วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 185 คุณชายขลุ่ยวิเศษ

ตอนที่  185  คุณชายขลุ่ยวิเศษ
พวกเขาคุ้นเคยกับถังเทียนที่ขี้เล่นและไร้เดียงสา เมื่อเห็นถังเทียนแสดงความเด็ดขาดอย่างนั้นทุกคนตะลึงทันที

มีแต่หลิงซิ่วที่กัดฟันกรอดและโกรธยิ่งขึ้น  “บัดซบเอ๊ย! รอให้ข้าฟื้นคืนพลังเสียก่อน  เจ้าตายแน่!
ชิงหลวนต้องการพูดบางอย่าง  แต่นางตะลึงมากจนนางไม่สามารถพูดออกมาได้  มุมมองด้านหลังของชายหนุ่มในเกราะเงิน  ในสายตานางเผาลนด้วยความปรารถนาจะต่อสู้  นางแทบไม่สามารถทนได้  ทันใดนั้น  นางนึกถึงคำแนะนำของไจ๋เหิงจ้านก่อนนั้นว่า ถังเทียนเป็นคนอันตราย
หน้าของกู้เสวี่ยมีแวววิตกกังวล  แต่นางไม่ห้ามปรามเขา  ไจ๋เหิงจ้านและชิงหลวนอาจจะไม่เข้าใจถังเทียน  แต่นางรู้ดี  ภายใต้รูปลักษณ์ที่โง่เขลาและท่าทางไร้เดียงสาของถังเทียนเขามีหัวใจของยอดฝีมือที่แท้จริง
ถังเทียนเข้าไปในลานจตุรัสช้าๆ
ขุนพลวิญญาณเหมือนกับกลุ่มก้อนควันลอยออกมาจากกล่องบรอนซ์และก่อตัวเป็นรูปหนึ่ง
นัยน์ตาสีฟ้าชัดใสเหมือนอัญมณี ใบหน้างดงามหล่อเหลาประดับรอยยิ้มน้อยๆ เท้าทั้งสองลอยอยู่ในอากาศ  เขามีรูปร่างสูงโปร่ง และให้ความรู้สึกแปลกเล็กน้อย
 “ข้าคือขลุ่ย”
เสียงของเขาไพเราะ อบอุ่นและน่าหลงใหล
ทุกคนตกใจ ขุนพลวิญญาณสามารถพูดได้จริงๆ!  เด็กหญิงนึกอะไรบางอย่างได้  สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว  และเธอตะโกนลั่น  “อาจารย์ระวังนะ!  เขาคือขลุ่ยวิเศษ”
 “ขลุ่ยวิเศษ?”  ถังเทียนตะลึง  พูดตามตรง เมื่อขลุ่ยวิเศษพูดตอนแรก  เขาตกใจ  เขาไขว้มือเหมือนกับขุนพลวิญญาณหลายๆ ราย  แต่เป็นครั้งแรกที่เขาพบกับขุนพลวิญญาณที่พูดได้จริงๆ แน่นอน ปิงเป็นข้อยกเว้น  แม้แต่กรงเล็บภูตพรายก็ยังเงียบเป็นปกติ
 “นึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากผ่านไปหลายปี  ยังมีคนจำข้าได้อยู่อีก  ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสุดซึ้ง”  ขลุ่ยยิ้ม และโค้งคำนับแสดงความซาบซึ้งต่อเด็กหญิง
เด็กหญิงหน้าซีดขาวทันที  ขณะที่คนอื่นดูอย่างมึนงง  พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้
เมื่อเห็นการตอบสนองของเด็กหญิง  ถังเทียนรู้ว่าคู่ต่อสู้มีเบื้องหลังที่น่ากลัว  อย่างไรก็ตาม เขาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย  กลับตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น  เขาจ้องมองดูขลุ่ย และคำราม  “เลิกโยกโย้เสียที  มาสู้กันได้แล้ว”
ขลุ่ยโค้งให้เล็กน้อย  ท่าทางของเขาดูสง่างาม “ยินดีทำตามคำสั่ง”
เขาโบกมือ เกิดม่านแสงรอบๆ สร้างขึ้นเป็นรูปกรง
ขลุ่ยอธิบาย  “อย่าห่วง ชั้นม่านแสงนี้เอาไว้กันเสียงขลุ่ยของข้าหลีกเลี่ยงไม่ให้ทำร้ายสหายผู้ทรงคุณค่าของเจ้า”
ถังเทียนประหลาดใจ  นี่เป็นขุนพลวิญญาณที่สุภาพที่สุดเท่าที่เขาเคยพบ  เขาอดสะกิดถามปิงในใจไม่ได้  “เฮ้ลุง! ลุงก็เป็นขุนพลวิญญาณกันทั้งนั้น ทำไมลุงถึงแตกต่างจากเขามากนักเล่า?”
ปิงเผยอตาและพูดเบาๆ “พวกคุณชายจากตระกูลคนชั้นสูงก็เป็นแบบนั้นทุกคนนั่นแหละ  แต่จำนวนของตระกูลชนชั้นสูงที่เรากำจัดเมื่อตอนนั้นอย่างน้อยก็ 8,000 หรือ 1 ล้าน สำหรับจำนวนคุณชายที่ถูกฆ่า เอ่อ.. นี่ยังคำนวณได้ไม่ชัดเจน...”
ถังเทียน  “........”
ตอนนี้เขาไม่มีเวลาทะเลาะกับลุงปิง  สายตาเขาจับจ้องนิ่ง  คุณชายขลุ่ยมีขลุ่ยบรอนซ์ในมือ ตัวขลุ่ยสะท้อนประกายเหมือนใหม่ สว่างเป็นเงา
ถังเทียนรออย่างตั้งใจ  คู่ต่อสู้เรียกตัวเองว่าขลุ่ยวิเศษ  นี่หมายความว่าวิธีโจมตีต้องเกี่ยวข้องกันอย่างใดอย่างหนึ่งแน่
ฟังเหมือนเป็นวิทยายุทธ?
ถังเทียนสงสัยและคาดหวัง  เขาไม่เคยพบคู่ต่อสู้อย่างนั้นมาก่อน
คุณชายขลุ่ยคำนับ และพูดชัดเจน  “โปรดฟังผลงานเพลงชิ้นเอกของข้า!
เขาหลับตาเบาๆ ถือขลุ่ยบรอนซ์ในแนวขวาง จ่อกับริมฝีปากของเขาและถ่ายลมหายใจเข้าไป ขลุ่ยบรอนซ์ในมือของเขาเปล่งเสียงดัง  บทเพลงเหมือนกับสายน้ำ และค่อยๆ ไหลออกมาจากขลุ่ยบรอนซ์
ภายในม่านแสง ในไม่ช้าอากาศก็เริ่มเคลื่อนไหวช้า
ดวงตาของถังเทียนกลอกไปมาและแสดงท่าทางประหลาดใจ  ร่างของเขาชาและอ่อนเพลียเล็กน้อย
เสียงขลุ่ยชัดเจนและไพเราะ  เมฆหมอกค่อยๆ ก่อตัวรอบตัวขลุ่ยวิเศษ  เมฆสีขาวลอยรอบตัวของเขา  ตาของขลุ่ยวิเศษพริ้มลง และสีหน้าของเขาเคร่งขรึม
 “ฮึ่ม!  ถังเทียนคำราม  ปราณแท้ในร่างของเขาที่รู้สึกอ่อนก็หายไปทันที  ขาของเขาที่ถ่ายรับพลังเริ่มเข้าจู่โจมใส่ขลุ่ยวิเศษ
วิทยายุทธของเจ้าผู้นี้ประหลาดแท้
เสียงขลุ่ยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศ  ถังเทียนรู้สึกว่าสภาพรอบด้านเปลี่ยนไปทันที  อากาศโดยรอบหนาแน่นขึ้นมาก  ถังเทียนดูเหมือนติดอยู่ในโคลน  ในทุกย่างก้าวต้องใช้พลังงานมากมาย
The air was like a wall, where walking was difficult.
อากาศเป็นเหมือนกำแพงซึ่งเดินได้ยาก
ขลุ่ยวิเศษอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรกำลังทุ่มเทสมาธิเป่าขลุ่ย
ถังเทียนคำรามด้วยความโกรธปล่อยหมัดไปข้างหน้าเสียงดังปังทันที
หมัดถล่มทลายน้อย!
แม้ว่าจะเป็นวิทยายุทธระดับต่ำ  แต่มันช่วยให้ถังเทียนเข้าใจถึงแรงสั่นสะเทือน อากาศหนาแน่นข้างหน้าเขาพังทลายเหมือนกองดิน
ถังเทียนฉวยโอกาสวิ่งไปข้างหน้า!
เขาเพิ่งจะออกไปได้ก้าวเดียว อากาศโดยรอบกลับมาอยู่ในสภาพหนาแน่นภายใต้เสียงขลุ่ยชักนำอีก
ถังเทียนไม่กังวล ตราบเท่าที่ยังมีวิธีจัดการกับมัน
หมัดของเขาเหวี่ยงสลับกัน หนึ่งหมัดต่อหนึ่งก้าว ยังคงเข้าหาขลุ่ยวิเศษช้าๆ และต่อเนื่อง  ขลุ่ยวิเศษเหมือนกับจะลืมตัวคงเป่าขลุ่ยบรอนซ์ต่อไปเหมือนกับเขาไม่ตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น
หลังจากก้าวต่อเนื่องไปเจ็ดหรือแปดก้าว  ตอนนี้ถังเทียนอยู่ห่างขลุ่ยวิเศษประมาณเจ็ดเมตร
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ  ระยะเจ็ดเมตรสำหรับถังเทียนแล้วก็แทบไม่มีอะไร  แต่ตอนนี้ ถังเทียนไม่ได้ใส่ใจ  เพราะจนกระทั่งบัดนี้แม้ว่าเสียงขลุ่ยจะเป็นเอกลักษณ์และแปลก ถังเทียนไม่ได้รู้สึกว่ามันทรงพลังมาก
ตราบเท่าที่เขาสามารถเข้าไปใกล้ในระยะสามเมตร  เขามั่นใจว่าเขาสามารถกำจัดคู่ต่อสู้ได้
ถังเทียนผู้ไม่รู้เรื่องเพลง ไม่ได้สังเกตว่าเสียงของขลุ่ยเปลี่ยนไปเงียบๆ
※※※※

ด้านนอกม่านแสง หน้าของเด็กหญิงซีดขาวเต็มที่
กู้เสวี่ยเห็นหน้าของเด็กหญิงแล้ว นางอดถามไม่ได้ “องค์หญิง!  ขลุ่ยวิเศษผู้นี้น่ากลัวมากนักหรือ?”
เด็กหญิงขบริมฝีปากเธอแน่น และเสียงของเธอสั่น  “ยุคสมัยของขลุ่ยวิเศษจะมีมาก่อนยุคกระบี่มารราวร้อยปี  เขามาจากตระกูลคนชั้นสูงและเชี่ยวชาญดนตรีการตั้งแต่อายุน้อย  หลังจากฝึกวิทยายุทธสำเร็จแล้ว เขาหลอมรวมเพลงเข้ากับวิทยายุทธของเขาและบัญญัติวิทยายุทธเสียงเพลงที่ไม่เหมือนใคร เสียงของขลุ่ยเหมือนกับมีพลังวิเศษ  เพราะอย่างนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักในนามว่าขลุ่ยวิเศษ  เกิดมาในตระกูลชนชั้นสูง ขลุ่ยวิเศษก็มีลักษณะสง่างามและดูมีชีวิตชีวา  ดังนั้นเขาจึงเป็นที่รู้จักกันในนามว่าคุณชายขลุ่ยวิเศษ  การต่อสู้ที่สร้างชื่อเสียงให้เขาก็คือเมื่อครั้งดาวไพรมายาพบกับคลื่นโจมตีอสูรดวงดาวขนาดใหญ่  พวกมันบุกทำลายเมืองต่อเนื่องถึงเจ็ดเมือง ซากศพกระเด็นกระจายอยู่ทุกที่และไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพวกมันได้  เมื่อคลื่นของอสูรดวงดาวบุกมาถึงเมืองที่แปด  ขลุ่ยวิเศษก็มาปรากฏตัวอยู่บนกำแพงชมดาว  ใช้แค่เพียงขลุ่ยเลาเดียวก็ทำให้คลื่นอสูรดวงดาวเหล่านั้นถอยหนีกลับไป  คลื่นอสูรดวงดาวนั้นทุกตัวเป็นอสูรดวงดาวระดับเก้า!
ไม่ทราบว่าเด็กหญิงตื่นเต้นหรือว่ากลัวกันแน่ แต่เมื่อเธอพูดตำนานเรื่องนี้แล้ว เธออดสนใจอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น  คนอื่นๆ รู้สึกมีอารมณ์ท่วมท้นไปด้วยความกลัวและกังวล
อสูรดวงดาวระดับเก้า  ทำได้ยังไง?
มีเพียงหลิงซิ่วที่ตะลึง  ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าคนที่กำลังเป่าขลุยที่ดูเหมือนคร่ำครึงมงายที่อยู่ในม่านแสงนั้น  ความจริงน่ากลัวมาก
 “อย่างนั้น เขาก็เป็นนักสู้ระดับสวรรค์วิถีใช่ไหม?”  เสียงของไจ๋เหิงจ้านตื่นเต้น
 “อืม” เด็กหญิงเม้มริมฝีปาก และมองดูจัตุรัสด้วยความกังวลใจอย่างมาก  “ระหว่างปีที่คุณชายขลุ่ยวิเศษรุ่งเรืองที่สุด  ครั้งหนึ่งเขาเคยเอาชนะนักสู้ระดับสวรรค์วิถีถึงสามคน”
คนอื่นๆ ลิ้นพันกันและตกใจจนพูดไม่ออก  ความขัดแย้งระหว่างนักสู้สวรรค์วิถีและการเอาชนะนักสู้ระดับสวรรค์วิถีได้ถึงสามคน  พวกเขาสามารถเข้าใจได้ตามปกติ
หลิงซิ่วเบิกตากว้างรู้สึกตะลึงในใจ  ยอดเยี่ยมเป็นบ้า
เจ้างี่เง่าถังตกอยู่ในอันตรายแล้ว!
ผิดแล้ว!
 “ถ้าเป็นกรณีอย่างนั้น  เจ้างั่งถังคงเหลือแต่เถ้าถ่านไปนานแล้ว”  หลิงซิ่วขมวดคิ้ว
 “ข้าคิดว่าฝีมือของเขาตกลงไป”  ไจ๋เหิงจ้านมีประสบการต่อสู้มากที่สุด  เขาสามารถบอกได้เพียงแค่เหลือบมองจุดวิกฤติ  “ระดับของขุนพลวิญญาณจะตกลงต่อเนื่องเมื่อผ่านไปหลายปี  แน่นอนว่าคงเทียบไม่ได้กับช่วงยุคที่เขารุ่งเรืองที่สุด”
 “เจ้างี่เง่านั่นนับว่าได้โอกาสดีจริงๆ”  หลิงซิ่วแค่นเสียง แต่ก็คลายใจลงมาก
เด็กหญิงสั่นศีรษะ  “ระดับอาจตกลงไป  แต่ความเข้าใจในวิทยายุทธจะไม่มีทางตกลงเลย  คุณชายขลุ่ยวิเศษมีชื่อเสียงเพราะกระบวนท่าสังหารของเขาคือ เวทผลาญสำเนียง”
 “เวทผลาญสำเนียง?” ทุกคนถามขึ้นพร้อมกัน
 “อืม”  สีหน้าของเด็กหญิงยังเต็มไปด้วยความกังวล  “ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า ทำนองเจ็ดสังหาร”
 “ทำนองเจ็ดสังหาร?”
แค่ชื่อนี้เท่านั้นก็ทำให้ทุกคนกลัวแล้ว
 “อืม...”  เด็กหญิงกังวลมากขึ้นกว่าเดิม  “ข้าไม่รู้เช่นกันว่า เรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้  แต่ข้าได้ยินมาว่ากระบวนท่านี้ของคุณชายขลุ่ยวิเศษ ไม่เคยล้มเหลวมาก่อน”
ไม่เคยล้มเหลว....
หัวใจทุกคนตกวูบทันที  สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่จตุรัส
ระยะห่างระหว่างถังเทียนกับขลุ่ยวิเศษในลานจัตุรัสไม่เกิน 7 เมตร สำหรับถังเทียน แค่ขยับเข้าไปได้อีกเล็กน้อยก็จะเข้าระยะโจมตี
แต่ในช่วงนี้เอง มีอาการสะดุดที่คาดไม่ถึง
ภายในม่านแสง มีฟองลูกโป่งลอยผุดออกมาไม่มีปี่มีขลุย  ในพริบตาก็มีลูกโป่งลอยปรากฏออกมาอีกทำให้ทุกคนกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัว อากาศภายในม่านแสงเหมือนกับจะเดือด  ฟองอากาศลูกแล้วลูกเล่าผุดออกมาทันที
ฟองอากาศโปร่งแสงเหล่านี้ใหญ่ขนาดกำปั้น ปรากฏออกมาลอยอยู่ในอากาศเงียบๆ
ในชั่วพริบตา ถังเทียนก็ถูกฟองอากาศกลุ่มใหญ่ลอยล้อมรอบ
นั่น...อะไรกัน?
คนที่อยู่ภายนอกม่านแสงทุกคนถึงกับเบิกตากว้าง
※※※※

บอลสุญญากาศ!
ถังเทียนตื่นตัวเต็มที่ ฟองอากาศแต่ละลูกก็คือบอลสุญญากาศ  ถังเทียนสามารถสร้างบอลสุญญากาศโดยใช้หมัดสะท้านฟ้าของเขา  แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มบอลสุญญากาศหนาแน่นนับไม่ถ้วนที่อยู่ต่อหน้าของเขา  ถังเทียนรู้สึกว่ากระบวนท่าของเขานั้นกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย
ถ้าถังเทียนไม่สามารถวัดฝีมือของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนหน้านี้  อย่างนี้ท่านี้ก็จะทำให้ถังเทียนเข้าใจทักษะของขลุ่ยวิเศษได้ทั้งหมด
ดูเหมือนถังเทียนตระหนักได้ว่าเสียงธรรมชาติจากขลุ่ยนี้เป็นพลังสั่นสะเทือนรูปแบบหนึ่ง
เขาเคยฝึกหมัดสะท้านฟ้ามาก่อน และเข้าใจพลังสั่นสะเทือนได้ลึกซึ้งกว่าคนอื่น  ถ้านักสู้ต้องการสร้างบอลสุญญากาศ   เขาต้องใช้แรงสั่นสะเทือนที่แข็งแกร่งเพื่อทำลายอากาศ
แต่สร้างบอลสุญญากาศได้มากมายรวดเดียวกันนี่...
ในสายตาของถังเทียน บอลสุญญากาศเป็นเหมือนจุดสั่นสะเทือนที่หนาแน่นเป็นพันๆ จุดกำลังสั่นสะเทือน
ขลุ่ยวิเศษที่น่ากลัว.... เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง?
ถังเทียนอยากเคาะศีรษะตนเองนัก  เขาไม่สามารถคิดได้ว่าขลุ่ยวิเศษทำแบบนี้สำเร็จได้ยังไง  อย่างไรก็ตาม  ความรู้สึกถึงอันตรายในใจเขาเพิ่มขึ้นสูงอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ห่างออกไปจากฟองอากาศจำนวนมาก  หัวของร่างขลุ่ยวิเศษก้มต่ำลงขณะเป่าขลุ่ยของเขา กลายเป็นตัวตนขึ้นมา  รังสีฆ่าฟันเกือบชัดเจน  ขลุ่ยวิเศษมีผมยาวพริ้วไสวอยู่ในสายลมใบหน้าหล่อเหลางามสง่าดูเคร่งขรึม
นิ้วเรียวยาวของเขาขยับพลิ้วไปตามขลุ่ยบรอนซ์   ความเคลื่อนไหวที่แผ่วพริ้วนี้ทำให้ถังเทียนถึงกับผมตั้ง
ทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยบอลสุญญากาศลอยตัวอยู่เงียบๆ  และค่อยๆ ลอยเข้าหาถังเทียนจากทุกทิศ

4 ความคิดเห็น:

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น