วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 201 หมู่ดาวอีกา

ตอนที่  201  หมู่ดาวอีกา
เมื่อเผชิญหน้ากับคิงคองที่เหมือนเนินเขาย่อมๆ กำลังพุ่งเข้ามาใกล้  หน้าที่เหมือนไพ่ของปิงยังคงเฉยเมย  มีแต่คิ้วหนาทั้งสองและตาที่หรี่แคบชัดเจน

การได้พักก่อนหน้านั้นทำให้เขาและอาหู่ฟื้นคืนจากอาการเมื่อยล้า และนี่เป็นปฏิบัติการฝึกฝนที่เขานำมาตั้งแต่ยุคกองทัพใช้กัน  กับการเดินทางไกล  การพักสำคัญมากกว่าความเร็วในการเดินทาง   ด้วยการออมกำลังในการเดินทาง ทำให้เขาอยู่ในสภาพพร้อมรบทุกเวลา และสำหรับปิง นั่นคือสัญชาตญาณ
เผชิญหน้ากับคิงคองที่ก้าวร้าวดุร้ายกำลังเข้ามาใกล้  เขาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเป็นนักสู้ธรรมดาอื่น บางทีเขาอาจจะสงสัย  ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงวิ่งเข้าโจมตีทันที  แต่สำหรับปิงผู้มีประสบการณ์โชกโชนก่อนอยู่แล้ว  เขาไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย  เตรียมพร้อมตอบโต้ทันที
ร่างของพยัคฆ์ฟ้าหายวับในทันใด และคิงคองปลดปล่อยสัญชาตญาณของมันทันที  ขณะนั้นร่างของพยัคฆ์ฟ้าพุ่งขึ้นมาเหมือนสายฟ้า แล้วมาปรากฏที่ชายโครงของคิงคองทันที
ไวมาก!
หัวใจของหลิ่วย่าจือแทบกระดอน  หน้าของเขาดูน่าเกลียดยิ่งขึ้น
ทันทีที่ยอดฝีมือเคลื่อนไหว  ทุกคนก็รู้ได้ หลิ่วย่าจือมั่นใจในฝีมือตนเองและไม่ใช่คนที่มีนิสัยอ่อนแอ  พลังสายตาของเขาแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา
เขาพบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเข้าแล้ว!
หลิ่วย่าจือเปลี่ยนท่าได้รวดเร็วมาก แรงเฉื่อยของคิงคองไม่เปลี่ยน แต่เข่าซ้ายของมันยกขึ้นเหมือนก้อนหินมหึมาส่งเสียงหวีดหวิวฝ่าอากาศ
ใบหน้าเหมือนไพ่ของปิงยังคงสงบ เหมือนกับว่าเขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าเข่าจะถูกเหวี่ยงมาถึง
ขาของคิงคองหนามากจนน่าตกใจ  แรงกระแทกของเข่าแฝงด้วยพลังงานมากมาย  ถ้าโดนตรงส่วนใดแม้แต่นิดเดียว แขนขาอาจหักได้ในทันที  หลิ่วย่าจือเชี่ยวชาญในการใช้คิงคองจนถึงแก่น  นี่คืออาวุธจักรกลรูปแบบใหม่  พวกเขาได้ทุ่มเทเลือด เหงื่อ น้ำตาค้นคว้าวิจัย แล้วได้ผลงานชิ้นโบว์แดงที่รวมเอาอสูรดวงดาวกับพลังสายเลือดเข้าด้วยกัน
อาวุธพลังสายเลือดนั้นแข็งแกร่งไม่มีมนุษย์คนใดเทียบได้ และคิงคองนี้ยังขึ้นชื่อว่าคล่องแคล่วว่องไว  เมื่อพวกเขาทดลองกับอาวุธพลังสายเลือดแล้ว  คิงคองไม่ใช่อาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งที่สุด  แต่พลังของมันเป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้
พลังที่คิงคองแสดงออกมานั้น ใครก็ตามที่ได้เห็นจะต้องถูกความตกตะลึงครอบงำเสมอ
ตราบใดที่เขาถูกโจมตีสักครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งเพียงไหนก็ตาม  พวกเขาจะต้องสูญเสียพลังใจในการต่อสู้แน่นอน
ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หลบหนีจริงๆ ด้วย
แววเยาะเย้ยปรากฏอยู่ในดวงตาของหลิ่วย่าจือ  เขาสามารถนึกภาพได้ทันทีว่าอาวุธจักรกลที่สวยงามนี้จะต้องพังไปในไม่ช้าและผลงานเหล่านั้นจะต้องระเบิดเสียงดังบึ้ม!
หลังจากทดลองกับอาวุธจักรกลมามากมาย ผลมักออกมาเหมือนกันเสมอ
เข่าของคิงคองโจมตีจมเข้าไปในเงาขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมอาวุธจักรกลสีฟ้า
ม่านตาของหลิ่วย่าจือหรี่แคบทันที ไม่ดีแน่ มันเป็นแค่เงา!
ขณะนี้ ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นมาจากด้านหลังและร่างขนาดมหึมาของคิงคองร่วงล้มคะมำอย่างช่วยไม่ได้  หลิ่วย่าจือยามนี้ตกใจอย่างหนักที่ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ ได้แต่เพียงถือโอกาสกลิ้งไปข้างหน้า
ชี่ ชี่ ชี่!
เสียงกระแทกสามครั้งดังปะทะใส่ร่างที่กำลังกลิ้งของคิงคอง ขณะที่มันจมไปในดินทำให้เกิดกองดินพูนขึ้นสามกอง
ปิงประหลาดใจเล็กน้อย  การโจมตีของเขาน่าจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บได้  แต่เขาคาดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามยังปลอดภัยอยู่ได้  ดูเหมือนว่าอาวุธจักรกลประหลาดนี้ยังมีความน่าทึ่งบางอย่าง
หลิ่วย่าจือเพิ่งจะเก็บชีวิตตนเองรอดมาจากประตูนรกมาได้เฉียดฉิว  หน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวาและซีดขาวราวกับคนตาย   การเปลี่ยนแปลงเมื่อครู่แทบทำให้ชีวิตมันหลุดลอย
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาโชคดีเพิ่มน้ำหนักการป้องกันที่หลังเปลี่ยนแปลงตอนนั้น เขาคงไม่สามารถป้องกันได้แน่นอน  เผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่ไม่สามารถป้องกันกระบวนท่าของเขาได้ ย่อมหมายถึงความตาย
ถึงตอนนี้ มีเสียงตะโกนดังมาจากที่ไกลสองสามครั้ง  ความสนใจของหลิ่วย่าจือสั่นคลอน  คู่หูของเขาอยู่ที่นี่แล้ว
คิงคองปล่อยเสียงคำรามต่ำบอกตำแหน่งให้สหายทราบ
หลิ่วย่าจือเตรียมใจไว้แล้ว  ความกลัวของเขาหายไปหมด สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือต้องตรึงฝ่ายตรงข้ามให้อยู่กับที่  เขาคำรามและพุ่งเข้าหาพยัคฆ์ฟ้าอีกครั้ง
เป็นไปได้อย่างไรที่ปิงจะพบอะไรจากความปั่นป่วนขนาดนั้น?  แต่ใบหน้าไพ่ของเขายังคงสงบเหมือนน้ำ  แม้แต่ดวงตาที่หรี่แคบนั้นก็ไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย
การที่ยังสงบและมั่นคงได้ แม้ในสถานการณ์ที่น่ากระวนกระวายมากที่สุด  ความจริงเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้  เขามักเยือกเย็นและมั่นคงอยู่เสมอ
พยัคฆ์ฟ้าเตรียมใช้เงาทำลายล้างออกมาเป็นชุด  คิงคองยังคงโจมตีเป็นพายุ  ทั้งสองฝ่ายเดี๋ยวเข้าหา เดี๋ยวแยกจากกัน
เผียะ เผียะ เผียะ!
การโจมตีของพยัคฆ์ฟ้ากระทบใส่ร่างของคิงคองได้ทั้งหมด ทำให้ขนของมันร่วงหมด  แต่หลิ่วย่าจือกัดฟันและอดทน  เขาตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว จะยืมพลังป้องกันที่แข็งแกร่งของคิงคองเสียสละตนเองขณะยึดจับฝ่ายตรงข้ามไว้
ปิงมองทะลุถึงเจตนาของหลิ่วย่าจือ  ประสบการณ์การรบของทั้งสองฝ่ายอยู่กันคนละระดับ
คิงคองมีความหนาซ่อนเร้นอยู่ และมีระดับพลังป้องกันที่น่าทึ่ง  กล้ามเนื้อของมันแข็งแกร่งทนทานมากกว่าโลหะธรรมดานัก
โดยไม่ต้องคิดอะไร ปิงเปลี่ยนจากหมัดเป็นฝ่ามือและฟันสันมือที่เหมือนดาบลงไป
ฉัวะ!
แสงสีฟ้าแว่บพาดผ่าน  ร่างของคิงคองมีบาดแผลดาบ และเลือดพุ่งกระฉูดทันที
ในที่สุดปิงก็ประหลาดใจ  ระดับพลังป้องกันของคิงคองทำให้ให้เขาตกใจ  พลังโจมตีฟาดฟันของพยัคฆ์ฟ้าทรงพลังมากและสามารถทำลายอสูรดวงดาวที่มีผิวหนาและหยาบ  แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ทำได้แค่เพียงทิ้งรอยแผลให้กับคิงคองเท่านั้น
แม้ว่าเขาจะประหลาดใจ  แต่ปิงก็ไม่ยอมหยุด และขณะที่คิงคองคำราม เขาวนไปรอบๆ ตัวๆ และไปปรากฏอยู่ที่มุมอับของคิงคอง
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
ลำแสงสีฟ้าเหมือนดาบเปล่งประกายวับขึ้น  ทุกๆ ครั้งที่แสงส่องประกายจะตามมาด้วยรอยเลือดฉีดพุ่ง
ปิงเป็นเหมือนนักสู้ที่อดทน ค่อยๆ เพิ่มบาดแผลตามร่างกายของคิงคอง
ในพริบตา คิงคองที่ดูเหมือนรูปสลักขนาดภูเขาย่อมๆ ก็เต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกแห่ง มองดูน่ากลัว
เมื่อสหายของหลิ่วย่าจือมาถึงที่เกิดเหตุและได้เห็นภาพ พวกเขาตกตะลึงสุดขีด
ทางองค์การสิ้นเปลืองพลังงานมากมายกับอาวุธพลังสายเลือดตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้ว  องค์การได้เริ่มกวาดหานักสู้สายจักรกล  หลังจากใช้เงินและพลังไปนับไม่ถ้วน  ในที่สุดพวกเขาก็กวาดนักสู้สายอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งทรงพลังมาได้
สองสามปีมาแล้ว นักสู้สายจักรกลไม่มีพลังที่แข็งแกร่ง  แต่เมื่อองค์การสุ่มเลือกหนึ่งในพวกเขาออกมา  พวกเขาถือได้ว่ามีมาตรฐานระดับสูงแน่นอน  และหลิ่วย่าจือสามารถใช้คิงคองพิสูจน์ได้ว่าเป็นอัจฉริยะในองค์การ  เขามีความโดดเด่นมาก
ถ้าไม่อย่างนั้น ทางองค์การคงไม่ยอมให้เขาเป็นผู้ควบคุมคิงคองและยอมเสียอาวุธจักรกลที่ทรงประสิทธิภาพให้กับวิศวะจักรกลที่ไม่ได้ความเป็นแน่
แต่นี่คือยอดฝีมือที่ได้รับการยอมรับจากองค์การและเขาก็ถูกกดดันแทบตายโดยนักสู้จักรกลคนอื่นๆ
ถ้าศัตรูเป็นนักสู้คนหนึ่ง  ทุกคนคงไม่ประหลาดใจ  แต่สิ่งที่เขาประหลาดใจก็คือศัตรูเป็นนักสู้สายจักรกลคนหนึ่ง
ทุกๆ หมู่ดาวมียอดฝีมือกันทั้งนั้น และไม่ว่าหลิ่วย่าจือจะแข็งแกร่งสำหรับพวกเขาเพียงไหน  ต่อให้พวกเขาคิดว่าอาวุธพลังสายเลือดของพวกเขาเป็นอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งที่สุดในเวลานี้  พวกเขาก็จะไม่สู้กับยอดฝีมือพวกนั้นแน่นอน
นักสู้สายจักรกลเป็นเพียงสาขาย่อยของกลุ่มนักสู้ทั้งหมด และพวกเขายังมีความรู้นี้อยู่
แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นนักสู้สายจักรกลคนหนึ่งจริงๆ
ในโลกของนักสู้สายจักรกล,  ในการต่อสู้นี้  หลิ่วย่าจือถือว่าแพ้ไปแล้ว
หลิ่วย่าจือเป็นยอดฝีมืออยู่ในองค์การ  และคิงคองก็เป็นอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่...
เมื่อเห็นคิงคองหลั่งเลือดโทรมทั่วตัว  ไม่มีใครในพวกเขาอยากเชื่อสายตาตนเอง
นักสู้ผู้แข็งแกร่งขนาดนั้น!  และอาวุธจักรกลที่แข็งแกร่งขนาดนั้น!
ฝีเท้าของคิงคองเริ่มงุ่มง่ามแล้ว  อาวุธพลังสายเลือดและพลังสายเลือดเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด  หลังจากสูญเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก  นั่นเป็นสาเหตุให้พลังของคิงคองลดลงฮวบฮาบ
โธ่เว้ย!
หลิ่วย่าจือไม่คิดเลยว่าเขาจะถูกเล่นงานจนอยู่ในสภาพนี้  แม้ว่าเขาจะรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าเขามาก  แต่ในฐานะของคนที่มีความภาคภูมิใจ เขารู้สึกอับอาย
 “หยุดเขาไว้!
เสียงตะโกนกราดเกรี้ยวของหลิ่วย่าจือก้องไปทั้งพื้นที่  และสหายเหล่านั้นทั้งหมดที่วิ่งเข้ามาช่วยสนับสนุนต่างก็ตื่นจากความมึนงง  และเข้าร่วมต่อสู้กันทั้งหมด
ปิงมองหลังคนที่อยู่ต่อหน้าเขาซึ่งมีรอยบาดแผลเป็นรูปกางเขน  จนถึงตอนนี้ นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของหลิ่วย่าจือ
ตราบใดที่เขาลงอีกหนึ่งดาบ  เขาจะสามารถฆ่าเจ้าผู้นี้ได้อย่างสมบูรณ์
แต่ปิงไม่กระตือรือร้นสนใจเท่าใดนัก  ปีกที่หลังของพยัคฆ์ฟ้ากางออก  และในท่ามกลางวงล้อมรอบตัวเขามันทะยานขึ้นในอากาศและทรงตัวอยู่กลางอากาศ ดับความคิดของคนที่จะโอบล้อมเขา  เดิมทีเขาติดอยู่ในวงล้อม  แต่ปิงทำลายกับดักของพวกเขาและออกมาจากวงล้อมได้สบาย เขาสะบัดแขนเสื้อได้ก็จากออกมา
ทุกคนตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก
มีนักสู้สายจักรกลผู้แข็งแกร่งขนาดนั้นอยู่ในโลกนี้ด้วยหรือ?
ขณะที่มองหลังสีฟ้าของพยัคฆ์ฟ้า  ไม่มีใครกล้าไล่ตามไป
※※※

สารถีเรียกถังเทียนให้ออกมา
 “นายท่าน  เราย่างเข้าสู่ดินแดนของหมู่ดาวอีกาแล้ว”  สารถีรายงานด้วยความเคารพ
 “ไวมาก”  ถังเทียนงงงวย  เขาถูกเคี่ยวกรำจนถึงจุดที่อยากตายจากการฝึกให้รู้แล้วรู้รอด  ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยเศษทั่งซึ่งเกาะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
เขากำลังก้าวหน้าอยู่เสมอ จนกระทั่งฝนทำลายทั่งได้วันละยี่สิบแท่ง
ความก้าวหน้ามีมากก็จริง  แต่ระดับความเพลียก็มีควบคู่ไปกับความก้าวหน้า  ทุกวันถังเทียนเหมือนกับตื่นเพียงครึ่งเดียว เขาได้แต่กัดฟันอดทนผ่านไปให้ได้
การล้มทรุดเป็นลมหมดสติ เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา
แต่ภายใต้ความบากบั่นดื้อด้านของถังเทียน  เขาไม่ยอมเสียเวลาสักวัน  ความอดทนและพลังใจเช่นนั้น แม้แต่กรงเล็บภูตพรายก็ยังทึ่ง
การบดฝนทั่งวันละยี่สิบแท่ง เพิ่มความล่าช้าของประตูดวงดาวออกไปอีก  ในหนึ่งวันข้างนอก ถังเทียนสามารถบดทั่งได้แปดสิบแท่ง  และภายในหนึ่งเดือน บดทั่งได้ถึงสองพันสี่ร้อยแท่ง
ความเร็วระดับนี้ น่าทึ่งมากแล้ว
กรงเล็บเพลิงภูตพรายดูเหมือนจะฝึกให้สำเร็จได้ทันที
สารถีลังเลชั่วขณะ และกล่าวว่า  “นายท่าน, หมู่ดาวอีกาไม่ค่อยสงบเท่าใดนัก...”
 “ไม่สงบเท่าใดนักเหรอ?”  ถังเทียนยังคงมึนหัว
 “ขอรับ, นายท่าน” สารถีอธิบาย  “หมู่ดาวอีกามีมือกระบี่มากมาย  แต่สถานที่นี้ไม่มีผู้ปกครองที่เข้มแข็ง  ดังนั้นจึงเกิดยอดฝีมือกระบี่พเนจรจำนวนมาก  คนพเนจรเหล่านี้ยากจนมาก  และไม่มีที่พำนักเป็นหลักแหล่ง  ในตอนกลางวันพวกเขาจะเป็นมือกระบี่รับจ้าง  พอตกค่ำพวกเขาจะกลายเป็นโจรขโมย และทำเรื่องชั่วได้ทุกอย่าง  ชื่อเสียงของมือกระบี่หมู่ดาวอีกาไม่ค่อยดี”
ถังเทียนค่อยๆ เรียกสติกลับคืนมา และแปลกใจเล็กน้อย  “ก็หมายความว่า หมู่ดาวอีกาวุ่นวายสับสนมากใช่ไหม?”
 “ขอรับ นายท่าน” สารถีเตือน  “แม้ว่าพวกคนพเนจรจะไม่กล้ามีความคิดอะไรกับยานเงินลำนี้  แต่พวกมือกระบี่พเนจรที่แข็งแกร่งอาจเห็นเราเป็นเหยี่อโอชะก็ได้...”
ถังเทียนตัดบทคำพูดของสารถี  เนื่องจากสายตาของเขาจ้องมองไปข้างหน้าและกล่าว “ดูเหมือนว่ามีบางคนเห็นเราเป็นเหยื่อโอชะไปแล้ว!

4 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

กำลังขาดคู่ซ้อม ล่ะ 5555

windwolf กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น