วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 531 ค่าหัวห้าแสนล้าน?



ตอนที่  531  ค่าหัวห้าแสนล้าน?
มิติหลุมดำ

 “สังเวียนมรณะ?” หลังจากนางพญาเฟ่ยเหวินหลีได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเย่ว์หยาง  นางยิ้มอ่อนหวาน “ไม่จำเป็นต้องคาดเดาต่อไปแล้ว ข้ามั่นใจเลยว่ามีบางคนก่อให้เกิดความเสียหายอยู่ภายในเงามืด  บางคนที่ใช้เลือดของเจ้าเพื่อเริ่มสงครามโบราณทำให้เจ้าเป็นหัวหน้ากลุ่มเข้าร่วมสังเวียนมรณะและบังคับให้เจ้าเข้าร่วมศึกครั้งนี้...  อันที่จริงถ้าพูดกันอย่างเจาะจงแล้ว นี่ไม่ใช่เพียงสงครามที่ปราศจากความรุนแรงเท่านั้น  แต่ยังเป็นสงครามที่สิ้นหวังอีกด้วย  ในครั้งโบราณกาลดินแดนสวรรค์และโลกมนุษย์เชื่อมโยงถึงกัน  แม้แต่นักสู้จากแดนสวรรค์ก็มักเข้าร่วมแข่งขันในศึกสังเวียนมรณะอยู่บ่อยๆ  สำหรับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด การสะสมคะแนนให้ได้ 100 ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยาก  ส่วนที่ยากก็คือ วิธีไล่ล่าศัตรู หรือแม้แต่หลบหนีจากเงื้อมมือศัตรูที่แข็งแกร่งทรงพลัง!
 “มีบางคนใช้เลือดของเขาเพื่อเริ่มสงครามโบราณนี่เหรอ?”  เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ว์หยางขมวดคิ้ว
 “ถ้าจนถึงตอนนี้  ไม่มีคนจากหอทงเทียนไปถึงแดนสวรรค์ได้  อย่างนั้นคนที่เริ่มสงครามโบราณนี้ก็ต้องเป็นศัตรูของเจ้าแน่นอน พวกที่หลบหนีไปจากวังเทพจักรพรรดิอวี้ได้”
เย่ว์หยางประเมินว่าถ้าไม่ใช่ซิวคง  ก็อาจเป็นจิ่วเซียวผู้ลึกลับ
ระหว่างต่อสู้อย่างดุเดือดที่วังเทพจักรพรรดิอวี้  พวกเขาต้องรวบรวมเลือดของเขาไปได้แน่
แล้วจากนั้น พวกเขาคงใช้เลือดของเขาเพื่อเริ่มต้นสงครามโบราณนี้
นี่ยังคงเป็นเหตุผลที่เขาได้เป็นผู้นำแทนที่จะเป็นราชาเฮยอวี้ผู้แข็งแกร่งกว่า  นอกจากนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเริ่มสงครามโบราณได้  เนื่องจากเขาไม่เคยไปแดนสวรรค์เลยนี่ต้องเป็นเพราะซิวคงหรือไม่ก็จิ่วเซียวเป็นแน่
ปัญหาก็คือ ถ้าเป็นฝีมือของพวกเขาสร้างเรื่องเลวร้ายนี้ขึ้น หลายอย่างจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
ศัตรูจะเตรียมกับดักไว้เพียงอย่างเดียวได้ยังไง?
เห็นได้ชัดว่าซิวคงและจิ่วเซียวไม่ยอมวางมือจากเย่ว์หยางง่ายๆ เมื่อเขามีศักยภาพมากขนาดนั้น แผนการของเขาจะพัฒนาขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
 “หลังจากราชาเฮยอวี้หักหลังเรา สถานการณ์ของเราตกอยู่ในสภาพเลวร้าย  ข้าต้องการเข้าใจจุดอ่อนของเพชรฆาตโบราณ หรือกฎเกณฑ์ต่างๆ ของสังเวียนโบราณ”  ในจุดสำคัญตรงนี้เย่ว์หยางจะข้ามเรื่องที่เป็นทางการทั้งหมดและตั้งคำถามหลักทันที
 “การฆ่าเพชรฆาตโบราณทำได้ง่ายมาก  สัตว์ประหลาดแบบนั้นสติปัญญาต่ำไม่ค่อยน่ากลัว  ต่อให้เป็นแม่ทัพเพชรฆาตโบราณหรือจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณก็ตามก็คงคุกคามเจ้าไม่ได้มากนัก  ตรงกันข้าม เจ้าต้องระมัดระวังราชาเฮยอวี้  ข้ารู้สึกว่าถ้าเขาไม่มีความมั่นใจ  เขาคงไม่ทรยศ  เขาต้องมีไม้ตายก้นหีบอยู่กับตัวเป็นแน่”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีพึมพำกับตัวเองเงียบๆ และกล่าวว่า “ความจริง เรื่องที่เจ้าต้องกังวลห่วงใยไม่ใช่เรื่องจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณ  ไม่ใช่ทั้งราชาเฮยอวี้  เจ้าต้องคอยระมัดระวังนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าที่ลงมาจากแดนสวรรค์....”
 “อะไรนะ?”  เย่ว์หยางตกใจ  แม้แต่แดนสวรรค์ก็ยังส่งนักสู้ปราณก่อกำเนิดของพวกเขามาด้วยหรือ?
 “นักสู้ปราณก่อกำเนิดจากแดนสวรรค์อาจปรากฏออกมาในฐานะกลุ่มที่หก  พวกเขาไม่ใช่พันธมิตรของหนึ่งในฝ่ายทั้งสี่  แต่พวกเขาก็อาจไม่ใช่กลุ่มนักล่าก็ได้  อย่างไรก็ตาม  พวกเขาสามารถเข้ามาได้เมื่อมีการเสียสมดุล  พวกเขาจะกลายเป็นตัวก่อกวน”  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีผงกศีรษะ
 “ขนาดนี้เรายังไม่มีสิทธิ์ชนะเลย  แล้วนี่พวกเขาจะเข้ามาก่อกวนอีก พวกเขาพยายามจะฆ่าทุกคนอย่างนั้นหรือ?”  เย่ว์หยางหลั่งเหงื่อ
 “ในอดีต มนุษย์แข็งแกร่งมาก  ภายใต้หอทงเทียน มนุษย์จากทวีปมังกรทะยาน, เผ่าพันธุ์ปีศาจจากแดนอเวจีและภูตแฟรี่ภูเขาแห่งบันไดสวรรค์เป็นสามเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุด  นักรบทุกคนจากเผ่าพันธุ์เหล่านี้สามารถรบกวนสมดุลระหว่างเพชรฆาตโบราณและนักรบจากแดนสวรรค์เหนือ, ใต้และตะวันออก  ดังนั้นแดนสวรรค์จึงต้องส่งนักสู้ปราณก่อกำเนิดแดนสวรรค์เข้ามาแทรกแซงเพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าแดนเหนือ, ใต้และตะวันออกจะไม่สูญเสียมากจนเกินไป”  คำพูดของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีที่ให้เย่ว์หยางรู้สึกละอาย  ตอนนี้ทวีปมังกรทะยานคงถูกทำลายไปแล้ว  ถ้าฝ่ายมนุษย์ไม่มีจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุน พวกเขาคงไม่อาจเทียบได้กับฝ่ายเหนือ, ใต้และตะวันออก
 “ในฝ่ายเหนือ, ใต้และตะวันออกยังมีหอทงเทียนอื่นๆ ด้วยเหรอ?”  เย่ว์หยางถาม
 “ไม่มี” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีโบกมือปฏิเสธ  “หอทงเทียนมีเพียงแห่งเดียว  นี่คือสะพานเชื่อมพิเศษระหว่างทวีปมังกรทะยานและแดนสวรรค์ ไม่มีหอทงเทียนในที่อื่นอีก  ฝ่ายเหนือ, ใต้และตะวันออกถูกมองว่าเป็นแดนสวรรค์ระดับต่ำ”
 “แล้วบันไดสวรรค์เป็นยังไงบ้าง?”  เย่ว์หยางถามอีกครั้ง
 “บันไดสวรรค์เป็นโลกดั้งเดิมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าภูตแฟรี่ภูเขา เป็นโลกที่เชื่อมโยงกับหอทงเทียนตั้งแต่ชั้นหนึ่งยันชั้นที่สิบ  มีความสัมพันธ์คุ้นเคยกับหอทงเทียนกับทวีปมังกรทะยานและแดนอเวจี ก่อเกิดเป็นโลกสามฝ่ายที่มั่นคง  ในตอนกลางของแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  ตอนกลางจะเป็นแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ  ต่อมาหลังจากสงครามใหญ่ระหว่างนักสู้โบราณ  บันไดสวรรค์ประสบความเสียหายอย่างหนักและเผ่าพันธุ์ภูตแฟรี่ภูเขาแทบจะถูกล้มล้างออกไปเกือบหมด  นี่คือเหตุผลที่พวกเขาขาดการติดต่อเชื่อมโยงกับหอทงเทียน  ส่วนสภาพในปัจจุบันจะเป็นเช่นไร  ข้าเองก็ไม่รู้  ข้ารู้แต่เพียงว่าหมื่นปีที่แล้ว พวกภูตแฟรี่ภูเขาตกอยู่ในอันตรายใหญ่ พวกเขาเหลือกันเป็นจำนวนน้อยมาก”  เมื่อพูดถึงอดีตทำให้นางพญาเฟ่ยเหวินหลีถอนหายใจ
 “ท่านนางพญา, ระดับของท่านในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”  เย่ว์หยางสงสัยมากว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลีจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
เมื่อใช้จักษุญาณทิพย์ตรวจดูในตอนนี้  เขาก็ยังมองไม่เห็นพลังของนางแม้ว่านางจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอก็ตาม
จากตรงนี้เอง  เขารู้ว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลีต้องอยู่ในระดับที่เย่ว์หยางไม่อาจคาดคำนวณได้
นางพญาเฟ่ยเหวินยิ้มให้กับข้อสงสัยของเย่ว์หยาง  นางตอบเลี่ยงๆ “พูดถึงข้าตามตรงในตอนนั้นก็เป็นแค่นางพญากบฏที่นำหลายเผ่าพันธุ์ต่อต้านนักรบมนุษย์  ในแดนสวรรค์ข้าคิดว่า ข้ามีค่าหัวห้าแสนล้าน”
ห้าแสนล้าน?
ค่าหัวแดนสวรรค์มากขนาดนั้นเชียวเหรอ?
เมื่อได้ยินเช่นนี้เย่ว์หยางแทบเป็นลม
ค่าหัวสูงที่สุดสิบล้านก็คือสถิติของเย่ว์หยาง
ค่าหัวสิบล้านนี้ตั้งเป็นรางวัลโดยนางพญาแมงกะพรุนหลังจากเย่ว์หยางฆ่าจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานและนักสู้ปราณก่อกำเนิดเผ่าทะเลอีกเป็นสิบ  รวมทั้งราชตระกูลอย่างรัชทายาทไห่หลงและองค์หญิงไห่กุ้ยจนเผ่าทะเลแทบแตกแยกกระจัดกระจาย
ผู้เฒ่าอันซีที่สังหารจักรพรรดิสมุทรและนักรบอีกเป็นล้านก็ยังมีค่าหัวห้าล้าน
เมื่อการรับรางวัลค่าหัวแตกต่างจากการทำธุรกิจ  จึงไม่ใช่เรื่องยากจากการทำรายได้ห้าล้านหรือสิบล้านจากการทำธุรกิจ  แต่รางวัลค่าหัวนั้นจะต้องได้รับการเห็นชอบจากผู้อาวุโสของสมาคมนักรบในหอทงเทียนและพันธมิตรปราณก่อกำเนิดเสียก่อน  หลังจากที่พวกเขาประเมินความสามารถของเป้าหมายแล้ว  ไม่ใช่ว่าจะเป็นแค่เรื่องตั้งราคาค่าหัวของคนเท่านั้น  แต่ยังคงมีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดอีกมาก  อย่าว่าแต่จำนวนเป็นล้านเลย ต่อให้เป็นรางวัลหลักหมื่นก็ยังเย้ายวนใจ  ถ้าพวกเขายังไม่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด  ยังเป็นนักสู้สถานะต่ำหรือเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด  ตัวอย่างเช่น เจ้าอ้วนไห่และเย่คง  พวกเขายังจะต้องพิสูจน์ว่าพวกเขามีความสามารถพอจะเข้าถึงระดับรางวัลค่าหัวหนึ่งหมื่นได้
ขณะที่ค่าหัวที่อาณาจักรสือจินและกองกำลังนรกดำตั้งไว้สำหรับพวกเขา เสวี่ยทันหลางมีค่าหัวสูงสุดที่ 9500
องค์ชายเทียนหลัว, เจ้าอ้วนไห่และเย่คง 8000
ขณะที่เฟิงชิซาและเหยียนพั่วจวินที่อยู่ในระหว่างฝึกฝนมีค่าตัวห่างไกลนัก แต่ละคนต่ำกว่าสามพันทั้งนั้น
ภายในหอทงเทียนเนื่องจากรางวัลค่าหัวมากมายถูกกลบเกลื่อนด้วยค่าของสมบัติ  หรืออย่างน้อยสมบัติกับเหรียญทอง รางวัลเหรียญทองจะไม่ค่อยสูงมากนัก  แต่ถึงกระนั้นการได้รางวัลเป็นล้านก็ต้องเป็นคนอย่างซุ่นเทียน จักรพรรดิแห่งจื่อเว่ย, องค์ชายเงาดำ, ประมุขนิกายพันปีศาจ ระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด
ค่าหัวสามล้านจะเป็นของจักรพรรดิฟ้า  จักรพรรดิใต้พิภพ จักรพรรดิสมุทร อันซีและนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบขั้นสูงอื่นๆ
ค่าหัวห้าล้านจะเป็นของจักรพรรดิมังกรผู้แข็งแกร่งกว่า
ค่าหัวสิบล้านเป็นของราชาเฮยอวี้อย่างมิต้องสงสัย
เพียงราชาเฮยอวี้ผู้ทรยศเมื่อห้าพันปีที่แล้ว และเย่ว์หยางที่จะกลายเป็นจักรพรรดิอวี้คู่ควรกับค่าหัวสิบล้าน
สรุปจากจุดนี้ ด้วยค่าหัวห้าแสนล้าน... ทักษะที่แท้จริงของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีจะมากเพียงไหน
ไม่ต้องพูดถึงว่าใครก็ตามจะกล้ารับงานล่าสังหารคนแบบนี้   เพียงแค่คำพูดนี้ก็เพียงพอขู่ขวัญผู้คนให้หนีได้แล้ว เพียงพอทำให้ผู้คนตัวสั่นสะท้านแน่นอน
 “มีคนมากมายนักที่ต้องการฆ่าข้า  ดังนั้นข้าคิดว่าจำนวนเท่านี้ อาจเกินเลยความเป็นจริงไปบ้าง  ความจริงข้าคิดว่าสามแสนล้านน่าจะเหมาะสมกว่า” นางพญาเฟ่ยเหวินหลีลอบยิ้ม  คงจะดียิ่งกว่าถ้านางไม่พูดถึง  ตอนนี้พอนางพูดออกไป เย่ว์หยางถึงกับเหงื่อพรั่งพรู  มากกว่าสามแสนล้านก็คงไม่ใช่เงินเท่านั้น ก็คงจะมีสมบัติรวมอยู่ด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะคำนวณยอดรวมได้
 “ก็ดี, อย่างนั้นคนที่ผนึกท่านไว้ในผนึกหลุมดำนี้  ค่าหัวของเขามีราคาเท่าใด?” เย่ว์หยางพยายามโยนหินถามทาง
 “ข้าคิดว่าอย่างน้อยก็เก้าแสนล้าน!  คำตอบของนางพญาเฟ่ยเหวินหลีครั้งนี้แทบทำให้เย่ว์หยางสลบทันที
 “ตัวประหลาดอย่างนั้น เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือ?”  เย่ว์หยางไม่สามารถจินตนาการได้ว่ามนุษย์ชาวทวีปมังกรทะยานจะฝึกฝนให้อยู่ในระดับน่ากลัวขนาดนั้นได้ยังไง  เทียบกันแล้ว เขานับว่าอ่อนแอจริงๆ
 “เจ้าอายุเท่าใดแล้ว? เปรียบเทียบกันแล้วความเร็วในการก้าวหน้าของเจ้านับเป็นประวัติการณ์หน้าใหม่ในประวัติศาสตร์  ถ้าให้ข้าประเมินเจ้าอย่างตรงไปตรงมา พลังในระดับปัจจุบันของเจ้าควรแก่ค่าหัวร้อยล้านแล้ว  สำหรับศักยภาพฝีมือของเจ้าที่เจ้ายังไม่อาจใช้ได้ในตอนนี้  ข้าประเมินว่าไม่น้อยกว่าพันล้าน  กล่าวให้ถูกก็คือฝีมือในปัจจุบันของเจ้ายังแค่เพียงหนึ่งในสิบที่เจ้าสามารถทำได้จริง  สำหรับศักยภาพในอนาคตของเจ้าจะมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งล้านล้าน  เจ้าแข็งแกร่งกว่าคนที่ผนึกข้าเอาไว้แน่นอน  ไม่ต้องสนใจเรื่องเหล่านี้  จงฝึกฝนต่อไป  สำหรับตอนนี้ เจ้ายังคงเป็นหนุ่ม  แม้ว่าเจ้าจะเข้าใจหยั่งรากมั่นคงได้แล้ว  แต่เจ้าก็ยังมีหนทางอีกยาวไกล!  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีใส่ใจสีหน้าของเย่ว์หยาง และยิ้มให้ “เมื่อเห็นเจ้าเป็นเช่นนี้ แม้แต่ข้าก็ยังอิจฉา!
 “อย่าอิจฉาข้าเลย  ตอนนี้ข้ากังวลราชาเฮยอวี้และนักสู้ปราณก่อกำเนิด...”  เย่ว์หยางรู้สึกละอาย
เขารู้ว่าเขายังไม่สามารถใช้พลังเขาได้ทั้งหมด
เมื่อเขาอยู่ในสภาพสุดขีด  ความสามารถของเขาจะระเบิดออกมาสิบเท่า
แม้แต่ซิวคง, จิ่วเซียวและจักรพรรดิชื่อตี้ก็สามารถสู้ได้ในระดับนั้น
ทำไมเขาไม่สามารถใช้พลังของเขาได้เต็มที่เมื่อเขามีสติ?  เย่ว์หยางยังคงงงงวยหลังคิดเรื่องนี้เป็นเวลานาน  บางทีเป็นเพราะเขายังไม่เข้าใจตนเองได้พอ  สำหรับตอนนี้ เย่ว์หยางไม่มีเวลาพอจะปล่อยวางทุกอย่างเพื่อไตร่ตรองช้าๆ  เขาแค่ต้องการจะเข้าถึงศักยภาพของเขาและได้รับสิ่งต่างๆ มากขึ้น ขอเพียงเมื่อเขาเข้าถึงศักยภาพของเขาในระดับหนึ่ง  จากนั้นจึงค่อยๆ คิดถึงสถานการณ์
นอกจากนี้ คำตอบจะไม่มาหาเขาในทันที ต้องซึมซับผ่านการรู้แจ้งระหว่างกระบวนการฝึกฝน
 “ว่ากันตามสถานการณ์ปัจจุบันของเจ้า  นักสู้ปราณก่อกำเนิดจากแดนสวรรค์อาจจะไม่ลงมาจริงๆ ก็ได้  แม้ว่าพวกเขาจะลงมาก็ตาม แต่ระดับพลังสูงสุดของพวกเขาอย่างมากที่สุดก็เป็นปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสาม  ถ้าเจ้าพบเห็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสี่, ห้าหรือที่แข็งแกร่งกว่านั้นลงมา จงรีบถอย  ด้วยความสามารถปัจจุบันของเจ้า ถ้าเจ้าไม่มีพลังแข็งแกร่งสนับสนุน โอกาสที่เจ้าจะชนะพวกเขาได้มีน้อยนิดมาก  นอกจากนี้ พวกเขาตั้งใจมาฆ่าเจ้าแน่นอน!  นางพญาเฟ่ยเหวินหลีเตือนเย่ว์หยางให้ระวังศัตรูของเขา ไม่ว่าสถานการณ์เป็นยังไง  เขาต้องไม่ถูกหลอก
 “ข้าเข้าใจแล้ว...”  มีคำถามข้อเดียวที่ค้างคาใจเย่ว์หยาง  จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีแข็งแกร่งเพียงไหนกันแน่?
ถ้าพวกนางแข็งแกร่งมาก  อย่างนั้นเขาเลือกจะเสียการควบคุมตนเองยอมให้ทักษะเสน่ห์ของนางเซียนหงส์ฟ้าเข้าควบคุมเขาเพื่อกำจัดราชาเฮยอวี้
ตรงกันข้าม  เขาจะต้องหาหนทางในการรวบรวมคะแนน
ถอนตัวโดยปลอดภัยให้ได้ก่อน  และจากนั้นค่อยล้างแค้น
ตอนนี้จื้อจุนควรจะอยู่ใกล้ๆ  นางอยู่ระดับใดกันแน่?  นางเป็นสุดยอดปราณก่อกำเนิดระดับสอง หรือสามกันแน่ หรือว่าสี่?

10 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Minamoto กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

sarinnan กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

อื้อหือ...ค่าหัวมากขนาดนี้ ทำเอาซะสับสนกับค่าเงินเลย

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณ ครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น