วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 162 อุรังอุตังหนุ่ม

ตอนที่  162  อุรังอุตังหนุ่ม
บุรุษร่างใหญ่ประเมินถังเทียน ใบหน้าของถังเทียนสวมหน้ากากอุรังอุตังปิดบังใบหน้าไว้ และจากเสียงของเขา เขาสามารถคาดเดาได้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาอายุค่อนข้างน้อย เด็กหนุ่มแพนด้าที่ต่อสู้ก่อนหน้านี้ก็อยู่ในวัยไล่ๆ กัน

บุรุษร่างใหญ่ไม่ได้ดูถูกเพราะพวกเขายังเยาว์วัยแม้แต่น้อย  ในทางตรงกันข้าม  ความเข้าใจของเขายิ่งหนักแน่นยิ่งขึ้น  วิชาหอกของเด็กหนุ่มแพนด้าสร้างความตื่นตะลึงให้กับเขา  เนื่องจากความประมาทและความชิงชังของเขาเมื่อยานโดยสารถูกทำลายก่อนหน้านี้ จากนั้นเพราะต่อสู้ยันกันไปมาจนถึงบัดนี้ เขาก็ยังไม่อาจพิสูจน์ยืนยันพลังที่แท้จริงของเด็กหนุ่มแพนด้าได้
เขามีประสบการต่อสู้มาอย่างโชกโชน เมื่อเขาเปลี่ยนมือกับเด็กหนุ่มแพนด้าที่ใช้วิชาหอก  เขาตระหนักได้ถึงแรงกดดัน  พลังตอบสนองที่แข็งแกร่ง  ดังนั้นเขาจึงใช้พลังมากขึ้นเพื่อกดดันเขาอย่างต่อเนื่อง  แต่ก็ไม่มากจนเกินไป  ตลอดเวลาฝ่ายตรงข้ามใช้พลังร่างกายและปราณเที่ยงแท้เพิ่มขึ้นมาก
กลยุทธ์ของเขาประสบความสำเร็จดี  เด็กหนุ่มแพนด้าแทบจะหมดหวังอยู่แล้ว  เขาไม่คิดเลยว่าจะมีการเปลี่ยนตัวเป็นอุรังอุตังหนุ่มกลางครันด้วย  เมื่อได้ยินอุรังอุตังหนุ่มตะโกนท้าทายอย่างมั่นใจ เขารู้สึกรำคาญนัก
อะไรคือสาเหตุที่เด็กหนุ่มหน้ากากสัตว์เหล่านี้มาที่นี่?
ทันใดนั้น เขามองเห็นปิงอุ้มเด็กหญิงที่ถูกหวายมัด สีหน้าเขาเปลี่ยนทันที รังสีอำมหิตถูกปล่อยออกมาทันที
 “พวกเจ้าสมควรตายทั้งหมด!
เขาปลดปล่อยพลังที่ขาทันที  ร่างของเขาเป็นเหมือนสายฟ้าพุ่งเข้าหาปิง
วูบ
เงาร่างเลือนลางพุ่งเข้ามาพร้อมกับแรงลมที่กล้าแข็ง และจู่โจมเข้าที่ด้านหน้าเขาทันที เป็นเด็กหนุ่มอุรังอุตังนั่นเอง
 “ฮ่าฮ่าฮ่า  ข้าคาดการเคลื่อนไหวของเจ้าไว้แล้ว!
เสียงดีใจของอุรังอุตังหนุ่มสร้างความหงุดหงิดให้กับบุรุษตัวใหญ่  รังสีฆ่าฟันปรากฏขึ้นในดวงตาเขา  เขาปลดปล่อยปราณทั้งหมดจากร่างกาย  ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
กล้ามเนื้อของบุรุษร่างใหญ่ขยายขึ้นเหมือนกับจะดันเสื้อผ้าของเขาให้ฉีกขาด มือขวาของเขาดึงรั้งกลับมาเหมือนท่าเหนี่ยวสายธนู  รังสีหมัดสีแดงเพลิงครอบคลุมหมัดขวาของเขาก่อรูปเป็นพายุหมุนเพลิง
พายุหมุนเพลิง!
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่กล้าแข็ง ความเร็วที่เร่งสูงขึ้นของรังสีหมัดเพลิงตอนแรกทำให้เกิดความแหลมคมและเสียงที่หนักแน่น  พลังของมันน่ากลัวมาก
ในสายตาของเขา เปลวเพลิงขยายขนาดอย่างรวดเร็ว
ตาของถังเทียนเป็นประกายเยือกเย็น เขายกมือทั้งสองขวางอกไว้ มือหนึ่งข้างหน้า มือหนึ่งข้างหลังเลื่อนลงมาในระดับเอวทันที
พายุหมุนเพลิงกระแทกใส่หมัดของถังเทียน
ปัง!
หมัดของฝ่ายตรงข้ามเหมือนสว่านเพลิงร้อนแรง เมื่อสัมผัสกับมือของถังเทียน พลังประหลาดนั้นก็ระเบิดทันที
ถังเทียนเพียงแต่รู้สึกว่ามือของเขาชา  ฝ่ามือของเขาอ่อนลง หัวใจสั่นไหว อกของเขาปลดปล่อยพลังงานออกไป เพื่อป้องกันต่อเนื่อง เขาไม่ได้คลายการป้องกันตัว  แต่ขาของเขาไม่สามารถรักษาตำแหน่งเดิมอยู่ได้  เขาถูกดันถอยหลัง
ฮ่าห์....
ถังเทียนอยู่ในท่านั่งม้า  ขาของเขาเหมือนตุ๊กตาเหล็ก ครูดกับพื้นลากเป็นเส้นยาวเกินกว่าสิบเมตร
ฮ่าห์.. ถังเทียนไม่กล้าคลาดสายตาจากคู่ต่อสู้แม้แต่วินาทีเดียว  เขาสลายปราณกดดันบางส่วนออกไปช้าๆ หัวใจเขายังคงสั่นไหว พลังแข็งแกร่งขนาดนั้นเชียว  หลังจากเพิ่งปะทะกัน แขนทั้งสองของเขาชาไปหมด
ถังเทียนไม่รู้ว่า คู่ต่อสู้ร่างใหญ่ฝ่ายตรงข้ามเขาตกตะลึงยิ่งกว่าเขาเสียอีก  เขาไม่อยากเชื่อนัยน์ตาของตนเอง
หมัดโจมตีของบุรุษร่างใหญ่  ใช้พลังทั้งหมดมาจากการยืมแรงเฉื่อยในร่างกายทั้งหมดของเขาโจมตีไปรวดเดียว  มันไม่ได้ทำลายการป้องกันของฝ่ายตรงข้าม  ปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือ นี่เป็นไปได้อย่างไร?
นั่นเป็นไปได้อย่างไร!
เจ้าเด็กนี่...
เขาต้องทำการประเมินเด็กหนุ่มอุรังอุตังที่อยู่ข้างหน้าเขาใหม่  ฝ่ายตรงข้ามในตอนนี้  สลัดแขนด้วยแรงทั้งหมดของเขา  ตรงนี้ทำให้เขารู้สึกเบาใจได้บ้าง  แต่พลังของเจ้าเด็กนี่ ก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี ถ้าเขาคาดเดาไม่ผิด เด็กหนุ่มอุรังอุตังแทบจะแข็งแกร่งพอๆ กับเด็กหนุ่มแพนด้า
บุรุษร่างใหญ่มีลางสังหรณ์อัปมงคล  แม้ว่าเขาจะบั่นทอนกำลังเด็กหนุ่มแพนด้าได้  แต่เป็นเพราะพลังร่างกายและปราณเที่ยงแท้ของเขาอยู่ในระดับสูง  แต่ทันใดนั้นก็ปรากฏเด็กหนุ่มอุรังอุตังที่มีพลังพอๆกับเด็กหนุ่มแพนด้า...
 “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”  บุรุษร่างใหญ่ตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ และถาม “เจ้ารู้ไหมว่าเราเป็นใคร...”
เขายังพูดไม่จบประโยค  นัยน์ตาเขาพร่า เพราะคู่ต่อสู้วิ่งเข้าหาเขาแล้ว
เขาใจเต้นแรง  แต่ชั่วขณะนั้น เขาก็ไม่สนใจอีก  เด็กหนุ่มอุรังอุตังรวดเร็วมาก  ในพริบตาก็มาอยู่ต่อหน้าเขา
บุรุษร่างใหญ่ตวาดลั่น  เขาต้อนรับการเข้ามาหาของถังเทียนและต่อยหมัดออกไป
วูบบ รังสีหมัดสีแดงเต็มไปด้วยพลังน่ากลัว ปรากฏอยู่ต่อหน้าถังเทียน
ถังเทียนคาดการณ์ไว้เช่นนั้น  แต่เขาไม่ได้ช้าลงแต่อย่างใด  แค่เพียงเหลือบดู ดูเหมือนว่าเขากำลังจะชนใส่หมัด  แต่ทันใดนั้นเขาย่อตัวเลียดพื้น  เหมือนกับปลาที่ลื่น เขาลอดผ่านระหว่างรังสีหมัดกับพื้นผ่านไปได้  หลังจากผ่านไปได้  ถังเทียนตบพื้นยืมพลังเพิ่มความเร็ว  เขาเด้งตัวขึ้นอีกครั้งด้วยความเร็วมากขึ้น
รังสีหมัดเองก็บดบังสายตาของบุรุษร่างใหญ่ด้วยเช่นกัน  เมื่อถังเทียนปรากฏตัวเหมือนปีศาจผุดจากพื้นและต่อยใส่เขารวดเร็วดุจสายฟ้า  สีหน้าของบุรุษร่างยักษ์เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด
พลังของเด็กหนุ่มอุรังอุตังไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเด็กหนุ่มแพนด้ามากนัก  แต่รูปแบบการต่อสู้ของเขากลมกลืนและคาดไม่ถึง  ถ้าให้คะแนนการต่อสู้เต็มสิบ  เด็กหนุ่มแพนด้าสามารถได้สิบคะแนนเต็ม  แต่ว่าเจ้าเด็กที่อยู่ต่อหน้าเขาสมควรได้ถึงสิบสองคะแนน
ช่วงเวลานั้น  บุรุษร่างใหญ่อดถอนหายใจชมเชยไม่ได้  แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียด  เขาเปลี่ยนหมัดเป็นฝ่ามือและผลักออกไป
กำแพงไร้สภาพ ขึงปกป้องอยู่ด้านหน้าของเขา
แต่ร่างที่ไวเหมือนสายฟ้าตวาดออกมาอีกครั้งทันที  ในกลางอากาศเขาปล่อยหมัดในระดับเอว  หมัดของเขาระเบิดออกมาเป็นชั้นผนังบรรยากาศ
หมัดสะท้านฟ้า!
จากตั้งแต่หมัดทลายน้อยจนถึงหมัดสะท้านฟ้า  ถังเทียนเข้าใจเรื่องพลังสั่นสะเทือนมากเป็นพิเศษ
หมัดนี้แฝงไปด้วยพลังสั่นสะเทือน
ปราณเที่ยงแท้ที่มีพลังสั่นสะเทือนความถี่สูงปล่อยออกมาจากกำปั้นของเขา  แรงสั่นสะเทือนถูกส่งผ่านไปยังมุมทุกมุมของผนังบรรยากาศ ปัง เสียงดังออกมา และกำแพงนั้นถล่มลงมา
บุรุษร่างใหญ่ยังคงรู้ตัวว่ากำแพงนั้นไม่สามารถป้องกันเด็กหนุ่มอุรังอุตังได้ เขาปล่อยฝ่ามือในเวลาเดียวกันและถอนถอยออกมา
เขาต้องการจะเพิ่มระยะห่าง  แต่เขาเห็นแล้วว่า เด็กหนุ่มอุรังอุตังใช้วิธีสู้ที่แตกต่างจากเด็กหนุ่มแพนด้า  เด็กหนุ่มอุรังอุตังผู้นี้เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดมากกว่า
บุรุษหนุ่มร่างใหญ่รู้ว่าหลังจากเขาเห็นคุณหนู  สภาพจิตใจของเขาได้รับผลกระทบ  และทำให้เลือกใช้วิธีผิดจนเขาแสดงจุดอ่อนออกมา  และเพราะเขาได้พบกับคนที่ฉวยโอกาสได้ดี  จนเป็นเหตุให้เขาพลาดท่า
เขารู้ว่า เขาต้องอดทนให้มากขึ้น
ถังเทียนไม่คิดมาก  ในการต่อสู้ สัญชาตญาณธรรมชาติของร่างกายเขาไวกว่าสมองของเขาเสียอีก  ยิ่งเป็นสัญชาตญาณสิบแปดเท่าได้แสดงพลังอย่างสมบูรณ์ในเวลานี้  แค่เมื่อคนร่างใหญ่ขยับตัวเพื่อถอย  ถังเทียนคาดการเคลื่อนไหวของเขา  และการโจมตีขณะเข้าไปใกล้  เท้าของเขาเตะพื้นอีกครั้ง และในอากาศน่องของเขาปล่อยรังสีดาบออกมาต่อเนื่องถึงเจ็ดดาบ
เท้าดาบถานถุ่ย - ดาบพับน้อย
แคร้ง แคร้ง แคร้ง!
เสียงกระทบต่อเนื่องดังขึ้นเจ็ดครั้ง ในการกระทบใส่แต่ละครั้ง บุรุษร่างใหญ่ต้องระเบิดปราณออกไป  ถังเทียนเริ่มใช้วิชาต่อสู้ในรูปแบบใหม่เรื่อยๆ ทำให้เขาชำนาญมากขึ้น  เขาทำการหลอมรวมวิชาต่อสู้ของเขา  ทำให้วิทยายุทธของเขามีพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
รังสีเหล่านั้นดูเหมือนดาบ  แต่พลังกลับประหลาดมาก  มันรวดเร็วเหมือนสายฟ้า
พลังของบุรุษร่างใหญ่มิได้อ่อนแอ  แต่ภายใต้การโจมตีอย่างเข้มข้น ทำให้เขาไม่มีเวลาได้ทันปรับเปลี่ยนตัวเอง  ดาบน้อยทั้งเจ็ดทำให้มือของเขามีพลังอ่อนลง
นี่เขาไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างนั้นมานานแค่ไหนแล้ว?
เลือดลมปราณในตัวของเขาปั่นป่วน  แต่เขาไม่สามารถคิดอะไรได้มาก  อุรังอุตังผู้น่ากลัวฟันใส่หน้าของเขา  เขาโจมตีใส่เป็นพายุบุแคม  และการรุกไล่เช่นนั้นไม่เปิดโอกาสให้เขาลืมตา
เขาทำให้เพียงตั้งรับ
ผัวะ ผัวะ ผัวะ เขาไม่รู้ว่ามือของเขาจะทนได้นานแค่ไหน  เขารู้สึกว่ากำลังสู้กับอุรังอุตังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก  พลังของมันน่ากลัว  ความเคลื่อนไหวของมันคล่องแคล่ว  แต่ก็มีสัญชาตญาณป่าอย่างน่าประหลาดใจ
ถังเทียนไม่ได้ผ่อนคลายลงแม้แต่น้อย  ประสบการณ์ในห้องสิบแปดมนุษย์ทองแดงได้สอนเขาไว้  มีหลายครั้ง ที่ระหว่างชนะกับพ่ายแพ้มีเส้นสายคั่นไว้เพียงเบาบางเท่านั้น  ทันทีที่ท่านคว้าโอกาสไว้ได้  ท่านก็ชนะ  แต่ถ้าท่านพลาด ท่านอาจพ่ายแพ้
เขาคว้าโอกาสที่จะชนะไว้  เขาจะไม่ยอมให้โอกาสฝ่ายตรงข้ามหายใจได้
ตราบเท่าที่ฝ่ายตรงข้ามได้โอกาสหายใจ  และฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสตั้งหลักได้  จากนั้นความได้เปรียบที่ท่านได้มาทั้งหมดอาจหายไปหมด
การโจมตีอย่างต่อเนื่อง  สิ้นเปลืองพลังกายและพลังปราณเที่ยงแท้เป็นอย่างมาก  ยิ่งเขาระดมโจมตี ก็ยิ่งสิ้นเปลืองพลังมาก  ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามตั้งรับป้องกัน ถือว่าสิ้นเปลืองพลังงานน้อยมาก
ถังเทียนไม่ได้ผ่อนพลังในการบุก  ใครจะรู้กันว่าสิ้นเปลืองพลังไปมาก  พลังโจมตีของเขาระดมใส่ราวพายุฟ้าคะนอง  ทั้งประทับหัตถ์ใหญ่, วังวนกระเรียนขาว, เท้าดาบถานถุ่ย แต่ละวิทยายุทธถูกใช้ออกมาอย่างไม่มีความลังเลเหมือนกับว่ามีพลังให้ใช้ไม่จำกัด
บุรุษร่างใหญ่เหมือนกับว่าเขาอยู่ในฝันร้าย  มีหลายครั้งเมื่อเขารู้สึกว่า ฝ่ายตรงข้ามจะหมดแรงและเมื่อเขาพยายามตีโต้  เขาก็พบกับการโจมตีที่ดุเดือด ความคิดตอบโต้ของเขาจึงหายไป เวลาผ่านไปช้าๆ และในทันใดนั้น เขามีความคิดว่าสิ่งที่อยู่ต่อหน้าเขาคืออุรังอุตังจักรกล  มันถึงได้ไม่รู้จักเหนื่อยล้า!
พลังของมันก็ประหลาด  การโจมตีของมันร้ายกาจจริงๆ
ทุกวินาทีคือความทรมาน
ถังเทียนก็ทรมานเช่นเดียวกัน  เขาอยู่ในสภาพโจมตีเป็นบ้าเป็นหลังมาเกินห้านาทีแล้ว  เป็นห้านาทีที่เขาทุ่มเทพลังโจมตีออกไปทั้งหมด  ศัตรูก็ยังอยู่นิ่งได้ไม่เป็นไร
เขาใช้ปราณเที่ยงแท้จนแทบเกลี้ยงและรู้สึกอ่อนล้า คอของเขาแห้งผาก  เมื่อสูดอากาศก็ไม่รู้สึกว่ามีพลังเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด  แต่เขาฝืนตนเองใช้แรงสู้ต่อไป
เขารู้ว่า สถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามก็เกือบแย่พอๆ กับเขา วิชาหมัดของฝ่ายตรงข้ามต้องการพื้นที่ในการลงมือ  ดังนั้นการสู้ประชิดติดพันจึงทำให้เขาไม่มีเวลาและพื้นที่ตั้งหลักได้
การป้องกันของเจ้าผู้นี้เหนียวแน่นมาก  นับว่าเหนียวแน่นมากที่สุดเท่าที่ถังเทียนเคยพบ  บุรุษร่างใหญ่ใช้ปราณเที่ยงแท้บีบอัดชั้นพลังป้องกันไว้หนาแน่นไม่มีช่องว่าง  พลังโจมตีของถังเทียนทั้งหมดกระทบใส่โล่ปราณป้องกันของเขา  นอกจากการลดลงของปราณเที่ยงแท้ฝ่ายตรงข้ามแล้ว  ก็ไม่มีอันตรายอื่นใดที่คู่ต่อสู้ของเขาต้องเผชิญเลย
จะทำลายโล่ป้องกันของคู่ต่อสู้ได้ยังไง?
แนวป้องกันที่บางแต่แน่นนั้น  เขาควรใช้วิทยายุทธตั้งรับบางอย่างเพื่อสร้างพื้นที่ป้องกันที่สมบูรณ์แบบ
เดี๋ยวก่อน  พื้นที่...
ราวกับว่าถังเทียนคว้าด้ายช่วยชีวิตไว้ ในชั่วขณะต่อมา  เขาก็คว้าจุดสำคัญนี้ไว้ได้ทันที
ใช่แล้ว นั่นคือพื้นที่ว่าง!
การโจมตีของเขาไม่สามารถผ่านโล่วงกลมที่แน่นหนาไปได้  เป็นเพราะการโจมตีของเขามุ่งเน้นไปที่พื้นที่โค้งส่วนนอก  แต่ถ้าเขาโจมตีส่วนในแทนเล่า?
ประกายสว่างฉายผ่านนัยน์ตาเขา  ทันใดนั้นเขาแนบร่างชิดกับโล่ปราณป้องกันของคู่ต่อสู้ทันที
หมัดซ้ายของเขาสะสมระลอกคลื่นพลังนับไม่ถ้วน และประทับใส่โล่วงกลมทันที
เป๊าะ!
ระลอกคลื่นพลังของถังเทียนทำได้สำเร็จ  มีรอยแตกเล็กๆ เกิดขึ้นในแนวป้องกันของคู่ต่อสู้  เหตุนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว  ดังนั้นบุรุษร่างใหญ่คิดว่าการโจมตีต่อเนื่องในปัจจุบันของถังเทียนจบแล้ว  แต่ครั้งนี้ มือของขวาของถังเทียนยื่นเข้ามาคว้าหมัดของบุรุษร่างใหญ่ไว้ได้
แววดีใจพาดผ่านนัยน์ตาถังเทียน
สำเร็จ!

4 ความคิดเห็น:

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขออบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

เอ้าดักผิดกลุ่มเฉย

แสดงความคิดเห็น