วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Panlong ตอนที่ 7-4 เท้ายักษ์




ตอนที่  7-4  เท้ายักษ์

ในคืนระหว่างปี 9999 และปี 10000 หิมะตก ขณะที่อุณหภูมิในเมืองเฟนไลลดต่ำอย่างน่าประหลาด  ภายในกรงขังที่หนาวเหน็บในโบสถ์เจิดจรัสลินลี่ย์กำลังพิงอยู่กับผนังหินที่เย็นเฉียบของห้องขัง

ลินลี่ย์ไม่ได้สังเกตถึงความเหน็บหนาวเลยแม้แต่น้อย
 “ข้ารู้ว่า ข้ากำลังจะตาย แต่ข้าไม่มีความสามารถจะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย”  ลินลี่ย์คอตกถอนหายใจเบาๆ
เขาได้พยายามจนเหนื่อยแล้ว
แต่คุกคุมขังนี้เป็นเหมือนกับที่มือปราบได้อธิบายไว้  มันมีความทนทานอย่างเหลือเชื่อ และแม้แต่ลินลี่ย์ในร่างมังกรแปลงก็ไม่สามารถทำลายสลักล็อคหรือห้องได้เลยแม้แต่น้อย  ทั้งหมดที่เขาทำได้คือ รอการดำเนินการที่จะมาถึงในเร็วๆ นี้
ราตรีมืดมิดผ่านไปอย่างรวดเร็วและพายุหิมะใหญ่ก็มาถึงที่สุดเช่นกัน  ทั้งขุนนางและประชาชนทั่วไปกำลังเฉลิมฉลองตามวิธีการของพวกเขา  ถึงเวลาเฉลิมฉลองเทศกาลยูลานปีที่ 10000  ในวันที่รุ่งเรืองไร้เมฆหมอกนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโบสถ์เจิดจรัส
วันนี้อากาศเหนือโบสถ์เจิดจรัสกระจ่างงดงามไร้เมฆหมอก  ภาพสะท้อนที่งดงามและภาพลวงตาที่สร้างขึ้นโดยเวทระดับสูงปรากฏนับไม่ถ้วน
ในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์เฟนไลมีการเฉลิมฉลองอยู่ทั่วทุกที่ในวันนี้  ลานจตุรัสขนาดมหึมาที่ด้านหน้าโบสถ์เจิดจรัสเต็มไปด้วยผู้จากทุกที่ ทุกคนกำลังโห่ร้องฉลองให้กับเทศกาลฉลองปีที่ 10000 ศักราชยูลานและโบสถ์เจิดจรัสได้จัดกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นกัน
เยล, เรย์โนลด์และจอร์จอยู่ในชั้นที่สามของโรงแรม  พวกเขาจ้องมองลานจัตุรัสโบสถ์เจิดจรัสที่อยู่ห่างไกลออกไป  จัตุรัสหนาแน่นเต็มไปด้วยคลื่นมหาชน
 “พี่ใหญ่เยล, วันนี้เราจะไปงานแต่งงานของตระกูลเด็บส์กันไหม?”  จอร์จถาม
งานแต่งงานของคาลันแห่งตระกูลเด็บส์คือวันฉลองเทศกาลยูลาน  วันนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่วันหนึ่ง มีตระกูลมากมายในเมืองเฟนไลจัดงานแต่งงานกันในวันนี้  งานแต่งงานแบบนี้จะเริ่มพิธีตอนบ่ายต่อเนื่องไปจนถึงค่ำ
 “ไปแน่นอน” เยลมีท่าทางรังเกียจอยู่บนใบหน้า
เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับลินลี่ย์  เยล, จอร์จและเรย์โนลด์พากันรู้สึกหดหู่
 “ฮึ่ม!  น้องสามใจดีเกินไปต่อนังตัวดีนี่และเจ้าเด็กกร่างคาลันด้วย  แต่ตอนนี้ น้องสามกำลังจะถูกประหาร  ขณะที่นังตัวดีกับเจ้าเด็กกร่างคาลันกำลังจะมีความสุขและเข้าพิธีแต่งงาน” เยลยิ่งโมโหมากขึ้น
เขาไม่เคยมองอลิซกับคาลันในแง่ดีเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนี้ ลินลี่ย์กำลังจะถูกดำเนินการประหารชีวิต  และตัวเขาเองไม่สามารถช่วยลินลี่ย์ได้  เขาไม่มีที่จะระบายอารมณ์หงุดหงิดและความวิตกกังวลนี้  นี่ยิ่งทำให้เขามีมุมมองต่ออลิซและคาลันอย่างไม่เป็นมิตรมากขึ้น
 “จริงสิ, พวกเขาต้องการให้งานแต่งงานพวกเขาดำเนินไปอย่างราบรื่นใช่ไหม?  คงกำลังฝันหวานอยู่แน่”  เรย์โนลด์ขบกรามกรอดๆ ด้วยเหมือนกัน
แม้แต่จอร์จก็ยังรู้สึกอยากทำลายงานแต่งงานนี้ด้วยเหมือนกัน
เยล, จอร์จและเรย์โนลด์ ทุกคนไม่เป็นอันกินอันนอนเพราะกังวลห่วงใยลินลี่ย์มาหลายวันจนกระทั่งวันนี้  ยิ่งรู้ว่าลินลี่ย์กำลังจะตาย แต่ไม่สามารถช่วยเขาได้  ทำให้พวกเขาอดนึกย้อนถึงความหลังตลอดหลายปีที่พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันเติบโตมาด้วยกัน  พวกเขายิ่งเกลียดตนเองมากยิ่งขึ้นที่ไม่มีพลังพอจะช่วยเขาได้
และเวลาอย่างนี้ อลิซผู้ทอดทิ้งลินลี่ย์กำลังจะแต่งงานกับคาลันในบัดนี้
ทั้งสามคนจะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ได้ยังไง?
ณ ถนนกรีนลีฟ คฤหาสน์ตระกูลเด็บส์
ในเวลาบ่าย ขุนนางและคหบดีคนแล้วคนเล่ามาถึงคฤหาสน์ตระกูลเด็บส์  แม้ว่าหลังจากผ่านคดีลักลอบขนของเถื่อนไปแล้ว  ตระกูลเด็บส์จะไม่ได้เป็นหนึ่งในตระกูลระดับสูงของอาณาจักรเฟนไลต่อไป  แต่พวกเขาก็ยังเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลอยู่  อย่างน้อยที่สุด ในอาณาจักรเฟนไล  พวกเขาก็ยังมีระดับอยู่ในยี่สิบตระกูลแรก  “ท่านเคาท์จูโนเดินทางมาถึงแล้ว!
 “ท่านบารอนเพรย์เดินทางมาถึง!
พวกขุนนาง, สุภาพสตรีชั้นสูง กุลธิดาที่มีฐานะร่ำรวย ล้วนเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลเด็บส์  เบอร์นาร์ด ประมุขตระกูลเด็บส์คอยต้อนรับทุกคนด้วยมารยาทดีงาม  อำนาจของตระกูลเด็บส์ตกต่ำลงไปมาก  แต่ภายในอาณาจักรเฟนไล  พวกเขายังสามารถยืนหยัดอยู่บนฐานที่มั่นคงได้
 “ท่านดยุคโบนัลท์เดินทางมาถึงแล้ว!
เมื่อได้ยินคำว่า ดยุคโบนัลท์ ขุนนางหลายๆ คนหันไปมองที่ประตู  แม้แต่เบอร์นาร์ดก็กุลีกุจอไปต้อนรับเขาทันที  ตอนนี้บุคคลผู้มีสถานะสูงที่สุดที่มาร่วมงานแต่งงานครั้งนี้ก็คือดยุคโบนัลท์  ครั้งสุดท้าย ที่งานพิธีหมั้น  แม้แต่ราชาเคลย์ผู้ครองอาณาจักรเฟนไลก็ยังมาร่วม  แต่ครั้งนี้เป็นงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ  พระราชากลับไม่เสด็จมา
ทุกคนรู้เหตุผลดีว่าทำไม
 “ท่านดยุค, ท่านมาถึงครั้งนี้นับเป็นเกียรติและสร้างความปิติยินดีให้กับตระกูลเด็บส์ของเรานัก”  เบอร์นาร์ดกล่าวอย่างสุภาพ
ดยุคโบนัลท์พยักหน้า
หลังจากเหตุการณ์พยายามลอบปลงพระชนม์พระราชาที่คฤหาสน์ของลินลี่ย์  มหาเสนาบดีขวาเมอร์ริทเสียชีวิต  แม้ว่าเคลย์จะเลื่อนตำแหน่งมุขมนตรีอื่นเป็นมหาเสนาบดีขวา  แต่ในด้านอิทธิพลแล้ว  ไม่มีทางที่เขาจะเทียบกับเมอร์ริทผู้เคยดำรงตำแหน่งมหาเสนาบดีขวามาเป็นทศวรรษในตอนนี้ได้
ยิ่งกว่านั้นเสนาบดีคลังแพตเตอสันก็ตายแล้วเช่นกัน  ตอนนี้ทั่วทั้งอาณาจักรเฟนไล บางทีคนที่ทรงอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดรองจากผู้ปกครองอาณาจักรแล้วก็คือก็คงเป็นมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายผู้นี้ ดยุคโบนัลท์
 “คาลัน! มาคารวะท่านดยุคโบนัลท์ซะ”  เบอร์นาร์ดตะโกนเรียกทันที
วันนี้คาลันแต่งตัวในชุดที่สง่างามมาก  ชุดสูทสีดำล้วนที่เขาสวมใส่ทำให้เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูโดดเด่นที่สุดที่ปรากฏตัวในวันนี้  คาลันคำนับดยุคโบนัลท์อย่างสุภาพที่สุด “ท่านดยุคโบนัลท์, ขอต้อนรับสู่งานแต่งงานของข้า”
 “ยินดีด้วยนะ คาลัน”  ดยุคโบนัลท์พูดพลางหัวเราะสบายๆ  แต่ก็เพียงในเวลานี้เท่านั้น...
 “คุณชายเยลแห่งหอการค้าดอว์สันเดินทางมาถึง!
เมื่อคำพูดเหล่านี้ดังขึ้น  นัยน์ตาของเบอร์นาร์ดเป็นประกายทันที  และแม้แต่ดยุคโบนัลท์ก็พลอยโผล่หน้ามาอยู่ข้างๆ เขา  พวกขุนนางชั้นสูงแห่งเฟนไลเหล่านั้นไม่สามารถแข่งขันได้กับหอการค้าดอว์สันได้เป็นธรรมดา  ตระกูลดอว์สันแห่งหอการค้าดอว์สันเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอำนาจมากที่สุดในทั่วทวีปยูลาน
เยลสวมชุดสูทดำเป็นมันระยับ
เรย์โนลด์อยู่ในชุดสูทสีน้ำเงินหล่อเหลา
จอร์จสวมชุดสูทสีขาวตาหมากรุกเบาบาง
ทั้งสามคนเดินเคียงไหล่เข้ามาทำให้พวกขุนนางชนชั้นสูงทุกคนที่กำลังจับตาดูพวกเขานัยน์ตาเป็นประกาย  กล่าวโดยทั่วไปแล้วนักเวทมักจะมีสง่าราศีเฉพาะตัวพวกเขา  ทั้งนี้เพราะบ่อยครั้งที่นักเวทจะเข้าสมาธิเสมอ ส่งผลให้พวกเขาเชื่อมโยงกับแก่นธาตุได้เป็นอย่างดี  ผนวกกับพลังจิตที่ทรงพลังของพวกเขาทำให้พวกเขามีราศีเฉพาะตัว
นอกจากนี้ เยล, จอร์จและเรย์โนลด์ทุกคนเป็นคนของตระกูลเก่าแก่  สง่าราศีของพวกเขาละเอียดประณีต  พวกตระกูลขุนนางและชนชั้นสูงในเฟนไลส่วนใหญ่จึงมิอาจเทียบพวกเขาได้
 “คุณชายเยล, ยินดีต้อนรับ!  และคุณชายอีกสองคนนี้...?”  เบอร์นาร์ดสามารถบอกได้เพียงชำเลืองมองครั้งเดียวว่า สองคนนี้ไม่ได้มาจากตระกูลธรรมดาสามัญแน่นอน
เยลหัวเราะใจเย็น  “สองคนนี้เป็นน้องรักร่วมสถาบันของข้าจากสถาบันเอินส์”
เรย์โนลด์กล่าวสุภาพ  “ท่านเบอร์นาร์ด, ข้ามาจากตระกูลดันส์ตันแห่งจักรวรรดิโอเบรียน  ท่านเรียกข้าว่าเรย์โนลด์ก็ได้”
 “ตระกูลดันส์ตัน?”
ทั้งเบอร์นาร์ดและดยุคโบนัลท์สะดุ้งทั้งคู่  ทุกคนที่มีประสบการณ์อยู่บ้างรู้จักชื่อเสียงของตระกูลดันส์ตัน  ตระกูลดันส์ตันเป็นตระกูลที่ทรงอำนาจในจักรวรรดิโอเบรียน  เป็นตระกูลที่กุมอำนาจทางทหารที่ทรงพลังมาก
 “คุณชายเรย์โนลด์,  ตระกูลเด็บส์ของพวกเรายินดีต้อนรับการมาเยือนของท่านอย่างมีไมตรีจิต” เบอร์นาร์ดพูดอย่างตื่นเต้น
การมาถึงของคุณชายจากตระกูลดันส์ตันย่อมเสริมหน้าตาให้เบอร์นาร์ดมากเป็นธรรมดา  คาลันที่อยู่ใกล้ๆ คำนับอย่างสุภาพ  แต่เห็นได้ชัดว่าความแตกต่างกันระหว่างเขากับทายาทของตระกูลยิ่งใหญ่ยังห่างไกลกันมาก
 “แล้วคุณชายท่านนี้?”  เบอร์นาร์ดมองมาทางจอร์จ
จอร์จยิ้ม  “ท่านเบอร์นาร์ด, ข้ามาจากตระกูลวอลช์แห่งจักรวรรดิยูลาน”
 “ตระกูลวอลช์?”  หัวใจของเหล่าขุนนางที่อยู่ใกล้ๆ เต้นแรง  ตระกูลวอลช์เป็นตระกูลเก่าแก่มีประวัติศาสตร์เป็นพันๆ ปี ในจักรวรรดิยูลาน พวกเขามีอิทธิพลอย่างมากและอยู่ในระดับเดียวกับตระกูลเลโอนของดิ๊กซี่และดีเลีย
 “คุณชายจอร์จ, การมาถึงของท่านในวันนี้นับเป็นเกียรติของตระกูลเด็บส์เราอย่างสูง” เบอร์นาร์ดถ่อมตัวอย่างมาก
ทั้งตระกูลวอลช์และตระกูลดันส์ตันเป็นตระกูลที่ทรงอำนาจมากมายจากสี่จักรวรรดิใหญ่  พวกเขาเป็นตระกูลที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ภายในของจักรวรรดิที่พวกเขาเกี่ยวข้องอยู่  แม้แต่ก่อนที่ตระกูลจะตกต่ำ ตระกูลเด็บส์ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับตระกูลเหล่านี้ อย่าว่าแต่สภาพตระกูลในปัจจุบันนี้เลย
พิธีแต่งงานของตระกูลเด็บส์เป็นงานที่มีชีวิตชีวามาก พวกขุนนางหลายคนรวมทั้งกุลสตรีชนชั้นสูงล้วนแต่ต้องการสนทนากับเยล, จอร์จและเรย์โนลด์ทั้งนั้น  ในสายตาของพวกกุลธิดาเหล่านั้น  ต่อให้พวกนางทิ้งความคิดจะเป็นภรรยาหลวงออกไป  ขอให้ได้เป็นภรรยารองของคนใดคนหนึ่งในสามคนนั้น  ตระกูลของพวกนางก็จะได้ผลประโยชน์นับไม่ถ้วน
ในฐานะที่เป็นจุดเริ่มต้นของความสนใจ  ตอนนี้คาลันได้รับความสนใจน้อยลงแล้ว
แต่เป็นคนสามคนที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษแทนเขาก็คือ เยล เรย์โนลด์และจอร์จ
 “ดูสิ คุณอลิซกับคุณโรว์ลิงมาถึงแล้ว”  ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นในห้องโถง ตอนนี้หญิงสาวทั้งสองปรากฏตัวแล้ว อยู่ในชุดเจ้าสาวงดงาม  พวกนางเข้ามาจากประตูด้านข้าง และคาลันไปรับพวกนางทันที  ทั้งอลิซและโรว์ลิงคล้องแขนคาลันอย่างเป็นธรรมชาติ
ถึงเวลานี้ เยล, เรย์โนลด์และจอร์จก็แสดงบทบาทจนได้
 “ฮ่าฮ่า, คาลัน ทั้งสองคนนี้ต้องเป็นภรรยาของเจ้าใช่ไหม?  พวกนางงดงามจริงๆ!  เรย์โนลด์หัวเราะขึ้นก่อนจะเดินเข้ามา
เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามาหา  คาลันหันไปแนะนำพวกเขากับภรรยาทั้งสองของเขา  “โรว์ลิง, อลิซ พวกเจ้าคารวะคุณชายทั้งสามนี่ซะ  นี่คือคุณชายเรย์โนลด์แห่งตระกูลดันส์ตัน และนี่คือ...” แต่เมื่อเขาพูดไปได้ครึ่งเดียว  จอร์จส่งเสียงร้องอย่างประหลาดใจ ตะโกนลั่น “อลิซ?! นี่เจ้าแต่งงานกับคาลันนี่เหรอ?”
เสียงตะโกนของจอร์จดังมาก  คำพูดเหล่านี้ทำให้ทั่วทั้งห้องโถงเงียบลงทันที
การพูดอะไรอย่างนี้ในพิธีแต่งงานของใครบางคนถือว่าเสียมารยาทมาก
 “อลิซเหรอ?  เจ้าคือคนที่เดินควงกับพี่สามของเราไม่ใช่เหรอ?” เรย์โนลด์เสริม
กลับเป็นเยลที่พูดขึ้น “น้องรอง, น้องสี่  พวกเจ้าสองคนยังไม่รู้เรื่องนี้ แต่แม่นางอลิซผู้นี้หักอกน้องสามของเราแล้ว  นางกำลังจะแต่งงานกับคาลันอยู่เดี๋ยวนี้ไงเล่า”
 “เลิกกับพี่สาม?”
จอร์จกับเรย์โนลด์ส่ายศีรษะถอนหายใจทั้งคู่
จากนั้นเรย์โนลด์พูดขึ้นทันที “อลิซ, ตั้งแต่เจ้าทอดทิ้งพี่สามของเราหันไปคบกับคาลันผู้นี้ อย่างนั้นเจ้าคงได้เป็นภรรยาหลวงใช่ไหม?”  “ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น  ภรรยาหลวงคือคุณโรว์ลิงต่างหาก   เรื่องนี้ได้ประกาศไปในพิธีหมั้นไปแล้ว” เยลพูดขึ้นทันที
ประโยคทั้งสองนี้ทำให้หน้าของอลิซแดงฉาน ขณะที่มองหน้าของคาลันก็ดูรู้สึกอึดอัดมากเช่นกัน  แต่ไม่มีใครสักคนในห้องโถงที่จะกล้าโมโหความสามหาวของเยล, เรย์โนลด์หรือจอร์จ  ด้วยสถานะของพวกเขาใครเล่าจะกล้า?
 “คุณชายทั้งสาม, เราต้องต้อนรับแขก โปรดอภัยให้เราด้วย”  คาลันค่อยๆ ระงับความโกรธในใจและพูดอย่างสุภาพ
 “ได้สิ” เรย์โนลด์พยักหน้าเช่นกัน
คาลันพาโรว์ลิงและอลิซไปที่โต๊ะอื่นทันที  เยล จอร์จและเรย์โนลด์จ้องมองอย่างเย็นชาดูเขาจากไป  เมื่อคิดถึงว่าลินลี่ย์กำลังจะถูกประหารในไม่ช้า  หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธต่อความอยุติธรรมทั้งปวง
ทันใดนั้น.....
 “บึ้ม!  บึ้ม!  บึ้ม!
เสียงที่น่าสะพรึงกลัวดังต่อเนื่องสามารถได้ยินได้จากข้างนอก เป็นเสียงทึบต่ำครึกโครมทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน  ในแต่ละครั้งที่สั่นสะเทือนเครื่องใช้สอยในห้องโถงล้วนร่วงลงกับพื้น 
 “เกิดอะไรขึ้นข้างนอก?”  ขุนนางคนหนึ่งในห้องโถงลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ
 “โรวลิง, อลิซ พวกเจ้าอยู่ก่อน”  คาลันวิ่งออกไปจากห้องโถงใหญ่พร้อมกับบิดาของเขาทันที และขุนนางอีกหลายคนก็วิ่งออกไปเช่นกัน  พวกเขาต้องการดูว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้นกันแน่  เพราะความวุ่นวายใหญ่ขนาดนั้นต้องมีสาเหตุ
เรย์โนลด์ เยลและจอร์จออกไปข้างนอกด้วยความสงสัยเช่นกัน...
แต่..ในตอนนี้เอง...
 “บึ้ม!
จู่ๆ เท้ายักษ์ข้างหนึ่งร่วงลงมาจากท้องฟ้าและลงตรงลานหน้าคฤหาสน์ตระกูลเด็บส์  เท้ายักษ์นั้นเหยียบใส่คาลันและเบอร์นาร์ดที่เพิ่งจะเข้าไปที่ลานข้างหน้าโดยตรง  เสียงกระดูกแตกหักสามารถได้ยินได้ขณะที่พ่อลูกทั้งสองถูกบดขยี้เป็นเนื้อแหลกเหลว  พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของพวกเขา
เท้าข้างนั้นยาวเกินกว่าสี่เมตรและมีขนทองดกหนาปกคลุม
 “อ๊า....” หลายคนเงยหน้าจ้องมองสัตว์ประหลาดนั้น
นี่คือวานรขนทองขนาดมหึมาสูงอย่างน้อยยี่สิบหรือสามสิบเมตร ขนาดราวๆ อาคารสูงแปดชั้น  ตาของวานรทองขนาดยักษ์นี้ใหญ่เหมือนกับล้อรถสีม่วง  ร่างของวานรทองดูเหมือนเต็มไปด้วยพละกำลังทำให้อากาศรอบตัวมันสั่นสะเทือน
 “วานรขนทองตาม่วง! อสูรวิเศษระดับเซียน, วานรขนทองตาม่วง!  เมื่อเห็นอสูรเวทตัวนี้ เยลอดจ้องปากอ้าค้างมิได้
วานรขนทองตาม่วงแหงนหน้ากู่เสียงร้องด้วยความตื่นเต้นและพูดเป็นภาษามนุษย์ “ฮ่าฮ่า ฆ่า  ฮ่าฮ่า ฆ่าพวกมันให้ข้า!  ฆ่าพวกมันให้หมด!  ยิ่งพวกเจ้าฆ่าได้มาก  พวกเจ้าก็จะได้รับรางวัลใหญ่จากราชา!  ฮ่าฮ่า, ฆ่า!
 “บึ้ม” “กี๊ซ!
เยล จอร์จและเรย์โนลด์สามารถได้ยินเสียงกู่และเสียงร้องของอสูรเวทจากทุกสารทิศ ราวกับว่าทั้งโลกเต็มไปด้วยพวกมัน  ทันใดนั้น เยล จอร์จและเรย์โนลด์เห็นว่าทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยอสูรเวทบินได้นับจำนวนไม่ถ้วน
 “เหยี่ยวมังกร!  เจ้าพวกนี้คือเหยี่ยวมังกร!  นี่....” เรย์โนลด์ตะลึงปากอ้าค้างเช่นกัน
จากที่ไกลออกไป ฝูงเหยี่ยวมังกรฝูงใหญ่ปรากฏขึ้นมืดฟ้ามัวดิน เหยี่ยวมังกรมีจำนวนหนาแน่นและสูงขึ้นไปจนไม่อาจนับจำนวนได้
ทันใดนั้น ทุกคนรู้สึกเหมือนกับว่าวันสิ้นโลกกำลังมาปรากฏต่อหน้าพวกเขา  ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดรู้สึกร่ำไรหรืออาลัยคาลันกับเบอร์นาร์ดที่ถูกเท้ายักษ์ของวานรขนทองตาม่วงเหยียบจนเละ
 

3 ความคิดเห็น:

neng2006 กล่าวว่า...

วิ่งออกไปตายซะงั้น
ขอบคุณมากครับ

Unknown กล่าวว่า...

สมควร อย่างนี้แม้งก้แต่งงานกันได้ตายก่อนเข้าหอ55
เรื่องอื่นช่างมัน

KiattisakPleng กล่าวว่า...

ไอเสื้อทองกะแมว3ตัวแน่

แสดงความคิดเห็น