วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 145 พลังสายเลือดแคระ

ตอนที่  145  พลังสายเลือดแคระ
ระวัง, นั่นคือพลังสายเลือดแคระ!” เสียงอุทานของเมอเรย์ดังมาจากด้านหลัง  เสียงเขาสั่นและรู้สึกตื่นเต้นรุนแรง

พลังสายเลือดแคระ.... ชื่อแปลกๆ...
ตาของถังเทียนจับจ้องหัวซาเขม็ง  แต่ความไม่สบายใจของเขาเพิ่มมากขึ้นทุกที
หัวซายิ้มเล็กน้อย "สายตายอดเยี่ยม!"
หัวซาในร่างที่มีขนาดเล็กลงกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ลักษณะหน้าตาที่น่าเกลียดหายไป แทนที่ด้วยใบหน้าที่ละเอียดอ่อน กล้ามเนื้อที่ปูดโปนถูกแทนที่ด้วยร่างที่สมส่วนค่อนไปทางอ่อนแอ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถังเทียนไม่อาจเชื่อมโยงหัวซาผู้ละเอียดอ่อนกับหัวซาที่เหมือนสัตว์ร้ายก่อนหน้านั้นได้เลย
มือที่ผอมบางหยิบกระบองอย่างช่ำชอง  กระบองยาวกว่า 1.8 เมตรเกือบจะสองเท่าของตัวหัวซาในตอนนี้ แต่น้ำหนักเกือบ 300 กิโลกรัมดูเหมือนว่าจะเบาเหมือนขนนกเมื่ออยู่ในมือของหัวซา
ฉากภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนดูขัดแย้งกันอย่างมโหฬาร  แต่ไม่มีใครหัวเราะออก รวมทั้งถังเทียน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวซาที่ข้อมือบางกำลังปั่นควงกระบองเขี้ยวสุนัขป่าราวกับกังหันลม
ร่างที่ผอมแห้งและใบหน้าของหัวซาที่ยิ้มเล็กน้อยช่างตรงกันข้ามกับพลังที่น่ากลัว
ถังเทียนระวังตัวไม่ประมาทและไม่กล้าผ่อนความระวัง ทันใดนั้นสายตาเขาพร่าและหัวซาก็หายไป
ฮึ่ม..
ร่างที่เลือนลาง ปรากฏอยู่ในสายตาของถังเทียนทันที
ม่านตาของถังเทียนขยายทันที!
ไวมาก
ในช่วงเวลาตื่นเต้น เขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันที เขามีเวลาทำได้แต่เพียงไขว้แขนป้องกันหน้าอกไว้
ปัง
ถังเทียนรู้สึกเหมือนว่าเขาถูกสัตว์ร้ายวิ่งเข้าขวิด ถึงกับหน้ามืดไปชั่วขณะ
ร่างที่ผอมแห้งของหัวซาในกลางอากาศม้วนตัวและลงสู่พื้น ใบหน้าของเขายังคงยิ้มน้อยๆ และกระบองเขี้ยวหมาป่าสองหัว (ท้าย) ยังคงหมุนติ้วเป็นกังหัน
"เป็นไงบ้าง?  พลังนี้แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนใช่ไหม?"
เสียงของหัวซาแว่วกระทบโสตของถังเทียนที่ถูกกระแทกล้มกับพื้น และพยายามดิ้นรนลุกขึ้นยืน  เขาถลึงตาจ้องหัวซา และเลือดไหลซึมออกจากมุมปาก
จากการกระแทกนั้น ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
ถังเทียนปาดเลือดที่มุมปาก  สายตาเขาจ้องมองหัวซาและเขาพยายามเค้นสมองหาแนวคิดสู้
พลังของหัวซามากกว่าเดิมถึงสองเท่า และสิ่งที่อันตรายมากกว่าก็คือความเร็วของเขาน่าตกใจมากยิ่งกว่า  สัญชาตญาณที่เขาเคยภูมิใจมากนักหนาใช้ไม่ได้ผลกับการโจมตีที่น่าตื่นตะลึงนี้เลย
ถ้าพลังล้วนๆไม่เพียงพอทำให้เขาหนาวเย็นถึงขั้วกระดูกสันหลังได้  แต่นี่เป็นพลังที่ผสานกันลงตัวกับความเร็ว มันยิ่งเพิ่มความอันตรายให้กับหัวซา....
พลังสายเลือดแคระ.....
ชื่อที่แปลกประหลาดที่ไม่คุ้นเคยนี้ ทำให้ถังเทียนตระหนักถึงพลังสายเลือดที่แท้จริงเป็นครั้งแรก
แข็งแกร่งมาก!
จะสู้ได้ยังได้?
ถังเทียนจ้องมองหัวซา  หน้าของเขาหมองคล้ำ  แต่ความคิดของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม หัวซาไม่ยอมให้ถังเทียนคิดช้า
นัยน์ตาของถังเทียนพร่าอีกครั้ง และครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งก่อน แทบจะในทันที ถังเทียนแค่มีเวลาพอให้ตั้งท่าป้องกันเท่านั้น ขณะที่แรงที่น่าสะพรึงกลัวกระแทกเข้าที่แขนของเขา ทำให้ให้เขาปลิวกระเด็นเหมือนกระสอบทราย
ขณะที่ถังเทียนถูกชนกระเด็น  ร่างของหัวซาก็หายไปอีกในทันที
ชั่ววินาทีต่อมาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านข้างถังเทียน เขายกกระบองเขี้ยวสุนัขป่าหวดใส่ท้องของถังเทียนอย่างรุนแรง
แม้ว่าถังเทียนจะพยายามหลบในวินาทีสุดท้าย  แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลบพ้น เขาคล้ายกับหุ่นเชิดที่โดนจับโยนขึ้นไปในอากาศ  แม้ว่าจะมีชุดเกราะคอยป้องกัน แต่ถังเทียนไม่อาจหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บใด  เขารู้สึกลำคอหวานวูบและเตรียมจะพ่นเลือดออกมา
แต่ถังเทียนรู้ว่าสถานการณ์ยังวิกฤติ  การโจมตีของหัวซาจะมาอย่างต่อเนื่องและไม่สิ้นสุดแค่นี้แน่นอน
ถังเทียนทั้งที่ยังลอยกระเด็นอยู่ ฝืนใจกลืนเลือดลงไปอย่างเต็มฝืนแล้วขดตัวกลมพร้อมกับคำราม “นกยูง!
ควั่บ!
นกยูงที่อยู่ที่ด้านหลังของเขากางคลี่หางเหมือนกับกำลังรำแพน
กระบองกระแทกเข้าใส่พื้นอย่างรุนแรง เกิดกระแสลมรุนแรงจากการกระแทก
หลังของถังเทียนเจ็บปวดอย่างหนัก  ทั้งตัวเขาร่วงลงมาเหมือนดาวตกกระแทกเข้ากับพื้นหินแข็งเสียงดังสนั่น
※※※※

ปิงสังเกตดูสนามต่อสู้เงียบๆ  เขาเห็นสภาพทุลักทุเลของถังเทียนทั้งหมด  พลังสายเลือดแคระของหัวซาทำให้เขาทึ่ง  หลังจากยุคของเขา พลังที่ยังค้นไม่พบยังล้าหลังมากเมื่อเทียบกับวันนี้  ระบบพลังในปัจจุบันนี้ แปลกใหม่เกินไปจนเขาไม่คุ้นเคย
พลังสายเลือดแคระทำให้เขาทึ่งและตกใจ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมยื่นมือช่วย  แม้เมื่อถังเทียนดูเหมือนอยู่ในสภาพทุลักทุเลมาก อาจจะตายได้ทุกเมื่อ  เขายังคงรอคอยให้ถังเทียนพลิกสถานการณ์
ถังเทียนเป็นเด็กมีแว่วรุ่งมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น  แต่ถังเทียนยังไม่ได้ตระหนักชัดเจนว่าเขามีศักยภาพที่แท้จริงมากขนาดไหน
นั่นคือสมบัติที่น่าตื่นตกใจมาก
แต่ก็เช่นเดียวกับอัจฉริยะคนอื่นๆ ทั้งหมด ศักยภาพทั้งหมดของพวกเขาจะต้องถูกขุดออกมารีดเค้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเพิ่มฝีมือความสามารถ  มิฉะนั้น ศักยภาพของพวกเขาก็จะหลับไหลอยู่เงียบโดยไม่มีใครรู้ตลอดกาล
ปิงเป็นผู้ให้การฝึกอบรม ได้เห็นอัจฉริยะแบบนั้นมานักต่อนักแล้ว  พวกเขามักเลือกสละเวลาและความสามารถของพวกเขาและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแทน
กระบวนการเปลี่ยนศักยภาพให้เป็นฝีมือความสามารถ  กว่าจะได้รับมาต้องผ่านความเจ็บปวด, ล้มลุกคลุกคลานและดิ้นรนพยายาม  หากไม่ผ่านสิ่งเหล่านี้ ศักยภาพก็ยังจะเป็นศักยภาพอยู่ต่อไป
ระบบพลังสมัยนี้ปิงไม่รู้จักอย่างสิ้นเชิง  มีเนื้อหาที่เขาไม่คุ้นเคยมากเกินไป  แต่วิธีพัฒนาศักยภาพ นั่นคือความเชี่ยวชาญของเขา
ด้วยสายตาของปิง  เขาพบพื้นที่บางส่วนซึ่งถังเทียนสามารถใช้พัฒนาฝีมือตนเองได้  แต่เขาไม่ตั้งใจจะเตือนถังเทียน
เพราะนี่คือเด็กหนุ่มผู้เชื่อมั่นตนเองไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และความล้มเหลว  เจ้าเด็กนั่นทะเยอทะยานแม้ว่าจะตกอยู่ในความลำบาก  ก็ไม่เคยสิ้นหวัง ไม่เคยหยุดต่อต้านดิ้นรน
นอกจากนี้ เจ้าเด็กนี่ยังมีสัญชาตญาณต่อสู้ที่ไม่อ่อนด้อย  แม้ว่าตามปกติเขาจะดูไม่น่าเชื่อถือก็ตาม  แต่ทันทีที่เขาเข้าสู่สภาพต่อสู้ ถังเทียนจะมีการโต้ตอบที่ว่องไว
ฝีมือความสามารถของถังเทียนตอนนี้ยังไม่แข็งแกร่งพอ  แต่ก็เริ่มเติบโตผลิบานบ้างแล้ว
แค่นั้นยังคงไม่พอ....
เด็กน้อย, ถ้าเจ้าหาทางออกได้  เจ้าจะได้รับชัยชนะ และเมื่อนั้นเจ้าจะสามารถไปต่อได้
ปิงอธิษฐานเงียบๆ ในใจ  สายตาที่ลึกฉายประกายแห่งความคาดหวัง
※※※※

ถังเทียนตกเป็นรองทุกกรณีในสถานการณ์ที่ถูกโจมตี  หัวซาไวเกินไปสำหรับเขา การโจมตีที่ทรงพลังทำให้เขาเจ็บตัวมากยิ่งขึ้น  เขาทำได้แต่เพียงขดตัวเหมือนเม่นอดทนรับการโจมตี
ตั้งแต่หัวซากระตุ้นพลังสายเลือดแคระ ถังเทียนยังไม่มีโอกาสได้ตอบโต้  การโจมตีของหัวซาเหมือนกับพายุฝนสายฟ้าฟาดที่น่ากลัว ทำให้เขาไม่มีเวลาได้พักหรือไตร่ตรองถึงการเคลื่อนไหวของเขา
พวกที่ชมดูอยู่ไกลๆ หน้าซีดกันทุกคน  ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้ว่ายอดฝีมือในห้าสิบคนแรกของทำเนียบสุดยอดฝีมือดาวไพรมายาเป็นเช่นไร
การต่อสู้เป็นการกระทำอยู่แต่ฝ่ายเดียว  ถังเทียนเป็นเหมือนลูกหนังที่ถูกเตะกระเด็นไปทุกที่  หัวซาจึงเหมือนนั่งรออย่างสบายใจ กระบองที่หนักและน่ากลัวถูกใช้ออกราวกับไม่มีน้ำหนักกวัดแกว่งอย่างรวดเร็ว
มันเร็วเกินกว่าถังเทียนจะจับจ้องได้ทัน  หัวซาสามารถมาปรากฏตัวอยู่ด้านข้างถังเทียนเหมือนภูตพรายได้อย่างคาดไม่ถึง ถังเทียนซึ่งมีนัยน์ตาเป็นประกายวูบวาบก่อนหลายครั้งครา ก็ยังไม่มีโอกาสตอบโต้
ยอดฝีมือขนาดนั้น พวกเขาไม่สามารถนึกภาพได้ออกเลยว่าจะต่อต้านได้อย่าง
แข็งแกร่งทรงพลังเกินไป
แต่ไม่มีใครสังเกต  โดยไม่รู้ตัว ถังเทียนอดทนรับได้อย่างน่าประหลาดถึงยี่สิบกระบวนท่าแล้ว  ชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินจางได้รับความเสียมากมาย  พลังฟาดที่น่ากลัวในแต่ละครั้งทำให้เกิดรอยร้าว และมีชิ้นส่วนเกราะแตกหักไปทั่ว
ถังเทียนทนสู้ต่ออย่างหมดรูป  แรงหวดแต่ละครั้งทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะแตกสลาย  อย่างไรก็ตาม  เขารู้ว่าถ้าเขาสูญเสียความตั้งใจ  อย่างนั้นเขาจะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย
ไม่มีใครคิดว่า แม้อยู่ในสภาพที่สิ้นหวังอย่างนั้น  ถังเทียนก็ยังไม่ยอมแพ้
ไม่เพียงแต่เขาไม่ยอมแพ้เท่านั้น  แต่เขาไม่ยอมเลิกหวังชัยชนะ
ในใจของเขา  เขายังกระหายถึงชัยชนะ แม้จะอยู่ในสภาพสิ้นหวังเช่นนั้น
ยังจะมีโอกาส!  จะต้องมีช่องว่าง! ยังจะมีความหวังอยู่!
ปิงพยายามอย่างยิ่งที่จะสงบใจลง  เขาเชื่อว่าถังเทียนจะไม่ยอมแพ้  อย่างไรก็ตาม หัวซาไม่ตั้งใจจะอดออมผ่อนรั้ง เขายังคงจู่โจมต่อเนื่องไม่มีหยุด
จากลักษณะที่ย่ำแย่น่ากลัวของเกราะนกยูง  ทำให้ปิงรู้ว่าเกราะนกยูงแทบจะถึงขีดจำกัดของมันแล้ว
ถ้าเกราะนกยูงแตกสลายก่อนที่ถังเทียนจะหาแผนมั่นเหมาะได้  อย่างนั้นหายนะที่แท้จริงจะตามมา
ร่างกายของถังเทียนก็แทบจะไม่สามารถทนต่อการโจมตีที่น่าหวาดหวั่นนั้นได้แล้ว
สายตาของปิงกระพริบเป็นประกายด้วยความวิตกกังวล
※※※※

ถูกทุบฟาดต่อเนื่องถึงยี่สิบครั้ง และแต่ละครั้งทำให้ถังเทียนเจ็บปวดเหลือประมาณ เขางอตัวและอดทนอย่างเต็มที่ หลังจากการฟาดครั้งที่ยี่สิบเอ็ด ถังเทียนไม่ได้อดทนอย่างสูญเปล่า  เขาสังเกตเห็นจุดอ่อนในวิทยายุทธของหัวซาแล้ว
พลังและความเร็วของหัวซาอยู่ในระดับที่น่าตื่นตะลึง  แต่วิทยายุทธของเขา มีพลังน้อยกว่าความเร็วและพลังของเขาค่อนข้างมาก
ความพยายามของเขายังไม่เพียงพอ  สิ่งที่เขาควรฝึกก็คือวิชาค้อนทุบ  แต่เขากลับใช้ปราณเที่ยงแท้ซึ่งไม่ค่อยตรงจุดประสงค์....
เทียบกับพลังและความเร็วที่น่ากลัวของเขาแล้ว วิทยายุทธของเขายังอ่อนแน่นอน  ถ้าวิทยายุทธของหัวซาแกร่งกล้าจริงๆ  อย่างนั้นในการต่อสู้ครั้งนี้ ถังเทียนคงไม่มีโอกาสชนะ
วิชาฝีมืออ่อนด้อย  แล้วจะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้ได้อย่างไร?
ถังเทียนเค้นสมองอย่างหนัก
ปัง  ปัง  ปัง!
การโจมตีที่กดดันเขาตลอดไม่ได้ผ่อนช้าลงแต่อย่างใด  แต่ดวงตาที่คอยหลบเลี่ยงการโจมตีพลันฉายประกาย  เขามีความคิดอย่างหนึ่งแล้ว
ยี่สิบห้า, ยี่สิบหก....
เขานับการโจมตีที่ไล่หลังเขาอย่างเงียบๆ  และควบคุมลมหายใจทันทีที่แรงฟาดครั้งที่ยี่สิบแปดฟาดใส่หลังเขา  เขายืดตัวออกทันที
ปัง!
กระบองฟาดลงที่หลังของเขาอย่างแรง เขาแทบหน้ามืดสิ้นสติทันที รู้สึกเหมือนกับว่าหลังจะหัก แต่เขารู้ว่านี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของเขาที่ทำได้ คือทนเจ็บปวด ร่างของเขาอ่อนเหมือนเส้นบะหมี่ทันที เขาถือโอกาสสะท้อนกระบองขณะที่ย่อขาหลัง
ความเย็นจากขาของเขา ทำให้ถังเทียนยินดี
เกี่ยว!
โดยไม่ต้องคิดอะไร เขาหวดขาเตะกลับหลัง
หัวซาเห็นว่าถังเทียนที่งอตัวตลอดยอมยืดตัวออกมาในที่สุด เขายินดีทันที ถังเทียนคู้ตัวเหมือนกับเป็นลูกบอลป้องกันตัวเองไว้อย่างดี ทำให้เขาไม่มีจุดโจมตี
ในที่สุดเขาก็ไม่อาจทนต่อไปได้  หัวซาเหมือนกับเห็นว่าถังเทียนสูญเสียการป้องกันตัวแล้ว และแววกระหายเลือดในดวงตาเขาฉายออกมาอีกครั้ง
ทันใดนั้น นัยน์ตาเขาพร่าเลือน  มือของเขาข้างกุมมืออีกข้างหนึ่งไว้
หน้าของถังเทียนพลันปรากฏอยู่หน้าเขาไม่มีปี่มีขลุ่ย และฉีกยิ้มกว้าง
ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด
 

8 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สนุกมาก ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ถังเทียนจะได้ปลุกพลังสายเลือดตอนไหนหว่า

Unknown กล่าวว่า...

เอาคืน แน่นอน

Unknown กล่าวว่า...

เตรียมตัวตายได้เลย. 555

Unknown กล่าวว่า...

������

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เจมส์.... กล่าวว่า...

ถังเทียน โตตอบ แต่ก็โดนอักกลับเพราะเจ๊บหนักเกินไปโดนซ้อมจนตาย จบ....

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น