วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ตอนที่ 536 จื้อจุนเปิดตัวอลังการ



ตอนที่  536  จื้อจุนเปิดตัวอลังการ
เย่ว์หยางรู้สึกประหลาดใจมากกับการกระทำของเป่ยเหลียวหยาและจ้านหู่
ขณะเดียวกัน เขารู้สึกนับถือพวกเขาเป็นอย่างมาก

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูก็ตาม
ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม  ตราบใดที่พวกเขายังคงซื่อสัตย์ภักดี  พวกเขาก็ควรได้รับเกียรติยกย่องจากคนอื่น  โลกนี้ไม่เคยขาดอัจฉริยะหรือผู้ทรงพลัง  สิ่งที่ขาดแคลนอย่างแท้จริงก็คือบริวารอย่างเป่ยเหลียวหยาและจ้านหู่ผู้จงรักภักดีจนตาย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยอมแพ้และคงรักษาความภักดีต่อทั้งสองฝ่ายได้  จ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาเลือกตายดีกว่ายอมทรยศในเมื่อพวกเขาไม่สามารถพิสูจน์ความเชื่อของราชาเฮยอวี้ได้
แววปวดร้าวปรากฏอยู่ในดวงตาของราชาเฮยอวี้  เขาสามารถป้องกันความตายของจ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาได้
แต่ไม่ต้องสงสัย  ไม่ว่าเขาจะทำอะไรลงไป  ผลสุดท้ายก็จบลงเหมือนเดิมอยู่ดี
เขาไม่ต้องการให้จ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาฆ่าตัวตาย  แต่เขาก็ไม่มีพลังพอจะรักษาบริวารผู้ซื่อสัตย์ให้มีชีวิตรอดอยู่ได้
ประการแรก มีการย้ายฝ่าย  แต่จ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาปฏิเสธละทิ้งความภาคภูมิใจในฐานะนักสู้ปราณก่อกำเนิดและย้ายไปเข้าฝ่ายผู้ตัดสินจากแดนสวรรค์  ประการที่สอง ด้วยพลังของเขา ราชาเฮยอวี้ไม่มีสิทธิ์พูดในตอนนี้
 “ราชาเฮยอวี้ เจ้าพลาดท่าเสียแล้ว!  เย่ว์หยางไม่สามารถระงับความโกรธต่อเจ้าคนทรยศหกพันปีที่แล้วผู้เอาแต่เงียบ และแค่นเสียงใส่ราชาเฮยอวี้
 “......”  ราชาเฮยอวี้ได้แต่เงียบ แววเจ็บปวดฉายอยู่ในดวงตาเขาชั่วขณะก่อนจะจางหายไปทันที
 “ข้ามีความจริงใจอย่างแท้จริง โปรดเชื่อและยอมรับข้าเถอะ”  จักรพรรดิฟ้าปาอี้ไม่สนใจการดูถูกของทุกคนอีกต่อไป  เขาคุกเข่าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่สำคัญอีกต่อไป หากเขาจะอ้อนวอนขอชีวิตกับชางเหยียน
 “ดีมาก สำหรับพวกที่จริงใจยอมเปลี่ยนความภักดี ข้าจะไม่ปฏิเสธแน่นอน  บุรุษลึกลับชางเหยียนโบกมือ  “เจ้าอยู่ห่างจากทางเดินแก้วสองกิโลเมตร  ถ้าเจ้าพิสูจน์ความสามารถของเจ้าได้ ไปให้ถึงทางผ่านนั่นภายในสิบวินาที  อย่างนั้นข้าจะรับเจ้าเป็นพวกด้วย  ไม่แต่เพียงเจ้าเท่านั้น  ทุกคนต้องรู้ไว้ว่าข้าไม่เคยรับบริวารที่ไร้ประโยชน์”
 “ได้เลย”  จักรพรรดิฟ้าปาอี้มั่นใจพอว่าด้วยความเร็วของเขา  เชื่อว่าสิบวินาทีก็พอแล้ว
 “เจ้าโง่เอ๊ย...”  เย่ว์หยางพูดไม่ออก
 “หุบปากเจ้าซะ  ปล่อยข้าตามลำพัง  ข้าขอแสดงความซื่อสัตย์จริงใจต่อท่านชางเหยียน  อย่ามาฉุดข้าตกต่ำเลยดีกว่า  ข้าไม่ต้องการตายพร้อมกับพวกเจ้าทุกคน  ข้าต้องการมีชีวิตต่อไป ไม่ต้องการตายอย่างไร้ประโยชน์ที่นี่!  พฤติกรรมแบบมนุษย์ของเจ้าไม่มีความหมายต่อข้า  ข้าเพียงต้องการมีชีวิตอย่างมีความสุขและไม่ต้องการตายอย่างวีรบุรุษ!  จักรพรรดิฟ้าปาอี้ตะคอกใส่เย่ว์หยางอย่างอารมณ์เสีย  เขารู้ว่าเย่ว์หยางดูถูกเขาและในความเป็นจริงเขาก็ดูถูกตัวเองเช่นกัน  อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีทางเลือก ความจริงมักโหดร้าย ถ้าเขาไม่ยอมแพ้ เขาก็จะตาย  จ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาตายอยู่ต่อหน้าเขา  ดังนั้นเขาไม่ยินดีจะพบจุดจบแบบนี้  เขาต้องการมีชีวิตและทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไป!
เย่ว์หยางยังคงเงียบ  และราชาเฮยอวี้ต้องการแค่เอาตัวรอดเท่านั้น
ตอนนี้จักรพรรดิฟ้าทำได้แต่เพียงพึ่งตัวเองเท่านั้น
เขาเรียกอสูรพิทักษ์ของเขาพร้อมด้วยอสูรอื่นมาเพิ่มขีดจำกัดพลังของเขา
เขาเพิ่มระดับพลังโดยไม่มีเก็บยั้งเอาไว้จนถึงขั้นสุดยอดของปราณก่อกำเนิดระดับสิบเพียงเพื่อโอกาสรอดชีวิต  ภายใต้คลื่นจากมือของบุรุษลึกลับชางเหยียน  จักรพรรดิฟ้าพุ่งออกไปราวกับลูกธนู
พลังความเร็วแหวกอากาศจนเกิดคลื่นระเบิดกำแพงเสียง
ร่างของจักรพรรดิฟ้าพุ่งผ่านอากาศเหมือนกับดาวตก ขณะที่เขาเดินทางด้วยความเร็วสุดขีด
เมื่อทุ่มเทสุดพลัง จักรพรรดิฟ้าไปถึงทางผ่านแก้วผลึกก่อนสิบวินาที  เขากลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมภายในสิบวินาทีด้วยซ้ำ  เขาชำเลืองมองชางเหยียนและเมื่อเห็นสีหน้าชื่นชมของชางเหยียน  เขาคุกเข่าคำนับชางเหยียนหวังว่าจะได้รับความโปรดปราน
 “ดีมาก, รวดเร็วดีมาก  ข้าขอประกาศเลยว่านับแต่นี้ไปเจ้าคือบริวารของเขา”  คำพูดของชางเหยียนทำให้จักรพรรดิฟ้าตื้นตันจนน้ำตาร่วง
 “ข้าสาบานว่าจะภักดีต่อท่านชางเหยียนด้วยความศรัทธาเต็มเปี่ยมจนกว่าชีวิตจะหาไม่!” จักรพรรดิฟ้าให้คำมั่นสัญญาว่าเขาภักดีอย่างรีบเร่งพลางยกมือปฏิญาณ
 “เนื่องจากเจ้าเป็นหนึ่งในคนของข้าแล้ว  เจ้าจึงเป็นของข้าทุกอย่าง  รวมทั้งชีวิตของเจ้าด้วย....ตอนนี้ จงตายเพื่อข้าได้แล้ว!  ทันใดนั้นชางเหยียนยกมือขวาแล้วกำหมัด มือยักษ์ปรากฏอยู่ล้อมรอบจักรพรรดิฟ้าภายในสนามพลังประหลาดที่ชางเหยียนสร้างขึ้น  มือยักษ์นั้นรวบตัวจักรพรรดิฟ้าไว้แน่นเหมือนกับเขาเป็นหุ่นเชิดไม้  ร่างของจักรพรรดิฟ้าถูกบดขยี้เหมือนหุ่นไม้ในมือยักษ์  กล้ามเนื้อและกระดูกทั้งหมดถูกบดจนแหลกและร่างของเขาร่วงลงกับพื้น
ก่อนที่เขาจะทันได้ร้องขอความเมตตา  ร่างของจักรพรรดิฟ้าก็ระเบิดดังบึ้ม
เลือดเนื้อและกระดูกกระเด็นกระจายไปทั่ว
ขุนพลเกราะเงินและผู้ตัดสินอื่นๆ ระเบิดเสียงหัวเราะลั่นราวกับว่าพวกเขาเห็นคนที่โง่ที่สุดในโลก
สีหน้าของราชาเฮยอวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เขายังคงเงียบอยู่
ตรงกันข้าม เฝินเทียน, หวิ่นซิงและคนอื่นๆ โกรธจนแทบมีเปลวไฟพวยพุ่ง
แม้แต่หวงฉวนผู้ดูสงบใจเย็นที่สุดในพวกเขา ก็ยังถลึงตามองด้วยความโกรธ  เขาไม่สามารถยับยั้งตนเองได้  “ชางเหยียน  เจ้าทำเกินไปแล้ว,  ต่อให้เจ้ามาจากแดนสวรรค์ชั้นสูง  เจ้าไม่ควรทำเป็นเล่นและหยามเหยียดเราอย่างนั้น”
 “มดแมลงอย่างเจ้า  อย่าไร้เดียงสาเกินไป”  ชางเหยียนเยาะเย้ย  “นอกจากตายแล้ว สิ่งที่พวกเจ้าจะได้รับก็คือความอัปยศอดสู  เพราะความอัปยศนิรันดรเหมาะสมที่สุดแล้วกับพวกอ่อนแอ  หวงฉวน ข้าได้ยินจากเจ้าแล้ว  เจ้าต้องการท้าทายข้าด้วยฝีมือของนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสามขั้นกลางใช่ไหม?  เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป.. เมื่อเจ้าทุกคนเริ่มสงครามโบราณของสังเวียนมรณะอย่างสนุกสนาน  เจ้าก็ต้องยอมรับชะตากรรมเช่นนี้  นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้ายังเชื่อว่าเราเป็นผู้ตัดสินจากแดนสวรรค์  ข้าจะบอกความจริงสักอย่างหนึ่งก่อนที่พวกเจ้าจะตายกันทั้งหมด  ความจริงเราคือเพชรฆาตโบราณ  ผู้ตัดสินที่แท้จริงตายไปเป็นล้านปีแล้ว”
 “คุณชายสาม, เราไม่ควรคลางแคลงใจกับคำพูดของท่าน”  หวงฉวนขอโทษเย่ว์หยางอย่างสำนึกผิด
 “สังเวียนมรณะที่แท้จริงเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเลวร้าย  ยิ่งกว่านั้นนี่ไม่ใช่ความผิดของท่านทั้งหมด”  เย่ว์หยางรู้ว่าชางเหยียนและคนอื่นกำลังก่อกวนพวกเขาโดยการลอบควบคุมสงครามโบราณ  แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังถูกบังคับให้เข้ามาสถานที่นี้
 “จงคร่ำครวญต่อไปเหมือนพวกอ่อนแอเถอะ  พวกเจ้าทุกคนเหลือเวลาไม่มากแล้ว” ชางเหยียนล้อเลียนอย่างหยิ่งยโส
เขาลอยตัวขึ้นไปด้านบนของโดมและปล่อยลำแสงออกมาสิบสาย
ผู้ที่ตายจากการเปลี่ยนฝ่ายทั้งสี่รวมทั้งจักรพรรดิฟ้ากระตุ้นรหัสโบราณให้ลงโทษอีกครั้ง  เพชรฆาตโบราณปรากฏขึ้นอีกสิบสองตน
หวงฉวนเฝ้าดูเฝินเทียนที่พยายามจะฆ่าตัวตายและดูเย่ว์หยางที่ยังสงบอยู่ได้  “คุณชายสาม ท่านมีแผนอะไรหรือเปล่า?”
แม้แต่ราชาเฮยอวี้ก็มองด้วยความสงสัย
เขามีความรู้สึกว่าสีหน้าของเย่ว์หยางดูไม่เหมือนคนพ่ายแพ้สิ้นหวัง
ขุนพลเกราะเงินแค่นเสียงและหัวเราะลั่น “อย่างนั้นหรือ?  แล้วข้าชักสงสัยขึ้นมาบ้างแล้ว  เจ้าคือทายาทของจักรพรรดิอวี้ไม่ใช่หรือ?  เจ้ามนุษย์ตัวน้อยเท่าถั่วงอก, รีบเค้นสมองแก้ปัญหาเร็วๆ  พวกเจ้ามาจากทวีปมังกรทะยานที่อ้างนักอ้างหนาว่าตัวเองฉลาดไม่ใช่หรือ?”
 “ข้านึกวิธีแก้ปัญหาไม่ออก  แต่ข้ายังมีอาจารย์ผู้น่ารักสุดเท่ห์อยู่คนหนึ่ง..”  เย่ว์หยางยิ้ม  “ถ้าลูกศิษย์ถูกรังแก  อาจารย์คงเสียหน้าแย่”
 “ใครบังอาจรังแกเจ้า?”  เสียงของจื้อจุนดังขึ้นในอากาศชัดเจน
แค่ได้ยินเสียงของนาง ขุนพลเกราะเงินที่กำลังหัวร่ออย่างบ้าคลั่งถึงกับเงียบราวกับถูกตบหน้า  ปากของเขาอ้าค้างไม่มีเสียงดังออกมา  เขาโกรธ เขาไม่เคยถูกเสียงกดดันจึงจ้องมองด้านหลังเย่ว์หยางด้วยความโกรธ  เขาคิดว่าจื้อจุนจะปรากฏตัวที่ด้านหลังเย่ว์หยาง
ผู้ที่ยืนอยู่ข้างๆ ขุนพลเกราะเงินก็คือสหายของเขา ลิชมนุษย์กระดูกและมนุษย์สมิง
ทั้งสองตะโกนเตือนเขาให้ระวัง!
ขุนพลเกราะเงินหันไปตามคำเตือนและพบสตรีมนุษย์ผู้งดงามอยู่ในชุดประหลาดลอยตัวอยู่ด้านหลังของเขา
เขาไม่สามารถเห็นทักษะของหญิงงามผู้นี้  จากลักษณะของนาง  นางดูไม่เหมือนนักสู้ปราณก่อกำเนิด  แต่เหมือนหญิงมนุษย์ผู้อ่อนแอ
นอกจากมีปีกนางฟ้าบางๆ หกข้างแผ่ออกด้านข้าง  นางไม่แตกต่างจากหญิงมนุษย์ธรรมดา  ขุนพลเกราะเงินรู้สึกว่าแค่เขาจามครั้งเดียวก็สามารถฆ่านางได้แล้ว  สิ่งมีชีวิตบอบบางนี้จะทำอะไรได้?  เขาต้องการเงื้อมือและบีบนางให้ตายจริงๆ...
ในที่สุดเขาก็เลิกระวังตัว และมองไปที่เย่ว์หยางอย่างไม่แน่ใจ  เหมือนพยายามค้นหาคำยืนยันว่ามนุษย์ผู้หญิงนี้เป็นอาจารย์อย่างที่เขาพูด
เป็นไปได้ไหมว่าสตรีนางนี้จะยอมเสียสละเลือดเนื้อเพื่อวางกับดัก?
ชีวิตของนางจะใช้แลกเปลี่ยนเพื่อพลังพิเศษหรือเปล่า?
ขุนพลเกราะเงินไม่อาจค้นพบความจริงได้
 “เขาเป็นคนรังแกเจ้าใช่ไหม?”  ไม่มีกลิ่นอายของนักสู้เปล่งออกมาจากร่างของจื้อจุน  นางเป็นเหมือนมนุษย์ธรรมดา  นางก้าวหน้ารวดเร็วเหมือนครั้งสุดท้ายที่พบกับเย่ว์หยาง ตอนนี้กลับคืนสู่สภาวะปกติของนาง  เย่ว์หยางยังไม่สามารถมองเห็นระดับความสามารถของนางได้แม้แต่น้อย แม้จะใช้จักษุญาณทิพย์ตรวจสอบก็ตาม
 “ข้าละอายจริงๆ ที่ทำให้ท่านเสียหน้า”  เย่ว์หยางปั้นท่าเหมือนถูกรังแกอย่างน่าสงสาร
 “ก็ได้ อย่างนั้นก็ฆ่าเขาซะ” จื้อจุนประกาศ
 “อ๋า... ทวีปมังกรทะยานสร้างเป็นแต่ตัวตลกหรือไงนี่?”  ขุนพลเกราะเงินตกใจในตอนแรก แต่แล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะทันทีจนแทบเกลือกกลิ้งกับพื้น
ไม่เพียงแต่ขุนพลเกราะเงินที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสามเท่านั้น แม้แต่หวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงก็ยังตะลึงกับคำพูดจื้อจุน
ต่อให้นางมีฝีมือเสมอหรือสูงกว่าศัตรู  แต่ต่อหน้าศัตรูจำนวนมาก นางจะฆ่าเขาได้ยังไง?  ชางเหยียนคงไม่ยอมมองดูเฉยๆ แน่นอน  ยิ่งกว่านั้น ศัตรูไม่ได้รับความเสียหายจนถูกฆ่าทันที  ที่สำคัญยิ่งกว่าขุนพลผู้นั้นเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสาม!
จื้อจุนยกมือของนางช้าๆ
นิ้วมือเรียวงามวาดรูปดาวหกแฉกที่ประหลาด
ไม่มีใครสามารถค้นพบเจตนาของนางและพวกเขาไม่สามารถรู้ว่ารูปแบบนั้นจะน่ากลัวขนาดไหน  นอกจากเย่ว์หยางที่มีจักษุญาณทิพย์ตรวจดู
เย่ว์หยางสามารถเห็นได้ว่านิ้วมือของจื้อจุนวาดขวางท้องฟ้า  ท้องฟ้าเป็นรอยแยกเปิดออก  นั่นไม่ใช่ภาพลวงตา และรอยแยกปรากฏจริงๆ ในท้องฟ้า  กล่าวอีกอย่างหนึ่ง นางสลายมิติว่างได้อย่างง่ายๆ  เย่ว์หยางจำเป็นต้องเข้าถึงระดับที่สามารถเรียกกระบี่กุยจ้างและซวงหัวออกมาจึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้  แต่นางทำได้โดยใช้เพียงนิ้วมือ  ไม่มีการควบกลั่นพลัง และไม่ต้องใช้อาวุธใดๆ ช่วย
ฝีมือระดับนั้นเกินกว่าเย่ว์หยางจะใช้ใจประเมินได้
ขณะที่จื้อจุนถือแผ่นดาวหกเหลี่ยมในมือนาง มันแตกสลายออกในทันที
เศษที่แตกกระจายนับสิบล้านชิ้นถูกคว้าไว้ในมือของจื้อจุน
สีหน้าของชางเหยียนเปลี่ยนเป็นสีแดง  ขณะที่เขารู้สึกถึงการคุกคามจากมือของจื้อจุน
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ตัดผ่านอากาศ  พร้อมกับปราณกระบี่เย็นเสียดผิวตัดผ่านท้องฟ้า
อย่างไรก็ตาม จื้อจุนหายไปแล้ว
นางมาปรากฏตัวอย่างสง่างามที่ด้านหลังขุนพลเกราะเงิน ขณะที่นางถือเม็ดลูกปัดเม็ดหนึ่งไว้ในฝ่ามือที่อ่อนนุ่ม  มันถูกสร้างขึ้นเมื่อมิติสลายถูกควบแน่น... ขุนพลหันมาอย่างรวดเร็วราวประกายไฟ  แต่ความเคลื่อนไหวของเขาช้าเหมือนทากคลานเมื่ออยู่ต่อหน้าจื้อจุน แค่เพียงกระดิกนิ้วทีเดียว ลูกปัดสีดำที่น่ากลัวพุ่งเข้าใส่หน้าผากของขุนพลทันที
เกราะศักดิ์สิทธิ์ของขุนพลเกราะเงินทะลุเหมือนเป็นกระดาษแผ่นบาง
ลูกปัดสีดำทะลวงเข้าสมองของเขา
และทะลุออกทางหลังศีรษะของเขา
รูเล็กๆ ปรากฏอยู่ในหัวของขุนพลเกราะเงิน  มันดูเหมือนเป็นรูธรรมชาติ  เหมือนกับขุนพลผู้นั้นมีมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว  ดูเหมือนเขาจะพูดต่อ  แต่เขาเซถลาเสียก่อน จากนั้นคุกเข่าร่วงลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ เกราะศักดิ์สิทธิ์ของเขากระแทกกับพื้นเสียงดังก้องกังวาล
สังหารทันที
ผลเช่นนี้ แม้แต่เย่ว์หยางก็คาดไม่ถึง
ขุนพลเกราะเงินนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสามถูกฆ่าตายทันทีต่อหน้าจื้อจุน  ผลของการกระทำดังกล่าวทำให้ทุกคนเงียบนิ่งกันไปหมด  ทุกคนที่เห็นภาพนี้ประจักษ์ล้วนตกตะลึงกันทั้งนั้น

14 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

นายหนอนไหมปีนป่ายต้นรัก กล่าวว่า...

เทพมาก

ปารมี กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณ ครับ

Jenokira กล่าวว่า...

จุนจื้อ จุติมาแล้ว10รอบสินะ

Art กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Sky กล่าวว่า...

กราบบบบบบ ไอ้คนทรยศผู้อวดอ้างฝีมือนั่นใคร ไอพวกมาจากเบื้องบนนั่นใคร อ่อนๆกันทั้งนั้น!

tho กล่าวว่า...

ขอบคุณคับ

Nopanser Kung กล่าวว่า...

อู้หูวววว ใครรังแกเด็กเจ๊ เดี๋ยวได้ตายนะเอออออ

ป.ล. เห็นรูปแว๊บแรกนี่นึกว่า เมอร์ซี่ จาก overwatch

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

natthapol.nondang@gmail.com กล่าวว่า...

ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

Unknown กล่าวว่า...

ไม่อลังการเท่าไหร่คับ

akekapoj-tee กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น