุ่มทูตที่เหลือหลังจากยอมรับความพ่ายแพ้ยอมชดใช้ของมีค่าเป็นจำนวนมหาศาล... เผ่าพันธุ์ทะเลประสบความสูญเสียอย่างหนัก ยกเว้นแต่พวกเขาจะทุ่มกองกำลังทั้งหมดของพวกเขา  พวกเขาคงไม่สามารถตีชิงป้อมสายฟ้าที่มีมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์คอยปกป้องได้
แต่ขณะที่พวกเผ่าพันธุ์ทะเลเผชิญกับความแตกแยกและแยกตัวเป็นอิสระ ราชินีแมงกระพรุนต้องการนักสู้ปราณก่อกำเนิดเพื่อให้ความมั่นใจกับคนของนางเป็นการเร่งด่วน  ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่นางจะให้ความสำคัญกับการต่อสู้กับมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์
วันต่อมา นางส่งคนมาทำสัญญาสงบศึกและยอมเลื่อนแผนการที่จะส่งทหารเข้าทวีปมังกรทะยานเพื่อแก้แค้นอีกด้วย
 “นั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นสินะ”  เย่ว์หยางคาดการผลจะออกมาเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว
แม้ว่าจะไม่มีพวกมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์  เผ่าพันธุ์ทะเลก็ไม่สามารถพิชิตป้อมสายฟ้าได้ทั้งหมด  ราชาฉงนี่, เซวี่ยเหอ, ซานเซียวและท่านเฉินจะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนั้นแน่  การแสดงออกเช่นนี้เป็นท่าทีที่ราชาฉงนี่แสดงต่อราชินีแมงกระพรุน  เขาต้องการเตือนนางโดยแสดงพลังของพวกเขา  ยิ่งกว่านั้น ต่อให้เผ่าพันธุ์ทะเลพิชิตป้อมสายฟ้าได้  เย่ว์หยางก็สามารถชิงกลับมาได้อย่างง่ายดาย พวกเขาคงไม่สามารถย้ายป้อมสายฟ้ากลับไปที่หอทงเทียนชั้นเก้าได้เป็นแน่
เซี่ยอีที่ยังอยู่ในเครื่องแบบของตำรวจสาวพูดขึ้นอย่างห้าวหาญทันที “ข้าก็จะสู้ด้วย  แม้ว่าข้าจะไม่ชนะ แต่ข้าไม่ยอมแพ้แน่”
เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์รีบพยักหน้าประจบนาง  “ใช่แล้ว ใช่ คุณหนูเซี่ยอีสามารถสู้กับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้  ถ้าเจ้าผู้นั้นไม่เผ่นลงจากเวทีเสียก่อน  เขาจะต้องกลายเป็นประวัติศาสตร์แน่นอน  คุณหนูเซี่ยอีคือก้าวแรกสร้างความมั่นใจในการคว้าชัยชนะในการต่อสู้ให้กับพวกเรา!
พ่อบ้านเหยียนเจิ้งเตือน “ราชาฉงนี่ยังมีอาคันตุกะอื่นรออยู่ในตอนนี้ ท่านต้องการให้จัดหมายกำหนดการหรือไม่?”
เย่ว์หยางรู้สึกว่ารอไปอีกสักระยะคงจะดีกว่า  เขาจึงโบกมือ
จากที่พักด้านหน้าทะเลสาบ  มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์สองสามคนยังคงดื่มกินกันอยู่   เย่ว์หยางเดินเข้าไปหาพวกเขาและโยนชิ้นเนื้อไตตันให้พวกเขาอย่างสบายๆ
หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกดมดูแล้วถึงกับผิวเปลี่ยนซีดขาว
มนุษย์ปลาดาบจี้ฟงมองดูเย่ว์หยางอย่างหวาดๆ “นี่มันเนื้ออะไรกัน? อสูรปราณก่อกำเนิดระดับสูงใช่ไหม? เจ้าสามารถฆ่ามันได้ด้วยหรือนี่?”
มนุษย์ปลาตีนซุ่ยจุ่ยแทบตกใจเป็นลม  เขาพลิกมองแล้วมองอีก ไม่อยากจะเชื่อและคิดว่านี่เป็นแค่ภาพหลอน เขากัดกินอย่างมูมมาม จากนั้นก็มีเสียงดัง ฟันที่แหลมคมซี่หนึ่งของเขาหัก  แม้แต่ฟันของเขาก็ยังไม่สามารถฉีกเนื้อไตตันได้เลย  เขาดึงฟันหักออกมาจากปากและโวยวายอย่างหงุดหงิด “นี่มันเนื้อบ้าอะไรกัน?  ฟันของข้ายังไม่สามารถกัดเข้าได้เลย ดูสิ ฟันฟางข้า หักหมดแล้ว”
 “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว  ถ้าเจ้าของเนื้อนี้ยังมีชีวิตอยู่ ต่อให้ใช้มีดระดับแพลตตินัมท่านก็ยังเฉือนตัดไม่เข้าด้วยซ้ำ”  มนุษย์ปลาตีนซุ่ยจุ่ยกลัวจนแทบปัสสาวะราดหลังจากได้ยินสิ่งที่เย่ว์หยางพูด
 “เจ้าช่างยอดเยี่ยมจริงๆ เราไม่เคยลองกินเนื้อของสัตว์ประหลาดระดับปราณก่อกำเนิดมาก่อน เราต้องลองกินเนื้อนี้ดูซะแล้ว”  ปลาวาฬจางผงกศีรษะและพูดอย่างยินดี
 “รีบๆ เฉลยคำตอบมา นี่คือเนื้ออะไรกันแน่? ความสงสัยแทบจะฆ่าข้าได้เช่นกัน”  มนุษย์ปูอ้าวต้องการรู้ว่าเนื้อนี้ได้มาจากไหน
 “ไตตันโบราณ” คำพูดของเย่ว์หยางทำให้มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์แข็งค้างแทบเป็นหิน
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถสงบจิตใจได้หลังจากเย่ว์หยางจากไปนานแล้ว.... หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกปาดเหงื่อเยียบเย็นที่หน้าผาก  “เจ้าเด็กนี่รุดหน้ารวดเร็วน่ากลัวเหลือเกิน  เขาเพิ่งจะฆ่าจักรพรรดิสมุทรไม่นาน  และนี่ยังฆ่ากระทั่งไตตันโบราณได้อีกหรือนี่  ความเร็วในการยกระดับของเขาลึกล้ำยากจะหยั่งถึงจริงๆ”
มนุษย์ปลาตีนฝืนหัวเราะแหะๆ  “ท่านยังจะกลัวอะไร  พวกเราไม่ใช่ศัตรูของเขา  และเนื่องจากเขามีอนาคต จากนี้ไปเราก็แค่ทำงานให้กับเขา”
มนุษย์ปลาดาบจี้ฟงคำราม “เจ้าไม่ต้องพูดเลย”
เมื่อเย่ว์หยางกลับมายังที่พักหลักของเขา  สาวลูกครึ่งเอลฟ์เข้ามาต้อนรับเขาด้วยความยินดี
นางเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งก่อน  นางจึงเตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดีในเวลานี้ เมื่อเย่ว์หยางกลับมา
บนโต๊ะจัดวางจานไว้เต็ม
นางมีน้ำอุ่นเตรียมไว้พร้อมแล้วและยังฝึกฝนวิธีนวดที่ให้ความสบายที่สุด นอกจากบริการที่อ่อนโยนของนางแล้ว นางยังเตรียมการแสดงที่น่าสนใจอีกด้วย สาวลูกครึ่งเอลฟ์เตรียมการร่ายรำที่ชดช้อยสวยงามไว้เพื่อเย่ว์หยางและตั้งใจจะแสดงให้เขาชมโดดเฉพาะ  นางยังฉุดเซี่ยอีและเตรียมอวดแฟชั่นให้เขา  สาวลูกครึ่งเอลฟ์เตรียมเครื่องแต่งกายพิเศษที่ออกแบบโดยเย่ว์หยางไว้แล้ว
มีชุดตำรวจหญิง, ชุดทหาร, ชุดแอร์โฮสเตท, ชุดพยาบาล, ชุดสาวประจำสำนักงาน, ราชินี, เจ้าหญิง, นักเรียนและชุดสาวใช้ สาวลูกครึ่งเอลฟ์ล้วนเตรียมไว้ทั้งหมด
เย่ว์หยางเกือบโก่งคอหอนและแทบปล้ำสองสาวไปแล้ว
 “ชุดสวยไหม? บ่าวยังทำไม่เสร็จอยู่ส่วนหนึ่ง  มันจะดีกว่านี้ถ้ามีเวลามากขึ้น” สาวลูกครึ่งเอลฟ์สวมชุดใช้พร้อมกับที่คาดผมหูแมวทำให้นางดูน่ารัก  นางสามารถทำให้หนุ่มๆ ที่เอาแต่เก็บตัวหลงใหลได้
 “คนลามก,  ข้าไม่ยอมใส่ชุดเหล่านี้ออกไปเดินแสดงข้างนอกแน่”  เซี่ยอีมองดูน่ายั่วยวนแฝงแววป่าเถื่อน  นางสวมชุดสาวแก๊งมอเตอร์ไซค์ สวมหมวกแก๊ปทหาร ชุดหนังกางเกงขาสั้นและถุงน่องลายตาข่ายกับรองเท้าส้นสูง  มีปัญหาอยู่อย่างเดียวก็คือนางไม่ได้ใช้ชุดที่ดันอกให้ล้นทะลัก  ถ้าไม่อย่างนั้นคงทำให้เย่ว์หยางเลือดกำเดาพุ่งอย่างแน่นอน
เป็นไปไม่ได้ที่เซี่ยอีจะยอมใส่ชุดนี้ต่อหน้าคนอื่น และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่นางจะสวมปลอกคอที่มีหมุดแหลมร้อยโซ่ไว้ที่คอ
แน่นอนว่าเย่ว์หยางคงไม่บอกว่าเขาพอใจทั้งหมด  เขาต้องเข้มงวดในการศักยภาพของเขาให้กับเด็กสาว
เขาชี้ไปที่เซี่ยอีและตำหนินาง  “เจ้าไม่ควรสวมกางเกงในไว้ใต้ถุงน่องตาข่ายนะ”
เซี่ยอีคัดค้านปฏิเสธทันที “อย่างนั้นเจ้าก็เห็นทุกอย่างได้ไม่ใช่เหรอ? เสื้อหนังก็มีรูอยู่ทั่วทุกที่แล้ว ข้าแทบจะปิดบังอะไรไม่ได้แล้ว และไอ้กางเกงสั้นบ้านี่ ก็สั้นเหลือเกิน สั้นจนเห็นก้นข้าหมดแล้ว”
 “เหลวไหล!  กางเกงนั้นของเจ้า ต้องตัดให้สั้นกว่านี้อีก ถ้ามันไม่พอดีกับทำเลทองของเจ้า และส่วนเว้าโค้งของเจ้าไม่ปรากฏ ชุดเหล่านี้จะแสดงด้านป่าเถื่อนของเจ้าออกมาได้หรือ เจ้าใส่แล้วจะให้ดูเหมือนนกนกกะทาได้ยังไง? เสื้อของเจ้าก็ต้องสั้นกว่านี้ด้วย ต้องอวดท้องของเจ้า แล้วจะยิ่งดีถ้าสั้นถึงหน้าอก  แต่แขนเสื้อต้องยาวเข้าไว้” เซี่ยอีรู้สึกเสียใจที่เย่ว์หยางดุ มันน่าจะดีพอแล้วที่นางยินดีใส่ชุดนี้ให้คนลามกอย่างเขาได้ดู แต่เขายังรู้สึกว่าไม่ดีพออีกหรือ? เขารู้ดีแล้วว่าอกนางไม่ใหญ่ แต่ก็ยังให้นางสวมเครื่องแบบบ้าๆ นี่  แล้วยังสาวลูกครึ่งเอลฟ์อกใหญ่กลับให้นางคลุมตัวมิดชิด  นี่มันเป็นความคิดที่ผิดปกติจริงๆ
 “เข้าใจแล้ว, ข้าจะแก้ไขให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นแน่นอน”  สาวลูกครึ่งเอลฟ์เชื่อฟังว่าง่ายเป็นที่สุดในบรรดาคนทั้งหมด  นางจะฟังคำแนะนำทั้งหมดของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขเลย
 “นายท่าน มีอาคันตุกะสามคนรออยู่ข้างนอก  พวกเขาไม่ได้ให้ชื่อไว้  แต่พวกเขาเจาะจงว่าต้องการพบท่านโดยเฉพาะ”  หญิงรับใช้ข้างนอกเข้ามารายงาน
 “....”  เย่ว์หยางตะลึง สำหรับหญิงรับใช้ที่เข้ามารายงานเขาอย่างนี้ แสดงให้เห็นว่าเจ้ากบอ้วนจั๊ดด์และพ่อบ้านเหยียนเจิ้งไม่อาจรั้งอีกฝ่ายไว้ได้ เมื่อไม่รู้ชื่อของอีกฝ่าย  เขาจะเป็นใครได้เล่า? เซี่ยอีซักไซ้สาวใช้อย่างละเอียดว่าผู้มาเป็นบุรุษหรือสตรี  เมื่อได้ยินว่าเป็นสตรีคนหนึ่ง นางเดินตามเย่ว์หยางออกมาทันที สำหรับสาวลูกครึ่งเอลฟ์ นางไม่สนใจเรื่องอย่างนี้แม้แต่น้อย  เพราะนางสนใจแต่ตนเอง เหมือนกับว่าการดัดแปลงชิ้นส่วนของเสื้อตรงจุดที่เย่ว์หยางแนะนำเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในโลกสำหรับนาง
เมื่อเย่ว์หยางก้าวเข้ามาในห้องโถง เขาถึงกับพูดไม่ออกทันทัน  “เป็นพวกเจ้าเองหรือ?”

14 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

serialnu กล่าวว่า...

เมียหลวงตามมาตบเปล่าฮะ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

เมียๆตามมารึเปล่า หึๆ

เปา กล่าวว่า...

ใครมาว่ะ

Yukio กล่าวว่า...

ใช่สามสาวที่อีหยางกำลังตามหาปะตามมาลากกับบ้านยันบ้านเมียน้อย555

Nopanser Kung กล่าวว่า...

จัดเต็มจริงๆ 5555+ รสนิยมของเย่ว์หยางนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ฮิฮิ

ป.ล. เป็นพวกราชาฉลามหรือเปล่าหว่า...?

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น