วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 190 ฝึกแบบบ้านนอก

ตอนที่  190  ฝึกแบบบ้านนอก
ข่าวสารถูกส่งกลับมาผ่านไปยังรัฐบาลอู่โหวโดยเร็วถึงขนาดที่อู่โหวส่งยานโดยสารเลิศหรูมาที่ตระกูลกู้  เดิมทีอู่โหวพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเชิญกู้เสวี่ยมาเป็นอาคันตุกะของรัฐบาลอู่โหว  แต่กู้เสวี่ยในเวลานั้นหนักแน่นมั่นคงมิได้กังวลเรื่องแบบนั้น นางเพิ่งได้รับราชันย์ถวิลรักมา  นางจำเป็นต้องใช้เวลาอีกมากเพื่อทำความเข้าใจวิชานี้ ดังนั้นนางจึงต้องปฏิเสธอย่างนุ่มนวล

และเป็นไปตามคาด  หลายคนในภูเขาปู้โจวพบแร่มัสโคไวน์  แร่เหล่านี้เป็นของตระกูลกู้, ไจ๋เหิงจ้าน, ชิงหลวนและองค์หญิงหมิงจูแบ่งผลกำไรกัน  ทุกคนตัดสินใจลดส่วนของตนให้แก่กู้เสวี่ยผู้สืบทอดวิชาราชันย์ถวิลรัก  กู้เสวี่ยตัดสินใจเป็นนักสู้สวรรค์วิถีและพวกเขาต้องการมีสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกู้เสวี่ย  แต่กู้เสวี่ยกับทำตามข้อที่ได้ตกลงไว้ก่อนหน้านั้น นางไม่ได้มองว่าแร่เป็นเรื่องสำคัญ
 “อาเสวี่ย, ข้าจะไปแล้วนะ!  ถังเทียนโดดขึ้นยานโดยสารโบกมือให้พลางตะโกน “อาเสวี่ย!  ขยันเข้าไว้! คราวหน้าข้าจะมาเยี่ยมเจ้าและเล่นกับเจ้า”
กู้เสวี่ยมีสีหน้าร่าเริง ขณะที่นางมีสีหน้าเด็ดเดี่ยวจริงจัง  นางพยักหน้า “อือ”
ในมือของนางควงกระบี่ใหญ่ราชันย์ถวิลรัก ชุดยาวสีฟ้าครามและผมดำขลับของนางพลิ้วไสวอยู่ในสายลม  นางเขย่งเท้าโบกมือขวาให้ถังเทียน  นางมองดูยานโดยสารห่างออกไป จนกระทั่งลับตา
ภายใต้แสงอาทิตย์อบอุ่น  นางหันหน้ามองภูเขาเขียวชอุ่มไกลลิบกับท้องฟ้าสีคราม  เด็กสาวรีบเก็บรู้สึกที่สูญเสียและเศร้าไว้ นางเชิดหน้าที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความมุ่งมั่น
มือขาวผ่องของนางกำหมัดแน่น
กู้เสวี่ยเลียนแบบสำนวนถังเทียนและตะโกนออกไป
 “สาวน้อยชาวฟ้า,  เจ้าต้องทำได้แน่!
นางรู้สึกขบขันตัวเองที่จู่ก็ทำอย่างนี้ ถึงกับหัวเราะออกมา  ดวงตานางโค้งจนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว  อารมณ์คล้ายกับแมวที่พอใจ
อาเสวี่ย เจ้าต้องทำให้ได้  เมื่อเจ้าพบกับเขาอีกครั้ง เจ้าต้องทำให้เขาตกใจได้แน่นอน
กู้เสวี่ยหรี่นัยน์ตา นางพอเข้าใจบ้างจึงยิ้มและบอกตนเองในใจ
※※※※

ยานโดยสารบินอยู่ในอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในเวลาอย่างนี้  ผู้ว่าการดวงดาวและกลุ่มสวี่ซื่อทั้งสี่ช่วยคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง
ยานลำนี้หรูหราพื้นที่ภายในกว้างใหญ่  ทุกคนมีห้องเป็นของตนเอง  องค์หญิงน้อยเดิมทีเตรียมการเดินทางไว้และเตรียมขอร้องอาจารย์ของเธอให้ปล่อยลุงขลุ่ยวิเศษผู้มีเสน่ห์ออกมา  แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาเข้าไปในห้องแล้ว  ก็ไม่เคยออกมาเลย
ภายในค่ายทหารใหม่กองทัพดาวกางเขนใต้
ปิง, กรงเล็บภูตพรายและขลุ่ยวิเศษทุกคนยืนเข้าแถวตรง  มองดูถังเทียนฝึกกรงเล็บเพลิงภูตพรายอย่างใกล้ชิด
 “จะเร็วเกินไปหรือเปล่าที่ให้ฝึกฝนกันตั้งแต่ระดับที่หก...”  ปิงมีประสบการณ์การสอนมากมาย จึงเริ่มทำการวิเคราะห์  “ตามประสบการณ์หลายปีของข้าบอกว่า การกระตือรือร้นมากไปอาจทำให้เกิดผลเสียก็ได้ และไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป”
กรงเล็บภูตพรายพูดเย็นชา  “เจ้าเองก็ทำแบบนั้นบ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ?”
ปิงถึงกับอึ้งและพูดไม่ออก  แน่นอนการฝึกฝนที่เขาวางแผนให้ถังเทียนมุ่งยกระดับให้พลังปราณแท้ให้เขา
ขลุ่ยวิเศษมองดูทั้งสองทะเลาะกันด้วยความสบายใจ  เขาสนใจพวกเขาทั้งสอง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งปิง  เขาเป็นขุนพลวิญญาณของรุ่นกองทัพดาวกางเขนใต้ที่รอดอยู่ถึงทุกวันนี้  เขาจึงรู้สึกทึ่งอย่างมาก  แม้ว่าประวัติของกรงเล็บภูตพรายจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากเท่าปิง  แต่ก็สามารถบัญญัติวิชากรงเล็บระดับสุดยอดฝีมือออกมาได้  ถือว่าไม่ใช่ความสำเร็จที่ธรรมดาเลย
แต่สิ่งที่เขาสงสัยมากที่สุดก็คือค่ายมหัศจรรย์แห่งนี้  ขลุ่ยวิเศษสามารถรับรู้ได้ชัดว่าพลังของเขาฟื้นคืนมาอย่างเงียบๆ  แม้ว่าจะช้ามากก็ตาม  แต่ก็ทำให้เขามีความสุขมาก  เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่พลังของเขาเหือดแห้งไปอย่างสม่ำเสมอ และเขาไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้  เมื่อพลังของเขาเหือดแห้งไปอย่างสิ้นเชิง นั่นจะเป็นวันที่เขาหายไป  และสำหรับขุนพลวิญญาณ นี่คือผลที่จะเกิดขึ้นแน่นอน
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีสถานที่มหัศจรรย์และลึกลับเช่นนั้นอยู่ในโลก...
ขลุ่ยวิเศษผู้เริ่มต้นกลมกลืนตนเองเข้ากับค่ายทหาร ก็พบเรื่องที่น่าสนใจใหม่โดยเร็วก็คือ ปิงและกรงเล็บภูตพรายกำลังเคี่ยวกรำถังเทียน
เขาสนใจใคร่รู้เรื่องถังเทียน  บุรุษหนุ่มผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากขลุ่ยสำเนียงเฉื่อยชาหาได้ยากจริงๆ ถึงแม้ไม่มีเรื่องนั้น  เขาก็ยังถือว่าไม่ธรรมดา
ความสนใจของเขาเริ่มมีมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
บุรุษหนุ่มผู้น่าสนใจขนาดนั้นกับศักยภาพที่ไม่มีขีดจำกัด ภายใต้ปีกของอาจารย์ผู้ทรงพลังทั้งสอง ผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร?
ถังเทียนกำลังผ่านการฝึกฝนที่น่าเบื่อมากซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เขาหันหน้าเข้าหาทั่งหนา  นิ้วทั้งสิบของเขาเกร็งพลังปราณแท้และฝนบดใส่ทั่งอย่างต่อเนื่อง
หัวของถังเทียนเต็มไปด้วยเหงื่อพราว  ตาของเขาเพ่งเขม็งขณะที่เขาใช้พลังมากมาย นิ้วของเขาขยับอย่างต่อเนื่อง  ประกายไฟกระจายไปรอบๆ เม็ดเหงื่อกระเด็นหยดอยู่โดยรอบ
 “นี่คือกรงเล็บเพลิงภูตพรายของเจ้าหรือ?” ปิงค่อนข้างรังเกียจ  “เฮ้, ข้าอุตส่าห์ให้เวลาฝึกฝนที่มีค่าของถังน้อยกับเจ้าแล้ว  เจ้าต้องรับผิดชอบให้ดี  อย่าเอาวิธีบ้านนอกๆ มาฝึกเลย มันจะทำให้ทุกคนเสียเวลา”
 “ข้าก็มาจากบ้านนอกอยู่แล้ว”  กรงเล็บภูตพรายพูดอย่างเย็นชา
ปิงสะอึก และในขณะนั้นเองถังทียนก็เจาะทั่งที่อยู่ข้างหน้าเขาได้แล้ว  นิ้วมือทั้งสองของเขาให้ความรู้สึกที่แตกต่าง  การใช้ปลายนิ้วของเขาฝนเข้ากับทั่งที่หนา 20 เซนติเมตร  เรื่องที่ไร้สาระนั้นเขาทำสำเร็จได้จริงๆ
ถังเทียนสูดลมหายใจลึก  นิ้วทั้งสิบของเขางอเหมือนเท้าไก่ ยังไม่สามารถเหยียดตรงได้
 “ทำได้ดีนี่!” ปิงปรบมือโน้มตัวไปข้างหน้าชมเชย  “การฝึกฝนที่ใช้ทักษะไม่จำเป็นไม่มีความหมายสำหรับหนุ่มชาวฟ้านี้  มีแต่ข้าเท่านั้น หัวหน้าฝึกสอนของกองทัพดาวกางเขนใต้ที่มีประสบการณ์  สามารถเอาวิธีการดั้งเดิมมาสอนฝึกอบรมได้...”
 “หุบปากเลย!” กรงเล็บภูตพรายพูดอย่างเหลืออด “ข้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าในอดีตเจ้าโด่งดังเพียงไหน?”
ปิงตื่นเต้นและเตรียมจะพูดออกมา  แต่ถังเทียนพูดตัดบทเสียก่อน  “ต่อไปฝึกอะไร?”
ทั่งที่เขาใช้ฝึกฝนกรงเล็บ  เขาใช้เวลาสามวันเต็ม
 “ยังคงทำเหมือนเดิม”  กรงเล็บภูตพรายกล่าว
 “เหมือนเดิมเหรอ?”  ถังเทียนตะลึง ขณะมองดูทั่งที่เขาใช้นิ้วบดฝน  “แต่ข้าบดฝนทั่งนี้เสร็จแล้วนะ”
 “บดสำเร็จ?  นี่เป็นแค่เพียงการเริ่มต้น”  กรงเล็บภูตพรายกล่าวเย็นชา
ปัง ปัง ปัง!
ทั่งนับไม่ถ้วนร่วงลงมาจากท้องฟ้าเหมือนฝนตกกระจายทั่วห้อง มีเป็นจำนวนมากเรียงชิดติดกัน แต่ละชิ้นที่เห็นก็ทำให้ถังเทียนรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้าได้  เขาถาม “นี่ข้าจะต้องฝนนิ้วกับทั่งนี้มากเท่าใด?”
 “หนึ่งพันแท่ง”  กรงเล็บภูตพรายพูดอย่างเฉยเมย
ถังเทียนแทบเป็นลม ต้องบดทั่งถึงหนึ่งพันชิ้น....
 “ถ้าเจ้าต้องการจะฝึกกรงเล็บเพลิงภูตพรายระดับสุดยอดฝีมือ  อย่างนั้นก็ต้องบดทั่งให้ได้พันชิ้น  ด้วยสมรรถภาพร่างกายของเจ้า ไม่ควรมีปัญหาอะไร”  กรงเล็บภูตพรายพูดอย่างใจเย็น
 “พันชิ้น  สำหรับเขาชิ้นหนึ่งต้องใช้เวลาสามวัน  นั่นก็หมายความว่าเป็นเวลาสามพันวัน  เพิ่มไปอีกสองร้องแท่ง นั่นก็จะใช้เวลาสิบปี! บางทีหลายปีต่อมาเขาคงจะทำได้เร็วขึ้น  ให้เวลาเขาสักห้าปี” ปิงหยัน  “ห้าปีกับการฝึกฝนวิชากรงเล็บระดับสุดยอดฝีมือระดับเจ็ด  สมองของเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”
 “ข้าให้บทฝึกเจ้าไปแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะฝึกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวเจ้า” กรงเล็บภูตพรายไม่สนใจปิงและพูดกับถังเทียนตรงๆ
บดฝนนิ้วกับทั่งพันแท่ง
ต่อให้เป็นถังเทียน ก็ยังรู้สึกเหลือทน
ถังเทียนสูดลมหายใจลึก  “ข้าจะฝึกต่อ!
แค่เพียงพันแท่งเท่านั้นหรือ?  เทียบกับเวลาที่ทุ่มเทไปกับการฝึกทักษะวิทยายุทธเบื้องต้นแล้วก็ยังน้อยกว่ามาก  วิทยายุทธของเขาไม่เคยใช้ทางลัด
ที่สำคัญยิ่งกว่า เขามีค่ายฝึกทหารใหม่  เรื่องเวลา เขามีมากมายเมื่อเทียบกับคนอื่น
โดยไม่มีการพูดอะไรอื่นอีก  ถังเทียนเริ่มเส้นทางที่ยากลำบากกับการบดทั่งอีกครั้ง
เวลาผ่านไปทีละนิด
ถังเทียนจับเคล็ดได้อย่างรวดเร็ว  จิตวิญญาณพลังยุทธเงินของเขาและสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งนำพาให้เขาสามารถควบคุมความรุนแรงของพลังปราณแท้ของเขาได้  และหลังจากเลื่อนชั้นพลังเป็นระดับหกแล้วปราณแท้ได้ขยายไปยังส่วนต่างๆ ที่เข้าไม่ถึงก่อนหน้านี้  การควบคุมพลังเหนือร่างกายของเขาทำได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ถังเทียนตระหนักได้อย่างรวดเร็วที่เมื่อเขาถ่ายปราณแท้เข้าไปทั่วฝ่ามือของเขา  ผลลัพธ์ที่ออกมายังไม่ดี ถ้าขณะที่เขาสร้างชั้นปราณแท้อ่อนๆ บนเนื้อปลายนิ้วของเขา ไม่เพียงแต่ลดการใช้ปริมาณปราณเที่ยงแท้เท่านั้น แต่ยังทำให้การบดฝนทำได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
นิ้วทั้งสิบของถังเทียนเป็นเหมือนแท่งเหล็กที่ฝนบดใส่ทั่ง  ประกายไฟกระจายไปทั่ว
 “ถังเทียนฉลาดมาก” ขลุ่ยวิเศษประหลาดใจมาก  ประสิทธิภาพถังเทียนเพิ่มขึ้นมาก จากที่ใช้ทั่งชิ้นละสามวัน กลับก้าวหน้าได้เร็วใช้ทั่งชิ้นละวัน และจากนั้นก็เป็นวันละสามชิ้น ในเวลาไม่ถึงสิบวัน
 “ฉลาดหรือ?” ปิงมองดูขลุ่ยวิเศษด้วยความประหลาดใจ  “เจ้าคิดว่าเขาฉลาดหรือ  ความจริงข้าไม่เคยเห็นใครโง่กว่าเจ้าเด็กนี่  ถ้าเป็นเลขจำนวนเกินร้อย ทำผิดเป็นประจำ พนันได้ว่าใครเป็นครูของเขาในอดีตคงรู้สึกอยากตายวันละหลายเวลา”
ขลุ่ยวิเศษคิดถึงผลงานประจำวันของถังเทียน ก็อดหัวเราะไม่ได้  “ว่ากันตามตรง เขาไม่ปราดเปรื่องเหมือนกับทุกวันเลยนะ”
 “ไม่ค่อยปราดเปรื่องน่ะหรือ?”  ปิงหัวเราะลั่น  “เขารู้จักความโง่เง่าซุ่มซ่ามของตนเอง  สมองอย่างเขาไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ คนแบบนี้ เจ้ากลับใช้คำว่าไม่ค่อยปราดเปรื่อง  หลอกตัวเองมากเกินไปแล้ว”
 “เจ้าก็เหมือนกับถังเทียนนั่นแหละ” กรงเล็บภูตพรายพูดเย็นชา
ปิงหัวเสียทันที  “เจ้ากำลังดูถูกข้าเหรอ?”
 “เออ” กรงเล็บภูตพรายพยักหน้า
เมื่อเห็นทั้งสองทะเลาะกัน ขลุ่ยวิเศษให้ความสนใจถังเทียนโดยตรงทันที “แต่ข้าเห็นว่าเขาฝึกได้รวดเร็วดี”
ความจริงปิงได้รับอิทธิพลจากเขา  “ในแง่ของการฝึกฝน เจ้าเด็กนี้นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะเต็มร้อย แต่เจ้าไม่อาจใช้มาตรฐานการศึกษาแบบบ้านๆ มาใช้ประเมินเขาได้  ความรู้และสติปัญญาของเขาเกือบเป็นศูนย์  เรื่องการใช้สติปัญญาถกความเห็น  เขาจะไม่เข้าใจแน่นอน  แต่ถ้าเจ้าจับเขาโยนใส่สถานการณ์ที่สิ้นหวัง  คนสุดท้ายที่เหลือรอดอยู่ได้ต้องเป็นเขาแน่นอน”
ปิงพึมพำ  “ทหารใหม่เหล่านี้ ข้าเคยเห็นมาสองสามคนในอดีต  และข้าเรียกพวกเขาว่าพวกสัญชาตญาณสัตว์ป่า  พวกเขาเป็นเหมือนสัตว์ป่า ไม่ฉลาด  แต่มีสัญชาตญาณน่าทึ่ง  ขณะที่ฝึกวิทยายุทธ  พวกเขาจะจับเคล็ดต่างๆ ได้รวดเร็ว  ที่สำคัญยิ่งกว่า พวกที่อยู่ในกลุ่มมีสัญชาตญาณสัตว์ป่ามักมีหัวใจที่บริสุทธิ์และมีบางอย่างที่ดึงดูดใจไม่ธรรมดา  การเพิ่มปัจจัยทั้งสองนี้ทำให้พวกเขาเปล่งประกาย”
 “นั่นเป็นความจริงแท้แน่นอน”  ขลุ่ยวิเศษชื่นชม
 “ถ้าพวกที่มาจากกลุ่มที่มีสัญชาตญาณป่ามาอยู่ในโรงเรียน  พวกเขาจะทุกข์ทรมาน  พวกเขาไม่ค่อยใส่ใจนั่งศึกษาพวกทฤษฎีต่างๆ  พวกเขาเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตป่าเถื่อนและดิ้นรนต่อสู้เอาชีวิตรอด  ต่อสู้เพื่อให้อยู่รอดได้ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง  สถานการณ์แบบนั้นเป็นส่วนใหญ่เหมาะที่จะใช้ฝึกฝนให้พัฒนาก้าวหน้า” ปิงกล่าว
ขลุ่ยวิเศษสงสัย “ท่านเคยฝึกคนที่มีสัญชาตญาณสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งมาก่อนใช่ไหม่?
ปิงพยักหน้า “ใช่แล้ว แต่คนที่มาจากกลุ่มสัญชาตญาณสัตว์ป่าจะตายง่าย  การต่อสู้ช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าได้ก็จริง  แต่การฝึกไปด้วยสู้ไปด้วยโอกาสตายมีสูง  ดังนั้นอัจฉริยะที่มีสัญชาตญาณป่าจึงตายกันเร็วมาก”
กรงเล็บภูตพรายไม่พูดอะไร  แต่เพ่งดูถังเทียนที่กำลังขูดทั่งจนเกิดประกายไฟกระจายไปทั่ว
นัยน์ตาเขากระพริบเป็นประกายที่สังเกตไม่ออก

9 ความคิดเห็น:

kk.putting กล่าวว่า...

ฝึกกงเล็บไว้ตะกาวหน้าปิง😉😉

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรื่องคำนวณปล่อยเฉียนฮุยไป เรื่องถึกไว้ใจพี่ถังฮะ

Unknown กล่าวว่า...

ตกลงขุนพลวิญญาณ 3 คนนี่จะมาตั้งคณะตลกกันใช่ไหม

neng2006 กล่าวว่า...

ฮ่าๆๆๆ

sittichok กล่าวว่า...

เตรียมตัว จะสร้างกองทัพตัวเองแล้วสินะปิง

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

ZENDINEL กล่าวว่า...

Thx

แสดงความคิดเห็น