วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

ยอดยุทธไร้เทียมทาน ตอนที่ 234 ตัวประหลาด

ตอนที่  234  ตัวประหลาด

พลังระเบิดของปราณแท้ทำให้ประกายไฟกระจายออกเป็นรูปดาว พร้อมกับเสียงแมวร้อง บนปลายนิ้วของถังเทียน มีประกายดวงดาวบัดเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวหมองลง

เสียงหวีดหวิวหายไปทันที
ปราณที่แหลมคมและน่าภูมิใจบนกรงเล็บหายไป
ปล่อยพลังหิ่งห้อยเพลิงจ้าวปีศาจ
ถังเทียนตะโกนในใจเบาๆ
บอลแสงล้อมรอบอยู่ปลายนิ้วถังเทียน เหมือนกับหิ่งห้อยห้าตัวทิ้งร่องรอยแสงไว้ในท้องฟ้า
ทันใดนั้น ลมยามราตรีสงบในช่องว่างระหว่างหุบเขา ความแห้งแล้งของใบไม้ดูราวกับฉากภาพที่แสดงโดยหิ่งห้อย
หัวใจของถังเทียนสงบ
หัวใจของจ้าวกิเลนเต้นแรง   อันตรายทั้งหมดที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนในตอนนี้รายล้อมอยู่รอบตัวเขา เขามีแรงกระตุ้นที่จะจับหิ่งห้อยเข้ามา
หัวใจของเขายังคงเต้นแรง
วิชาระดับปรมาจารย์... วิชาระดับปรมาจารย์!
พอเหลือบมองเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นตัวประหลาดในสายตาของเขา  หรือว่า เจ้าเด็กนี่เริ่มฝึกฝีมือตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่?  ทันทีที่วิชาระดับปรมาจารย์ถูกปลดปล่อยออกมาจากปลายนิ้วของถังเทียน  เขารู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง
เกราะของเขา อาวุธสมบัติของเขาทั้งหมด ยังด้อยกว่าการ์ดขุนพลวิญญาณวิชาประทีปปัญญา   ของเหล่านั้นเป็นแค่สมบัติที่ทำให้เขารู้สึกอิจฉาเท่านั้น
แต่...วิชาระดับปรมาจารย์...
เขาไม่ได้โกรธถังเทียนแม้แต่น้อย  แต่กลับเต็มไปด้วยความกลัวแทน
วิทยายุทธทุกรูปแบบ ทันทีที่ถึงในระดับฝีมือปรมาจารย์จะน่ากลัวทั้งหมดและน่านับถือที่สุด เพราะนี่คือสิ่งที่สมบัติภายนอกไม่อาจทำให้เกิดผลลัพธ์นี้ได้  ในวิทยายุทธทุกรูปแบบ เขามีคุณสมบัติถูกเรียกว่าปรมาจารย์ได้
เจ้าคนผู้นี้เป็นตัวประหลาดโดยแท้
เขาเพียงแต่ฝึกฝนวิชาประทีปปัญญาได้ถึงระดับห้า  เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องการได้เป็นระดับปรมาจารย์  เนื่องเขายังมีหนทางอีกยาวไกล
หิ่งห้อยที่ส่องแสงวูบวาบให้ความรู้สึกที่เงียบและสงบ
เลือดในตัวจ้าวกิเลนแทบจะแข็งค้าง  เขากัดลิ้นตัวเองเพื่อลิ้มรสเม็ดเลือดที่เปรี้ยวของเขา  ทันใดนั้น เขาตื่นเต้นเนื่องจากกระตุ้นความคิดจะฆ่าอยู่ในหัวของเขา
ระดับปรมาจารย์หรือ?  แล้วไง เขาเป็นระดับปรมาจารย์หรือเปล่า?
 “กิเลน!
เสียงตะโกนดังขึ้น กิเลนห้าสีบนหน้าอกเขาเรืองแสงเป็นประกายอยู่ในดวงตาเขาเหมือนเทียนเผาไหม้  มันยืดร่างออกและดูแปลกประหลาดผิดปกติ
จ้าวกิเลนนัยน์ตาเปลี่ยนสีแดงเหมือนเลือด เหมือนว่าเขากำลังจุดเทียนเผาอยู่ในความมืด ดูน่าขนลุก
ปราณแข็งแกร่งและรุนแรงระเบิดออก
ม้าศึกตะลึงเล็กน้อยขณะที่เขาหยุดและหันไปมองพี่ใหญ่ของเขาและพบว่าเขากำลังสู้สุดกำลัง
จิ้งจอกหิมะหัวเราะเบาๆ  “ดูเหมือนกับกำลังทุ่มเทสุดกำลังแล้ว”
จระเข้เฒ่ายังคงจ้องต่อไป  เขาไม่ตั้งใจจะเปลี่ยนความคิดของเขา เขาจะทำตามแผนเดิมของเขาและหลิงซิ่วจะหมดพลังในไม่ช้า
ปราณรอบๆ ตัวทำให้เขี้ยวอสรพิษรู้สึกได้ถึงปราณของพี่ใหญ่  มีแววกระพริบครั้งหนึ่งในดวงตาที่เย็นชาของเขา  หลังจากสู้เป็นเวลานานโดยไม่ประสบผลสำเร็จ จิตใจที่เริ่มกังวลของเขาก็เริ่มสงบ เนื่องจากพี่ใหญ่ทุ่มสุดกำลัง  อย่างนั้นเขาก็จะทำด้วยเช่นกัน
ขณะที่ม่านตาเขาเหมือนกับมีเปลวไฟลุก เขาจ้องมองหิ่งห้อยเพลิงจ้าวปีศาจ  เขายกมือขวา กิเลนบนอกเขาก็เคลื่อนไปที่แขนขวา ดวงตาที่ร้อนแรงส่งพลังไปที่หมัดของเขา
ปัง!
ปราณที่ป่าเถื่อนรุนแรงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่แสงเทียนบนหมัดของเขาระเบิดพลังออกเป็นแสงเจิดจ้า
กลุ่มกิเลนห้าสีขยายคลุมร่างของเขา เดี๋ยวปรากฏเดี๋ยวหายไปอยู่ในท่ามกลางเปลวเจิดจ้าของพลังประทีปปัญญา
กิเลนห้าสีคือพลังสายเลือดระดับเงินที่หาได้ยาก  เขาใช้เงินถึงเก้าล้านเหรียญดาวเพื่อซื้อมา  ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆ จะได้รับพลังสายเลือดโบราณ มันมีพลังของกิเลนโบราณแม้ว่าจะมีอยู่เบาบางก็ตาม แต่กิเลนโบราณก็ป่าเถื่อนและอันตราย  นั่นก็เพียงพอสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนได้
กิเลนพิโรธ!
ภายในเงาของหมัดที่แดงเข้ม เป็นรูปความโกรธเกรี้ยวของกิเลน
ควั่บ
หิ่งห้อยปีศาจตัวแรกบินตรงเข้าหากิเลน แต่ก่อนที่มันจะเข้าไปใกล้  กิเลนก็คำรามและระเบิดพลังที่ไร้สภาพออกมา  หิ่งห้อยระเบิดและกลายเป็นดอกไม้ไฟที่งดงามตา
ตูม..
หิ่งห้อยสามตัวระเบิดทีละตัวกลายเป็นดอกไม้ไฟงามจับตา เหมือนกับตาข่ายใหญ่ที่รายล้อมกิเลน
กิเลนโกรธมากในตอนนี้  มันยกขาหน้าขึ้นแล้วย่ำลง
คลื่นปราณกวาดไปทั่วพื้น
ตาข่ายพลุแตกระเบิดออกเหมือนกับลูกโป่ง ดูคล้ายกับว่าจะแตกทำลายขณะที่ระเบิด
บึ้ม หิ่งห้อยอีกตัวระเบิดและเป็นรูปดอกไม้ไฟก่อนที่มันจะพุ่งไปหาตาข่ายดอกไม้ไฟ ตอนนี้ไฟบนตาข่ายแข็งแกร่งมาก
เสียงร้องแว่วๆ ของแมวดังแว่วออกมาทันทีและมีสายปราณลึกลับสีดำพุ่งออกมาครอบคลุมร่างกิเลน เหมือนกับแมวดำ มันเคลื่อนไหวได้เร็วมาก ตาที่เหมือนเปลวเทียนของกิเลนสั่นกระพือ ด้วยเสียงร้องที่น่าขนลุกของแมวป่านั้น ทำให้มันรู้สึกผิดปกติ
ทันใดนั้นตาข่ายเพลิงหดตัวลงพยายามรวบตัวกิเลนไว้แน่น  กิเลนร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดทันที ขณะที่มันพยายามดิ้นรนให้หลุดแต่ตาข่ายเพลิงรวบแน่นลงทุกทีๆ สายข่ายเหมือนกับทำจากเหล็กพยายามรวบจับตัวกิเลนให้ล้มลง
ปราณสีดำลึกลับฉวยโอกาสนี้แทรกเข้าไปในร่างกิเลน
กิเลนชะงักค้างก่อนที่จะระเบิดเป็นผุยผงกลายเป็นแสงสีรุ้ง
จ้าวกิเลนเพียงแต่รู้สึกเจ็บปวดที่อกเหมือนกับว่าเขาถูกค้อนทุบ เขาปลิวกระเด็นและกระอักโลหิตออกจากปาก
 “พี่ใหญ่!
คนอื่นๆ คลั่งแค้น
ในกลางอากาศ นัยน์ตาของจ้าวกิเลนหรี่แคบขณะที่หิ่งห้อยที่บินฟ้าและเกียจคร้านตัวหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา
แย่แล้ว
บึ้ม
หิ่งห้อยระเบิดอยู่ต่อหน้าจ้าวกิเลน  ประกายไฟเหมือนพลุนับไม่ถ้วนระเบิดคลุมเต็มทัศนวิสัยการมองของเขา
 “พลังปกป้อง!
จ้าวกิเลนไม่สนใจอะไรอื่นอีกต่อไปขณะที่เขาตะโกน
โล่เล็กๆ ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขากะทันหันบังพลุไฟเอาไว้  พลุไฟกระทบที่ด้านหลังโล่และมันแตกกระจายเป็นชิ้นๆ นับไม่ถ้วนร่วงลงพื้น แต่จ้าวกิเลนถือโอกาสหลบการโจมตีครั้งนี้ได้
ควับ!
จ้าวกิเลนหอบหายใจหนักหน่วงขณะจ้องมองเด็กหนุ่มผู้นี้  โล่นี้คือสมบัติชั้นเงินจากหมู่ดาวโล่  เขาได้โล่ปกป้องนี้มานานแล้วแต่ไม่เคยมีโอกาสได้ใช้  เขาไม่เคยคาดเลยว่าจะต้องเอามาใช้ช่วยชีวิตของเขาเองในวันนี้  แม้ว่าสมบัติจะถูกทำลาย  แต่เขาไม่ได้รู้สึกปวดใจ  เขาเพียงแต่จ้องดูถังเทียน
ระดับปรมาจารย์..แน่นอน นั่นเป็นวิทยายุทธระดับปรมาจารย์แน่!
หิ่งห้อยทั้งห้าเปลี่ยนวิธีสู้ได้แน่นอน จากที่เขาได้เห็น ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่ามันมีชีวิต  จนกระทั่งวันนี้เขาถึงได้รู้ว่าวิทยายุทธระดับปรมาจารย์นั้นมีพลังชีวิต
ถ้ามันเป็นแค่หิ่งห้อย ก็คงจะไม่น่ากลัว  แต่หมอกสีดำที่น่าหวาดหวั่นนั่น ผนวกกับเสียงร้องของแมว  ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะรับมือได้
จ้าวกิเลนสูดลมหายใจลึกและลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
ตอนนี้แววตาของเขาสงบแล้ว วิทยายุทธสังหารต้องใช้พลังงานของเด็กหนุ่มค่อนข้างมาก  เพราะปราณแท้ของเขาคงจะร่อยหรอไปแล้ว  เขามีพลังปราณแท้ระดับเจ็ด และเขาสามารถบอกได้ว่าถังเทียนเป็นเพียงระดับหก
แต่ช่างน่าประทับใจยิ่งนักที่นักสู้ระดับหกสามารถสร้างเคล็ดสังหารที่น่ากลัวเช่นนั้นได้!
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเคล็ดวิชาที่งดงาม  คู่ต่อสู้ของเขายังไม่สามารถใช้ได้ตามใจปรารถนาได้  เมื่อไตร่ตรองเช่นนั้น จ้าวกิเลนยกเลิกความคิดที่จะจบการต่อสู้นี้โดยเร็ว  เขามองดูถังเทียนเหมือนกับเป็นคู่ต่อสู้ที่ช่วยยกระดับพลังให้เขา
การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น!
พร้อมกับประกายเย็นชาในดวงตา เขาหายไปทันที
จากนั้นเขาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังถังเทียนและโจมตีใส่ต้นคอของถังเทียน  ราวกับว่าถังเทียนรู้สึกตัวอยู่ก่อนแล้ว เขาก้มศีรษะและตวัดขาซ้ายกวาดใส่ขาจ้าวกิเลนเป็นการตอบโต้
ร่างของทั้งสองสั่นสะท้าน
เขาแข็งแกร่ง!  หัวใจของถังเทียนเต้นแรง
พลังของเจ้าผู้นี้แข็งแกร่งมาก!  จ้าวกิเลนประหลาดใจ
ทั้งสองมองหน้ากันและตวาดพร้อมกับก้มตัวลงต่ำ
ปัง
เหมือนกับกระทิงดุสองตัว  ทั้งสองศีรษะชนศีรษะ  พื้นสั่นสะเทือนขณะที่ระลอกคลื่นปราณกระจายออก
ระดับพลังโจมตีจากทั้งสองฝ่ายรวดเร็วผิดธรรมดา  เหมือนกับเงาร่างสองสายโรมรันพันกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นพวกเขาได้ชัดเจน  เสียงปะทะกันดังสนั่นสั่นสะเทือน  พื้นรอบๆ ตัวพวกเขาระเบิดเป็นครั้งคราว ส่งผลให้โคลนและสิ่งสกปรกกระเด็นขึ้นในอากาศ
ตอนนี้จ้าวกิเลนชักหวั่นใจ  เพราะวิทยายุทธเจ้าผู้นี้แตกต่างกันสิ้นเชิง  เขายังไม่สามารถมีเปรียบได้แต่อย่างใด  ถ้าไม่อย่างนั้น ด้วยวิทยายุทธเหล่านี้ เขาคงหนีได้
ในที่สุดเขาก็พบกับคนที่ฝีมือพอๆ กับเขา  ดังนั้นเขาอาจใช้โอกาสนี้เพื่อฝึกวิทยายุทธระดับเจ็ดเหล่านี้คือ หัตถ์แสงสะท้าน, ดรรชนีห่วงและเท้าไร้สิ้นสุด
วิทยายุทธแต่ละอย่างมาจากการ์ดวิญญาณระดับทองทั้งนั้น
แค่มองจากวิทยายุทธ นี่ก็เพียงพอไล่ต้อนถังเทียนจนแทบตายได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประทับหัตถ์ใหญ่ ใครจะใช้วิทยายุทธระดับห้าให้ตัวเองขายหน้าเล่า? วังวนวิหคขาว และท่าเท้าดาบถานถุ่ยก็เช่นเดียวกันยังคงเป็นวิทยายุทธระดับห้า....
นอกจากกรงเล็บภูตพรายซึ่งนับได้ว่าเป็นวิทยายุทธที่ยอดเยี่ยมแล้ว วิทยายุทธอื่นๆ เป็นแค่มดแมลง
แต่มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกันในสนามต่อสู้จริงๆ
ถังเทียนเทียนพึ่งพาวิทยายุทธระดับต่ำป้องกันการโจมตีเป็นพายุบุแคม  ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้จ้าวกิเลนจิตตก  พวกเขาแตกต่างกันถึงสองระดับ
เป็นไปได้อย่างไร?
เขาคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ยังไม่เข้าใจ  สิ่งที่ทำให้เขาแทบกระอักโลกหิตก็คือ เมื่อถังเทียนตกอยู่ในอันตราย เขาจะใช้กรงเล็บเพลิงภูตพรายคลี่คลาย
พลังของกรงเล็บเพลิงที่น่ากลัวนั้นใช้ประโยชน์ได้เมื่อสู้ระยะไกลและใกล้
ปัดโธ่เว้ย  เจ้าบัดซบคนไหนที่สร้างวิชาที่ร้ายกาจนี้ขึ้นมา?
พอสู้ระยะประชิด  กรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียนก็ไม่ช้าลงแต่อย่างใด  ความเร็วปานสายฟ้าทำให้เหมือนมีคนอยู่ภายในพลุไฟ
นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวกิเลนรู้สึกท้อแท้
เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มต่อหน้าเขาทำให้เขาเหมือนพ่ายแพ้  เจ้าเด็กนี่เหมือนกับเต่า เขาไม่มีจุดอ่อน
เว้นแต่... ข้าต้องใช้วิชานั้น?
จ้าวกิเลนลังเลใจ
ถ้าเขาใช้วิชานั้น ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะเอาชนะได้  แต่เขาต้องพักร่างกายไปครึ่งปี เว้นเสียแต่จนปัญญา เขาไม่ต้องการจะใช้วิชานั้น
แต่ ในไม่ช้า เขาไม่มีเวลาคิดอีกต่อไป  ถังเทียนระดมโจมตีเหมือนห่าฝน ไม่ให้โอกาสเขาได้พักหายใจ
เขากำลังจะหมดแรง
ควั่บ
ทันใดนั้น จ้าวกิเลนฝืนใช้หมัดต่อยลงพื้น ใช้พลังขาดึงตัวหนีออกมา
ตัวของเขาเปียกโชกราวกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ หอบหายใจอย่างหนักหน่วงราวกับมีไฟออกมาจากจมูก  เขาพยายามรวบรวมลมปราณขณะจ้องมองถังเทียนเขม็ง  ถังเทียนก็หลั่งเหงื่อโชกเช่นกัน แต่เขาก็ยังดูดี
โธ่เว้ย
เจ้าบ้านี่ เป็นตัวประหลาดที่โผล่มาจากไหนกันนี่...
 

3 ความคิดเห็น:

BLive13 กล่าวว่า...

ขอบคุณครับ

เจ้านกยูง กล่าวว่า...

ของคุณครับ

ไอซ์ กล่าวว่า...

เติมทรูกันหนักจิงเรื่องนี้

แสดงความคิดเห็น