วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 521 รีบด่วน



ตอนที่  521  รีบด่วน
หวงฉวนและคนที่เหลือตระหนักว่า แม้ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงลานแก้วผลึก  คุณชายสามตระกูลเย่ว์ก็เล่นงานเพชรฆาตโบราณจนตาบอดไปสองตนแล้ว

ไม่ทราบว่าเขาทำได้อย่างไร
แต่นี่ทำให้ทุกคนยินดียิ่งนัก
พวกเขาทุกคนรู้ว่าการเอาชนะเพชรฆาตโบราณทำได้ยากขนาดไหน  สามารถทำให้มันตาบอดได้นับเป็นยุทธวิธีที่ดีที่สุดอย่างมิต้องสงสัย
การสูญเสียการมองเห็นเป็นอาการบาดเจ็บที่เป็นอันตรายต่อเพชรฆาตโบราณ พลังต่อสู้ของมันจะลดลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง
พวกเขาไม่สงสัยแต่อย่างใด
พวกเขาไม่มีทางคาดถึงเลยว่า เย่ว์หยางไม่ได้ทำเพื่อให้ทุกคนฆ่าเพชรฆาตโบราณได้ง่าย  แต่ก็แค่เพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะสามารถเก็บคะแนนสำหรับความตายของเพชรฆาตโบราณทุกตนได้  กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่มีใครอื่นนอกจากเขาที่ได้รับรางวัลสำหรับการลุยเดี่ยวฆ่าเพชรฆาตโบราณ  ด้วยวิธีนี้ เย่ว์หยางจะได้รับรางวัลลับสำหรับลุยฆ่าเดี่ยวซึ่งเก็บมาเป็นเวลานานแล้ว  และนอกจากนี้เขายังจะได้คะแนนมากที่สุดในสังเวียนมรณะนี้  เย่ว์หยางรู้ดีถึงความยากลำบากที่เขาเผชิญอยู่  ตัวแทนจากแดนสวรรค์ตะวันออก, ใต้และเหนือยังจัดการได้ยากมากกว่าเพชรฆาตโบราณ  นอกจากนี้ ราชาเฮยอวี้ก็ยังฉวยทุกๆ จังหวะที่จะทำร้ายเขาให้ได้และวางระเบิดเวลารอทำร้ายเขาอย่างมิต้องสงสัยเช่นกัน
ถ้าเย่ว์หยางไม่ปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้น เขาอาจตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
ไม่มีนางเซียนหงส์ฟ้า, เจ้าเมืองโล่วฮัว, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียอยู่ข้างกาย  เขาได้แต่สู้เพียงลำพัง  เนื่องจากเขาไม่สามารถหลบหนีจากสังเวียนมรณะได้
อาจกล่าวได้ว่าการต่อสู้ในศึกครั้งนี้คุกคามชีวิตของเขามากกว่าภารกิจที่วังเทพจักรพรรดิอวี้ในอดีตถึงสิบเท่า
 “คุณชายใช้พลังของเจ้าสร้างโอกาสได้มากขึ้น”  มนุษย์เพลิงเฝินเทียนไม่เต็มใจจะแสดงพลังทั้งหมดของเขา  เขาต้องการให้เย่ว์หยางโจมตีหนักขึ้น  เฝินเทียนไม่ใช่เพียงคนเดียวที่คิดเช่นนี้  แม้แต่หวงฉวนผู้แข็งแกร่งที่สุดและหวิ่นซิงก็มีทัศนคติอย่างนี้เหมือนกัน
พวกเขาทุกคนรู้ว่าการต่อสู้จะยังไม่จบหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้  จะมีคลื่นของเพชรฆาตโบราณอย่างน้อยสองระลอกหนุนเนื่องเข้ามาในอีกไม่กี่ชั่วโมง
หลังจากหยุดพักสามวันสั้นๆ  เพชรฆาตโบราณจะถูกส่งเข้ามาอีกสามระลอกอีกครั้ง
การต่อสู้ที่ยากลำบากขึ้นนี้จะดำเนินต่อไปจนกระทั่งเพชรฆาตโบราณหรือผู้ร่วมแข่งขันตายทั้งหมด
ไม่รวมถึงเพชรฆาตโบราณที่เกิดขึ้นจากตายของผู้เข้าแข่งขัน ก็จะมีเพชรฆาตโบราณสิบชุดถูกปล่อยเข้ามาในสังเวียนมรณะ และพลังของพวกมันจะแข็งแกร่งขึ้นจนถึงที่สุด  มีความเป็นไปได้สูงที่ชุดสุดท้ายจะประกอบไปด้วยระดับจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณหรืออาจจะแข็งแกร่งกว่าก็เป็นได้
ถ้าพวกเขาไม่สงวนพลังไว้และทุ่มเทพลังเต็มที่ในตอนนี้  พวกเขาอาจไม่สามารถรักษาสภาพพร้อมต่อสู้ในอนาคตก็ได้
นอกจากนี้ยังมีการต่อสู้ระหว่างทั้งสี่ฝ่ายหลังจากเพชรฆาตโบราณตายหมดแล้ว
มีแต่เพียงผู้ชนะเลิศในศึกสุดท้ายเท่านั้น
ฝีมือของเย่ว์หยางน่าประทับใจ  แต่นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น  มนุษย์เพลิงเฝินเทียนและหวงฉวนไม่รู้สึกอิจฉา  ตรงกันข้ามพวกเขาแอบดีใจ  เนื่องจากจะเป็นการทอนกำลังและลดการคุกคามที่มีต่อพวกเขาลงได้
เทียบกับเย่ว์หยางผู้ต่อสู้สุดฝีมือแล้ว ราชาเฮยอวี้เตือนหวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงมากกว่าเดิม
 “.....”  ความรู้สึกหนาวแล่นผ่านแววตาของราชาเฮยอวี้วูบหนึ่ง
แต่เย่ว์หยางจับสัญญาณได้และแอบยิ้มอย่างเย็นชา
ดีใจเหรอ?  ข้าดูว่ามันจะคงอยู่ได้นานแค่ไหน
เย่ว์หยางรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเป็นพันธมิตรกับราชาเฮยอวี้ได้และเขาจะต้องพยายามฆ่าเขาให้ได้แน่นอน แต่เย่ว์หยางไม่สามารถจะแสดงท่าทางว่าจะฆ่าราชาเฮยอวี้ได้  มีเหตุผลสองประการ คือประการแรกสถานการณ์ปัจจุบันอันตรายเกินไป   การฆ่าราชาเฮยอวี้มีแต่จะทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมากขึ้น  ประการที่สอง จะฆ่าราชาเฮยอวี้ที่มีเครื่องปกป้องเป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ทั่วทั้งตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย  ประกอบกับพลังซ่อนเร้นของเขา แม้แต่หวงฉวนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถฆ่าราชาเฮยอวี้ได้หรือไม่
ต่อให้ราชาเฮยอวี้ไม่ได้ลงมือทันที  นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเย่ว์หยางไม่มีอะไรจะพูด
เมื่อได้คะแนนทั้งหมด  ราชาเฮยอวี้จะถูกรหัสโบราณสังหารไม่ว่าเขาจะทรงพลังมากขนาดไหนก็ตาม
ดังนั้นสิ่งที่เย่ว์หยางต้องทำก็คือใช้การต่อสู้กับเพชรฆาตโบราณเพื่อยกระดับตนเอง  และใช้วิธีที่เร็วที่สุดเพื่อไล่ตามราชาเฮยอวี้ให้ทันและอยู่เหนือเขาให้ได้ จากนั้นเขาจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการต่อสู้ครั้งนี้ในฐานะเป็นผู้ชนะเลิศ
ในกลางลานแก้วผลึก การต่อสู้ที่ร้อนแรงกำลังดำเนินต่อไป
ขณะเดียวกันที่ชายขอบสวรรค์ด้านนอก
 “มีอะไรเกิดขึ้นหรือ?”  แฝดผู้พี่ของเทพธิดาศึกที่ให้ตราประดับจันทร์เสี้ยวลึกลับแก่เย่ว์หยางในอดีต  เอาชนะลิงดึกดำบรรพ์ได้อย่างกล้าหาญและได้ไปยืนคู่กับเสวี่ยอู๋เสียอย่างงามสง่า นางถามด้วยความสับสน “เจ้ารู้สึกไม่สบายหรือ”
(แฝดเทพธิดาศึก มอบเครื่องประดับลึกลับชิ้นหนึ่งให้เย่ว์หยางเมื่อตอนที่ 213)
 “...ไม่, ข้าเพียงแต่รู้สึกไม่สบายอย่างประหลาด จู่ๆ ก็ไม่มีสมาธิขึ้นมา..” เสวี่ยอู๋เสียไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงรู้สึกเช่นนั้น
 “เพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะกลับไปทวีปมังกรทะยานวันนี้ใช่ไหม?” เทพธิดาศึกคนน้องกระพริบตาขณะถาม
 “ไม่, ข้าไม่แน่ใจ”  เสวี่ยอู๋เสียสงสัยความเป็นไปก่อนหน้านี้  แต่ในไม่ช้านางก็ไม่คิดถึงต่อไป
 “เจ้าฝึกฝนมาตลอดและไม่ได้กลับไปนานแล้ว ทำไมเจ้าไม่กลับวันนี้เล่า” เทพธิดาศึกแฝดคนพี่แนะนำ
 “ภารกิจการฝึกฝนของเราก็สำเร็จลุล่วงแล้ว!  เทพธิดาศึกผู้น้องเสริมอย่างน่ารัก
 “....อืม.. เอาอย่างนั้นก็ได้!  เสวี่ยอู๋เสียไม่สามารถอธิบายถึงความกลัวที่นางรู้สึกได้  แต่หลังจากได้ฟังคำแนะนำของพวกนาง  นางตัดสินใจกลับทวีปมังกรทะยานที่นางจากมานาน ถึงเวลาเยี่ยมคนรักของนางเสียที  นางสงสัยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่  แม้ว่านางจะได้รับจดหมายของเขาบ่อยๆ ก็ตาม  แต่นางก็ยังคิดถึงเขามาก  เป็นไปได้ไหมว่าเพราะองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับทวีปมังกรทะยานและหัวใจนางก็คิดในทำนองนั้นด้วย?
เสวี่ยอู๋เสียเก็บความสงสัย  นางกับสองพี่น้องเทพธิดาศึกออกจากโลกเอกเทศและกลับไปยังทวีปมังกรทะยาน
วังเทียนหลัว
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกำลังเดินไปยังมิติลวง นางไม่ได้กลับไปวังต้าเซี่ยและไม่ได้กลับไม่เยี่ยมพระบิดาของนาง  กลับตรงไปหาเย่ว์หยางโดยตรง
พร้อมกับดาบเทพจักรพรรดิอวี้ที่แขวนอยู่บนหลังของนาง  ทำให้นางดูมีราศีสง่าผสานกับบุคลิกของนางอย่างเลือนลาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฝึกฝนดาบเทพจนเชี่ยวชาญขึ้นได้รับความเคารพนับถือจากคนที่พบเห็นนางระหว่างเดินผ่านไปทุกที่
นางยกระดับกลายเป็นระดับสุดยอดฝีมือคนหนึ่ง
เมื่อองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเพิ่งจะเดินผ่านประตูวัง  สตรีสองคนก็วิ่งเข้ามาหานางอย่างเร่งร้อนจากในวังเทียนหลัว  หนึ่งในนั้นสวมชุดเกราะผ้าคลุมดำมีหน้ากากปะการังปิดหน้าถือคทาปลาวาฬ อีกคนหนึ่งเป็นสาวลูกครึ่งเอลฟ์ที่อยู่ในชุดขาวคลุมหน้าแต่ไม่สามารถปิดความงามของนางได้  ทหารวังได้แต่เพียงกลิ่นหอมและดื่มด่ำเคลิบเคลิ้ม
มีแต่หัวหน้าองครักษ์เกราะทองที่สามารถสงบจิตใจไว้ได้ ขณะที่เขาชักดาบออกมาขวางสตรีทั้งสองคนไว้  “พวกเจ้าไม่อาจบุกรุกเข้าวังเทียนหลัวโดยพลการอย่างนี้”
 “เรามีปัญหาเร่งด่วนและกำลังตามหาแม่สี่...”  สตรีคนที่สวมหน้ากากปะการังแสดงเจตนาความตั้งใจของพวกนางทันที
 “ไม่มีคนเช่นนั้นในวังเทียนหลัว!  หัวหน้าองครักษ์เกราะทองปฏิเสธนางทันที
แม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นสตรี แต่พวกนางก็แข็งแกร่งทรงพลังจนทำให้เขาตื่นตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่สวมหน้ากากปะการัง  ขนาดนางยังปกปิดพลังของนางไว้ พลังที่นางแสดงออกมาก็ระดับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดแล้ว  ในทวีปมังกรทะยานมีคนเช่นนี้ไม่มากนัก  สิ่งที่ทำให้หัวหน้าองครักษ์เกราะทองสับสนก็คือเขาไม่เคยได้ยินเรื่องของสตรีเหล่านี้มาก่อน แรงจูงใจอะไรถึงได้นำนางมาที่นี่?
พวกนางเป็นมิตรหรือศัตรู?
เขาไม่สามารถสรุปได้!
สตรีที่สวมหน้ากากปะการังพูดอย่างกังวล  “แม่สี่ก็คือแม่สี่ของคุณชายสามตระกูลเย่ว์  ถ้านางไม่อยู่ อย่างนั้นเราขอพบพี่สาวของคุณชายสาม หรือเย่ว์หวี่พี่สาวคนรองตระกูลเย่ว์  ถ้านางไม่อยู่ด้วยเช่นกัน เราขอพบเย่ว์ปิงน้องสาวของเขาก็ได้ หรือจะให้เราพบคนในกลุ่มของเขา เย่คง, ไห่ต้าฟู่, เสวี่ยทันหลางหรือคนใดคนหนึ่งก็ได้  ถ้าพวกเขาไม่อยู่โปรดกราบทูลจักรพรรดิเทียนหลัวหรือจักรพรรดิต้าเซี่ยก็ได้  เรามีเรื่องด่วนต้องการพบพวกเขา.. นี่เป็นเรื่องฉุกเฉินต้องรายงานทันที!
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองสับสน “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?  และพวกเจ้าทุกคนมาจากไหน? บอกสถานะของพวกเจ้ามาเดี๋ยวนี้!
สตรีที่สวมหน้ากากปะการังชะงักชั่วครู่  “เจ้าไม่มีสิทธิ์รู้สถานะของข้า  ปัญหานี้เป็นความลับ  รายงานขึ้นไปเดี๋ยวนี้ เราจะเสียเวลามากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว...”
 “ไม่, ถ้าพวกเจ้าทั้งสองคนไม่เปิดเผยสถานะของตน ข้าจะไม่มีทางรายงานให้พวกเจ้า”  หัวหน้าองครักษ์เกราะทองปฏิเสธโดยตรง จะเป็นยังไงถ้าพวกนางเป็นนักฆ่าที่กองกำลังนรกดำส่งมา? อย่างนั้นเขาคงทำหน้าที่ไม่ได้  ยิ่งกว่านั้น คนที่พวกนางร้องขอเข้าพบก็คือบุคคลสำคัญที่อาณาจักรต้องปกป้องไว้
 “ช่างโง่เง่ายืนกรานนัก....”  สตรีสวมหน้ากากปะการังชูคทาปลาวาฬขาวของนาง “ถ้าข้าเป็นศัตรูข้าคงฆ่าเจ้าทันทีแล้ว  เราเป็นมิตร และเรามีเรื่องที่ด่วนมาก!
 “นั่นก็ทำไม่ได้เช่นกัน  ข้าจะไม่ยอมให้คนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเข้าไปเด็ดขาด”  หัวหน้าองครักษ์เกราะทองยืนยันหนักแน่นกว่าเดิม  พวกนางคิดว่าถือดีมากเพราะเป็นเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดหรือ? นี่คือวังเทียนหลัว  และเขาเป็นหัวหน้าองครักษ์  เขาต้องทำหน้าที่ของเขา ต่อให้พวกนางเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดก็ตาม!  ยิ่งกว่านั้นทุกคนในทวีปมังกรทะยานรู้กันว่าองครักษ์ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ที่จะให้คนเข้าไปในมิติลวง  ดังนั้นถ้าพวกนางไม่รู้เรื่องนี้  แม้ว่าพวกนางจะไม่ใช่ศัตรู  แต่พวกนางก็ไม่ใช่พันธมิตร  พวกนางควรไปที่ปราสาทตระกูลเย่ว์  ถ้าพวกนางต้องการตาหาเย่คง, เจ้าอ้วนไห่และเสวี่ยทันหลาง ทำไมพวกนางต้องมาตามหาพวกเขาที่วังเทียนหลัวด้วย?  สตรีสองนางนี้ ไม่รู้อะไร พวกนางเป็นมิตรจริงๆ หรือ?  พวกนางสองคนน่าสงสัย ไม่ควรปล่อยให้พวกนางเข้าไป
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว  หัวหน้าองครักษ์เกราะทองชี้ไปที่ทหารทั้งหมดเตรียมตัวสู้
สตรีสวมหน้ากากพยายามระงับความโกรธอย่างหนัก “เราเป็นมิตรจริงๆ ถ้าพวกเจ้าทุกคนไม่ยินดีส่งข้อความให้  อย่างนั้นเราจะไปปราสาทตระกูลเย่ว์  วงแหวนเทเลพอร์ตอยู่ที่ไหน?”
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองคิดว่า พวกนางจะเป็นมิตรได้อย่างไร ถ้าพวกนางไม่รู้กระทั่งวงแหวนเทเลพอร์ตของวังเทียนหลัว
เขายิ่งเคร่งครัดการพูดของเขามากกว่าเดิม
ถ้าไม่ใช่เพราะช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพลังของเขากับของพวกนาง  เขาคงคร่ากุมสตรีต้องสงสัยทั้งสองคนและรายงานให้เบื้องบนทราบไปแล้ว
 “เกิดอะไรขึ้น?”  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีสัมผัสรู้ทั้งหกที่รวดเร็ว นางรู้สึกว่ามีการสนองตอบแปลกประหลาดก่อนที่นางจะเข้ามิติลวง  ภายใต้สัมผัสรู้ทั้งหกที่ยอดเยี่ยมของนาง  นางข่มความต้องการพบเย่ว์หยางและหันมาดู
 “สมบัติชั้นเทพหรือนี่?”  สตรีสวมหน้ากากปะการังตะลึงเมื่อนางมองเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
 “ดาบเทพจักรพรรดิอวี้, นางคือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน” เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์วิ่งมาหาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนทันที
 “บังอาจ...” หัวหน้าองครักษ์เกราะทองโกรธเพราะคิดว่าพวกนางกำลังจะลอบสังหารองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและชิงสมบัติชั้นเทพ เขาชักกระบี่และฟันใส่ทันที
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนยกมือนางและชี้ขึ้นในอากาศ
ปราณของนางเบี่ยงเบนวิถีดาบยักษ์ของหัวหน้าองครักษ์เกราะทองทันที
ในขณะเดียวกัน คทาปลาวาฬขาวก็เข้ามากันศีรษะเด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์ไว้  นางถลาเข้าไปในอ้อมอกขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน แล้วร้องไห้ไม่หยุดและตื่นเต้นเกินกว่าจะพูดออกมาได้ ดูเหมือนนางต้องการพูดและไม่สามารถทำได้  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้สึกสับสนจึงจูงมือนางข้างหนึ่ง  และอีกทางหนึ่งก็ขอให้หัวหน้าองครักษ์เกราะทองถอยไป  “นางไม่มีเจตนาร้าย.. พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?  เกิดอะไรขึ้น?”
ทักษะหกสัมผัสรู้ของนางสามารถรู้สึกได้ดีว่าสตรีทั้งสองคนี้ไม่มีเจตนาฆ่า  ดังนั้นพวกนางจึงไม่ใช่มือสังหารที่กองกำลังนรกดำส่งมาแน่นอน
แต่นางไม่เข้าใจว่าพวกนางมาด้วยเรื่องอะไร
สตรีที่สวมหน้ากากปะการังตื่นเต้นเช่นกันเมื่อนางเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน  แต่นางรีบข่มใจทันทีและแสดงความเคารพนาง “ทูลองค์หญิง, เนื่องจากที่นี่มีคนมาก  เราไม่สะดวกเปิดเผยสถานะของเรา แต่เราไม่มีเจตนาร้าย”
 “องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ข้าไม่ใช่คนเลว,  นายท่านตกอยู่ในอันตราย รีบไปช่วยเขาเถอะ..”  เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์เก็บความอัดอั้นไว้ไม่ได้ นางจึงเปิดเผยทุกอย่างขณะที่นางกังวล  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนส่ายหน้าขณะที่นางได้ยิน  นางรีบปิดปากสาวลูกครึ่งเอลฟ์ทันที  “เข้าใจแล้ว  เราไปคุยกันต่อข้างใน  ไม่ต้องพูดอะไรที่นี่แล้ว”  จากนั้นนางหันไปทางประตูวัง  “พวกเจ้าทุกคนผลัดกันเฝ้ายามประตูวังไว้   อย่าให้ใครออกไป ไม่ว่ายังไงก็ตาม”
 “พะย่ะค่ะ!  แม้ว่าหัวหน้าองครักษ์เกราะทองจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่เขารู้ดีถึงความรุนแรงของปัญหา  ขณะที่เขาตะโกนส่งทหารยามที่รู้สึกสับสน “พวกเจ้าทุกคนฟังให้ดี  จากนี้ไปเราต้องตื่นตัวสูงสุด  พวกเจ้าทุกคนมากับข้าเดี๋ยวนี้  เข้าไปในห้องกักกัน จะไม่มีใครติดต่อกับคนข้างนอก  ผู้ฝ่าฝืนจะถูกมองว่าเป็นจารชนและจะถูกฆ่าโดยไม่ลังเล!
ก่อนที่ทหารยามจะได้ทันตั้งตัว  องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็พาสาวลูกครึ่งเอลฟ์พร้อมกับสตรีที่สวมหน้ากากปะการังเข้าไปในวัง
พวกนางวิ่งตลอดทางผ่านเข้าวังและเข้าไปในมิติลวง

14 ความคิดเห็น:

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

B กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

รอๆ ตอนต่อไป ครับค้าง

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณมากคับ

Unknown กล่าวว่า...

ชอบคุณครับ

aloha777 กล่าวว่า...

ตามเมียๆไปช่วยนี่เอง คงจะส่งข้อความไปหา ปลาฉลามผ่าน จดหมาย10ตัวอักษรนั่นสินะ แล้วปลาฉลามก็ส่งต่อให้แม่หน้ากากประการังมาแทน

Nopanser Kung กล่าวว่า...

อ่อ แฝดที่มาพร้อมกับผู้เฒ่าหนานกงตอนจะมารับเย่ว์หยางไปเป็นพันธมิตรปราณก่อกำเนิดนี่เอง
...ตอนนี้จำได้ไม่ลืม เพราะมันสะใจ! มีคนหน้าแตกหลายราย

ป.ล. *0* บรรดาภรรยาจะก่อตั้งพันกลุ่มไปช่วยเย่ว์หยางแล้ว!!

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ก็มาดิคร๊าฟ กล่าวว่า...

พี่เย่วจะโดนรุมแร้ววว

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น