ตอนที่ 145
พลังสายเลือดแคระ
“ระวัง, นั่นคือพลังสายเลือดแคระ!”
เสียงอุทานของเมอเรย์ดังมาจากด้านหลัง
เสียงเขาสั่นและรู้สึกตื่นเต้นรุนแรง
พลังสายเลือดแคระ....
ชื่อแปลกๆ...
ตาของถังเทียนจับจ้องหัวซาเขม็ง แต่ความไม่สบายใจของเขาเพิ่มมากขึ้นทุกที
หัวซายิ้มเล็กน้อย
"สายตายอดเยี่ยม!"
หัวซาในร่างที่มีขนาดเล็กลงกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ลักษณะหน้าตาที่น่าเกลียดหายไป แทนที่ด้วยใบหน้าที่ละเอียดอ่อน
กล้ามเนื้อที่ปูดโปนถูกแทนที่ด้วยร่างที่สมส่วนค่อนไปทางอ่อนแอ
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
ถังเทียนไม่อาจเชื่อมโยงหัวซาผู้ละเอียดอ่อนกับหัวซาที่เหมือนสัตว์ร้ายก่อนหน้านั้นได้เลย
มือที่ผอมบางหยิบกระบองอย่างช่ำชอง กระบองยาวกว่า 1.8
เมตรเกือบจะสองเท่าของตัวหัวซาในตอนนี้ แต่น้ำหนักเกือบ 300
กิโลกรัมดูเหมือนว่าจะเบาเหมือนขนนกเมื่ออยู่ในมือของหัวซา
ฉากภาพที่เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนดูขัดแย้งกันอย่างมโหฬาร แต่ไม่มีใครหัวเราะออก รวมทั้งถังเทียน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวซาที่ข้อมือบางกำลังปั่นควงกระบองเขี้ยวสุนัขป่าราวกับกังหันลม
ร่างที่ผอมแห้งและใบหน้าของหัวซาที่ยิ้มเล็กน้อยช่างตรงกันข้ามกับพลังที่น่ากลัว
ถังเทียนระวังตัวไม่ประมาทและไม่กล้าผ่อนความระวัง
ทันใดนั้นสายตาเขาพร่าและหัวซาก็หายไป
ฮึ่ม..
ร่างที่เลือนลาง
ปรากฏอยู่ในสายตาของถังเทียนทันที
ม่านตาของถังเทียนขยายทันที!
ไวมาก
ในช่วงเวลาตื่นเต้น
เขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันที เขามีเวลาทำได้แต่เพียงไขว้แขนป้องกันหน้าอกไว้
ปัง
ถังเทียนรู้สึกเหมือนว่าเขาถูกสัตว์ร้ายวิ่งเข้าขวิด
ถึงกับหน้ามืดไปชั่วขณะ
ร่างที่ผอมแห้งของหัวซาในกลางอากาศม้วนตัวและลงสู่พื้น
ใบหน้าของเขายังคงยิ้มน้อยๆ และกระบองเขี้ยวหมาป่าสองหัว (ท้าย)
ยังคงหมุนติ้วเป็นกังหัน
"เป็นไงบ้าง? พลังนี้แข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนใช่ไหม?"
เสียงของหัวซาแว่วกระทบโสตของถังเทียนที่ถูกกระแทกล้มกับพื้น
และพยายามดิ้นรนลุกขึ้นยืน
เขาถลึงตาจ้องหัวซา และเลือดไหลซึมออกจากมุมปาก
จากการกระแทกนั้น
ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
ถังเทียนปาดเลือดที่มุมปาก
สายตาเขาจ้องมองหัวซาและเขาพยายามเค้นสมองหาแนวคิดสู้
พลังของหัวซามากกว่าเดิมถึงสองเท่า
และสิ่งที่อันตรายมากกว่าก็คือความเร็วของเขาน่าตกใจมากยิ่งกว่า
สัญชาตญาณที่เขาเคยภูมิใจมากนักหนาใช้ไม่ได้ผลกับการโจมตีที่น่าตื่นตะลึงนี้เลย
ถ้าพลังล้วนๆไม่เพียงพอทำให้เขาหนาวเย็นถึงขั้วกระดูกสันหลังได้ แต่นี่เป็นพลังที่ผสานกันลงตัวกับความเร็ว
มันยิ่งเพิ่มความอันตรายให้กับหัวซา....
พลังสายเลือดแคระ.....
ชื่อที่แปลกประหลาดที่ไม่คุ้นเคยนี้
ทำให้ถังเทียนตระหนักถึงพลังสายเลือดที่แท้จริงเป็นครั้งแรก
แข็งแกร่งมาก!
จะสู้ได้ยังได้?
ถังเทียนจ้องมองหัวซา หน้าของเขาหมองคล้ำ แต่ความคิดของเขาเป็นไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม
หัวซาไม่ยอมให้ถังเทียนคิดช้า
นัยน์ตาของถังเทียนพร่าอีกครั้ง
และครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งก่อน แทบจะในทันที
ถังเทียนแค่มีเวลาพอให้ตั้งท่าป้องกันเท่านั้น
ขณะที่แรงที่น่าสะพรึงกลัวกระแทกเข้าที่แขนของเขา
ทำให้ให้เขาปลิวกระเด็นเหมือนกระสอบทราย
ขณะที่ถังเทียนถูกชนกระเด็น ร่างของหัวซาก็หายไปอีกในทันที
ชั่ววินาทีต่อมาก็ปรากฏตัวอยู่ด้านข้างถังเทียน
เขายกกระบองเขี้ยวสุนัขป่าหวดใส่ท้องของถังเทียนอย่างรุนแรง
แม้ว่าถังเทียนจะพยายามหลบในวินาทีสุดท้าย แต่เขาก็ยังไม่สามารถหลบพ้น
เขาคล้ายกับหุ่นเชิดที่โดนจับโยนขึ้นไปในอากาศ
แม้ว่าจะมีชุดเกราะคอยป้องกัน แต่ถังเทียนไม่อาจหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บใด เขารู้สึกลำคอหวานวูบและเตรียมจะพ่นเลือดออกมา
แต่ถังเทียนรู้ว่าสถานการณ์ยังวิกฤติ
การโจมตีของหัวซาจะมาอย่างต่อเนื่องและไม่สิ้นสุดแค่นี้แน่นอน
ถังเทียนทั้งที่ยังลอยกระเด็นอยู่
ฝืนใจกลืนเลือดลงไปอย่างเต็มฝืนแล้วขดตัวกลมพร้อมกับคำราม “นกยูง!”
ควั่บ!
นกยูงที่อยู่ที่ด้านหลังของเขากางคลี่หางเหมือนกับกำลังรำแพน
กระบองกระแทกเข้าใส่พื้นอย่างรุนแรง
เกิดกระแสลมรุนแรงจากการกระแทก
หลังของถังเทียนเจ็บปวดอย่างหนัก
ทั้งตัวเขาร่วงลงมาเหมือนดาวตกกระแทกเข้ากับพื้นหินแข็งเสียงดังสนั่น
※※※※
ปิงสังเกตดูสนามต่อสู้เงียบๆ เขาเห็นสภาพทุลักทุเลของถังเทียนทั้งหมด พลังสายเลือดแคระของหัวซาทำให้เขาทึ่ง หลังจากยุคของเขา พลังที่ยังค้นไม่พบยังล้าหลังมากเมื่อเทียบกับวันนี้ ระบบพลังในปัจจุบันนี้
แปลกใหม่เกินไปจนเขาไม่คุ้นเคย
พลังสายเลือดแคระทำให้เขาทึ่งและตกใจ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมยื่นมือช่วย
แม้เมื่อถังเทียนดูเหมือนอยู่ในสภาพทุลักทุเลมาก อาจจะตายได้ทุกเมื่อ เขายังคงรอคอยให้ถังเทียนพลิกสถานการณ์
ถังเทียนเป็นเด็กมีแว่วรุ่งมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น
แต่ถังเทียนยังไม่ได้ตระหนักชัดเจนว่าเขามีศักยภาพที่แท้จริงมากขนาดไหน
นั่นคือสมบัติที่น่าตื่นตกใจมาก
แต่ก็เช่นเดียวกับอัจฉริยะคนอื่นๆ ทั้งหมด
ศักยภาพทั้งหมดของพวกเขาจะต้องถูกขุดออกมารีดเค้นออกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเพิ่มฝีมือความสามารถ มิฉะนั้น
ศักยภาพของพวกเขาก็จะหลับไหลอยู่เงียบโดยไม่มีใครรู้ตลอดกาล
ปิงเป็นผู้ให้การฝึกอบรม ได้เห็นอัจฉริยะแบบนั้นมานักต่อนักแล้ว
พวกเขามักเลือกสละเวลาและความสามารถของพวกเขาและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายแทน
กระบวนการเปลี่ยนศักยภาพให้เป็นฝีมือความสามารถ กว่าจะได้รับมาต้องผ่านความเจ็บปวด,
ล้มลุกคลุกคลานและดิ้นรนพยายาม
หากไม่ผ่านสิ่งเหล่านี้ ศักยภาพก็ยังจะเป็นศักยภาพอยู่ต่อไป
ระบบพลังสมัยนี้ปิงไม่รู้จักอย่างสิ้นเชิง มีเนื้อหาที่เขาไม่คุ้นเคยมากเกินไป แต่วิธีพัฒนาศักยภาพ
นั่นคือความเชี่ยวชาญของเขา
ด้วยสายตาของปิง
เขาพบพื้นที่บางส่วนซึ่งถังเทียนสามารถใช้พัฒนาฝีมือตนเองได้ แต่เขาไม่ตั้งใจจะเตือนถังเทียน
เพราะนี่คือเด็กหนุ่มผู้เชื่อมั่นตนเองไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และความล้มเหลว เจ้าเด็กนั่นทะเยอทะยานแม้ว่าจะตกอยู่ในความลำบาก ก็ไม่เคยสิ้นหวัง ไม่เคยหยุดต่อต้านดิ้นรน
นอกจากนี้ เจ้าเด็กนี่ยังมีสัญชาตญาณต่อสู้ที่ไม่อ่อนด้อย แม้ว่าตามปกติเขาจะดูไม่น่าเชื่อถือก็ตาม แต่ทันทีที่เขาเข้าสู่สภาพต่อสู้
ถังเทียนจะมีการโต้ตอบที่ว่องไว
ฝีมือความสามารถของถังเทียนตอนนี้ยังไม่แข็งแกร่งพอ แต่ก็เริ่มเติบโตผลิบานบ้างแล้ว
แค่นั้นยังคงไม่พอ....
เด็กน้อย, ถ้าเจ้าหาทางออกได้ เจ้าจะได้รับชัยชนะ และเมื่อนั้นเจ้าจะสามารถไปต่อได้
ปิงอธิษฐานเงียบๆ ในใจ สายตาที่ลึกฉายประกายแห่งความคาดหวัง
※※※※
ถังเทียนตกเป็นรองทุกกรณีในสถานการณ์ที่ถูกโจมตี หัวซาไวเกินไปสำหรับเขา
การโจมตีที่ทรงพลังทำให้เขาเจ็บตัวมากยิ่งขึ้น
เขาทำได้แต่เพียงขดตัวเหมือนเม่นอดทนรับการโจมตี
ตั้งแต่หัวซากระตุ้นพลังสายเลือดแคระ
ถังเทียนยังไม่มีโอกาสได้ตอบโต้
การโจมตีของหัวซาเหมือนกับพายุฝนสายฟ้าฟาดที่น่ากลัว
ทำให้เขาไม่มีเวลาได้พักหรือไตร่ตรองถึงการเคลื่อนไหวของเขา
พวกที่ชมดูอยู่ไกลๆ หน้าซีดกันทุกคน ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้ว่ายอดฝีมือในห้าสิบคนแรกของทำเนียบสุดยอดฝีมือดาวไพรมายาเป็นเช่นไร
การต่อสู้เป็นการกระทำอยู่แต่ฝ่ายเดียว
ถังเทียนเป็นเหมือนลูกหนังที่ถูกเตะกระเด็นไปทุกที่ หัวซาจึงเหมือนนั่งรออย่างสบายใจ
กระบองที่หนักและน่ากลัวถูกใช้ออกราวกับไม่มีน้ำหนักกวัดแกว่งอย่างรวดเร็ว
มันเร็วเกินกว่าถังเทียนจะจับจ้องได้ทัน
หัวซาสามารถมาปรากฏตัวอยู่ด้านข้างถังเทียนเหมือนภูตพรายได้อย่างคาดไม่ถึง
ถังเทียนซึ่งมีนัยน์ตาเป็นประกายวูบวาบก่อนหลายครั้งครา ก็ยังไม่มีโอกาสตอบโต้
ยอดฝีมือขนาดนั้น
พวกเขาไม่สามารถนึกภาพได้ออกเลยว่าจะต่อต้านได้อย่าง
แข็งแกร่งทรงพลังเกินไป
แต่ไม่มีใครสังเกต โดยไม่รู้ตัว
ถังเทียนอดทนรับได้อย่างน่าประหลาดถึงยี่สิบกระบวนท่าแล้ว ชุดเกราะนกยูงสีน้ำเงินจางได้รับความเสียมากมาย พลังฟาดที่น่ากลัวในแต่ละครั้งทำให้เกิดรอยร้าว
และมีชิ้นส่วนเกราะแตกหักไปทั่ว
ถังเทียนทนสู้ต่ออย่างหมดรูป
แรงหวดแต่ละครั้งทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะแตกสลาย อย่างไรก็ตาม
เขารู้ว่าถ้าเขาสูญเสียความตั้งใจ
อย่างนั้นเขาจะไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย
ไม่มีใครคิดว่า
แม้อยู่ในสภาพที่สิ้นหวังอย่างนั้น
ถังเทียนก็ยังไม่ยอมแพ้
ไม่เพียงแต่เขาไม่ยอมแพ้เท่านั้น แต่เขาไม่ยอมเลิกหวังชัยชนะ
ในใจของเขา
เขายังกระหายถึงชัยชนะ แม้จะอยู่ในสภาพสิ้นหวังเช่นนั้น
ยังจะมีโอกาส!
จะต้องมีช่องว่าง! ยังจะมีความหวังอยู่!
ปิงพยายามอย่างยิ่งที่จะสงบใจลง เขาเชื่อว่าถังเทียนจะไม่ยอมแพ้ อย่างไรก็ตาม หัวซาไม่ตั้งใจจะอดออมผ่อนรั้ง
เขายังคงจู่โจมต่อเนื่องไม่มีหยุด
จากลักษณะที่ย่ำแย่น่ากลัวของเกราะนกยูง ทำให้ปิงรู้ว่าเกราะนกยูงแทบจะถึงขีดจำกัดของมันแล้ว
ถ้าเกราะนกยูงแตกสลายก่อนที่ถังเทียนจะหาแผนมั่นเหมาะได้ อย่างนั้นหายนะที่แท้จริงจะตามมา
ร่างกายของถังเทียนก็แทบจะไม่สามารถทนต่อการโจมตีที่น่าหวาดหวั่นนั้นได้แล้ว
สายตาของปิงกระพริบเป็นประกายด้วยความวิตกกังวล
※※※※
ถูกทุบฟาดต่อเนื่องถึงยี่สิบครั้ง และแต่ละครั้งทำให้ถังเทียนเจ็บปวดเหลือประมาณ
เขางอตัวและอดทนอย่างเต็มที่ หลังจากการฟาดครั้งที่ยี่สิบเอ็ด
ถังเทียนไม่ได้อดทนอย่างสูญเปล่า
เขาสังเกตเห็นจุดอ่อนในวิทยายุทธของหัวซาแล้ว
พลังและความเร็วของหัวซาอยู่ในระดับที่น่าตื่นตะลึง แต่วิทยายุทธของเขา
มีพลังน้อยกว่าความเร็วและพลังของเขาค่อนข้างมาก
ความพยายามของเขายังไม่เพียงพอ สิ่งที่เขาควรฝึกก็คือวิชาค้อนทุบ
แต่เขากลับใช้ปราณเที่ยงแท้ซึ่งไม่ค่อยตรงจุดประสงค์....
เทียบกับพลังและความเร็วที่น่ากลัวของเขาแล้ว
วิทยายุทธของเขายังอ่อนแน่นอน
ถ้าวิทยายุทธของหัวซาแกร่งกล้าจริงๆ
อย่างนั้นในการต่อสู้ครั้งนี้ ถังเทียนคงไม่มีโอกาสชนะ
วิชาฝีมืออ่อนด้อย แล้วจะใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนนี้ได้อย่างไร?
ถังเทียนเค้นสมองอย่างหนัก
ปัง
ปัง ปัง!
การโจมตีที่กดดันเขาตลอดไม่ได้ผ่อนช้าลงแต่อย่างใด
แต่ดวงตาที่คอยหลบเลี่ยงการโจมตีพลันฉายประกาย เขามีความคิดอย่างหนึ่งแล้ว
ยี่สิบห้า, ยี่สิบหก....
เขานับการโจมตีที่ไล่หลังเขาอย่างเงียบๆ
และควบคุมลมหายใจทันทีที่แรงฟาดครั้งที่ยี่สิบแปดฟาดใส่หลังเขา เขายืดตัวออกทันที
ปัง!
กระบองฟาดลงที่หลังของเขาอย่างแรง เขาแทบหน้ามืดสิ้นสติทันที
รู้สึกเหมือนกับว่าหลังจะหัก แต่เขารู้ว่านี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของเขาที่ทำได้
คือทนเจ็บปวด ร่างของเขาอ่อนเหมือนเส้นบะหมี่ทันที เขาถือโอกาสสะท้อนกระบองขณะที่ย่อขาหลัง
ความเย็นจากขาของเขา ทำให้ถังเทียนยินดี
เกี่ยว!
โดยไม่ต้องคิดอะไร เขาหวดขาเตะกลับหลัง
หัวซาเห็นว่าถังเทียนที่งอตัวตลอดยอมยืดตัวออกมาในที่สุด
เขายินดีทันที ถังเทียนคู้ตัวเหมือนกับเป็นลูกบอลป้องกันตัวเองไว้อย่างดี
ทำให้เขาไม่มีจุดโจมตี
ในที่สุดเขาก็ไม่อาจทนต่อไปได้
หัวซาเหมือนกับเห็นว่าถังเทียนสูญเสียการป้องกันตัวแล้ว
และแววกระหายเลือดในดวงตาเขาฉายออกมาอีกครั้ง
ทันใดนั้น นัยน์ตาเขาพร่าเลือน มือของเขาข้างกุมมืออีกข้างหนึ่งไว้
หน้าของถังเทียนพลันปรากฏอยู่หน้าเขาไม่มีปี่มีขลุ่ย
และฉีกยิ้มกว้าง
ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด
8 ความคิดเห็น:
สนุกมาก ขอบคุณครับ
ถังเทียนจะได้ปลุกพลังสายเลือดตอนไหนหว่า
เอาคืน แน่นอน
เตรียมตัวตายได้เลย. 555
������
ขอบคุณครับ
ถังเทียน โตตอบ แต่ก็โดนอักกลับเพราะเจ๊บหนักเกินไปโดนซ้อมจนตาย จบ....
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น