วันอังคารที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 160 สำเร็จ

ตอนที่  160  สำเร็จ
ยานโดยสารกำลังเข้ามาใกล้ทุกที  บนยานมีสัญลักษณ์โดดเด่น  แต่ถังเทียนและพวกที่เหลือไม่รู้จัก  ถ้าตามบรรทัดฐานถือว่าเป็นพวกระดับสูง โอ่อ่าและวิธีที่เดินทางมาก็เหมาะกับเป้าหมายของพวกเขามากที่สุด

โดยไม่มีความลังเลใจ  เมื่อยานโดยสารปรากฏ  คนแรกที่เปิดฉากก็คือหลิงซิ่ว
เมื่อเผชิญหน้ากับยานโดยสารที่บินต่ำลงมา  หลิงซิ่วกำลังตั้งใจจะสู้ให้ถึงที่สุด  ตาสีส้มของเขามีประกายไฟลุกโชน  ผมสีน้ำเงินของเขาพริ้วไสวอยู่ในสายลม
ทุกคนกระทืบเท้าอย่างรุนแรงและกระโจนขึ้นไปในอากาศ  พอถึงช่วงกลางเขาบิดนิ้วของขา  และหอกก็บินออกไปทันที  นี่คือทักษะของเขาเอง  และทักษะเหล่านี้ทั้งหมด จุดประสงค์ก็คือเพื่อหลีกเลี่ยงร่างกายที่อ่อนแอเปราะบางของเขา
หอกเป็นเหมือนธนูที่หลุดออกจากแล่ง  ร่างของเขาเบาเหมือนใบไม้ ขณะที่ตามหอกที่พุ่งออกไป
ร่างของเขาพุ่งตามหอก  ขณะที่หอกร่อนไปตามลมอย่างสง่างาม
ในเขตสายตาของพวกเขา  ขณะที่ยานขยายใหญ่ขึ้นทุกที  ความตั้งใจต่อสู้เผาผลาญจนถึงระดับจะปะทุออกมาเหมือนลาวา ร่างสง่างามของเขาในอากาศ  เปล่งแสงวาบทันทีเหมือนฟ้าผ่า
 “ฆ่า!
เมื่อเสียงของเขากึกก้อง ทั่วทั้งท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวที่ร่วงลงมาเหมือนสายฝน คลุมไปทั่วทั้งยานโดนสาร
หอกเปล่งเสียงและมีพลังน่ากลัวนัก
 “บังอาจนัก!  เสียงที่โมโหโกรธเกรี้ยวดังออกมาจากยานทันที  ทันใดนั้นร่างใหญ่มหึมาปรากฏต่อหน้ายานทันที  ตลอดท้องฟ้าเต็มไปด้วยรัศมีเยือกเย็นแต่สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนไปสักนิด
เขารวบหมัดและปล่อยออกด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง หมัดของเขาเคลื่อนไหวตลอด แค่เพียงพริบตาก็มีขนาดเท่าขวด
บุรุษร่างใหญ่ตะโกนและปล่อยหมัดออก
รังสีหมัดขนาดขวดเหล้าสีแดงพุ่งออกมาและพองตัวในกลางอากาศทันทีส่งเสียงหวีดหวิวน่ากลัวพุ่งเข้าใส่หลิงซิ่ว
หลิงซิ่วรู้ว่าเป็นหมัดที่ทรงพลัง  พวกเขาแข็งแกร่งเหมือนที่คาดไว้...
แต่....
ชั้นรัศมีบางๆ ลุกพรึ่บอยู่ในดวงตาของหลิงซิ่ว  ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่ง แต่ก็ยังค่อยๆ กระตุ้นความตั้งใจต่อสู้ของเขา  ตลอดทั้งร่างของเขาร้อนขึ้น ยกเว้นเหล็กเย็นกับนิ้วมือของเขา
เขาต้องไม่ลืมภารกิจ
เสียงแค่นเยือกเย็นดังออกมาจากปากของเขา  นิ้วทั้งห้ากำรอบท้ายหอกแล้วปั่น หอกเหล็กหมุนเป็นวง และรังสีเยือกเย็นที่ล้อมรอบก็หายไป
ปลายหอกจุดประกายด้วยรังสีเยือกเย็น เกิดประกายสว่างกว่าดวงดาวที่สว่างในท้องฟ้ามืดมิดเสียอีก
หอกเล่มเดียวระดมแทงใส่รังสีหมัดขนาดมหึมา!
บุรุษร่างใหญ่หรี่ตา แววประหลาดใจปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา  เขาไม่เคยคาดเลยว่าวิชาหอกของฝ่ายตรงกันข้ามจะลึกลับมาก  แต่หมัดของเขาก็ไม่ได้พ่ายแพ้
ซู่...
ปลายหอกหายไปทันที  แม้ว่ามันจะหายไป  แต่ว่าร่างของหลิงซิ่วยังอยู่ตรงนั้น
ไม่ดีแน่
สีหน้าของบุรุษร่างใหญ่เปลี่ยนไป
หลิงซิ่วแทงไปตรงช่องว่างข้างยานโดยสาร รังสีหอกเยือกเย็นแหลมคมพุ่งไปเหมือนอัศวินโบราณ
หลิงซิ่วงามสง่ามากยามเคลื่อนไหวในอากาศก่อนนี้  แต่ขณะนี้เขาเป็นเหมือนไฟร้อนแรงที่ถูกลมพัดกระพือแรงกล้า ทุกส่วนในร่างกายเขามีเปลวลุกโชน  แม้แต่หอกเหล็กดำก็พลอยลุกไหม้ไปด้วยพร้อมปลดปล่อยพลังความร้อนที่น่าทึ่ง
ความก้าวหน้าที่เลิศล้ำนัก
บุรุษร่างใหญ่ไม่รู้ว่าทำไมใจของเขาจู่ๆ ก็ผุดวลีนี้ขึ้นมา
ปัง!
เหมือนกับดาวตกวิ่งกระแทกใส่จุดตาย  หอกกระแทกใส่ยานโดยสาร
ชิ้นส่วนยานแตกทันที  เป็นปราณที่ทรงพลังเหลือเกิน  ที่สำคัญตัวยานโดยสารหนาและแข็ง  แต่ก็ยังแตกทำลายได้  เสียงด่าและร้องด้วยความโกรธดังออกมาจากภายในยานโดยสาร  เกิดความยุ่งเหยิงขณะที่ยานโดยสารสูญเสียการควบคุมและบินไปอย่างไร้ทิศทางในอากาศ
 “โจรร้าย!  ตายเสียเถอะ!
บุรุษร่างใหญ่ตะโกนด้วยความโกรธ  เขาตีลังกาและกระโจนเข้าหาหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วไม่สนใจมองดูผลงานของเขา เป็นไปตามแผน  เขาไม่ลังเล ขณะที่เขาหมุนตัวรับหอก ก็มุ่งหน้าสู่หุบเขา  ร่างของเขาแนบติดอยู่หอก
ในชั่วพริบตา  เขาบินไปไกลเกินกว่าสามสิบเมตร
บุรุษร่างใหญ่ไม่คิดว่าหลิงซิ่วจะหลบหนีไปอย่างเร่งร้อนทันที  เมื่อตั้งหลักได้ ก็ยิ่งโกรธแค้น  ไอ้แพนด้าหน้าโง่นั่น  วันนี้เจ้าไม่รอดแน่
บุรุษร่างใหญ่คำราม เขากางแขนออกเหมือนอินทรีสยายปีก แล้วพุ่งไปที่หลิงซิ่ว
ทั้งสองยังทอดระยะห่างกัน
ยานโดยสารกำลังจะร่วง
หลังจากนั้นก็มีร่างที่ตระหนกตกใจโดดลงมาจากยาน
 “ลุย!
ถังเทียนและอีกสามคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน
ในท่ามกลางกลุ่มผู้คน มีบางส่วนวิ่งเขามาด้วยความตั้งใจป้องกันตัว
ถังเทียนพิจารณด้วยประสบการณ์ เมื่อเขาเห็นบุรุษที่ขวางหน้าเขามีแววตื่นเต้นอยู่ในดวงตา  เขารู้ว่าคู่ต่อสู้ไม่แข็งแกร่ง
ถังเทียนยังลอยอยู่ในอากาศ กะระยะแล้วจึงวิ่งเข้าหา
นัยน์ตาฝ่ายตรงข้ามแสดงความสุขใจทันที  โอกาสดีอย่างนั้น ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว  เขาเริ่มลงมือทันที  มีดเหล็กกล้าในมือของเขามีประกายรังสีเยือกเย็นฟันใส่ถังเทียน  ว่ากันถึงระยะห่างนั้นเขาประเมินผิด  จะมีช่วงเวลาที่เข้มงวดเป็นโอกาสดีให้ฉกฉวยเสมอ
รังสีดาบใช้ออกได้อย่างสมบูรณ์ เหมือนกับอสรพิษพ่นพิษ
ขณะนั้น ร่างของถังเทียนขยับหลบดาบเฉียดฉิวเพียงปลายเส้นผม
เขาฉวยโอกาสที่เขาอยู่ด้านหลังมีดเหล็ก ปลดปล่อยพลังร่างกระเรียนของเขา
ปุ
เหมือนกับสายฟ้าฟาด ฝ่ายตรงข้ามแหงนหน้ากระอักโลหิต  ถังเทียนประทับฝ่ามือใส่ร่างเขา และฉวยโอกาสลอยตัวเข้าหาแนวป้องกันของคน
ถังเทียนยังนับว่าโชคดี  ขณะที่ปิงและกรงเล็บภูตพรายต่อสู้อย่างยากลำบาก
ถังเทียนเพ่งความสนใจภายใน  เขาตระหนักได้ถึงเป้าหมายที่มีค่า  ในมือของผู้คุ้มกันสตรีกำลังอุ้มเด็กหญิงที่เม้มปากเต็มที่คนหนึ่ง
ในพริบตา ถังเทียนสังเกตได้ว่า เป้าหมายต้องเป็นคนสำคัญ  แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเด็กหญิงนี้เป็นใคร  แต่ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย  เขายังคงเข้าใจเรื่องนั้น
เมื่อเห็นหญิงผู้คุ้มกันเด็กหญิงน้อย  เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นตัวประกันสำคัญ  ถ้าเขาชิงตัวเธอได้ อย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่ากลุ่มนั้นจะไล่ตามพวกเขา
ทันทีที่คิดได้เช่นนั้น ถังเทียนลงมือทันที  เขามาปรากฏตัวต่อหน้าผู้คุ้มกันหญิง
ผู้คุ้มกันสตรีผู้นี้ร่างสูงใหญ่ ผมทองรวบมัดผมหางม้า  ในมือนางถือกระบี่ยาวบ่งบอกถึงพลังของนาง
นางสังเกตถังเทียนที่สวมหน้ากากลิงอุรังอุตังตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว  ดังนั้นเมื่อเขาปรากฏตัวหน้านาง  นางจึงไม่ประหลาดใจ  กระบี่ยาวในมือนางสั่น และกลีบดอกไม้สามดอกบานออกพร้อมกับฟันกระบี่ใส่ถังเทียน
บุปผากระบี่สีชมพูดูน่ารักมาก  แต่ในช่วงเวลานี้ มันกลับเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
เห็นได้ชัดว่าวิชากระบี่ของผู้คุ้มกันหญิงนั้นเคร่งครัดมาก  การควบคุมกระบี่ทำเหมือนกับที่ระบุไว้ในตำราทั้งวิธีจู่โจมใส่ถังเทียน  จึงยังไม่พอ
หลังจากการต่อสู้ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงมาแล้ว  เมื่อใดก็ตามที่ถังเทียนต่อสู้  เขาจะไม่มีความปราณีแน่นอน และจะใช้ทุกวิธีการในการต่อสู้
มือของถังเทียนสั่น
วังวนกระเรียนขาว!
วังวนกระเรียนขาวที่คมเป็นเหมือนมีดใบพัดที่ปั่นด้วยความเร็วสูง  ดูเหมือนวังวนกระเรียนขาวแทบจะบดบังสายตานาง
แววตื่นตระหนกปรากฏอยู่ในดวงตาของผู้คุ้มกันสตรี  แต่นางรีบสงบจิตใจอย่างรวดเร็ว  ปลายกระบี่ของนางแทงออกอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว
ถังเทียนประหลาดใจ  วิชากระบี่ของผู้คุ้มกันสตรีนับได้ว่าแข็งแกร่ง  นางยังคงใช้กระบวนท่าอย่างเคร่งครัด เห็นได้ชัดว่านางไม่รู้วิธีต่อสู้  ถังเทียนสังเกตเพิ่มอีกอย่าง  ผู้คุ้มกันสตรีปกป้องเด็กหญิงมากกว่าจะปกป้องตัวนางเอง
ถังเทียนน่ากลัวมากในการต่อสู้
คำพูดของปิงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นสนุกแน่นอน  ถังเทียนที่อยู่ในการต่อสู้ มักจะแสดงระดับสติปัญญาในการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาออกมา  สัญชาตญาณของเขาแหลมคม  น่ากลัวมาก  รายละเอียดทุกอย่าง เขามักนำมาใช้ได้เสมอ
ถังเทียนตระหนักได้ทันทีว่า  เด็กหญิงน้อยสำคัญต่อเยี่ยนเซี่ยมาก
ในพริบตา เขาตัดสินใจลักพาตัวเด็กหญิงตัวน้อย
ไวเท่าความคิด ร่างถังเทียนหายไป เขาซ่อนตัวอยู่หลังวังวนกระเรียนขาวของเขา
สตรีมือคุ้มกันรู้สึกได้ทันทีว่าพลังแล่นมาตามปลายกระบี่ของนาง  แต่สายเกินไป พลังระเบิดออกไปจนกระบี่นางเบนออกไป ก่อให้เกิดความผิดพลาด และถังเทียนก็โฉบมาเหมือนสายฟ้า
มือคุ้มกันสตรีแตกตื่น  นางปล่อยกระบี่ทันทีและตีศอกใส่ถังเทียน
ถังเทียนประหลาดใจ  การใช้ศอกโจมตีไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญแน่น ผู้หญิงคนนี้เรียนรู้การต่อสู้ระยะประชิดมาด้วย แต่ร่างของถังเทียนไวกว่าที่นางคาดและในช่วงเวลานี้เอง มือของเขาก็ป้องกันศอกของคู่ต่อสู้ไว้ได้พร้อมกันนั้นเขาปล่อยหมัดขวาใส่อกที่นุ่มของนาง
แม้ว่าจะมีเกราะป้องกัน แต่พลังของถังเทียนก็แข็งแกร่งมาก และทำให้นางตัวแข็งเพราะความเจ็บปวด
ถังเทียนฉวยโอกาสชิงตัวเด็กผู้หญิงทันทีทำให้ผู้คุ้มกันหญิงมีสีหน้าแตกตื่น  แต่ถังเทียนไม่ให้โอกาสใดๆ แก่นาง เขาโดดลงมาโดยไม่ลังเลใจ
ทันทีที่ก้าวลงพื้น เขาตะโกนทันที  “หนี!
ฉัวะ!
ปิงและกรงเล็บภูตพรายถอนกำลังทันที คนหนึ่งไปทางซ้าย คนหนึ่งไปทางขวาแยกย้ายกันหลบหนี
ถังเทียนอุ้มเด็กหญิงน้อยวิ่งเตลิดเข้าป่า เสียงตะโกนและเสียงฝีเท้าดังไล่หลังเขามาตลอด  ถังเทียนรีดพลังของเขาออกมาทั้งหมด  ภายใต้ภูมิประเทศกันดารซับซ้อนของป่าช่วยเขาได้มาก สัญชาตญาณสิบแปดเท่าทำให้เขารู้ตรงไหนมีสิ่งกีดขวาง ตรงไหนมีอันตราย
เขาเป็นเหมือนลิงอุรังอุตังที่คล่องแคล่ววิ่งเข้าไปในป่า  ทั้งที่ยังอุ้มเด็กหญิงน้อยที่ยังลืมตากว้างซอกแซกมองหน้ากากลิงอุรังอุตังด้วยความอยากรู้
แต่ทหารที่ไล่หลังตามเขามา ไม่มีทีท่าว่าจะถอดใจเลิกตาม  พวกเขาไล่ตามมาอย่างไม่เลิกรา
แผนการสำเร็จ
จิตใจของถังเทียนมีความสุขท่วมท้น  ตราบใดที่พวกเขาติดตามเข้าไปในป่าลึก  ถ้าพวกเขาต้องการจะออกจากป่า พวกเขาจะต้องเสียเวลามาก หรือบางทีอาจจะออกไปไม่ได้เลย
ถังเทียนตระหนักได้อย่างรวดเร็ว่าพวกเขาไม่มีทางไล่ตามเขาทัน
เพื่อไม่ให้ทิ้งพวกเขาห่างเกินไป  บางครั้งถังเทียนก็จงใจหยุดพักผ่อน
หลังจากหนีมาหนึ่งวันเต็ม  ก็ตกกลางคืน ทั้งป่ากลายเป็นน่ากลัวมากขึ้น  ทหารที่คอยติดตามไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้  แต่ความเร็วของพวกเขาช้าลงกว่าแต่ก่อน ทำให้ถังเทียนต้องหยุดพักเป็นเวลานาน
ความมืดไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อถังเทียน  เขาไม่ต้องใช้ตาก็สามารถหลบสิ่งกีดขวางและอันตรายได้ แต่คนอื่นที่ตกอยู่ในความมืดรู้สึกว่าป่าที่มีความซับซ้อนอยู่แล้วกลายเป็นที่อันตรายมากขึ้นและน่าหงุดหงิดยิ่งขึ้น
การหนีจนถึงเช้าวันต่อไปทำให้เขาเกือบคลาดเคลื่อนไปจากแผน  ตามสถานการณ์ปัจจุบันเขาไม่จำเป็นต้องใช้กรงเล็บภูตพรายเพื่อช่วยเขาจัดการทหาร
ถังเทียนมีความสุขเหลือจะกล่าว  ความสำเร็จอยู่ต่อหน้าเขาแล้ว
ทันใดนั้น เด็กหญิงน้อยที่อยู่บนหลังของเขาเริ่มดิ้นรนสุดแรงของเธอ

4 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

หมีเทียน

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น